ลมหายใจของใบไม้
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
19 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 

:::ปลายทางที่โค้งฟ้า..ตอนที่ 12 :::



ท่ามกลางความสับสนของฉันในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อชีวิต..
ในวันที่คุณอายื่นข้อเสนอให้ฉันไปเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในเมืองใหญ่
ฉันไม่อยากไปไหน ฉันเป็นคนปรับตัวยาก ฉันไม่ชอบอยู่รวมกับคนอื่น
เหมือนที่พ่อชอบค่อนแคะฉันเวลาฉันเกเร พ่อบอกว่าฉันเอาแต่ใจตัวเอง
ความจริงแล้ว..ฉันยอมรับคนอื่นนะ.. แต่ต้องตามแบบฉบับของฉัน
ฉันทนกับความลำบากความขัดแย้งได้เท่าที่เป็นความพอใจของฉัน..

ในคืนวันที่เพื่อนส่วนหนึ่งจบการศึกษาและออกทำงานในภูมิลำเนา
.ฉันเหงา.. ส่วนใหญ่เพื่อนเพื่อนจะมาจากต่างจังหวัด
และไม่เรียนต่อในระยะสองปีสุดท้าย เพื่อนส่วนใหญ่ในกลุ่มมีงานรออยู่แล้ว
ใจฉันกระโจนตามเพื่อนไปแม่ฮ่องสอนเลย..
แต่พ่อให้ฉันเรียนต่อจนจบปริญญาตรีก่อน
พ่อมองเห็นฉันเป็นเด็ก ฉันเข้าใจพ่อ.. พ่อไว้ใจฉัน แต่พ่อไม่ไว้ใจคนอื่น..

อัจน์เรียนปีสุดท้าย แต่เพราะเธอต้องดร็อบในระยะที่ป่วย
ทำให้ต้องยืดเวลาออกไปอีก อัจน์เก็บหน่วยกิตในช่วงซัมเมอร์ของเทอมสุดท้าย
แต่ก็หาโอกาสปลีกตัวมาพบฉันเสมอ วันหนึ่งอัจน์ได้พบกับพี่สรวง
น้องสาวของพี่สันติ์ที่มาเยี่ยมเยียนพ่อและฉันเช่นเคย
พี่สรวงเป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลชุมชนซึ่งคุณแม่ของอัจน์เป็นคนไข้ประจำ
พี่สันติ์ ได้คุยกับอัจน์อยู่นานที่ลานไผ่ ทิ้งฉันให้ทำอาหารสองคนกับพี่สรวง
มีโอกาสได้คุยกันเรื่องอัจน์ ก็คุยเรื่องนั่นนี่สัพเพเหระตามนิสัยหญิง
เหมือนเราคุยกันได้ทุกเรื่องราวรวมถึงเรื่องอัจน์ด้วย

วันนั้นฉันได้รับรู้เรื่องราวของครอบครัวอัจน์ในมุมที่ฉันไม่เคยรู้
..ครอบครัวของอัจน์..มีอย่างน้อยสองคนที่ฆ่าตัวตาย..
หนึ่งคนพยายามฆ่าคนอื่นโดยเตรียมการไว้ก่อน..
ฉันรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก..ปัญหาทางจิต..สืบทอดทางสายเลือด..
วันที่อัจน์ทวงคำตอบให้รอ ฉันเข้าใจว่าหมายถึงอะไร..
แต่โดยท่าที..ฉันแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ..

ท่าทีนุ่มนุ่มละมุนละไมของอัจน์ ฉันไม่อยากทำร้ายเธอเลย
ฉันพยายามคลี่คลายไม่ให้เธอทุกข์ ไม่อยากกดดัน
แต่ในขณะเดียวกัน ฉันไม่ชอบให้ความหวังคนอื่นแบบลมแล้ง
ฉันบอกด้วยปากกับเธอเองในวันนั้น..กลางแดดอบอุ่นปลายฤดูหนาว
ฉันบอกเธอว่าฉันต้องเรียนต่อให้จบ..ฉันไม่ได้ไปไหนสักหน่อย.
ฉันบอกอัจน์ว่าไม่อยากใช้คำว่ารอ ..
การรอคอยบั่นทอนความรู้สึก..ทั้งต้นทางและปลายทาง..
ซึ่งฉันรู้สึกอย่างนั้นจริงจริง
" กลางก็ยังอยู่ที่นี่ ใครอยากมาก็มาได้ กลางกับพ่อยินดีต้อนรับอยู่แล้ว.. "
ฉันอ้างพ่อเฉยเลย ก็จริงจริงนี่..พ่อยินดีต้อนรับทุกคนแหล่ะ..

ฉันไม่ลืมหยอดท้ายเล่าเรื่องความคิดของฉันให้อัจน์ฟัง
ในวันหนึ่งที่พ่อบอกว่าพ่อไม่ใช่จะอยู่ค้ำฟ้าดูแลฉันไปตลอด
ฉันบอกพ่อว่าฉันจะเปิดกิจการสงเคราะห์คนชรารับเลี้ยงผู้สูงอายุ
เพื่อให้พ่อมีเพื่อนในวัยเดียวกัน..พ่อถามว่า..แล้วถ้าพ่อตายก่อนแก่ล่ะ?"
"กลางก็ไปอยู่ป่วนสถานสงเคราะห์คนชรา.."..ฉันคิดอย่างนี้ จริงจริงนะ
ฉันขอให้เธอตั้งใจเรียนจะได้จบเร็วเร็วกับมาดูแลคุณแม่
ฉันเต็มใจที่จะเป็นกำลังใจให้อยู่ตรงนี้เหมือนเดิม
ไม่ว่าจะอย่างไรเราร่วมแผ่นดินผืนเดิม
ต่อให้ไกลเท่าไกล เราอยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน ....

