Love Sick หัวใจไม่ไร้รัก บทที่ ๑๓ (YURI)
๑๓ คนเจ้าชู้ มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก ช่างพันผูกหญิงสาวเยอะนักหนา พูดอ่อนหวานกับทุกคนชวนขัดตา ค้อนหนึ่งคราหมั่นไส้คนเจ้าชู้. ม่านฟ้ากระพริบตาถี่ๆ แล้วอ้าปากค้าง ชะ ชอบฉัน! เธอขยับปากหลายครั้งแต่ไร้เสียง กว่าจะเอ่ยค้าน “แต่คุณ มีคุณช่อทิพย์เป็นแฟนอยู่แล้ว” นั่นสิเนอะ ดูแล้วเหมือนเป็นคนหลายใจจัง ลลิตาคิดว่าตัวเองในใจ คลี่ยิ้มมุมปาก “ใช่ค่ะ...แต่บอกตรงๆ คือพี่ไม่รู้ว่า จะเป็นแฟนกันต่ออีกสักกี่วัน” พูดหน้าตายมาก สมกับฉายาคาสโนวี่จริงๆ ร่างสูงถอนใจยาว กับอุปนิสัยเสียที่ยากจะแก้ไขของหล่อน “คุณอย่ามาหว่านเสน่ห์ให้ฉันเลย ไม่ได้ผลหรอกค่ะ” สาวหน้าคมทำหน้าเบื่อ “พี่ไม่ได้หว่านเสน่ห์ พี่แค่ซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง” ร่างบางตอบยิ้ม เบนสายตาไปยังกล่องอาหารอิตาเลียนตรงหน้า “พี่หิวแล้ว ทานกันเถอะค่ะ” “เชิญค่ะ” รองประธานสาวบอก “นี่ค่ะ” หล่อนตัดพิซซ่าหนึ่งชิ้นใส่จาน ส่งให้เจ้าของห้อง พร้อมกับทิชชู่ จากนั้นจึงตักอีกชิ้นให้ตัวเอง “น้องฟ้าชอบฮาวายเอี้ยนเหรอคะ?” “ค่ะ” อีกคนตอบสั้นๆ ทั้งคู่นั่งทานเงียบๆ หมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเอง ที่ไม่พ้นเกี่ยวข้องกับผู้หญิงอีกคน จนบีนำเครื่องดื่มเข้ามาเสิร์ฟ บรรยากาศในห้องจึงผ่อนคลายลง “พี่บีคะ รายการใหม่ของฟ้าจะต้องออกรายการวันไหน เวลาไหนคะ?” เธอถามเลขาสาวอย่างเป็นงานเป็นการ “วันเสาร์ช่วงสามทุ่มครึ่งถึงสี่ทุ่มครึ่งค่ะ” บีตอบ “วันนี้วันที่ ๒๐ ก็เริ่มวันที่ ๑ ค่ะ” “เล่นดึกเลยนะคะ ทับช่วงละครอีกต่างหาก” ลลิตาเอ่ยปาก ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมรายการวาไรตี้ของช่อทิพย์ถูกถอด ...เรตติ้งของโทรทัศน์ช่วงเวลานั้น ส่วนใหญ่มาจากละครดังหลังข่าว หากคิดจะแย่งมาไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ได้งานยากเลยนะเนี่ย ม่านฟ้าขมวดคิ้วเห็นด้วยกับหล่อน แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว สายเกินกว่าจะถอยแล้ว เหลือแค่สิบวัน ต้องรีบโปรโมทแล้ว เธอคิดถึงกลยุทธ์แรกๆ ที่พึงกระทำก่อนเปิดตัวรายการใหม่ ซึ่งไม่ต้องใช้งบประมาณมากมายเลย “ใครเป็นแอดมินเฟซบุค ไอจี ยูทูป และเวปของบริษัทคะ?” “พี่ค่ะ” บีตอบยิ้ม “ฟ้าจะทำตัวอย่างโฆษณา