|
ตุรกี ดินแดน 2 ทวีป (วันที่ 1-2 สุวรรณภูมิ-อิสตัลบูล-คัปปาโดเกีย)
วันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2561 - วันเสาร์ที่ 5 พ.ค.2561
ทริปนี้อยากไปตุรกีตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว หาข้อมูล ดูโปรแกรม+ดูบริษัททัวร์นานมาก ปีนี้เพิ่งมีโอกาส ไปเที่ยวตุรกีด้วยกันครับ ซื้อทัวร์บริษัท bigworldholiday ในงาน "เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก" ครั้งที่ 22 ที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 10 ก.พ.61 ราคาเต็ม 43,900 บาท/คน ซื้อในงานลดไป 1,000 บาทเหลือ 42,900 บาทจ่ายตังค์ครบ รอการเดินทาง ก่อนไปซื้อซิม 2 FLY ไปใช้ สัญญาณโอเคเลย แนะนำๆ วันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2561 บริษัททัวร์นัดเจอกันที่สุวรรณภูมิเวลา 18.30 น. ชั้น 4 ROW U มาถึงมีเจ้าหน้าที่และไกด์มาต้อนรับอยู่แล้ว ผมไปถึงก่อนเวลาประมาณชั่วโมง มีเวลาเหลือ ลงไปชั้น 1 ไปหาอะไรกินตรงเมจิก ฟูดพ้อยท์ อาหารราคาไม่สูงเวอร์ ตามเวปนี้เลยครับ https://2baht.com/suvarnabhumi-food-court-1fl/ คลิ๊กเลย อาหารรสชาติอร่อย คุณภาพพอใช้ได้ ราคาไม่แรงเหมือนข้างในสนามบิน แนะนำครับ ใครมีเวลาเหลือลงมากินข้างล่าง มีอาหารให้เลือกเยอะ ของผมข้าวขาหมู+ไข่ 50 บาท อร่อยใช้ได้เลย ต้มเลือดหมูใส่สาหร่าย 65 บาท(ธรรมดาไม่ใส่สาหร่าย 50 บาท) เครื่องให้มาเยอะเหมือนกัน น้ำซุปผมเฉยๆแต่ไม่ถึงกับแย่ พอกินได้ไม่เสียหาย ยำส้มตำทอด รสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม มัน แซ่บมาก เสียดาย ส้มตำทอดมีกลิ่นหืนน้ำมันไปหน่อย ถ้าส้มตำข้าวโพดอย่างเดียวน่าจะอร่อยกว่า หมดไป 185 บาท รวมน้ำเปล่าขวดเล็ก 2 ขวด (ขวดละ 10 บาท) อิ่มอร่อยในราคาสบายกระเป๋ากว่ากินข้างในสนามบินแน่ เวลา 18.30 น.ขึ้นไปพบเจ้าหน้าที่ แจกซองโปรแกรมพร้อมพาไปเช็คอินที่เค้าเตอร์ ได้ตั๋วมา 2 ใบ ไฟล์ TK 065 กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)-อิสตันบูล 21.45- 04.00+1 น.
