ลมหายใจของใบไม้
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
3 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
:::ปลายทางที่โค้งฟ้า..ตอนที่ 10 :::



ลมร้อนพรูกลีบบางพริ้วระยับของอินทนิลคว้าง
ผลผลิตจากช่อดอกพวงประดิษฐ์หมุนปลิวกระจาย
สงบกับเสียงกระซิบของใบไผ่เหนือลานกว้างในบ่ายวันหนึ่ง
บ่ายที่มีฉันนั่งคิดอยู่เงียบเงียบคนเดียว คิดไปไกลเกินกว่าจะเอื้อมคว้า
กรุ่นกลิ่นลมเหนือจากซองหนาหนักในมือรู้สึกได้ลึกลึก
ฉันคิดถึงข้อความ ในจดหมาย วันเวลาทำให้อัจน์เป็นผู้ใหญ่
มีถ้อยคำมากมายที่พรั่งพรู เหมือนคนถูกกดดัน
มีอะไรไม่สบายใจหนอ

มีข่าวอะไรจากตรงนี้ส่งไปถึงเธอให้กังวลนะ?
ฉันไม่คิดว่าเราจะคุ้นเคยจนถึงช่วงเวลาที่จะต้องเป็นห่วงกันได้ขนาดนั้น
จดหมายเปลี่ยนคำขึ้นต้นจากน้องกลางคนดี. หรือคนดี.
เป็นน้องกลางที่รัก..
น้องกลางที่รัก.. ไม่มีเจตนากระมัง..
ปกติแล้วอัจน์เขียนจดหมายเพราะเสมอ
เลือกใช้ถ้อยคำอ่อนละมัย แต่ไม่เคยบอกนัยแบบหนุ่มสาว
ฉันไม่คิดว่าเราจะคบหากันแบบคนรักด้วยซ้ำไป
หรือฉันไม่คิดแต่อัจน์คิด อย่างที่แขกเตือนบ่อยๆ
เธอคงเห็นเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับฉัน..ความรักเป็นเรื่องยิ่งใหญ่
ความรัก ไม่ใช่เรื่องที่จะส่งผ่านกันได้ทางจดหมายปิดผนึก..
ฉันตอบขอบคุณความรู้สึกและปฏิเสธถ้อยคำนั้น
"พี่อัจน์ยังมีโอกาสที่จะได้พบกับผู้คนมากมาย
ในวันหนึ่งจะได้พบกับคนที่เหมาะสมกับพี่อัจน์"
ไม่ลืมที่จะตบท้ายด้วย ขอบคุณพี่ชายที่แสนดี..
คำตอบกลับมาด่วนจี๋..
..."พี่อัจน์ไม่เคยใช้คำว่า"ที่รัก" กับใครอื่น
ผู้หญิงในชีวิตของพี่อัจน์มีเพียงคุณแม่
พี่อัจน์ใช้คำว่าที่รักกับคุณแม่และน้องกลาง.."
ถ้อยคำของเธอช่างอ่อนหวาน แต่ฉันไม่ตอบแล้ว

ก่อนปิดภาคคราวนั้น ..
จดหมายมาถึงฉันร้อนรนเหมือนสะกัดกั้นอะไรบางอย่าง
"พี่อัจน์อยากให้น้องกลางตั้งใจเรียนเพื่ออนาคต อย่าเพิ่งคิดเรื่องอื่นๆ
พี่อัจน์รู้ว่าน้องกลางมีความฝัน แต่ความฝันใช่จะไม่มีขีดจำกัด
ความใฝ่ฝันของคนเราบางที บางอย่าง บางสถานการณ์ต้องอาศัยเวลา
ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเร่งร้อน น้องกลางรอพี่อัจน์ก่อนได้ไหม?"
หรือเธอรู้ว่าฉันกำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจ?
ไม่มีเรื่องราวใดของฉันที่ลอดตาอัจน์
"ไม่มีที่ไหนกว้างไกลเกินกว่าความสนใจจะไปถึง"
ประโยคนี้ยังหวนคืนมาถึงฉันเสมอในทุกครั้งที่ฉันแสดงอาการเฉื่อยชา
ปลายปีสองของฉันกับความต้องการภายในที่ร่ำร้อง
ฉันอยากกระโดดไปทำงานกับกลุ่มอาสา สอนชาวเขาทางภาคเหนือ
บางคนคิดว่าฉันจะตามพี่ขนมผิงพี่สาวคนใหม่ของฉัน แต่ไม่ใช่..
ฉันอยากไปเพราะใจรัก ฉันอยากทำงานในชนบท
ฉันอยากทำงานเพื่อเพื่อนมนุษย์ เหมือนหมอกานต์ในเขาชื่อกานต์
อยากทำงานในพื้นที่สีชมพู เหมือนศุภกร ในปุลากง
อยากเป็นคุณหมอคนที่อุทิศตัวเองในนันทิยา คาร์ลมากซ์ และกลิ่นดินปืน..
อยากทำงานในปางไม้ที่มีธรรมชาติงดงามชายแดนอย่างเกวลีสอยดาว
และอยากเป็นวีรบุรุษอย่างคุณครูหนุ่มในบินหลา.. มาแล้วอย่าเลยไป..
อิทธิพลของหนังสือที่อ่านหรือเปล่า .. ไม่แน่ใจ..
แต่ทุกอย่างฉันสงบนิ่ง หยุดสนิท..เมื่อนึกถึงพ่อ..
ฉันทิ้งให้พ่ออยู่เพียงลำพังไม่ได้เด็ดขาด

