|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
การแต่งงานตามประเพณีจีน
พิธีการแบบจีนมีรายละเอียดเยอะมากเลยค่ะ แต่เราก็ต้องประยุกต์ให้เข้ากับงานของเราแต่ที่เอามาเขียนเนี่ย เพราะว่า จะได้ให้หลายคนได้รู้ขนบธรรมเนียมว่า การแต่งงานแบบจีนเค้ามีขั้นตอนอะไรบ้าง
การแต่งงานตามประเพณีจีน ในสมัยก่อน การหมั้นและการแต่งนิยมให้เป็นคนละวันกัน บางคู่หมั้นแล้วอีกสามเดือนหกเดือนค่อยแต่ง บางบ้านหมั้นนานเป็นปีก็มี แต่สมัยนี้นิยมสะดวก ก็อาจหมั้นและแต่งในวันเดียวกันไปเลย เครื่องขันหมากสำหรับหมั้นและวันแต่งคนละวันกัน จะมีธรรมเนียมว่าวันหมั้นฝ่ายหญิงเป็นผู้กำหนดว่า จะให้มีอะไร และจำนวนมากน้อยเท่าใด อย่างไรก็ตาม ถ้าวันหมั้นและวันแต่งคนละวันกัน จะมีธรรมเนียมว่าวันหมั้นฝ่ายหญิงเป็นผู้รับภาระเรื่องการเลี้ยงหมั้น แล้ววันเลี้ยงวันแต่งงานเป็นหน้าที่ของฝ่ายชาย ซึ่งข้อกำหนดปรับเปลี่ยนได้ตามฐานะของทั้งสองฝ่าย หาฤกษ์แต่งงาน และฤกษ์รับตัวเจ้าสาว ความสำคัญของพิธีแต่งงานแบบจีน อยู่ที่ฤกษ์รับตัวเจ้าสาว ซึ่งทางพ่อแม่ของทั้งคู่จะนำดวงของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ไปให้ซินแสตรวจและหาฤกษ์ให้ เมื่อได้ฤกษ์แล้ว ก็จะต้องตระเตรียมงานพิธี สิ่งที่เจ้าบ่าว ต้องเตรียม ระหว่างนี้เจ้าบ่าวจะต้องให้หญิงหรือชาย ซึ่งมีลูกดกและคู่ชีวิตที่ยังมีชีวิตอยู่ มาทำพิธีปูเตียงในห้องหอ โดยจะวางส้ม 4 ลูกไว้บนเตียงทั้ง 4 มุม เมื่อปูเสร็จแล้วก็ต้องทิ้งไว้อย่างนั้น ยังไม่ให้เจ้าบ่าวนอน
การเตรียม "ขนมขันหมาก" ซึ่งเป็นขนมและผลไม้ต่างๆ มามอบให้ครอบครัวเจ้าสาวก่อนวันงานจะต้องติดกระดาษแดงเป็นตัวอักษรภาษาจีน" ซังฮี่ " ที่แปลเป็นไทยว่า "ความสุขยกกำลังสอง"
สิ่งที่ เจ้าสาว ต้องเตรียม ส่วนทางเจ้าสาว ก็เตรียมสัมภาระที่จะนำติดตัวไปด้วย เช่น กระเป๋าเดินทาง เซฟใส่เครื่องประดับ หมอนปักรูป หงส์มังกร 1 คู่ บางรายก็อาจจะเพิ่มผ้านวมหรือเครื่องนอนชิ้นอื่นๆ รวมทั้งเสื้อเอี๊ยม เพื่อให้รู้ว่าเป็นเมียเอกนะ เจ้าสาวบางรายที่มีฐานะดีๆ สายคล้องคอเอี๊ยมก็จะเป็นสร้อยทอง และในเสื้อเอี๊ยมนี้จะใส่โหงวอิ๊กอี้ ซึ่งเป็นผลไม้ตากแห้ง และต้นชุ่งเช่าไว้สำหรับนำไปปลูกที่บ้านเจ้าบ่าวพร้อมกาละมังลายนกคู่ กระโถนกับกาตอเฉียะ (ไม้วัดและกรรไกรตัดผ้า) รวมทั้งเข็มและด้าย เพื่อให้รู้ว่าเจ้าสาวเป็นคนเย็บปักถักร้อยเก่ง ข้าวของเครื่องใช้จะต้องเป็นสีแดง หรือสีชมพูเท่านั้น