กับตั๋วบินภายใน ไฟล์ TK 2010 อิสตันบลู-กรุงเคย์เซอรี่ 06.40-08.00 น. ผ่าน ตม.เข้าไปรอที่ Gate E5 เลี้ยวขวาไปตามป้าย ไม่ไกลครับ บินกับสายการบินตุรกี แอร์ไลน์ เครื่อง A330-300 ที่นั่งเป็นแบบ 2-4-2 ให้น้ำหนัก 20 กก.ทั้งอินเตอร์และภายใน ส่วนขากลับให้ 23 กก. ภายในไม่กว้างมากตามราคาชั้นประหยัด โชคดีผมตัวเล็กเลยไม่ค่อยอืดอัด หลับตามสภาพ มีจอมอนิเตอร์แบบทัชสกรีนพร้อมรีโมทไว้เลือกช่องหรือเล่นเกมส์ มีช่อง ยูเอสบี ไว้ชาร์ทมือถือได้สบาย และช่องเสียบหูฟัง แต่ละที่นั่งจะมี หมอน ผ้าห่ม หูฟังและถุงอุปกรณ์บนเครื่อง ภายในถุงอุปกรณ์บนเครื่องจะมี สลิปเปอร์ ถุงเท้า ผ้าปิดตา ที่อุดหู ชุดแปรงสีฟัน-ยาสีฟัน ลิปมัน เวลา 21.45 น.ได้เวลา take-off ตรงเวลาเป๊ะ พอไต่ระดับ ได้เวลาแจกอาหาร จะมีเมนูมาให้ดูก่อน ของผมเป็นเนื้อ ส่วนเครื่องดื่มขอลองเบียร์เค้าหน่อย หน้าตาอาหารก็อย่างที่เห็นนั้นแหละครับ ไม่ถูกปากซักอย่าง เบียร์แอบขมไม่อร่อย แต่จะว่าไปผมชอบบริการ เดินเสิร์ฟตลอด ใครขออะไรเห็นเดินไปเอามาให้ ถึงไม่ยิ้มแต่ไม่แสดงสีหน้าให้เห็น หรือหน้าตาเค้าเรียบปกติอย่างนี้อยู่แล้ว นั่งๆนอนๆ หลับบ้าง ตื่นบ้าง เล่นเกมส์ ดูหนัง ฟังเพลง นั่งยาวประมาณ 9 ชั่วโมง พอใกล้ถึงตุรกีมีเสิร์ฟอาหารเช้าให้อีก 1 ชุด เป็นไข่ กินกันตายไปก่อน วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2561 ตัดมาตอนเช้า ถึงสนามบิน Ataturk (IST) ตุรกี เวลา ตี 4 (ตุรกีช้ากว่าเมืองไทย 4 ชั่วโมง) เราต้องบินภายใน Domestic ด้วยสายการบินตุรกี แอร์ไลน์ เที่ยวบิน TK 2010 Economy Class อิสตันบูล – เคย์เซอร์รี่ เวลา 06.40-08.00 น. ส่วนกระเป๋าที่โหลดมาจากเมืองไทยไปรอรับที่ สนามบินเคย์เซอร์รี่ได้เลย น้ำหนักไม่เกินท่านละ 20 กิโลกรัม เดินตามไกด์ไป (มีไกด์ไทยมากับเราตั้งแต่สุวรรณภูมิด้วย 1 ท่าน) มาถึงตรงนี้จะมีจุดแลกเงินพร้อมให้ลูกทัวร์เข้าห้องน้ำบริเวณนี้ ปล.ไกด์แนะนำแลกเงินภายในสนามบินจะได้ราคากว่าไปแลกข้างนอก เดินผ่าน ตม.ในส่วนของอินเตอร์ก่อน สำหรับคนไทย ไม่ต้องกรอก Immigration ทั้งประเทศไทยและตุรกี แค่ยื่นพาสปอร์ตพอ ตม.ผ่านง่ายมาก ดูพาสปอร์ตมองหน้าปั๊มตรา จบ (คนไทยไม่ต้องของวีซ่าเข้าตุรกีนะครับ) หลังจากผ่าน ตม.อินเตอร์ ต้องเดินผ่าน ตม.ภายในประเทศต่อ เดินประมาณ 5 นาทีไม่ไกลครับ