พายุตั้งเค้า..มรสุมชีวิตของฉันโชยกลิ่นไอ.
ปีสุดท้ายของการศึกษา
น้องเล็กประสบอุบัติเหตุระหว่างร่วมกิจกรรมกับมหาวิทยาลัย
เธอต้องตัดขาเพราะแผลที่ข้อเท้าลุกลาม
ขาข้างที่ขาดหายมีขาเทียมทดแทน
แต่ดวงใจร้าวรานของพ่อ..ยากที่จะซ่อมแซม
ในชีวิต..ฉันไม่เคยเห็นพ่อล้มป่วย เมื่อล้มสักครั้งยากเยียวยา

เรื่องการพลัดพรากและการเจ็บป่วย
อณูหนึ่งของวงจรชีวิต การเริ่มต้นชีวิตใหม่ - การสูญเสีย ,
ฉันขลุกอยู่กับความเจ็บป่วยของบุคคลอันเป็นที่รักกว่าขวบปี
ไม่เคยลืมตัวเองที่วิ่งกระโปรงปลิวกระโดดขึ้นรถไฟ
ทุกเย็นวันศุกร์ในช่วงปีสุดท้ายของระดับอุดมศึกษา
ปลายทางคือพ่อที่คอยอยู่ทุกขณะจิตในห้องพิเศษ 104
ตึกพิเศษสีขาว คนไข้พิเศษของคุณหมอดนัย
นายแพทย์ตัวเล็กเล็กแสนใจดี กับรอยยิ้มเย็นเย็นเปี่ยมเมตตา
"มีอะไรหนู" เสียงนั้น สายตานั้นยังจำได้เสมอ
ท่านอุตส่าห์ละจากแขกหันมาทักฉัน
เด็กผู้หญิงคนที่วิ่งเท้าเปล่าจากตึกพิเศษลงมายืนลับๆล่อๆถึงหน้าบ้านพัก
ปาดน้ำตาแล้วบอกบนสะอื้น "คุณพ่อช็อค"
"เดี๋ยวหมอตามไป"
"เดี๋ยว" ของท่านก้อถึงพร้อมฉันนั่นแหล่ะ
ความผูกพันเพียงแค่"คนบ้านเดียวกัน"
และ "อาจารย์ของภรรยา" เท่านั้นเอง
จนป่านนี้ยังนึกไม่ออกเลยว่าฉันทำอย่างนั้นได้อย่างไร
มีเด็กผู้หญิงสักกี่คนที่วิ่งถลาลงไปทุบเคาน์เตอร์พยาบาลตอนตีห้า
ไม่ได้ดั่งใจก้อกระโจนพรวดไปถึงหน้าบ้านพักหมอเลย

เหตุการณ์อย่างนี้ดำเนินอยู่เกือบปี
ฉันเจอมรสุมแล้ว..ฉันจะผ่านชีวิตช่วงนี้ไปอย่างไรกันหนอ..

เพลงประกอบ: Green Field








 

Create Date : 19 มีนาคม 2553
0 comments
Last Update : 22 มีนาคม 2553 21:25:14 น.
Counter : 612 Pageviews.


Peakroong
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]





"หากต้องตัดสินใครสักคน

เริ่มจาก "ทำไม"คงจะดีกว่า"อย่างไร"

เพราะสิ่งที่มองเห็นไม่แน่ว่ามีอยู่จริง

สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าไม่มี

สิ่งที่คิดว่าใช่อาจไม่ใช่

สิ่งที่ไม่คิดว่าใช่สำหรับคุณ

มันอาจใช่เลยสำหรับใครอีกคน"


"
๐ ให้ลมหายใจของใบไม้เป็นบันทึกคนกล่อง
คำเขียนของคนล้มลุกคลุกคลาน
แต่ยังมีลมหายใจเป็นของตัวเอง
แม้ไม่ใช่ทุกอย่างที่มีหากเป็นทุกอย่างที่เป็น
เก็บความว่างเปล่าไว้เติมเต็ม..

๐ ขอบคุณตัวละครทุกตัว
ทั้งที่มีอยู่จริงและที่ไม่มีตัวตน
ขอบคุณวันเวลา-ครูบา-อาจารย์
ที่สอนให้เก็บเกี่ยว ฝึกให้คิด สอนให้เขียน

๐ ขอบคุณเพื่อนเพื่อนชาวไซเบอร์
ที่กรุยทางให้สร้างสรรรค์บล็อคได้เท่าใจ
ขอบคุณทุกภาพงดงามจากบล็อกน้องญามี่ขอบคุณ https://www.thaipoem.com
ที่ให้เพลงประกอบเป็นอมตะนิรันดร์กาล

๐ ขอบคุณความเป็นเธอ..
ที่ส่งผ่านการ"ให้"มาเสมอฝัน
ขอบคุณความเป็นฉัน..
คนเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างวันมาถักทอ


'ปีฆรุ้ง
27 มกราคม 2553


Friends' blogs
[Add Peakroong's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.