3 วันก่อนวันงาน เจ้าสาวสมัยเก่าจะต้องมังหมิ่ง เพื่อกันขนที่รกใบหน้าออก ถือเป็นเคล็ดลับเสริมความงามแบบโบราณอย่างหนึ่ง 1วัน ก่อนวันงาน ในคืนก่อนวันงาน ก็จะอาบน้ำใบทับทิมและใบเซียงเช่า เพราะเชื่อกันว่าจะช่วยชำระล้างสิ่งชั่วร้ายให้หมดไป จากนั้นจะสวมชุดใหม่และนั่งลงให้หญิงที่มีชีวิตคู่ที่สมบูรณ์พูนสุข หวีผมให้พร้อมกับกล่าวอวยพรไปด้วย วันงาน และในวันแต่งงาน เจ้าสาวจะต้องเสียบปิ่นปักผมกับกิ่งทับทิมไว้บนเรือนผม เพราะเชื่อว่ากิ่งทับทิมจะช่วยให้คนรักใคร่เอ็นดู และหมายถึงสาวบริสุทธิ์ สำหรับเรื่องปิ่น เนื่องจากคนสมัยนี้คิดว่าที่ต้องเสียบปิ่น เพราะบนปลายปิ่นมีคำว่า "หยู่อี่" ซึ่งหมายความว่า "สมหวัง" วันงาน - พิธีรับตัวเจ้าสาว"ที่บ้านเจ้าสาว" เมื่อใกล้ถึงเวลาที่ทางเจ้าบ่าวมารับตัว เจ้าสาวจะต้องรับประทานอาหารกับพ่อแม่พี่น้องของตนเป็นมื้อสุดท ้าย โดยมีแม่สื่อคอยคีบอาหารให้พร้อมกับกล่าวอวยพร จนได้ฤกษ์ เจ้าบ่าวก็จะนั่งรถคันโก้ผูกโบว์สีชมพูที่กระโปรงหน้ารถมายังบ้านเจ้าสาว ในการรับตัวเจ้าสาว เจ้าบ่าวจะต้องนำหมูดิบมามอบให้แม่เจ้าสาว แทนยาบำรุงที่ท่านอุตส่าห์ตั้งท้องเจ้าสาวมา เมื่อพบหน้าเจ้าสาวแล้ว ทั้งคู่ก็ยังต้องผ่านด่านของผู้ที่มากั้นประตู แจกอั่งเปาจนหนำใจเสียก่อน จึงจะลงจากห้องมาทำพิธีที่ชั้นล่างได้ ถึงตอนนี้ ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะต้องไหว้ฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่ (ที่เรียกว่า "ตี่จูเอี๊ย") ไหว้เทพเจ้าเตาไฟ ซึ่งอยู่ในครัวและไหว้บรรพบุรุษของเจ้าสาว ถ้าหากปู่ย่าตายายของเจ้าสาวยังมีชีวิตอยู่ ก็ต้องไหว้กับตัว เพื่อบอกกล่าวให้ท่านทราบว่าเจ้าสาวกำลังจะจากครอบครัวไปแล้ว จากนั้นจึงทำการคารวะน้ำชาพ่อแม่เจ้าสาว วันงาน - พิธีรับตัวเจ้าสาว"ที่บ้านเจ้าบ่าว เมื่อเสร็จสิ้นพิธีทางบ้านเจ้าสาว ก็มาถึงตอนที่เจ้าสาวจะต้องนั่งรถไปกับเจ้าบ่าว พร้อมด้วยคนถือตะเกียง ซึ่งจะต้องเป็นญาติผู้ชายของฝ่ายหญิง รวมทั้งคนหาบขนม ในการนี้พ่อเจ้าสาวจะเป็นคนจูงเจ้าสาวขึ้นรถ พลางกล่าวอวยพร พร้อมกับพรมน้ำใบทับทิมให้ด้วยว่า "ขอให้น้ำศักดิ์สิทธิ์นี้เปลี่ยนคุณหนูให้เป็นคุณหญิง" และก่อนที่เจ้าสาวจะเข้าบ้านเจ้าบ่าว ถ้าหากเจ้าสาวมีประจำเดือนก็ต้องก้าวข้ามกระถางที่จุดไฟไว้ จึงจะเข้าบ้านได้ แต่ถ้าหาเจ้าสาวไม่มีประจำเดือนก็ไม่จำเป็นทันทีที่เข้ามาในบ้าน