ตอนนั้นพี่พี่น้องน้องเริ่มแยกย้ายกันไปเรียนไกลไกลแล้ว
เหลือเพียงฉันที่เกาะพ่อแจปักหลักเรียนอยู่สถาบันเดิมไม่ไปไหน
ใครจะเชื่อว่าในชีวิตของฉันแทบไม่ต้องมีการสอบแข่งขันเลย
ก็ฉันได้รับการคัดเลือกเรียนมาตลอด ชีวิตไม่ดิ้นรนตั้งแต่เกิดแล้วมั้ง

ฉันห่างพ่อมากที่สุดก็เมื่อออกไปฝึกงานภาคสนามอีกครั้ง
ที่นั่นฉันพบกับใครอีกคนที่แอบรู้จักฉันเงียบเงียบและตามมาคลุกคลี
อัจน์เงียบไป เราไม่ได้ติดต่อกันเลย เพิ่งได้รู้ทีหลังว่าเธอประสบอุบัติเหตุ
พักฟื้นอยู่นาน แต่ไม่ได้ส่งข่าวเพราะ "กลัวน้องกลางเป็นห่วง".
.
ฉันรู้สึกเสียใจที่ตัวเองไม่ดีเท่าภาพลักษณ์ที่อัจน์สร้าง..
ฉันไม่ทุกข์ร้อนเลยกับช่วงที่หายไปของอัจน์..
หรือฉันไร้ใจ ฉันคนไร้ใจ..
"ไร้ใจไม่ไร้รัก"

ระหว่างที่เราขาดการติดต่อนั้นใครกันแน่นะที่เปลี่ยนไป..
สันต์เป็นแค่ใครบางคนที่พ่อส่งมาดูแลต่างหาก
พี่ขนมผิงก็ไม่ได้ติดต่อกับฉันอีกเลยหลังจากเรียนจบและแยกจากไป
ระหว่างที่พักรักษาตัวอยู่เงียบเงียบอัจน์มีเงาของใครบางคน..
หรือเป็นฉันที่มีเงาของใครอีกคน ?

เพลงประกอบ: She is the one.





Create Date : 03 มีนาคม 2553
Last Update : 7 มีนาคม 2553 19:04:17 น. 0 comments
Counter : 605 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Peakroong
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]





"หากต้องตัดสินใครสักคน

เริ่มจาก "ทำไม"คงจะดีกว่า"อย่างไร"

เพราะสิ่งที่มองเห็นไม่แน่ว่ามีอยู่จริง

สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าไม่มี

สิ่งที่คิดว่าใช่อาจไม่ใช่

สิ่งที่ไม่คิดว่าใช่สำหรับคุณ

มันอาจใช่เลยสำหรับใครอีกคน"


"
๐ ให้ลมหายใจของใบไม้เป็นบันทึกคนกล่อง
คำเขียนของคนล้มลุกคลุกคลาน
แต่ยังมีลมหายใจเป็นของตัวเอง
แม้ไม่ใช่ทุกอย่างที่มีหากเป็นทุกอย่างที่เป็น
เก็บความว่างเปล่าไว้เติมเต็ม..

๐ ขอบคุณตัวละครทุกตัว
ทั้งที่มีอยู่จริงและที่ไม่มีตัวตน
ขอบคุณวันเวลา-ครูบา-อาจารย์
ที่สอนให้เก็บเกี่ยว ฝึกให้คิด สอนให้เขียน

๐ ขอบคุณเพื่อนเพื่อนชาวไซเบอร์
ที่กรุยทางให้สร้างสรรรค์บล็อคได้เท่าใจ
ขอบคุณทุกภาพงดงามจากบล็อกน้องญามี่ขอบคุณ https://www.thaipoem.com
ที่ให้เพลงประกอบเป็นอมตะนิรันดร์กาล

๐ ขอบคุณความเป็นเธอ..
ที่ส่งผ่านการ"ให้"มาเสมอฝัน
ขอบคุณความเป็นฉัน..
คนเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างวันมาถักทอ


'ปีฆรุ้ง
27 มกราคม 2553


Friends' blogs
[Add Peakroong's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.