หมายเหตุ เรท 18+เรื่องสั้นเรื่องนี้ ไม่มีพล็อต ไม่มีไคลแม็กซ์ ไม่มีจุดหักมุม เรื่องราวจะราบเรียบ ค่อยเป็นค่อยไปกับความสัมพันธ์ของตัวละคร ผู้เขียนต้องการเขียนเป็นเรื่องสั้นโรมานซ์ ดังนั้นจึงอัดแน่นไปด้วยความหวานและโรแมนติก ใครที่แพ้เรื่องสั้นแนวนี้ อ่านแล้วไม่อิน เลี่ยน จะอ้วก ไม่แนะนำให้อ่านค่ะ Black Jack ดูท่าว่าเขาคงจะหิ้วท้องมาจนถึงนี่จริงๆ พอครบสิบห้านาที เขาก็หายออกไปแล้วกลับเข้ามาอีกในเวลาไม่ถึงสิบห้านาทีด้วยซ้ำพร้อมด้วยพิซซ่ากล่องใหญ่ เห็นกล่องแล้วก็ไม่แปลกใจว่าทำไมเร็วนัก เพราะร้านพิซซ่าร้านนี้อยู่ห่างออกไปจากซอยบ้านของเขาและเธอไม่กี่ร้อยเมตรเอง เปิดออกมาเห็นหน้าตาพิซซ่าแล้วสายฝนก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้ หน้าตาของพิซซ่าถาดนี้ ช่างยั่วน้ำลายเสียนี่กระไร แผ่นบางเฉียบท่าทางกรอบนุ่ม ด้านบนแบ่งออกเป็นสองส่วน...ส่วนหนึ่งคือ 4 Stagiorni หรือพิซซ่าสี่ฤดู อีกส่วนเป็น Prociutto Cotto e Funghi พิซซ่าหน้าแฮมและเห็ดๆ"ผมไม่รู้ว่าคุณชอบอะไร ก็เลยสั่งไอ้นี่มาให้" บอกพลางชี้ไปที่หน้าแฮมและเห็ด "ว้าว...น่ากินจริงๆ แต่โทษฐานที่เธอไม่มีมารยาท ไม่ถามฉันก่อน เธอจะต้องยอมให้ฉันจ่ายครึ่งนี้นะ""ได้ไงคุณ ผมตั้งใจมาเลี้ยงคุณนะ""ไม่รู้ล่ะ" ทานกันไป นั่งดูทีวีรายการ affari tuoi รายการเปิดกล่องลุ้นเงินล้านกันไป ก็อดถามคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามที่กำลังทานพิซซ่าอย่างเอร็ดอร่อยขึ้นมาไม่ได้ "ถ้าได้เงินรางวัลล้านยูโรอย่างในรายการนี้ เธอจะเอาเงินไปทำอะไรเหรอ""...โห...ไม่รู้สิ ไม่เคยคิด" เขาตอบส่งๆ"ตอนนี้เธอเรียนอะไรอยู่เหรอ""อย่าไปสนใจเลย ผมก็เรียนไปอย่างนั้นแหล่ะ ตามที่แม่ขอ แต่ถ้าโตขึ้น ผมจะไม่ทำงานสายนี้หรอก ผมอยากทำอย่างอื่นมากกว่า""อะไรเหรอ""ผมอยากมีโรงแรมเป็นของตัวเอง แล้วอยากเปิดคาสิโนในนั้นด้วย""โหย..ตายจริง เปิดคาสิโน นี่ความคิดของคนสิ้นคิดนี่น่า เธอเล่นการพนันด้วยเหรอ" ถามตาโต คนข้างๆเพียงแต่ยักคิ้วด้วยความสงสัย"ทำไมล่ะ แปลกตรงไหน""ก็การพนันมันเป็นสิ่งไม่ดีน่ะสิ เล่นเองก็ว่าแย่แล้ว นี่ยังคิดจะเปิดเพื่อมอมเมาคนอื่นอีกด้วย" เธอต่อว่าแล้วเขาก็หัวเราะ"คุณนี่ เด็กกว่าอายุและภาพที่เห็นอีกนะ คุณคิดว่าผมคนเดียวจะเปลี่ยนโลกได้เหรอ ถ้าผมไม่เล่นซักคน คนอื่นๆ ก็ยังจะคงเล่นการพนันนั้นอยู่ดี