ฝากพี่บีลงให้ด้วยนะคะ” “ได้ค่ะ” เธอเบนสายตาไปยังสหายร่วมรบ ที่ทานพิซซ่าอย่างเอร็ดอร่อย แล้วมอบหมายงาน “ฝากคุณตาอัพด้วยนะคะ อัพลงโซเชียลทุกที่เลย” “ไม่มีปัญหาค่ะ” ลลิตารับปากหลังกลืนอาหารลงคอ แล้วคิดอะไรบางอย่างขึ้นได้ “ถ้าจะโฆษณา พี่มีอีกวิธีค่ะ น่าจะได้ผลเร็วพอสมควร น้องฟ้าสนใจจะฟังไหมคะ?” ไม่ใช่แค่ม่านฟ้าที่สนใจ แต่บีก็หูผึ่งอยากรู้ไม่น้อย “วิธีไหนคะ?” เธอถาม หล่อนยิ้มพราย แล้วเล่าความคิดออกมา ทว่าคนฟังรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องนัก หลังเล่าจบก็ย้อนถาม “น้องฟ้าคิดยังไงคะ?” ฉันจะทำได้ไหม? รองประธานสาวคิดลังเลใจ ด้วยเป็นอะไรที่ใหม่กับตนมากๆ แต่ไม่มีทางเลือกอื่น “ตกลงค่ะ” “พี่จัดการให้ค่ะ ได้เรื่องอย่างไรจะแจ้งนะคะ” ลลิตารับปาก ด้วยมีเส้นใหญ่ที่คุ้นเคยกันมานานในวงการสื่อสารมวลชน “ขอบคุณค่ะ” หลังทานอาหารกลางวันเสร็จ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่อมา ม่านฟ้าส่งคลิปตัวอย่างยาวประมาณสามสิบวินาทีให้บีกับลลิตา จากนั้นทั้งสามคนรีบลงโปรโมททุกช่องทาง ไม่นานมีคนเข้ามากดถูกใจ และกระแสตอบรับเร็วเกินคาด “รอดูพี่ตาค่ะ” “น่าสนใจมากๆ ค่ะ” “ว้าว! พิธีกรสวยๆ นี่รอชมครับ” ฯลฯ “โห! เสียงตอบรับดีมากเลยนะคะ” บีบอกยิ้ม หลังอ่านข้อความที่มีแฟนคลับแวะมาเขียนทิ้งไว้เป็นร้อย หลังโพสต์ไม่ถึงสิบนาที “กองเชียร์คุณตาเยอะนะคะ มีแต่สาวๆ ทั้งนั้น” ม่านฟ้าพูดหลังเปิดอ่านไปยี่สิบกว่าข้อความ ร่างบางเงยหน้าขึ้นจากมือถือราคาแพง หัวเราะคิกคัก “แหม พี่ไม่ยักรู้ว่าตัวเองดังเลยนะเนี่ย” เชอะ เธออดค้อนอย่างหมั่นไส้ไม่ได้ “ดังกว่าดาราซะอีก รู้งี้ทำตั้งแต่แรกซะก็ดี” ชมหรือประชดคะ? ลลิตาอมยิ้มในหน้า แกล้งเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง แล้วขยับปากแบบไร้เสียง “หึงพี่เหรอคะ?” ใครจะไปหึงคุณกัน รองประธานสาวถลึงตาดุใส่ร่างบาง แล้วพูดว่าลอดไรฟัน ให้ได้ยินกันแค่สองคน “บ้าสิ” น่ากลัวจังเลย อิอิ หล่อนหัวเราะร่วนอย่างเอ็นดู ไม่ได้รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย ม่านฟ้าเบ้ปาก แล้วไม่ต่อล้อต่อเถียงด้วยอีก วันรุ่งขึ้นณิชากรติดต่อมาขอสัมภาษณ์ม่านฟ้า เพื่อเขียนคอลัมน์แนะนำนักธุรกิจหน้าใหม่ลงในหนังสือพิมพ์หัวสีของเหมวดี ซึ่งสาวสวยคุ้นเคยเป็นผู้แนะนำมา