รอที่ Gate 406 TK 2010 อิสตันบูล – สนามบินเคย์เซอร์รี่ เมืองคัปปาโดเกีย ( Cappadocia) เวลา 06.40-08.00 น. ไม่ได้ขึ้นงวงต้องนั่งรถบัสไปไกลเหมือนกัน ประมาณ 10 นาทีได้ บินกับโบอิ้ง 737-800 ภายในที่นั่ง 3-3 ช่องวางขาแคบกว่านิดหน่อย ส่วนจอไม่มีช่อง USB และช่องหูเสียบ เครื่องก็เปิดดูอะไรไม่ได้ แต่บินภายในใช้เวลาชั่วโมงนิดๆ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว มีแจกขนม-ผ้าเย็นพร้อมน้ำให้ด้วย ผ้าอุ่นแจกตอนขึ้นเครื่อง บริการดีมาก ส่วนวิวก็ประมาณนี้ ผมนั่งฝั่งซ้ายจากที่นั่งมองไปยังหน้าต่าง ถึงสนามบินกรุงเคย์เชอร์รี่เวลา 8.30 น.เลทไป 30 นาที บินกับลำนี้ รอรับกระเป๋า ผ่าน ตม.มาได้ มีไกด์ท้องถิ่นอีกท่านมารอรับ แล้วเดินไปรอรถโค้ชหน้าสนามบินประมาณ 10 นาที รถโค้ชโอเคเลย เบาะกว้างนั่งสบาย แต่เปิดแอร์น้อยมาก นึกว่ากรุ๊ปผมมาจากเมืองร้อนเลยไม่ชอบความเย็นมั่ง เบาะนั่งเป็นแบบ 2-2 แต่ละที่นั่ง มีจอทีวี ช่อง USB ช่องเสียบหูฟัง แต่ใช้ไม่ได้ ส่วนเครื่องเสียงภายในรถเสียงดี ไกด์พูดฟังชัดเจน ภายในรถมีไวไฟให้แต่ช้ามาก เลยไม่ได้ใช้ บนที่นั่งจะมีช่องวางกระเป๋าให้ด้วย ทริป นี้มีลูกทัวร์ 32 ท่าน + ไกด์ท้องถิ่น 1 ท่าน + ไกด์ไทย 1 ท่านและคนขับรถอีก 1 ท่าน รวมทั้งหมด 35 ท่าน เลือกที่นั่งได้สบายเลย ขึ้นรถได้เที่ยวเลยครับ เข้าที่พักไม่ได้เหรอ อยากนอนอ่ะ นั่งรถจากสนามบินไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม (GOREME) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนวิว 2 ข้างทางประมาณนี้ นั่งชมวิวไป ฟังไกด์แนะนำตัว เล่าประวัติที่มาที่ไปของเกอเรเม 1 ชั่วโมง ฟังเพลินๆ แป๊ปเดียวเอง ก็มาถึงแล้ว ไกด์จะปล่อยให้ลงรถตรงจุดนี้ สมาชิกพร้อม เดินตามไกด์เข้าไปชมภายในต้องซื้อบัตรผ่านเข้าไป ตรงนี้ไกด์จัดการให้เสร็จ ไม่ทราบราคาค่าเข้าคนละเท่าไหร่ (ค่าเข้ารวมค่าทัวร์ไว้แล้ว) ทางซ้ายมือจะมีห้องน้ำ (ฟรี) และร้านกาแฟ เกอเรเม่ ได้รับรองจากยูเนสโกด้วย ผ่านด่านเข้ามา รอไกด์ชี้แจง สถานที่นัดเจอและอธิบายสถานที่คร่าวๆ หลังจากนั้นเดินตามไกด์ไป เดินประมาณ 5 นาที มาถึงตรงจุดนี้ ไกด์อธิบายความเป็นมาและความสำคัญของเกอเรเม ทุกที่ไกด์ท้องถิ่นจะบรรยายเป็นภาษาอังกฤษและไกด์ไทยสรุปให้ฟังพร้อมเสริมประวัติที่สำคัญให้ตลอด หลังจากนั้นไกด์พาไปอีก 1 จุด ข้างในถ้ำว่าตรงไหนเป็นส่วนอะไร ห้องตรงนี้เป็นห้องอะไรไว้ทำอะไรบ้าง ได้ความรู้ดีมาก หลังจากอธิบายเสร็จ ไกด์ปล่อยอิสระให้เวลาเดินชมภายในประมาณ 1.30 ชม. หรือใครจะเดินตามไกด์ก็ได้ ไกด์จะอธิบายไปเรื่อยๆ เดินตามแผนที่ได้เลยครับ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม (Goreme Open Air Museum) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการ เผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ เกอเรเม อากาศประมาณ 19 องศา เย็นกำลังดี แต่แดดแรงมาก การเดินชมภายในจะเดินเป็นวงกลม ไม่หลงแน่นอน ทางเดินจะมีขึ้นบันไดบ้าง ลงเนินบ้าง เป็นดินบ้าง ปูอิฐบ้าง หินบ้าง ตามธรรมชาติ เดินไม่ลำบากแต่ก็ไม่สบายมาก สำหรับใครมาเที่ยวเอง เค้ามีเครื่องเฮทโฟนให้เช่าไว้ฟังได้ครับ เครื่องเฮทโฟนไม่รู้ฟังได้กี่ภาษา แต่ตรงป้ายจะมีทั้งหมด 4 ภาษาให้อ่าน เดินไปเรื่อยๆ จะมีอยู่ 1 จุดถ้าจะเข้าไปชมภายในถ้ำต้องเสียเองคนละ 10 ลีร่า ผมไม่ได้เข้าชม แค่ชมวิวภายนอกก็สวยเกินบรรยาย เดินขึ้นไปเรื่อยๆถึงจุดนี้จะมีร้านกาแฟขายกันในถ้ำ ไม่ได้อุดหนุนอ่ะ เวลา 1.30 ชม. ผ่านไปเร็วมาก ตอนแรกคิด ทำไมให้เวลาเยอะจัง มีแต่หิน ถ้ำ เดินครึ่งชั่วโมงก็คงครบแล้ว แต่พอดินจริงมันมีอะไรให้น่าศึกษาเยอะเลยครับ ยิ่งได้ฟังไกด์อธิบายประวัติความเป็นมาทำให้อยากเดินดูแต่ละจุดมากขึ้น ได้เวลากลับไปขึ้นรถแล้วครับ ไกด์จะนัดที่ลานจอดรถ ผ่านประตูทางเข้า-ออก เป็นประตูทางเดียวกัน ข้างในจะมีห้องน้ำบริการฟรีให้ 2 จุด แต่ห้องน้ำด้านนอกตรงลานจอดรถจะเสียค่าบริการคนละ 1 ลีร่า ผ่านด้านหน้าจะมีร้านขายของที่ระลึกวางจำหน่ายด้วย ที่สำคัญ ลองแวะกินไอติม อร่อยมาก แนะนำเลยครับ ร้านนี้อยู่ด้านหน้าส่วนของขายที่ระลึก มีให้เลือก 7 รสไอติม 1 โคนให้มา 3 ลูกเลือกรสได้เลย ราคา 10 ลีร่า ตักให้เฉยๆไม่มีลีลาใดๆ แต่อร่อยถูกใจมากกกก ไอติมเหนียวไม่ละลายง่าย เนื้อเข้มข้น ส่วนเนื้อแป้งโคนกรอบอร่อยเหมือนกัน ร้านนี้อร่อยจริงครับ จากจุดจำหน่ายของที่ระลึกเดินประมาณ 70 ม.จะไปถึงลานจอดรถ ก่อนถึงลานจอดรถจะมีร้านขายของที่ระลึก ของกินหลายร้านมาก ได้เวลาร่ำลา เกอเรเม แล้วครับ จากเกอเรเม มาร้านอาหารประมาณ 30 นาที มาถึงร้านอาหารเที่ยงพอดี อาหาร สไตล์ตุรกี เป็นแบบบุฟเฟต์ เห็นอาหารตามไลน์ต่างๆแล้ว อลังการงานสร้างมาก ดูน่ากินเนอะ ใครชอบขนมหวาน ชีส โยเกิร์ต ผักสด รับรองที่นี่ไม่ผิดหวัง ลองตักมาอย่างละนิดละหน่อย มีไก่กับปลา พอกินได้อยู่ ส่วนของคาวกินได้แต่ไก่ อย่างอื่นไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่ ส่วนไกด์ได้นำน้ำพริก น้ำจิ้ม แจ่ว ซอสเกือบ 10 อย่างมาจากเมืองไทยให้ลูกทัวร์ด้วย กินเสร็จเดินข้ามถนนไปยังโรงงานเพชร ประมาณ 40 ม. (ออกจากร้านอาหาร 13.20 น.) ข้างในโรงงานจะจำหน่ายพวก เพชร เทอควอย อาร์เทมิส พลอย เข้าไปชมภายในห้องแสดงสินค้าประมาณ 15 นาที ร้านค้าไม่ค่อยกดดันเท่าไหร่เลยไม่ค่อยอึดอัด ออกจากโรงงานเพชร เดินทางไปยัง เรด ริเวอร์ ประมาณ 20 นาที ที่ RED RIVER จะติดริมแม่น้ำ ตรงนี้ไกด์ให้เวลาประมาณ 40 นาที บรรยากาศดีมาก จะมีสะพานแขวนข้ามไปยังมัสยิดอีกฝั่ง โปรแกรมนี้แถม ไม่ได้อยู่ในรายการทัวร์ สงสัยเวลาเหลือ เลยแถมให้ บรรยากาศน่าปูเสื่อนอนเล่นซักงีบ เดินเล่นได้ซักพักแวะเข้าไปชิมไอติมร้าน MADO จะขายขนม ไอติม ชื่อดังของตุรกีเค้า ขนม ไอติม สีสันสดใสมาก ความอร่อยสู้ร้านที่เกอเรเมไม่ได้เลยครับ แต่ราคาถูกกว่าโคนละ 8 ลีร่า ให้เลือกได้ 3 รส ออกจาก เรด ริเวอร์ เวลา 14.30 น.เดินทางประมาณ 20 นาที ถึงโรงงานพรม จะมีการสาทิตการทอพรมให้ดูพร้อมทั้งจำหน่ายพรมต่างๆ มีหลายราคา หลายแบบในการทอ น่าสนใจมาก ทางโรงงานจะมีน้ำชาแอปเปิ้ลให้ชิมด้วย ตรงจุดนี้มีลูกทัวร์สนใจพรม ซื้อคนละชิ้นสองชิ้น หมดเวลาไปประมาณ 30 นาที จากโรงงานพรมเดินทางอีก 20 นาที ถึง นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City Derinkuyu or Kaymakli) ทางเข้า ต้องซื้อบัตรผ่านเข้าไปก่อนครับ อยู่ในรายการทัวร์เราไม่ต้องจ่าย มีหน้าที่เดินตามไกด์ไป สำหรับใครที่มาเอง ถ่ายราคาค่าเข้ามาให้ดู เข้ามาครบ ไกด์นัดให้มารอตรงจุดนี้ เป็นประตูทางเข้าและทางออก ไกด์จะเดินนำไปเป็นกลุ่ม พร้อมทั้งอธิบายแต่ละจุดว่าห้องเป็นอย่างไร มีความสำคัญอะไร ไกด์ท้องถิ่นผมกำลังบรรยายให้ฟัง แอบถ่ายคลิปมานิดหน่อย
อยากบอกว่านครใต้ดิน Underground City น่าสนใจมาก เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึก ลงไป 10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรู นครใต้ดินไคมัคลี มีชั้นล่างที่ลึกที่สุดลึกถึง 85 เมตร เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ แต่เปิดชมแค่ 3 ชั้นเอง ภายในถ้ำจะเป็นทางลาดค่อยๆเดินลงไป มีบันไดเป็นบางช่วง ยิ่งลงลึกทางจะยิ่งเตี้ยต้องเดินก้มลงไป ใครตัวสูงจะลำบากหน่อย สำหรับใครเดินไม่ไหว ไกด์ให้เดินกลับตามลูกศรสีน้ำเงิน ส่วนสีแดงจะเป็นทางเข้า ผมเดินตามไกด์จนถึงชั้นที่ 3 ซึ่งเปิดให้ชมถึงชั้นนี้ เป็นที่หมักไวน์ ไกด์อธิบายเสร็จพาเดินขึ้นชั้นบน ไม่ได้เดินสวนกันนะครับ จะเดินคนละทางแต่ไปออกทางเดียวกับทางเข้า ใครมาเองให้เดินตามลูกศรเอาแล้วกัน ในส่วนของการชมนครใต้ดิน ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ทึ่งสำหรับคนสมัยนั้นมากที่ตอนนั้นไม่มีเครื่องจักรทันสมัยใดๆ ใช้แค่มือกับอุปกรณ์เล็กๆขุดลึกลงไปเป็นที่อยู่อาศัยได้ เหมือนเมืองๆหนึ่ง เป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก เวลา 17.50 น.ได้เวลาเดินทาทางเข้าสู่ที่พักแล้วครับ จากนครใต้ดินเดินไปยังลานจอดรถ จะมีร้านขายของน่าสนใจเยอะมาก ระหว่างทางกลับเข้าโรงแรม ไกด์แวะให้ถ่ายรูป จุดชม วิว ณ หุบเขานกพิราบ Pigeon Valley หน้าผาที่ชาวเมือง โบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่อย่างมากมาย ตรงนี้สามารถมองเห็น ปราสาทอุชิ ซาร์ (Uchisar Castle) ได้ในระยะไกล ที่นี่ชาวบ้านเลี้ยงนกพิราบ เพื่อนำอึ มาทำเป็นปุ๋ย บำรุงต้นไม้ และถ่ายรูปหมู่บ้านโบราณอุชิซาร์ (Uchisar Town) ทั้งสองที่อยู่ใกล้ๆกัน แต่มีเวลาให้แค่ 10 นาที เห้อๆ จากนครใต้ดินไคมัคลีมาถึงหุบเขานกพิราบ เดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง Evil eye ดวงตาปีศาจ หมายถึง ดวงตาของเทพเจ้าฮอรัส เป็นเทพเจ้าของอียิปต์ที่สำคัญมากองค์หนึ่ง มีเวลา 10 นาที ถ่ายรูปได้แค่นี้ก็เก่งแล้ว หลังจากนั้นเดินทางเข้าที่พัก ประมาณ 45 นาที คืนนี้เรานอนโรงแรม GOREME KAYA HOTEL เป็นโรงแรมถ้ำ มาถึงโรงแรมประมาณ 1 ทุ่ม ฟ้ายังสว่างอยู่เลย ไกด์ให้เรากินข้าวก่อน ส่วนกระเป๋าสัมภาระมีเด็กยกขึ้นไปให้หน้าห้องที่เราพัก มาดูอาหารกันก่อน อลังการงานสร้างเหมือนเดิม ของหวาน ของคาว เนย ชีส โยเกิร์ต ขนมปัง ผักต่างๆ จัดเต็ม เป็นแบบบุฟเฟต์ แต่รสชาติ ไม่ค่อยถูกปากเหมือนเดิม จะออกแนวจืดๆ เค็มๆ รอดได้เพราะปลาคล้ายปลานึ่งซีอิ้ว กับไก่ย่าง ส่วนของห้องอาหารจะมีทั้งแบบเปิดโล่งและภายในห้อง ตรงนี้ไกด์จะให้เรานั่งรวมกันภายในห้อง 3 โต๊ะ อิ่มเสร็จเข้าไปดูภายในห้องพักกันครับ ผมได้ชั้น 2 ทางเดินจะเป็นแนวเข้าถ้ำ ไม่ใช่ถ้ำจริงนะครับ แต่จะแต่งให้เหมือนอยู่ในถ้ำ เป็นเตียงคู่จับมาติดกัน สปริงนิ่มไปหน่อย ผ้าปูที่นอนสะอาด ปลอกหมอน ผ้าห่มหอมดีครับ ไม่มีกลิ่นอับใดๆ เปิดหน้าต่างเห็นวิวชัดเจนแต่มีระเบียงกัน แขกท่านอื่นสามารถเดินผ่านได้ แต่เอาจริงๆมาถึงก็ไม่ได้ดูวิวหรอกครับ จัดกระเป๋าเสร็จอาบน้ำ สลบยาว ส่วนภายในจะทำเหมือนถ้ำ หัวเตียงมีโต๊ะให้ 1 ชุดพร้อมโคมไฟให้ทั้ง 2 ด้าน ส่วนไวไฟ ไม่รู้แรงเปล่า ไม่ได้ใช้ ด้านขวามือเป็นห้องน้ำ ดูด้านปลายเตียงกันก่อน ติดหน้าต่างจะมีโต๊ะเครื่องแป้งให้สาวๆได้แต่งหน้า 1 ตัว ถัดมาเป็นทีวี มินิบาร์ มีให้แค่กระติกน้ำร้อน ไม่มีน้ำเปล่าให้นะครับ ส่วนด้านล่าง ไม่รู้มีตู้เย็นเปล่า ไมได้สำรวจ ตอนนั้นอยากจะนอนอย่างเดียว รีบๆถ่ายๆมาก่อน ถัดไปเป็นตู้ใส่เสื้อผ้า เล็กนิดเดียวแต่ก็ไม่ได้แขวนอะไร ภายในมีหมอนสำรองให้ 1 ใบ ผ้านวม ผ้าห่ม สลิปเปอร์ เข้าไปดูห้องน้ำกันบ้าง เป็นแบบชักโครกไม่มีสายชำระ พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้อง ด้านในสุดจะเป็นอ่างอาบน้ำ มีกระจกกันน้ำครึ่งบาน น้ำฝักบัวแรงมาก ตรงนี้ชอบจริงๆ น้ำร้อน น้ำเย็นพร้อมใช้ได้สะดวก ข้างบนให้ผ้าเช็ดตัวกับผ้าเช็ดมืออย่างละ 2 ผืน ถัดมามีอ่างล้างหน้า กระจก 1 บาน โคมไฟ 1 ดวงและปลั๊กเสียบ 1 เต้า ที่พักให้ชุดอาบน้ำมาชุดใหญ่ มี สบู่ ยาสระผม แปรงสีฟัน โลชั่นต่างๆ ไม่ได้ใช้เลยครับ ขนกลับบ้านหมด ด้านข้างกระจกมีไดร์เป่าผมให้ด้วย ส่วนของข้างล่างเตรียมมาจากเมืองไทยเอง สำหรับคืนนี้ อาบน้ำเสร็จ สลบเป็นตาย คืนนี้ฝันดีครับ
สรุปค่าใช้จ่าย
***ก่อนเดินทาง -ค่าทัวร์ตลอดทริป 85.800 บาท (คนละ 42,900 บาท) -ซิม 2 FLY 1,798 บาท (ซื้อพร้อมแพคเกจ 4 GB ใช้ได้ 15 วัน ราคาเบอร์ละ 899 บาท)
***วันที่ 28 เม.ย.61 นอกเหนือจากรายการทัวร์
-ค่าทางด่วน 85 บาท (ด่านงามวงศ์วาน 60 บาท ด่านพระรามเก้า 25 บาท)
-ค่าแท็กซี่ 360 บาท (มิเตอร์ 357 บาท)
-อาหารมื้อเย็นเมจิก ฟูดพ้อยท์ 185 บาท
-Family Mart ในสนามบิน กล้วย+แซนวิช 37 บาท
-น้ำเปล่า 70 บาท (กดตู้ในสนามบิน 2 ขวดเล็ก แพงเวอร์)
รวม 737 บาท
***วันที่ 29 เม.ย.61
-ไอติม 20 ลีร่า (ที่เกอเรเม 2 โคน)
-น้ำเปล่า 20 ลีร่า (ขวดใหญ่ 1.5 ลิตร 1 ขวด)
-ไอติม 16 ลีร่า (ที่เรด ริเวอร์ 2 โคน)
-ค่าเข้าห้องน้ำ 2 ลีร่า (คนละ 1 ลีร่า)
รวม 58 ลีร่า
รวมทั้งหมด 2 วัน 737 บาท 58 ลีร่า
| Create Date : 11 พฤษภาคม 2561 |
|
5 comments |
| Last Update : 1 พฤศจิกายน 2563 10:44:00 น. |
| Counter : 3417 Pageviews. |
|
 |
|
แอบมองเทออยู่นะจ้ะ อิอิ 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [
-สำหรับโปรแกรมวันนี้ ถือว่าไม่เหนื่อยเกินไป ไปครบตามโปรแกรม มีแอบแถมตรง เรด ริเวอร์ แต่ละที่มีเวลาให้พอสมควร ไม่เร่งรีบจนเกินไป มีเคืองตรงให้ถ่ายรูปตรงจุดชมวิวหมู่บ้านนกพิราบ น้อยไปหน่อย สำหรับคนไม่ชอบถ่ายรูปอาจจะดูว่าไม่มีอะไร โดยรวมให้ 4.7 ตัดไป 0.3 คะแนนตรงจุดถ่ายรูปวิวหมู่บ้านนกพิราบ
-พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม (GOREME) มีอะไรน่าสนใจเยอะ อากาศดีแต่แดดแรงไปหน่อย ทางเดินไม่ลำบากมาก ให้ 4.5
-นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City Derinkuyu or Kaymakli) อันนี้ชอบมาก ถึงจะไม่กว้างแบบเกอเรเม แต่ชอบตรงที่ขุดลึกลงไปเป็นชั้นๆและแต่ละชั้นมีพร้อมทุกอย่าง ให้เต็ม 5
-RED RIVER โปรแกรมแถม ยังไม่มีอะไรน่าสนใจ นอกจากเดินเล่นริมแม่น้ำให้ 3
-โรงงานเพชร การนำเสนอยังไม่เร้าใจเท่าไหร่ เฉยๆ เอาไป 2 พอ
-โรงงานพรม น่าสนใจขึ้นมาหน่อย มีลูกเล่นในการขาย ให้แค่ผ่านพอ 2.5
-ไกด์ไทย+ไกด์ท้องถิ่น ให้ความรู้ บริการเต็มที่ ทั้งสองท่านให้เต็ม 5
-สายการบินตุรกีระหว่างประเทศ ตรงเวลา ภายในสะอาด เบาะนั่งสบายตามราคาชั้นประหยัด อุปกรณ์ต่างๆบนเครื่องใช้ได้ แจกอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงการบริการต่างๆ ให้เต็ม 5
-สายการบินตุรกีภายในประเทศ มาตรฐานเหมือนระหว่างประเทศแต่ขอตัด 0.2 คะแนนตรงไม่มีที่เสียบสาย USB กับหน้าจอไม่ยอมเปิดให้ใช้
-รถโค้ช เบาะกว้าง ด้านหน้าปรับพนักเบาะลงสุดยังไม่รู้สึกอึดอัดเลย ภายในสะอาด รถนั่งนิ่มไม่มีกระแทก แต่แอร์ไม่ค่อยเปิด กับจอทีวีใช้ไม่ได้ สาย USB ก็ใช้ไม่ได้ ถ้า USB ใช้ได้หรือมีช่องชาร์ทไฟให้ ผมให้ 4.5 ขอตัดเรื่องแอร์กับช่อง USB 0.5 คะแนน
-พนักงานขับรถ ขับนิ่มมาก ไม่มีเบรกให้หัวทิ่มหัวตำ ตลอด 3 วันไม่มีบีบแตรให้ได้ยินเลย ใจเย็นมาก ใส่ชุดสุภาพให้เต็ม 5
-โรงแรม สวยมาก ตรงตามที่แจ้งไว้ในรายการ อุปกรณ์ใช้ได้ทุกอย่าง ห้องสะอาด ไม่มีกลิ่นอับ บุหรี่ใดๆ น้ำไหลแรงมากตรงนี้ชอบ ไฟ ไม่มีติดๆดับๆ เสียดายมีเวลาอยู่ที่โรงแรมน้อยไปหน่อย ให้เต็ม 5
-อาหาร ทั้ง 2 มื้อ เรื่องเมนู ความหลากหลาย จัดเต็ม มีให้เลือกครบทุกอย่าง แต่ละอย่างจัดอย่างสวยงาม อลังการมากทั้ง 2 มื้อ ตรงนี้ให้เต็ม 5 ส่วนเรื่องรสชาติ ให้แค่ผ่านพอ 2.5 คะแนน
-ซิม 2 FLY สัญญาณแรง ไม่มีงอแง ลื่นปรึ้ดๆ ให้เต็ม 5 (เล่นแค่ไลน์ กับดูเวปนิดหน่อย ขากลับยังเหลือนิดหน่อย)