สู้ผมเปิดคาสิโนเก็บเกี่ยวเอาเงินที่พวกเขาจะไปละลายทิ้งที่อื่นมาเป็นของตัวเองไม่ดีกว่าเหรอ""เห็นแก่ตัวนะคำพูดนี้ แม้ว่ามันจะฟังดูเข้าท่า มันก็จริงอยู่อย่างที่เธอพูดมานะ แต่ว่าเธอคิดดูนะ ถ้าเธอไม่ทำซักคน อย่างน้อยก็ลดจำนวนลงไปได้หนึ่งคนแล้ว การพนัน ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมผู้คนถึงหลงใหลกันนัก" สายฝนถอนหายใจอย่างไม่ค่อยเข้าใจ "แค่แผ่นกระดาษไม่กี่ใบในมือ ก็ทำให้คนบางคนถึงกับล้มละลายมาแล้ว"คริสมองหน้าของสายฝนแล้วยิ้ม ยิ้มที่ดูโตกว่าอายุของเขามากทีเดียว ยิ้มอย่างคนที่เจนโลกกว่า "พูดแบบนี้ แสดงว่าคุณยังไม่รู้จักการพนันอย่างแท้จริงละมั๊ง""ยี๊ แน่นอน ฉันไม่ชอบหรอก""คุณเล่นไพ่ง่ายๆ เป็นหรือเปล่า" เขาถามหยั่งเชิง แล้วสายฝนก็ส่ายหน้า "ซักนิด เช่นแบล็คแจ๊ค ก็ไม่เป็นเหรอ""ไม่" หญิงสาวย้ำหนักแน่น"งั้นคุณคงยังไม่เคยสัมผัส การพนันบางสิ่งบางอย่าง เราต้องทุ่มสิ่งที่เรามีทั้งหมดลงไป เพื่อต้องการจะได้สิ่งตอบแทนที่สูงกว่ากลับคืนมา นาทีที่เราต้องลุ้น ว่าไพ่ใบในมือคู่ต่อสู้คืออะไร เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงสูงถึงห้าสิบห้าสิบ มันน่าตื่นเต้นจะตายไป" เขาสาธยายด้วยดวงตาเป็นประกายของนักแข่งขัน "เอาอย่างนี้ วันหลังผมจะสอนคุณเอง" เขาบอกเป็นเชิงให้สัญญาพิซซ่ามื้อนั้นจบลง ตามด้วยกาแฟหอมกรุ่นแบบอิตาเลี่ยนแท้ๆ ถ้วยเล็กๆ อึกเดียว รสชาติขมปี๋ แต่เมื่อกลืนลงไปแล้ว ความหอมและหวานกำซาบซ่านอยู่ที่ปลายลิ้น ก่อนจะช่วยกันเก็บล้างถ้วยเล็กๆ และแก้วไม่กี่ใบที่มีอยู่ เหลือบมองนาฬิกาเป็นเวลาเกือบห้าทุ่มแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเขาและเธอจะใช้เวลาคุยกันเรื่อยเปือยไร้สาระมากมายจนหลงลืมเวลาไปเช่นนี้หันมาสบตากัน เป็นอันเข้าใจกันว่าหมดเวลาสำหรับคืนนี้แล้ว "ป่านนี้แม่เธอคงเป็นห่วงแล้ว" สายฝนว่า"แม่ผมไม่อยู่หรอก ช่วงนี้แม่เค้าไปค้างคืนที่บ้านแฟนเขาบ่อยๆ และอีกเดี๋ยว ก็คงจะย้ายไปอยู่ที่โน่นเป็นการถาวร เพราะว่าจะแต่งงานกันในเดือนหน้า" เขาบอกด้วยท่าทางนิ่งๆ ไม่ได้ยินดีหรือยินร้ายหญิงสาวอยากจะแปลกใจ แต่ก็รู้สึกได้ไม่เต็มที่นัก สังคมที่นี่ เด็กวัยสิบแปดย่างสิบเก้าก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว จนไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วง หากพ่อแม่หรือผู้ปกครองจะปล่อยให้ใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง"งั้นต่อไป เธอคงเหงาแย่" สายฝนรำพึง คริสเพียงแต่ยิ้มน้อยๆ"ไม่เหงาหรอก ก็ตอนนี้ผมมีคุณแล้วนี่""หมายความว่าไง" "ก็หมายความว่า..." เขาแกล้งลากเสียงยาวให้เธอสงสัยเล่น ก่อนจะตอบ..."ก็ตอนนี้ ผมมีคุณเป็นเพื่อนบ้านแล้ว ต่อไปถึงแม่ย้ายออก ผมก็จะไม่เหงาไง" วางแก้วลงบนชั้นเรียบร้อย คริสก็เดินไปคว้าเสื้อกันหนาวและผ้าพันคอมาถือไว้ ก่อนจะเดินไปเปิดประตู "ผมไปแล้ว ก็ปิดประตูดีๆ นะ ระวังด้วยล่ะ ถ้ามาใครมากดกริ่ง แถวนี้พวกคนอาหรับเร่ร่อนเยอะเชียว สี่ห้าวันก่อน ข่าวว่าแถวเมืองนี้ มีคนโดนฆ่าตายไปสองรายแล้ว"...ใช่ ... เธอก็ได้ยินเพื่อนที่ทำงานด้วยกันมาเล่าสู่ฟังเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเกิดอะไร แต่ที่รู้ๆ ศพที่พบนั้นค่อนข้างเละ จนไม่แน่ใจว่า ถูกฆ่าตายเพื่อการชิงทรัพย์หรือฆ่าตายเพราะการทะเลาะเบาะแว้งกันแน่ เมื่อวันโน้นยังไม่รู้สึกลัวกอะไรมากมายตอนที่ได้ยินข่าว แต่เมื่อได้ยินอีกครั้ง ในยามค่ำคืนและมืดแบบนี้ ก็อดใจสั่นไม่ได้"..อืม..จะระวัง คงไม่มีอะไรหรอก" เธอบอก เมื่อมาถึงประตู ก็เงยหน้าขึ้น เพื่อรับการอำลาแก้มแนบแก้ม แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเขาไม่ก้มลงมาเหมือนอย่างเคย สบตากันแน่นิ่ง คริสทำท่าเหมือนไม่แน่ใจอะไรบางอย่าง แต่แล้วก็ตัดสินใจ ก้มหน้าลงมาจูบลาที่มุมปากแทน จูบเบาๆ แช่นิ่งอย่างอ้อยอิ่งอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปเพื่อหยุด...หรือหยั่งเชิง..."รู้ไหม ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนกำลังเล่นไพ่แบล็คแจ๊คอยู่เลย มันน่าตื่นเต้นจนหัวใจแทบหยุด และสงสัยอยู่ว่าบางสิ่งบางอย่างที่จะได้กลับมาจะเป็นชัยชนะหรือพ่ายแพ้" เสียงเขาแว่วๆ ...เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ...ฟังดูเหมือนเสียงแก้วแตก เอ...หรือจะเป็นเสียงตบ สายฝนก็อยากจะคิดอย่างนั้น แต่เปล่าเลย เมื่อใช้เวลาตั้งสติอยู่ชั่วครู่ ถึงได้ซึมซับว่ามันเป็นเสียงแตกในหูของตัวเธอเอง สังสัยอยู่ว่าเลือดเจ้ากรรม มันจะเหนื่อยบ้างไหม ที่วินาทีนั้นไหลวนอย่างรวดเร็ว จนเธอแทบไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย นอกจากเสียงอื้ออึงในหูและหัวใจตัวเอง จูบเคล้ากินกาแฟที่มุมปากช่างหอมจนไม่อยากหยุดช่างใจคิดซักนิด และสงสัยว่าถ้ามันเป็นจุมพิตที่มาจากริมฝีปากของเขาโดยตรง...จะหอมหวานซักแค่ไหน... ก่อนจะทันรู้ตัว หญิงสาวก็เขย่งปลายเท้าในร้องเท้าแตะอยู่บ้านขึ้นไปจนสุดตัว แต่ด้วยความที่ตัวเล็กความสูงไม่เกินมาตรฐานหญิงไทยทั่วไป จึงทำได้แค่เพียงจุมพิตเบาๆ ที่ปลายคางของเขา ซึ่งนั้นก็เป็นเหมือนกับสัญญาณตอบรับที่คริสรออยู่ก่อนแล้ว เขาจึงก้าวดันเธอกลับเข้ามาด้านในพร้อมเสียงประตูปิดลงอีกครั้ง สายฝนรู้สึกว่าเอวบางของตัวเองถูกรวบเข้าไปจนติดลำตัวของเขา ก่อนที่เขาจะหมุนตัวและผลักเธอไปติดบานประตูบ้านของเธอเอง ติดกับของตัวเองมือหนึ่งกอดรวบเอวของเธอไว้ ในขณะที่อีกมือหนึ่งใช้ยันผนัง ศีรษะได้รูปในกรอบผมหยิก หยักศกน้อยๆสีน้ำตาลเข้ม ยาวเคลี่ยต้นคอของเขา ค่อยๆ ก้มลงมาแล้วทาบริมผีปากของเขาลงบนริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา สายฝนได้ยินเสียงหอบหายใจของตัวเองที่ดังแรกขึ้นมาอย่างรอคอยและคาดหวัง ซึ่งคริสก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลยซักนิด ปากเขาปิดเสียงนั้นให้เงียบสนิทลงในทันที เนิ่นนานทีเดียวกว่าเขาจะค่อยๆเลื่อนริมฝีปากขึ้นไปแตะที่ริมขมับซ้ายของหญิงสาว ไล่จูบเรื่อยลงมาจนถึงแก้ม ผม หลังใบหู และซอกคอขาวนวลผ่องเป็นยองใบนั้นสายฝนความรู้สึกพร่าเลือน รับรู้แต่การมองเห็นภายใต้เปลือกตาที่ปิดสนิท สีดำมืดมิด แต่มีดอกไม้ไฟมากมาย หลากหลายสีสัน แตกเป็นประกายสวยงามจนเธออยากจะมองดูอย่างนี้ไปนานๆ มือทั้งสองข้างของเธอ กำลังลูบไล้ที่หลังต้นคอของเขาอยู่ เส้นผมนุ่มสลวย หยักศกภายใต้ฝ่ามือนุ่มของเธอ ให้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนดั่งขนนกอ่อนนุ่ม เบาหวิว ดุจดังปีกกว้างใหญ่ที่จะสามารถพาหญิงสาวโบยบินไปถึงสวรรค์ได้ ลิ้นเขายังคงวนเวียนอยู่ที่ฐานลำคอ ลากไล้เบาๆ ทิ้งไว้เพียงความชุ่มชื่นจางๆ เป็นทางยาว เย็นเมื่อเขาละจุมพิตจากตรงนี้ แล้วไปร้อนที่ตรงโน้นแทน เอวบางถูกรัดแน่นจะแทบหัก แต่แทนที่จะรู้อึดอัดเพราะหายใจแทบไม่ออก หญิงสาวกลับรู้สึกพึงพอใจที่ได้เบียดแน่นเข้าไปในลำตัวเขา มือที่เขาใช้ยันผนังครู่ก่อน ถูกเลื่อนมาจับเอว จับชายเสื้อวอร์มของเธอแน่น กำแล้วคลาย คลายแล้วกำแน่นอยู่หลายรอบ ราวกลับกำลังยับยั้งช่างใจว่าควรจะหยุดหรือไปต่อดีกว่าเธอจะทันรู้ตัวอีกที ก็ได้ยินเสียงแว่วๆ ของระฆังหมดเวลา ...ไม่ใช่ ไม่ใช่สิ เสียงเหมือนโทรศัพท์...แล้วความอบอุ่นที่ซอกคอก็หายไป เมื่อคริสสบถอะไรบางอย่างออกมาอย่างแรง ก่อนจะควักมือถือที่กระเป๋าหลังของกางเกงยีนต์ขึ้นมาแนบหู "ฮัลโล ครับ...ครับ"ปากพูดไป แต่ตาคมยังคงจ้องสบกับดวงตาหวานที่เพิ่งลืมขึ้นมาอย่างไม่วางตา "ครับแม่ รู้แล้วครับ ...อยู่บ้านเพื่อน"...อยู่บ้านเพื่อน...หนอย..ย.. คำพูดนั้นสะดุด แต่ยังไม่เท่าคำว่า...แม่......แม่...เมื่อนึกถึงสาวใหญ่วัยสามสิบแปด เพื่อนบ้านชาวไทยที่เริ่มคุ้นเคยกันตั้งแต่หญิงสาวย้ายมาอยู่ที่นี่ ก็เล่นเอาสายฝนสะดุ้งโหยง ตื่นจากฝันหวานทันที ... อร๊าย ตายแล้ว นี่เธอกำลังทำอะไรอยู่นี่ ถ้าพี่ปราณีรู้เข้า ว่าเพื่อนสาวรุ่นน้องข้างบ้านที่เธอให้ความเอ็นดูนักหนา กำลังมีทำอะไรที่ไม่เหมาะไม่สมควรกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอ เธอจะยังปราณีเหมือนชื่อหรือเปล่า...คิดได้ดังนั้น จึงผลักเขาออกอย่างแรง ก่อนจะรีบรุดออกมาจากตรงนั้น จนสะดุดเสื้อกันหนาวที่ไม่รู้ว่าหล่นมาจากมือเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ เกือบล้ม "ระวัง..." ชายคริสบอกอย่างตกใจ ก่อนจะรีบพูดกับโทรศัพท์ "อ๋อ เปล่า พอดีเพื่อนผมซุ่มซ่ามไปหน่อย" โกหกไปแล้ว ก็หันมาเห็นคนซุ่มซ่ามที่ตัวเล็กกว่ามองมาตาเขียวปั๊ด จึงรีบวางหูไป"ฝน" เรียกสั้นๆ อย่างสนิทสนมขึ้น"สายฝนย่ะ..เอ๊า นี่ ของๆ เธอ" แล้วยัดเสื้อกันหนาวใส่มือ ก่อนจะดันคนตัวสูงไปที่ประตู เปิดและผลักเขาออกไป "ขอโทษนะ พอดีดึกมากแล้ว" ปิดประตูดังปังใหญ่เสียงเคาะประตูดังขึ้น "เดี๋ยวสิ อะไรกันนี่ คุยกันก่อนสิ""เอ่อ..นี่" สายฝนกระซิบบอกผ่านประตูไป อยากพูดอะไรซักอย่าง "คือว่า..." แต่ก็ได้แต่อ้ำอึ้ง เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี หลังสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นนั้น "คือว่าอะไร" คริสถามเสียงเข้ม รอคอยคำตอบ เมื่อเห็นหญิงสาวยังเงียบอยู่ แต่เขารู้ว่าหล่อนยังคงยืนอยู่ตรงนั้น เขาจึงพูดต่ออีกประโยค "อย่าลืมที่สัญญานะ ผมจะสอนคุณเล่นแบล็คแจ๊ค"...เงียบ..." และในฐานะที่คุณยังเล่นไม่เป็น ผมจะต่อให้คุณ ผมจะแบไพ่ให้คุณดูก่อนก็ได้"...เงียบ..." ไพ่ที่ผมถืออยู่คือ..."...เงียบ..."ผม-ชอบ-คุณ"
อยากมีคนมาแบไพ่ให้อย่างงี้บ้างจริง
วันนี้เขียนได้เซ็กซี่ชะมัดเลยแจง
เราแอบชอบนะ ทั้งจูบตรงมุมปาก หรือ ปลายคางอ่ะ
เราว่ามันเป็นที่ .. ที่เรียกว่าไงดีล่ะ ..
รู้สึกถึงความสนิทสนม แล้วก็ยั่วยวนนิด ๆ 5555
เขินนนนนนน และ อยากเป็นสายฝนแทน 5555555