โดยนักข่าวสาวส่งหัวข้อที่จะถามมาก่อน โดยนัดจะมาในช่วงบ่ายอีกวัน ม่านฟ้ารู้สึกเกร็งในช่วงแรก เพราะไม่เคยถูกสัมภาษณ์มาก่อน แต่ณิชากรใช้จิตวิทยาและพูดจาอย่างยิ้มแย้ม ไม่กดดันอีกฝ่ายจนเกินไป ทำให้บรรยากาศในการพูดคุยเป็นไปด้วยดี หลังได้ข้อมูลเพียงพอนักข่าวสาวก็หยุดบันทึกเสียง “ขอบคุณมากค่ะคุณม่านฟ้า ที่ให้หนังสือพิมพ์เราได้สัมภาษณ์” ณิชากรเอ่ยอย่างสุภาพ “ฟ้าควรเป็นฝ่ายขอบคุณมากกว่าค่ะ” รองประธานสาวกล่าวตอบอย่างอ่อนน้อม เป็นผู้หญิงที่สุภาพและอ่อนโยนมาก นักข่าวสาวคิดแบบนั้น แล้วนึกสงสัยอะไรบางอย่าง จึงโพล่งถามออกไปตรงๆ “คุณม่านฟ้าสนิทกับคุณตามากเหรอคะ?” จะตอบยังไงดี! เธอทำท่าอึกอักเล็กน้อย ไม่คิดว่าจะโดนคำถามแบบนี้ จึงตั้งตัวไม่ทัน “จริงๆ ฟ้าเพิ่งรู้จักเธอค่ะ คุณตามาช่วยเป็นพิธีกรร่วมในรายการของฟ้า แล้วบริษัทรถของครอบครัวเธอเป็นสปอนเซอร์ให้ด้วย เราก็เลยได้เจอกันบ่อยๆ” ม่านฟ้ายกเรื่องงานขึ้นมาบังหน้า “อ๋อ! ค่ะ” นักข่าวสาวพยักหน้าเออออไปตามน้ำ แต่สังเกตเห็นบางอย่างที่ไม่ปกติ บนใบหน้าคมของอีกฝ่ายที่แดงระเรื่อขึ้น เจอบ่อยๆ แต่ไม่ได้ยอมรับว่าสนิท...น่าสนใจจริงๆ ณิชากรปะติดปะต่อจากบทสนทนาที่คุยกับลลิตาวันก่อน รู้สึกว่าน้ำเสียงหล่อนร่าเริงเกินกว่าเหตุ ตอนโทรแนะนำให้มาสัมภาษณ์ม่านฟ้า ซึ่งเธอรู้อยู่แล้วว่าเป็นเรื่องการโปรโมทหรือช่วยสร้างกระแส โดยมีเจตนาให้สาวหน้าคมกลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน ถ้าไม่สนิทสนมกันมาก หรือเป็นคนพิเศษ คุณตาคงไม่ยื่นมือช่วยขนาดนี้แน่ ความช่างสงสัยเป็นอุปนิสัยพื้นฐานของนักข่าว แต่พอได้เจอตัวจริงของม่านฟ้า แม้จะเป็นระยะเวลาแค่ชั่วโมงสองชั่วโมง ก็คลายสงสัยไปมาก ประกอบกับช่วงนี้มีข่าวลือว่า ความรักระหว่างลลิตากับช่อทิพย์ใกล้จะล่มเต็มที คาดว่าคงไม่พ้นทางใครทางมัน...แค่ช้าหรือเร็ว ทว่าณิชากรไม่เชื่อเด็ดขาดว่า ผู้หญิงเรียบร้อยใสซื่อแบบม่านฟ้า จะเป็นมือที่สามได้ ดาราสาวคนนั้นแม้จะสวย แต่นิสัยก้าวร้าว ใจคอคับแคบ เป็นไปได้ว่าคุณลลิตาคงทนไม่ได้มากกว่า เธอพอเข้าใจอุปนิสัยของลลิตา ที่มีส่วนคล้ายคลึงกับแองเจิลและกันทิมาในอดีตไม่น้อย “เชื่อเถอะว่า ผู้หญิงไม่มีใครอยากเจ้าชู้หรอกค่ะ แค่อาจจะเจอคนใจร้ายมาเยอะก็เลยไม่ไว้ใจใคร จริงๆ แล้วถ้าได้คนรักที่เข้าอกเข้าใจ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่ขี้หึงขี้งอนเกินงาม ไม่ดราม่าให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ รับรองว่าเสือร้ายต้องถอดเขี้ยวถอดเล็บ กลายเป็นลูกแมวเชื่องๆ เหมือนแองเจิล เหมือนพี่นั่นแหละ” กันทิมาบอกกับนักข่าวสาวแบบนั้น ณิชากรไม่อยากจะเชื่อคำพูดนี้นัก แต่หลังคบกับแองเจิลนานเข้าก็แน่ใจว่า...สิ่งที่กันทิมาบอกเป็นความจริง “คุณณิชากรสนิทกับคุณตาเหรอคะ?” ม่านฟ้าเผลอหลุดปากถามออกไป พอรู้ตัวก็รีบพูดแก้ “เอ่อ ขอโทษค่ะ” อยากรู้ขนาดนี้...แปลว่าลึกๆ ก็สนใจคุณตาสินะ นักข่าวสาวซ่อนยิ้มในหน้า “ณิมีโอกาสได้สัมภาษณ์เธอหลายครั้ง เพราะเธอเป็นเพื่อนสนิทกับคนรักของณิค่ะ” ณิชากรตอบแบบชัดเจนตรงประเด็น ไม่อยากให้อีกคนเข้าใจผิด ว่าตนมีอะไรพิเศษกับหล่อน คุณณิมีคนรักแล้ว ม่านฟ้าทำหน้าแปลกใจ ด้วยอีกฝ่ายมีอายุไล่เลี่ยกับตน แต่ตนยังไม่มีแม้แต่เงาแฟน “คุณณิโชคดีจริงๆ ที่มีคนรักแล้ว...ฟ้ายังไม่มีเลยสักคน” นักข่าวสาวหัวเราะน้อยๆ “สวยๆ น่ารักแบบคุณ อีกไม่นานก็เจอค่ะ ณิมั่นใจ” “หวังว่าจะเป็นแบบนั้น” รองประธานสาวพูดเสียงอ่อย “จริงๆ คุณตาเป็นคนนิสัยดีน่าคบมาก จะเสียก็เรื่องเจ้าชู้นี่แหละ ไม่รู้สุดท้ายจะหยุดที่ใคร” อีกคนเปรยเล่าเรื่องแย่ๆ ของลลิตาออกมา ซึ่งเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่รู้กันอยู่แล้ว “คนนั้นอาจจะโชคร้ายมากๆ” “ใช่ค่ะ” ม่านฟ้าพูดเสริม แล้วหลุดขำออกมา นักข่าวสาวหัวเราะตามไปด้วย ไม่บ่อยที่จะเจอคนคุยถูกคอ แต่ก่อนที่จะพูดอะไรต่อ ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเคาะประตู ก๊อก! ก๊อก! เจ้าของห้องจึงหันไปมอง แล้วเอ่ยอนุญาต “เชิญค่ะ” ลลิตาเปิดประตู ชะโงกหน้าเข้ามา แล้วถามขึ้น “พี่มาขัดจังหวะหรือเปล่าคะ?” มาทำไมเนี่ย? ม่านฟ้ามองแขกไม่ได้รับเชิญ แล้วตอบเสียงเย็น “เปล่าค่ะ” “พี่เข้าไปได้ไหมคะ?” หล่อนถามเจ้าของห้องแบบเกรงอกเกรงใจ “เชิญค่ะ” เธอตอบสั้นห้วน ปั้นหน้ามึนตึง ทั้งที่หัวใจเต้นแรงรัวผิดจังหวะ จนกลัวว่าคนอื่นจะได้ยิน สาวสวยจึงรีบก้าวเข้าไป นั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับสองสาว “สัมภาษณ์เสร็จแล้ว?” “ค่ะ ตอนนี้คุยเล่นนอกรอบค่ะ ณิแอบเผาพี่ตาอยู่” ณิชากรตอบทีเล่นทีจริง แกล้งปรายตาไปยังม่านฟ้า ลลิตาหัวร่อเบาๆ “พี่ไม่มีอะไรน่าเผาสักหน่อย” “พูดทั้งวันก็ไม่จบเชื่อเถอะค่ะ เรื่องพี่ตาเยอะจะตายไป” นักข่าวสาวกระเซ้า “แย่จัง!” หล่อนกล่าว ทว่ายิ้มหวาน หน้าสวยไม่สลดแม้แต่น้อย แสดงว่าทำเรื่องไม่ดีเยอะสินะ นิสัยไม่ดีจริงๆ เธอค่อนอีกคนในใจ เผลอส่งสายตาดุๆ ให้ อย่าดุพี่สิคะ สาวฮอตจึงเปลี่ยนเป็นยิ้มแห้งๆ แทน แม้จะเป็นการสนทนาที่ไร้เสียงในเสี้ยววินาที แต่ไม่พ้นความช่างสังเกตของณิชากร ที่ซ่อนยิ้มในหน้า ดูนิ่งๆ ไม่คิดว่าจะดุ ทั้งหมดคุยกันอีกไม่กี่คำ นักข่าวสาวก็ขอตัวกลับ สองสาวตามไปส่งณิชากรที่หน้าตึกธัญญากรุ๊ป “อีกสองวันรออ่านบทความของณิด้วยนะคะ” “ขอบคุณนะคะคุณณิ” ม่านฟ้าเอ่ยล่ำลา “ขอบคุณเช่นกันค่ะ” นักข่าวสาวยิ้มให้ม่านฟ้า ก่อนเฉมองลลิตาที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วหลิ่วตาให้ “หวังว่าพี่ตาจะเจอตัวจริงเร็วๆ นี้นะคะ” หืม? หล่อนมองตามสายตาของคนพูด แล้วเข้าใจในทันทีว่าหมายถึงอะไร จึงยิ้มกว้าง “ขอบคุณค่ะน้องณิ” พอนักข่าวสาวไปแล้ว ม่านฟ้าจึงถามขึ้น ขณะเดินเข้าไปภายในอาคาร เพื่อกลับไปห้องทำงาน “คุณตามีอะไรหรือเปล่าคะ?” พูดกับพี่เสียงเย็นชาเกิน สาวสวยทำหน้าหงอยลงเล็กน้อย เดินเคียงข้างเธอเข้าไป โดยไม่สนใจสายตาหลายคู่ที่มองอย่างสอดรู้สอดเห็น “ไม่มีธุระ พี่มาไม่ได้เหรอคะ?” “ฉันไม่ได้ว่างแบบคุณนะคะคุณลลิตา” อีกคนต่อว่าเสียงดุๆ “พี่ก็ไม่ได้ว่างงานนะคะ พี่เอางานมาส่งน้องฟ้าต่างหาก” หล่อนรีบบอกธุระอย่างเร็ว สาวหน้าคมเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ “งาน?” ร่างบางชูแฮนดี้ไดร์ฟที่มีไฟล์งานตรงหน้า “ตัวอย่างโฆษณารถใหม่ของบริษัทค่ะ เพิ่งเสร็จเมื่อสักพัก พอได้พี่ก็รีบเอามาส่ง” ม่านฟ้ารู้ทันว่าเป็นแค่ข้ออ้าง จึงกล่าวตอบไปว่า “คุณไม่ต้องมาส่งเองก็ได้ ส่งทางไลน์ประหยัดเวลากว่าตั้งเยอะ ไปๆ มาๆ ทำไมให้ยุ่งยาก” รองประธานสาวกดปุ่มเรียกลิฟต์ “ส่งทางไลน์ ก็ไม่ได้เห็นหน้าน้องฟ้าสิคะ” ลลิตาพึมพำเสียงแผ่ว แต่ดังพอที่อีกคนจะได้ยิน ทำมาปากหวาน จะมาหาแฟนก็พูดตรงๆ สิ เธอไม่คิดเชื่อถ้อยคำของหล่อนนัก ปรายตาไปเห็นช่อทิพย์พอดีจึงเอ่ยขึ้น “นั่นแฟนคุณมาแล้ว ไปคุยกับเธอหน่อยสิ” หืม! สาวสวยเหลียวหน้าไปยังทางเข้า เห็นดาราสาวจ้องเขม็งเหมือนไม่พอใจ หล่อนจึงโคลงศีรษะ “พี่ไม่มีอะไรต้องคุยค่ะ อยู่ห่างๆ กันสักพักดีกว่า จะได้ไม่ทะเลาะกัน” “ถ้าไม่ปรับความเข้าใจ แล้วจะรู้เรื่องไหมเนี่ย” สาวร่างสูงเปรยขึ้นเหมือนเตือนสติกลายๆ “ไม่รู้ก็ไม่ต้องรู้ค่ะ” ร่างบางตอบแบบดื้อๆ “คุณนี่รั้นเหมือนกันนะ” ม่านฟ้าบ่นแบบไม่จริงจัง “ขอบคุณที่ชมค่ะ” หล่อนตอบหน้าตาย ไม่ได้ชม ประชดค่ะประชด คิดตอบในใจ แต่ไม่คิดจะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย ติ๊ง! เป็นจังหวะที่ลิฟต์มาพอดี ทั้งสองจึงก้าวเข้าไป จากนั้นตู้เหล็กก็พาไปยังชั้นบนสุด “น้องฟ้าเคยมีแฟนไหมคะ?” สาวฮอตซักไซ้ นึกอยากรู้เรื่องของเธอให้มากขึ้นอีกหน่อย ม่านฟ้าปรายตามองแบบค้อนๆ “ยุ่งอะไรด้วย” น้ำเสียงเย็นเยือก “สวยๆ แบบนี้น่าจะเคยมี อย่างน้อยก็คนสองคน” ลลิตาแกล้งพูดลอยๆ ออกมา “ไม่เคยสักหน่อย!” เธอพูดสวน “หืม เป็นไปได้” ร่างบางทำหน้าประหลาดใจ ระคนดีใจ “งั้นพี่ก็เป็นจูบแรกของน้องฟ้าสิคะ” “เสียใจด้วยค่ะ ไม่ใช่” สาวสวยทำหน้าเหวอไปอึดใจ “แปลว่าอะไรคะ?” “จะรู้ไปทำไม” อีกคนไม่ยอมเฉลย “แต่พี่อยากรู้นี่คะ” สาวฮอตพูดเสียงร้อนรน พอประตูลิฟต์เปิด ม่านฟ้าก้าวยาวๆ ออกไป ลลิตารีบตามไปติดๆ เพื่อเซ้าซี้ขอคำตอบ ไม่เช่นนั้นคงคันหัวใจนอนไม่หลับ ใครฟ่ะได้จูบแรกน้องฟ้า พี่จะไปอัดหน้ามัน หล่อนคิดเข่นเขี้ยว คันมือเต็มแก่ พี่ตาบ้า นี่ไม่คิดจะสนใจกันแล้วใช่ไหม ช่อทิพย์ขยี้ส้นสูงอย่างบึ้งตึง หลังสาวสวยไม่ใยดีตนมาหลายวัน ลลิตาไม่ยอมตอบข้อความ ไม่ยอมรับโทรศัพท์ อยู่ห่างกันไม่กี่เมตรก็ยังเดินหนีอีก แบบนี้จะให้คิดเป็นอย่างอื่นได้อย่างไร ...นอกจากอีกคนต้องการเลิกรากัน เพื่อไปคบคนอื่น แบบนี้มันหยามกันมากไปแล้ว ฉันสู้ยายนั่นไม่ได้ตรงไหน คิดแบบแค้นๆ ไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับตนมาก่อน ลลิตาเป็นคนแรกที่กล้าเมินเธอ “ใจเย็นๆ ค่ะน้องช่อ” เอกกี้ปลอบ “เย็นยังไงไหวคะ” ดาราสาวสวนเสียงสูงปรี๊ด โมโหจนคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่ “ช่อไม่ได้ทำผิดอะไรสักหน่อย แต่ถ้าเห็นคนอื่นดีกว่าช่อ อยากเลิกก็เลิกได้เลย ช่อไม่ง้อหรอกนะ” ขณะที่นางเอกสาวกำลังหัวเสีย มือถือราคาแพงก็ดังขึ้น เธอหลุดยิ้มมุมปาก หลังเห็นชื่อ...