บ่าวสาวจะไหว้ฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่ ไหว้เทพเจ้าเตาไฟและไหว้บรรพบุรุษของเจ้าบ่าว แบบเดียวกับที่ทำที่บ้านเจ้าสาว จากนั้นจึงคารวะน้ำชาพ่อแม่และยกน้ำชาให้ญาติผู้ใหญ่ พิธีการนี้ ถือเป็นการแนะนำให้ญาติๆรู้จักสะใภ้หน้าใหม่ไปด้วยในตัว และท่านก็จะแจกอั่งเปาพร้อมทั้งอวยพรให้เป็นการตอบแทน บ่าวสาวจะทานบัวลอยไข่หวานด้วยกัน เพื่อทั้งคู่จะได้รักใคร่ปรองดอง และหวานชื่นเหมือนรสชาติและสีของขนม
3 วันหลังวันงาน จะมีพิธี ตึงฉู่ คือ การต้อนรับคู่สามีภรรยากลับบ้านเจ้าสาว น้องชายของภรรยาจะเป็นฝ่ายไปรับคู่สามีภรรยาหน้าใหม่ กลับมาเยี่ยมและรับประทานอาหารที่บ้านเจ้าสาว และเจ้าสาวจะได้รับการต้อนรับเยี่ยงแขกคนหนึ่ง สิ่งที่ "เจ้าบ่าว" ต้องจัดเตรียมตามประเพณีจีน 1. เครื่องขันหมาก 1.1 สินสอดทองหมั้น ( เพ้งกิม ) เพ้ง คือ เงินสินสอด แล้วแต่ฝ่ายหญิงจะเรียกร้อง แต่ถ้าเจ้าสาวยังมีอากง อาม่าหรือปู่ย่าอยู่ฝ่ายชายต้องจัดเงินอั้งเปาอีกก้อนหนึ่งให้เป็นพิเศษด้วยพร้อมชุดหมู 1 ชุดอีกต่างหาก โดยพ่อแม่เจ้าสาวจะเป็นผู้รับขึ้นมา กิม คือ ทอง แล้วแต่ฝ่ายหญิงจะเรียกเช่นเดียวกัน แต่ถ้าจะพิถีพิถันก็อาจขอเป็น " สี่เอี่ยกิม " แปลว่าทอง 4 อย่าง เพราะเลข 4 เป็นเลขดีของคนจีน ทอง 4 อย่าง เช่น กำไลทอง สร้อยคอทองคำ ตุ้มหูทอง เข็มขัดทอง
1.2 กล้วย ต้องยกมาทั้งเครือเขียว ๆ ถ้าได้จำนวนหวีเป็นเลขคู่ยิ่งดี แล้วนับจำนวนให้ลงเลขคู่ ถ้าได้ลูกแฝดด้วยก็จะดีมาก เวลาใช้ให้เอากระดาษแดงพันก้านเครือและติดตัวหนังสือ " ซังฮี่ " บนเครือกล้วย และทาสีแดงบนลูกกล้วยทุกใบ และฝ่ายชายจะต้องเป็นผู้เอากลับ เมื่อพิธีสู่ขอเสร็จแล้ว กล้วยเป็นผลไม้ที่มี 2 นัยมงคล - จำนวนผลที่มากมาย อวยพรให้มีลูกหลานสืบสกุลมาก ๆ - ดึงสิ่งดี ๆ ให้มาเป็นของเรา ซัง แปลว่า คู่ ฮี่ แปลว่า ยินดี ซังฮี่ จึงแปลว่า ความยินดีของหญิงชายคู่หนึ่ง ซึ่งก็คือคู่บ่าวสาวนั่นเอง 1.3 อ้อย อ้อย 1 คู่ ยกมาทั้งต้น เพื่ออวยพรให้ชีวิตคู่หวานชื่น แต่บางบ้านไม่เอา เพราะเป็นความหวานที่กินยากต้องทั้งปอกทั้งแทะ 1.4 ส้ม ส้ม เป็นผลไม้มงคลให้โชคดี นิยมใช้ส้มเช้งเขียว ติดตัวหนังสือซังฮี่สีแดงทุกผล และต้องให้จำนวน เป็นเลขคู่แล้วแต่ฝ่ายหญิงกำหนด 1.5 ขนมหมั้น,ขนมแต่งงาน ฝ่ายหญิงจะเป็นผู้กำหนดทั้งชนิดและจำนวน การกำหนดชนิดคือ จะให้เป็นขนม 4 สี เรียกว่า " ซี้เส็กหม่วยเจี๊ยะ " หรือขนม 5 สี เรียกว่า " โหงวเส็กทึ้ง " ประกอบด้วย ขนมเหนียวเคลือบงา, ขนมเปี๊ยะโรยงา, ขนมถั่วตัด, ขนมข้าวพองทุบ และขนมโก๋อ่อน นอกจากนี้บางบ้านอาจขอให้มีน้ำตาลทราย, ซาลาเปาไส้หวาน, และคุกกี้กระป๋องด้วย โดยจำนวนของขนมแต่งงานและคุกกี้กระป๋อง ฝ่ายหญิงมักกำหนดจำนวน โดยนับจากจำนวนของญาติมิตรที่จะเชิญ มีคำเรียกการให้ขนมแต่งงานแก่ญาติมิตรว่า " สั่งเปี้ย " สั่ง หรือ ซั้ง แปลว่า ให้ เปี้ย แปลว่า ขนม ในที่นี้หมายถึงขนมหมั้นหรือขนมแต่งงาน
1.6 ชุดหมู เท่าที่พบจะมีประมาณ 3 ถาด - ถาดที่1: เป็นชุดหัวหมูพร้อม4 เท้าและหาง โดยเล็บเท้าต้องตัดเรียบร้อยติดตัวหนังสือซังฮี่ - ถาดที่2: เป็นถาดขาหมูสดติดตัวซังฮี่เช่นเดียวกัน - ถาดที่3: เป็น" โต้วเตี้ยบะ" เท่านั้น คือเป็นเนื้อหมู ตรงส่วนท้องของแม่หมู เพื่ออวยพรให้เจ้าสาวได้เป็นแม่คน แม่ที่อุ้มท้องเพื่อให้กำเนิดบุตรแก่ฝ่ายชาย และมีธรรมเนียมว่าทางฝ่ายหญิง ก็ต้องให้ชุดหมูสดตอบแทนแก่ฝ่ายชาย แต่ชุดหมูของฝ่ายหญิงจะเป็นชุดหัวใจหมูที่ต้องสั่งพ่อค้าเป็นพิเศษว่าเป็นชุดหัวใจทั้งยวงที่ยังมีปอดและตับติดอยุ่ด้วยกัน เมื่อเสร็จพิธี ชุดหัวใจนี้อาจทำได้เป็น 2 แบบ - แบบ1: คือ ฝ่ายหญิงแบ่งชุดหัวใจให้ฝ่ายชายไปครึ่งหนึ่ง - แบบ2: คือ เอาชุดหัวใจนี้ไปประกอบอาหารให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวรับประทานร่วมกัน เพื่อเป็นเคล็ดอวยพรให้หญิงชายมีจิตใจร่วมกันเป็นใจหนึ่งใจเดียวกัน 1.7 ของเซ่นไหว้ที่บ้านเจ้าสาว ฝ่ายชายต้องเตรียมของไหว้ 2 ชุด - ชุด1: สำหรับไหว้เจ้าที่ - ชุด2: สำหรับไหว้บรรพบุรุษ การจัดเตรียมของไหว้ที่ครบถ้วน จะต้องมีทั้งของคาว ขนมไหว้ ผลไม้ไหว้ เหล้า อาหาร 10 อย่าง ธูปเทียนดอกไม้ และมีของไหว้พิเศษ คือเส้นหมี่ เพื่ออวยพรให้ชีวิตคู่ยืนยาว และนิยมหาเถ้าแก่ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือและมีชีวิตครอบครัวที่ดีมาเป็นผู้นำขบวนหรือช่วยถือของขันหมาก เพื่อเป็นสิริมงคล 2. เครื่องขันหมาก มีหลายอย่างที่นิยมแบ่งกันคนละครึ่ง เช่น ขาหมู 2 ขา ก็คนละ 1 ขา อ้อย ขนมขันหมาก ชุดลำไยแห้ง ต้นชุงเฉ้า ส่วนของที่ฝ่ายชายต้องเอากลับไปทั้งหมด ก็คือ กล้วยเขียวเครือใหญ่, เอี๊ยมแต่งงาน, ชุดหัวใจหมู, ถาดไข่, และถาดส้มเช้งของฝ่ายหญิง
สิ่งที่ "เจ้าสาว" ต้องจัดเตรียมตามประเพณีจีน 1. ข้าวของเครื่องแต่งงานของเจ้าสาว 1.1 เอี๊ยมแต่งงาน
ตัวเอี๊ยมเป็นสีแดง สีมงคลให้เฮงๆ ปักลายอักษรซังฮี่ หรือคู่ยินดีและปักตัวหนังสือ 4 คำ "แป๊ะนี้ไห่เล่า" แปลว่า อยู่กินกันจนถึงร้อยปี พร้อมด้วยลวดลายมังกรและหงส์ ซึ่งลายนี้มีชื่อเรียกว่า "เล้งหงกิ๊กเซี้ยง" ให้ความหมายว่า ถึงเวลาแห่งความสุขและความรุ่งเรืองที่กำลังมาหา ขอให้คู่สมรสได้พบแต่สิ่งดี ๆ ในชีวิตใหม่ คือชีวิตคู่ของการอยู่ร่วมกัน บนเอี๊ยมมีกระเป๋าให้ใส่ " โหงวเจ๊งจี้ " หรือเมล็ดธัญพืช 5 อย่าง คือ ข้าวเปลือกข้าวสาร ถั่วเขียว สาคู ถั่วดำห่อใส่กระดาษแดงอวยพรให้สามีภรรยา และลูกของตระกูลได้งอกงามรุ่งเรืองพร้อมทั้งใส่เหรียญทองลายมังกร เรียกว่า เหรียญกิมเล้ง เพื่ออวยพรให้ร่ำรวย บางบ้านอาจมีใส่เงินทอง เพิ่มเข้าไปด้วย แล้วใส่ต้นชุงเฉ้าหรือต้นเมียหลวงที่หน้าตาคล้ายต้นกุยช่าย ต้นชุงเฉ้านี้คนจีนถือเป็นต้นไม้มงคลหมายถึงเกียรติ และที่ปากกระเป๋าเอี๊ยมให้เสียบ " ปิ่นทองยู่อี่ " ไว้ให้หมายความว่า ทุกเรื่องให้สมปรารถนา ในวันส่งตัวฝ่ายชายต้องเอาปิ่นยู่อี่มาคืน เพื่อให้เจ้าสาวได้ติดผมตอนส่งตัว สายของเอี๊ยมนิยมใช้ โซ่ทองคล้องใส่ไว้ ถ้ารวยจริงก็ใช้ทองจริงนิยมเป็นทองหนัก 4 บาท เพราะถือเคล็ดเลข 4 เป็นเลขดี 1.2 ไข่สีแดง 1 ถาดจัดเป็นเลขคู่ บางบ้านเตรียม 24 ลูก เพื่ออวยพรเป็นนัยว่าเจ้าสาวจะไปให้กำเนิดลูกหลานมาก ๆ 1.3 โอวเต่ากิ๊ว คือ ขนมถั่วดำคลุกน้ำตาล มีแซมข้าวพองสีแดงทำเป็นลูกกลมๆ ที่ร้านขนมบอกว่า นิยมใช้ 14 ลูก หรือ 7 คู่ 1.4 ส้มเช้ง ติดตัวซังฮี่ 1 ถาดใหญ่ มีจำนวนส้มเป็นเลขคู่ บางบ้านมีจัดส้มสีทองปนไป 4 ลูกด้วย
1.5 ชุดลำไยแห้ง 2 ชุด 1.6 ชุดชุงเฉ้า 2 ต้น 1.7 อั้งฮวย หรือใบทับทิม เตรียมไว้มาก ๆ แล้วนำมาแบ่งใส่ประดับในของทุกถาดที่ฝ่ายชายจะต้องยกกลับ 1.8 เผือก บางบ้านไม่นิยมไข่ ก็จัดเป็นเผือก คนจีนเรียก " โอวเท้า " หมายถึงความสมบูรณ์ นิยมจัดเป็นเลขคู่ 1.9 เม็ดสาคู เอาไว้โรยในของต่างๆ เป็นเคล็ดอวยพร สาคูเม็ดกลม ๆ คู่บ่าวสาวกลมเกลียวกัน 2. เครื่องขันหมาก มีหลายอย่างที่นิยมแบ่งกันคนละครึ่ง เช่น ขาหมู 2 ขา ก็คนละ 1 ขา อ้อย ขนมขันหมาก ชุดลำไยแห้ง ต้นชุงเฉ้า ส่วนของที่ฝ่ายชายต้องเอากลับไปทั้งหมด ก็คือ กล้วยเขียวเครือใหญ่, เอี๊ยมแต่งงาน, ชุดหัวใจหมู, ถาดไข่, และถาดส้มเช้งของฝ่ายหญิง
อาหารมงคล 10 อย่างสำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาว คนจีนหลายบ้าน มีธรรมเนียมว่า ในคืนวันส่งตัวเจ้าสาวจะทำอาหาร 10 อย่างที่เป็นเคล็ดมงคลอวยพรให้คู่บ่าวสาว ได้รับประทาน ได้แก่
1. วุ้นเส้น หรือเส้นหมี่ หรือบะหมี่ หมายความว่า ให้รักกันนาน ๆ อายุยืนยาว 2. เห็ดหอม หมายความว่า ให้ชีวิตคู่หอมหวาน 3. ผักกู้ช่าย หรือกุ้ยช่าย หมายความว่า ให้รักกันนาน ๆ หรือ ขอให้รวย 4. ผักเกาฮะไฉ่ หมายความว่า ให้รักใคร่ปรองดองกัน 5. หัวใจหมู หมายความว่า ให้รักกันเป็นใจเดียว 6. ไส้หมู-กระเพาะหมู หมายความว่า ให้ปรับตัวเข้าหากัน นิสัยใดไม่ดีก็ให้เปลี่ยนเป็นนิสัยที่ดี เพื่อให้มีความสุขและรักกันยืนยาว 7. ตับ หมายความว่า ให้มีความรุ่งเรืองและเจริญก้าวหน้า 8. ปลา หมายความว่า ให้ร่ำรวยเหลือกินเหลือใช้ 9. ปู หมายความว่า ให้ทำอะไรได้คล่องแคล่วว่องไว ขยันทำมาหากินและงานสำเร็จลุล่วงเร็วไว (เหมือนปูที่เดินเร็ววิ่งเร็ว ) 10. ไก่ หมายความว่า ให้มีความกล้าหาญ มีสติปัญญาและมีความเที่ยงตรง
Create Date : 25 ตุลาคม 2548 |
Last Update : 25 ตุลาคม 2548 17:07:47 น. |
|
10 comments
|
Counter : 5098 Pageviews. |
|
|
|
โดย: แม่น้องโทน (catzilla_girl ) วันที่: 25 ตุลาคม 2548 เวลา:18:08:16 น. |
|
|
|
โดย: jeen IP: 58.10.215.67 วันที่: 6 ธันวาคม 2548 เวลา:11:53:26 น. |
|
|
|
โดย: chompue IP: 61.47.126.56 วันที่: 14 มีนาคม 2549 เวลา:10:50:47 น. |
|
|
|
โดย: กนกวรรณ IP: 203.113.45.132 วันที่: 29 กันยายน 2549 เวลา:16:46:36 น. |
|
|
|
โดย: Pupin IP: 203.209.126.78 วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:19:44:58 น. |
|
|
|
โดย: kuayao IP: 125.24.219.220 วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:10:25:58 น. |
|
|
|
โดย: saijai IP: 124.122.134.132 วันที่: 16 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:29:54 น. |
|
|
|
โดย: www.casinobet99.com IP: 180.180.35.231 วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:15:00:36 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
# แค่เป็นคนที่รักพ่อแม่ # แค่เป็นพี่สาวที่ดีของน้อง # แค่เป็นคนเลี้ยงน้องหมาและรักกระต่าย # แค่ชอบเรื่องสวยๆงามๆ # แค่เป็นคนที่ชอบเที่ยวชอบคุย # แค่เป็นคนดีของสังคม # ก็แค่โป๊ะแตกเท่านั้นเอง
|
|
|
|
|
|
|
จำได้สมัยเด็ก ๆ พี่ ๆ แต่งาน ก็ จะต้องมี การแต่งชุด แดง