สุจิรา “สวัสดีค่ะ มีอะไรคะ?” ช่อทิพย์คลี่ยิ้มหวาน เงี่ยหูฟังอีกฝ่าย แล้วตอบเสียงออดอ้อน “ช่ออยากไปนะคะ แต่ช่อยังไม่เสร็จงานค่ะ กว่าจะเสร็จคงค่ำๆ” ดาราสาวฟังอีกฝ่ายพูดหลายคำ ก่อนรับปากอย่างง่ายดาย “ก็ได้ค่ะ ช่อจะรอนะคะ สวัสดีค่ะ” พอช่อทิพย์กดวางสาย เอกกี้ที่อยู่ข้างๆ ก็ถามขึ้นอย่างสงสัย “ใครคะน้องช่อ?” “คุณแป้งสุจิราค่ะ ค่ำๆ จะแวะมารับช่อไปทานข้าวเย็นที่โรงแรม พี่เอกกี้ไปด้วยกันนะคะ” ดาราสาวชวนขึ้น เหมือนเป็นเรื่องธรรมดามาก หา! ผู้จัดการชายใจสาวยกมือทาบอกหน้าตื่น สุจิราหรือคุณแป้งเป็นเพลย์เกิร์ลชื่อดัง ใจป้ำเปย์หนัก ที่บ้านฐานะร่ำรวยมาก ชอบควงคนดัง โดยเฉพาะดาราสาวสวยๆ ก่อนหน้านี้สุจิราเคยไปทานข้าวกับดาราสาวหลายครั้ง ลือว่าเคยมีสัมพันธ์สวาทกันด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายช่อทิพย์กลับมาคบกับลลิตาแทน แค่ทะเลาะแต่ยังไม่ทันเลิกกับคุณตา ก็จะออกเดทกับกิ๊กเก่า คิดจะคบซ้อนหรือไงเนี่ย…โอ๊ย! หาเหาใส่หัวชัดๆ เอกกี้นึกปวดกบาล กลัวการตัดสินใจชั่ววูบของอีกฝ่าย จะทำให้มีเรื่องยุ่งๆ ตามมาเป็นหางว่าว สุ้มเสียงของช่อทิพย์ไม่ได้เบานัก ทำให้สิบกว่าคนที่อยู่แถวนั้นได้ยินชัดเต็มสองหู รวมถึงนักข่าวสองคน ซึ่งตามเก็บข้อมูลของนางเอกสาวอย่างใกล้ชิด “แบบนี้ก็เจ๋งสิ!” คนแรกยิ้มกว้างหน้าบานเป็นกระด้ง ตาลุกดีใจที่จะได้ข่าวซุบซิบ “คืนนี้เราจะตามติดช่อทิพย์” อีกคนบอก “โอเค แต่ตอนนี้ไปทานข้าวกันก่อนดีกว่า” ส่วนปูแฟนคลับของลลิตาหูผึ่ง กลอกตาไปมา สมองคิดหาวิธีใช้ประโยชน์จากเรื่องที่เพิ่งได้ยิน ถ้าคุณตารู้เรื่องแฟนตัวเองไปเดทกับกิ๊กเก่า คุณตาต้องโมโห ดีไม่ดียายช่อกระเด็นแน่ๆ หึหึ OOOO ขอบคุณที่กรุณาติดตาม ขอบคุณทุกโดเนท ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ และขอบคุณที่อุดหนุนใน MEB ค่ะ ...ไรท์ยิ้มกว้างๆ ^^ ตอนนี้พี่ตาหงุดหงิดที่ไม่ได้เป็นเจ้าของจูบแรกของน้องฟ้า ส่วนใครได้จูบนั้นไป ต้องไปอ่านเฉลยในเล่มนะคะ ในบทนี้มีแขกรับเชิญด้วย คือ น้องณิ ณิชากร นักข่าวคนเก่งของเรา ...ในตอนหน้าพี่ตาจะโดนดี แต่แบบไหนนั้น ต้องรออ่านกันต่อไปค่ะ ช่วงนี้ไรท์กำลังทำเพจดูดวง "ลำดวนพยากรณ์" ใครสนใจอยากดูดวงฟรี 1 ข้อ ส่วนจะเป็นวันไหนนั้น ต้องติดตามที่เพจลำดวนพยากรณ์นะคะ รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ พบกันตอนหน้าค่ะ นาง ^^ OOOO
| Create Date : 05 มิถุนายน 2563 |
| Last Update : 5 มิถุนายน 2563 20:20:35 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 614 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [