:: (ไม่)วุ่นนัก รักข้างบ้าน13 ::







...ทางแยก...






...และถ้าเธอยังไม่เลิกใช้อารมณ์วู่วามและความใจร้อน สิ่งเหล่านี้มันจะย้อนกลับมาทำลายตัวเธอเอง...


เสียงหวานๆ แต่เข้มดุ ยังคงสะท้อนก้องอยู่ในหู ผสมผสานกับเสียงของดนตรีที่ดังกระหึ่ม เรียกร้องให้เลือดในกายอันครุกรุ่นร้อนระอุของคริสได้รับการปลดปล่อย เพื่อนๆ ทั้งหนุ่มๆ และสาวๆ ที่เขานัดออกมาเจอะเจอสังสรรค์กันอย่างเช่นเคย เพื่ออำลาการเรียนจบในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ต่างพากันมาฉุดกระชากลากดึงให้เขาลงไปเต้นวาดลวดลายในฟอร์ที่หนาแน่นด้วยผู้คน แต่เขาไม่มีอารมณ์จะสนุกสนานเหมือนอย่างเคย


แม้เขาจะจากสายฝนมานานหลายชั่วโมงแล้ว หลังจากสงครามย่อยๆ ในห้องอันคับแคบห้องหนึ่งในโรงแรมของฟรานเชสโก้ ที่เขาใช้กำลังเข้าจู่โจมหญิงสาว เรียกร้องเอาจูบที่ไม่เต็มใจของเธอมา ใช้กำลังแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ การกอดจูบลูบไล้อย่างหักหาญน้ำใจ การขัดขืนในช่วงเวลาสั้นๆ แล้วสุดท้ายก็โอนอ่อนของหญิงสาว ทำให้เขารู้สึกถึงอำนาจที่มี แต่แล้วเมื่อทุกอย่างจบสิ้น สายฝนจัดแจงเสื้อผ้า แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างไม่แยแส ไม่เหลือบแลมามอง

หญิงสาวทิ้งไว้เพียงประโยคสั้นๆ แต่มันกระแทกใจเกินจะทน


...คริส เธอนี่มันเด็กจริงๆ...


ความโมโหไม่ใช่สิ่งเดียวหรอกที่ทำให้เขาขาดสติไปชั่วขณะ แต่เป็นตัวของสายฝนต่างหากที่ทำให้เขาขาดสติโดยสิ้นเชิง เพียงแค่อยู่ใกล้ผู้หญิงคนนี้ เลือดในกายของเขาก็เดือดพล่าน ราวกับมีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา


... เดินตามเด็ก หมาไม่กัดหรอก แต่เด็กนี่แหล่ะ จะกัดปากคุณ...แม้จะไม่ปลอดภัยแต่อาจจะเร้าใจดีก็ได้นะ...


ประโยคนั้นของตัวเขาเอง ที่ทำให้ชายหนุ่มหัวเราะออกตัวเบาๆ อย่างเย้ยหยันตัวเอง ก่อนจะกระดกเตกีล่าเข้าปากทั้งหมด แล้วกระแทกแก้วลงบนเคาเตอร์อย่างแรง


...ไอ้คริสบ้าเอ๊ย แกทำได้ดีแค่นี้เองหรือวะ แกพูดได้ดีแค่นี้เองหรือวะ แกมันห่วย...


เขารู้ดี เขารู้ดี ว่าที่สายฝนพูดมา มันถูกทุกอย่าง เขาใจร้อน เขาเอาแต่ใจ เขาทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง เขามันเด็ก...

ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ก่อนจะสั่งเตกีล่ามาอีกโดยไม่มีจำนวนจำกัด

...เขามันเด็ก...

ย้ำกับตัวเองให้สาแก่ใจ และรู้ดีว่าไม่มีอะไรที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ วันนี้เขาเด็กกว่าเธอ ต่อให้เมาจนลุกไม่ขึ้น แต่เมื่อวันพรุ่งนี้มาถึง ตื่นขึ้นเขาก็จะยังเด็กกว่าเธอ หรือว่าแม้แต่ต่อให้โลกถล่มทลายลงไป ความจริงก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาก็จะยังเป็นเด็กกว่าเธอเสมอไป

...เขาควรจะทำอย่างไรดี?...

คิด คิด คิด คิดจนหัวแทบแตก และกระดกเตกีล่าลงคอแข็งแรงนั้นไปอย่างไม่ยั้ง


...วันนี้จะเป็นวันสุดท้าย...เขาสัญญากับตัวเอง ก่อนจะกระดกแก้วเตกีล่าไปอีก ความร้อนแรงของน้ำใสๆ ไหลลงคอราวกับจะแผดเผาให้ลำคอมอดไหม้ แรงและร้อนรนพอๆ กับหัวใจดวงเล็กๆ ที่กำลังเต้นอยู่ในอกข้างซ้ายของชายหนุ่ม หัวใจที่มันไม่เคยเต้นแรง เร็ว และมีชีวิตชีวาขนาดนี้มาก่อนเลยในช่วงชีวิตที่ผ่านมา


ความร้อนแรงของตากีล่าซึมซาบไปมุมปาก ซึ่งมีแผลสดเล็กๆ รอยเขี้ยวคมๆ จากการยื้อยุดจูบปล้ำกันในห้องนั้น ทำให้คริสต้องยกมือขึ้นมาแตะเมื่อนึกขึ้นได้ ว่าถูกหญิงสาวขบกัดอย่างแรง เมื่อเขาผลักเธอลงบนโต๊ะว่างเปล่าและถลกกระโปรงทำงานตัวสวยขึ้นพร้อมกับจุมพิตร้อนแรงบนริมฝีปาก


...อย่านะคริส อย่าทำอย่างนี้ เพราะเป็นตัวเธอเองนั่นแหล่ะที่จะต้องเสียใจ...


หญิงสาวกระซิบเกรี้ยวกราด และมันก็เป็นความจริง เขาเสียใจจริงๆ นั่นแหล่ะ เสียใจที่ทำให้เธอต้องเจ็บตัว แต่สิ่งหนึ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ ในความเสียใจนั้น มันมีความพึงพอใจแฝงอยู่มากทีเดียว เมื่อสุดท้าย ท้ายสุดของการกระทำนั้น ได้รับเสียงครวญครางอย่างสุขสมและพึงพอใจจากปากเรียวเล็กของเธอเช่นกัน


...วันพรุ่งนี้ต้องดีกว่า... นั่นคือสำนึกสุดท้ายของเขา พอๆ กับที่รู้ว่าเขาจะต้องทำอะไร











เสียงนาฬิกาที่ข้างฝาบอกเวลาว่าเป็นตีสองแล้ว แต่คริสก็ยังไม่กลับมา หญิงสาวกอดอก เดินไปเดินมาตั้งแต่เที่ยงคืนแล้ว เขาไปไหนนะ ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ หรือเปล่า ก็อาจจะไม่ หรือไม่แน่ ...โทรไปที่บ้านก็ไม่มีคนรับสาย เขาไม่อยู่ หรือว่าเขายังโกรธเธออยู่


...คริส เธอนี่มันเด็กจริงๆ...


สายฝนรู้ว่าคำพูดนั้นมันแรง กับคนอื่นคงเป็นคำพูดธรรมดาๆ แต่กับคริสแล้ว สายฝนรู้ว่ามันแรง เพราะเขาไม่ชอบ แต่หญิงสาวตั้งใจพูด ตั้งใจที่จะตีให้ตรงจุด ให้เขาเจ็บ ให้เขาได้คิดบ้าง ว่าการทำอะไรแบบนั้น ทำตามอารมณ์ตัวเองนั้นมันไม่ถูกต้อง


แต่ตอนนี้ ขณะเหลือบมองนาฬิกา สายฝนก็ชักเริ่มเสียใจแล้วกับการทะเลาะกันวันนี้ แม้สิ่งที่เขาทำจะไม่ดีซักเท่าไหร่ แต่เขาก็ทำเพื่อเธอ คิดแล้วก็หน้าแดง


...หมายถึงเรื่องที่ห้องโถงที่เขาจัดการลูกค้าหื่นกามให้เธอนะ....ไม่ใช่เรื่องที่ห้องเล็กๆ ที่เขาทำตัวเป็นคนหื่นกามเสียเอง...


กำลังคิดที่จะลองโทรเข้ามือถือเขา ... ง้อซักหน่อยคงไม่เป็นไรมั๊ง...


ปิ๊งป่อง...ปิ๊งป่อง....เสียงออดประตูบ้านก็ดังขึ้นพอดี




เปิดออกไปก็ต้องตกใจ เพราะที่หน้าบ้าน มีเด็กหนุ่มสาวไม่ต่ำกว่าเจ็ดแปดคนกำลังยืนอออยู่เต็มระเบียง ก่อนที่อีกสองคนด้านหลังจะหิ้วปีกใครบางคนมาที่หน้าประตู ไม่ต้องสงสัยว่าเป็นใคร เพราะความโดดเด่นอันคุ้นตา ความเป็นคริสที่ไม่เหมือนใครนั้นฉายชัดอยู่แล้ว แต่สิ่งที่แปลกไป คือเด็กหนุ่มผู้เคยกระฉับกระเฉง แข็งแรง มีเสน่ห์เหลือล้นคนเก่า ตอนนี้กำลังยืนโอนเอนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน เพียงแต่เขาไม่เอะอะโวยวายเหมือนคนเมาทั่วไป แบบที่สายฝนเคยเห็นเท่านั้นเอง


"ผมจะพามันไปส่งที่บ้านมัน แต่มันไม่ยอมครับ มันให้ผมมาส่งที่นี่" เพื่อนที่หิ้วปีกคริสเอ่ย ก่อนจะหยุดไปชั่วครู่ เมื่อเห็นตาโตๆ ของสายฝนเบิกขึ้นอย่างมึนงง "เอ่อ ไม่รู้ว่าคุณจำผมได้ไหม เราเจอกันที่ร้านอาหารวันนั้นอ่ะครับ"

สายฝนพยักหน้า ก่อนจะเข้าไปแทรกเพื่อพยุงคริสด้วยตัวเอง "จำได้จ้ะ ว่าแต่ว่าทำไมถึงเมากันขนาดนี้"

"ฉลองอำลาครับ" อีกคนหนึ่งตอบ

"ขอบใจทุกคนมากนะ" เอ่ยขอบคุณ ก่อนจะพาร่างสูงโงนเงนเดินเข้าประตูไป ทันได้ยินเสียงหวานใสของใครบางคนตามหลัง

"เนี่ยเหรอ ผู้หญิงเอเชียที่คริสคลั่งนักคลั่งหนา ก็ธรรมดานี่ ไม่เห็นจะวิเศษวิโสเสิศเลอตรงไหน " น้ำเสียงนั่นมีแววเหลือเชื่อกึ่งดูถูกดูแคลน สายฝนพยุงร่างหนักอึ้งไม่สามารถหันไปดูและตอบโต้ได้

ใครอีกคนเอ่ยต่อ "บางทีนะ ตื่นขึ้นมาพรุ่งนี้คริสอาจจะเริ่มรู้ตัวก็ได้ ว่าตัวเองทิ้งอะไรไป แล้วคว้าอะไรมาแทน ทิ้งเพชรมาคว้ากรวดทรายแท้ๆ เลย "


....หมายความว่าอย่างไร?...


สายฝนอยากถามให้หายข้องใจ แต่ประตูถูกปิดตามหลังให้โดยเพื่อนชายของคริสเสียแล้ว และเสียงโวกเวกพูดคุยกันของเพื่อนๆ ของคริสก็ค่อยๆ จางไปตามระเบียงและสายลมที่พัดพริ้วของฤดูหนาว










หญิงสาวนั่งกอดเข่าอยู่ที่พื้นมองคริส ซึ่งนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟา มีผ้าห่มคลุมร่างอยู่ถึงอก หลังจากกุมถอดแจ๊คเกทด้วยความทุลักทุเลเพราะเขาตัวใหญ่เหลือเกิน และกว่าจะเช็ดตัวให้เสร็จก็ยากลำบาก เพราะคนเมาคนนี้แรงเยอะเสียจริง ทั้งผลักทั้งดัน ทั้งดึง ทั้งเพ้ออะไรมากมาย ... แว่วว่า

...ผมขอโทษ...

...สายฝน คุณใจร้าย...

...ผมไม่รู้ ผมไม่แน่ใจ ผมไม่อยากไป...

...พ่อครับ...แม่ครับ...

...ผมขอโทษ...



และอะไรอีกมากมาย ซึ่งยากจะประติดประต่อกันได้เข้าใจ


ละมือข้างหนึ่งไปลูบผมสีน้ำตาลนุ่มมือนั้น เสยขึ้นไปด้านบนไม่ให้ร่วงลงมาปิดตา ... เวลาเขาหลับแบบนี้ เขาช่างดูไร้เดียงสาและน่ารักเสียจริง เหมือนแมวตัวน้อยๆ ตัวหนึ่ง ซึ่งหลงทางมองหาเจ้าของไม่เจอ...


คิดแล้วก็ลูบเบาๆ ไปตามหน้าผาก หน้าเขาเอียงเข้าหาฝ่ามือเรียวอย่างช้าๆ ราวกับแมวที่ต้องการสัมผัสของเจ้าของ เขาคงทำมันอย่างไม่รู้ตัว เป็นไปตามสัญชาตญาณที่โหยหาความอ่อนนุ่ม การดูแลและความไว้วางใจ สายฝนอมยิ้มกับตัวเอง แล้วลูบไล้แก้มอบอุ่น เลื่อนลงมายังริมฝีปาก ปากที่เอ่ยคำหวานๆ เวลารัก และเอ่ยคำร้ายๆ เวลาโมโหได้ดีพอๆ กัน


รอยแดงจางตรงนั้นตรงมุมปาก ก่อให้เกิดสีแดงอมชมพูบนพวงแก้มของหญิงสาว เพราะระลึกถึงที่มาและที่ไปของมันได้อย่างดี ก่อนจะแดงยิ่งขึ้นเมื่อสันจมูกคมสันของคนนอนหลับ ขยับแนบชิดเคล้าเคลียฝ่ามือเธอ แล้วริมฝีปากร้ายๆ นั้น ก็ตามมาทำหน้าที่ของมันติดๆ โดยการจุมพิตอ่อนเบาตรงกลางฝ่ามือ


เขาพลิกตัวตะแคง แต่ดวงตายังคงหลับสนิท อีกมือหนึ่งของเขามากุมมือหญิงสาวไว้ ซุกแก้มสากนั้นนิ่ง ลมหายใจสม่ำเสมอราวกับกำลังอยู่ในนิทรารมย์อันแสนหวาน สายฝนยังคงนั่งมองเขาอยู่อย่างนั้น อยากอยู่อย่างนี้ไปอีกเรื่อยๆ ซักร้อยปี เหมือนมีมนต์สะกดบางอย่าง ทำให้ไม่อาจละสายตาไปจากใบหน้าอันงดงามของเขาไปได้


...นี่ใช่ไหม คือผู้ชายของเธอ...


คำตอบคืออะไรไม่สำคัญหรอก ขอเพียงมีเขาอยู่ตรงนี้ กุมมือเธอไว้อย่างนี้เพียงพอแล้ว


ตอนที่เขาพลิกตัวตะแคง ผ้าห่มเลื่อนลง หญิงสาวขยับตัวจะดึงผ้าห่มขึ้นให้ แต่มือหยาบในมือเธอกลับไม่ปล่อย

"หายโกรธหรือยัง" เสียงเข้มนั้นแผ่วเบา เมื่อเขากระตุกมือเธอไว้ แล้วลืมตาขึ้นมา

สายฝนเม้มปากก่อนพยักหน้า "อืม...หายแล้ว"

"ขอโทษนะ" ชายหนุ่มบอก "ขอโทษที่ทำตัวเป็นเด็กอยู่เสมอ"

กระชับมือแน่นขึ้น " เวลาอยู่ใกล้ๆ คุณ ผมคิดอะไรไม่ค่อยออก หัวใจมันมักจะทำหน้าที่ก่อนสมองสั่งเสมอเลย"

คำสารภาพนั้นอ่อนหวานพอๆ กับสายตาของคนเมาค้างที่มองสบมา...สายฝนคิดว่า แม้แต่นางฟ้าหรือมารร้ายในตัวเธอก็คงยอมให้อภัย ต่อให้เขาทำผิดร้ายแรงกว่านี้อีกร้อยเท่าพันเท่าก็ตามที

การอภัยไม่ได้มีไว้สำหรับทุกคน เมื่อใครซักคนทำผิดต่อเรา แต่กับคนบางคนแล้ว แปลกดีที่หัวใจเราพร้อมจะยินยอมเอ่ยคำว่าไม่เป็นไรเสมอ

...เพียงแค่หัวใจที่มอบให้ใครบางคนไป มันไม่เท่ากันนั่นเอง...


สายฝนนั่งลงตามเดิม "เธอรักฉันจริงๆ หรือ?" ถามออกไป

คริสไม่เข้าใจว่าถามเพื่ออะไร ทั้งๆ ที่หญิงสาวน่าจะรู้ดีอยู่แล้ว แต่ก็ยอมพยักหน้า

"เจ็บไหม" สายฝนถามอีก ขณะลูบหลังมือของคริส รอยแตกบนข้อนิ้วยังมีร่องรอยชัดเจน

"ดูสิ เธอมักทำตัวเลือดร้อน มีเรื่องชกต่อยอยู่ตลอดเวลา ชอบทำให้ตัวเองเจ็บตัวอยู่เรื่อยๆ" สายฝนต่อว่า "ถ้าเธอยังไม่รู้จักรักตัวเอง แล้วเธอจะมารักฉันได้อย่างไร"

คำถามนั้นทำให้คริสอึ้งไป เขาไม่มีตอบ อันที่จริงเขาไม่รู้ว่าจต้องตอบว่าอะไรต่างหาก ได้แต่บีบมือหญิงสาวไว้แน่นกว่าเดิม

"หืม..ม.." หญิงสาว

ดวงตาเขาปรือลง "ผมไม่รู้" พึมพำตอบ ก่อนจะหลับไป พร้อมกับควมคิดที่ติดแน่นในหัวว่า ...เขาจะต้องเป็นผู้ใหญ่ เพื่อเธอ เพื่อผู้หญิงคนนี้เพียงคนเดียว... พร้อมกับพิจารณาข้อเสนอการไป ทำงานที่โรงแรมของพ่อเขา..เขาจะไปคุมคาสิโนของพ่อเขา









รุ่งเช้าตรู่ของวันใหม่ ฤดูหนาวเช่นนี้ แม้ยามเช้าแต่ฟ้ายังคงมืดสนิท คริสตื่นขึ้นมาเห็นสายฝนยืนคนถ้วยกาแฟอยู่ที่โต๊ะเล็กๆ อีกฝากของห้อง ลมเย็นแทรกเข้ามาตามขอบหน้าต่าง ผ้าม่านพริ้วไหวเล็กน้อย คริสเดินไปโอบกอดที่ด้านหลังหญิงสาวพร้อมผ้าห่มคลุมไหล่กว้างของตัวเอง


อ้อมกอดนั้นแน่นหนา ทำให้ผ้าห่มสีสวยโอบคลุมร่างของหญิงสาวไปด้วย สายฝนหยุดคนแก้วกาแฟ เอียงหน้าขึ้นมารับจุมพิตทักทายยามเช้า

"ตื่นแล้วหรือ กาแฟซักถามไหม" ก่อนจะตักน้ำตาลใส่อีกช้อนแล้วคนต่อ


คริสส่ายหน้า แววตาครุ่นคิด มองนิ่งอยู่นาน ต่างคนก็ต่างนิ่ง จนในที่สุด หญิงสาวก็เอ่ยถาม "มีอะไรหรือ"

"ถ้า.."...คริสเริ่ม ก่อนกดริมฝีปากลงที่ไหล่บอบบางอย่างเน้นๆ แล้วเอ่ยต่อ "ถ้าผมจะไม่อยู่ที่นี่ซักพัก คุณ...คุณจะโอเครึเปล่า...คุณจะลืมผมไหม"

มือที่คนกาแฟชะงัก "หมายความว่ายังไง"

คริสจึงบอกตามตั้งใจของเขา ที่จะไปทำงานกับพ่อของเขา ใจจริงเขาอยากเริ่มต้นและทำทุกอย่างด้วยตัวของเขาเอง แต่รู้ว่ามันเป็นไปได้ยากสำหรับคนอายุเท่าเขา ดังนั้นทางเลือกที่มีอยู่ในการทำงานกับพ่อของเขาจึงเป็นทางลัดที่น่าสนใจไม่น้อย

"ไหนเธอเคยบอกว่าอยากจะทำงานกับฟรานไง" สายฝนถามตั้งตัวไม่ติด

"ใช่...ผมเคยคิด ..แต่นั่นมันก่อนที่ผมจะพบคุณ ผมเคยคิดว่าอยู่ตรงไหนในโลกนี้ก็ได้ ไม่เห็นสำคัญ" เขาว่า

"แล้วทำไม...มันต่างกันตรงไหน ทำไมเธอไม่ทำงานที่นี่ เราจะได้อยู่ใกล้ๆ กัน"

"ผมไม่อยากอยู่ใต้เงาของฟราน" เขาบอก "ผมอยากมีที่ทางของตัวเอง และในช่วงเวลานี้ ผมอยากให้คุณมีเวลาคิด ว่าตัวคุณเองต้องการอะไรจริงๆ"

ประโยคนั้น ทำให้สายฝนต้องพลิกตัวในอ้อมกอด หันมามองหน้าตรงๆ "เธอจะปล่อยมือจากฉันหรือ"

ชายหนุ่มไม่ตอบคำถาม แต่กลับเอ่ยบางสิ่ง "แม่ผมเคยว่าไว้ว่า คนบางคนไม่อาจจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการ บางครั้งงานกับความรัก เราก็ต้องเลือกมันถ้าถึงเวลา"

สายฝนหน้าเศร้า รู้สึกว่าลึกลงไปในใจตัวเองโหวงเหวงเหมือนหัวใจร่วงหล่น "เธอบอกว่าอยากมีที่ทางเป็นของตัวเอง ถ้าเธอมีวันนั้นจริงๆ ที่ของเธอตรงนั้นจะมีฉันรวมอยู่ด้วยไหม...หืม.."

คริสเงียบ...

สายฝนกระวนกระวาย "เธอจะทิ้งฉันไว้ข้างฟรานแบบนี้เหรอ?"

คริสพยักหน้าขรึม "อืม.." ลูบฝ่ามือไปตามสีข้างและซี่โครงของหญิงสาว

"พ่อผมเคยต้องพยายามอย่างหนักกับธุรกิจของเขา เขาพยายามสร้างเนื้อสร้างตัวจนลืมคนรอบข้าง ลืมแม่ของผม อย่างที่แม่ผมบอกนั่นแหล่ะ ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง ในที่สุดพ่อผมก็ร่ำรวย มีเงินทองมากมาย มีชื่อเสียง แต่เขาต้องเสียบางสิ่งที่สำคัญในชีวิตของเขาไป...และ...แม่ผมบอกว่าผมเหมือนพ่อมาก"

คำยืนยันนั้นทำให้สายฝนใจหาย ได้แต่ยืนนิ่งในอ้อมกอด

"แต่..." เขาเอ่ยอีก แล้วหยุดนิ่งชั่วครู่ ไล้ปลายนิ้วที่เนินอกภายใต้ชุดนอนรุ่มร่ามน่ารักตัวนั้น

"ผมจะไม่ซ้ำรอยพ่อผม ถึงผมจะไม่อยู่ตรงนี้ข้างๆ คุณ แต่ผมมันเป็นคนขี้หวง ของๆ ผม ก็ต้องเป็นของผม" เขาเอ่ยอย่างหนักแน่น พอๆ กับนิ้วและฝ่ามือที่เลื่อนไปตามลำคอขาวผ่อง กระชับท้ายทอย

"และผมเป็นคนโลภมากซะด้วย ผมจะครอบครองทุกอย่างที่ผมต้องการ" ดึงหญิงสาวเข้ามาหา ก่อนจะก้มลงย้ำหนักๆ เหนือริมฝีปาก

"และสุดท้าย ข้อเสียของผมที่คุณต้องทำใจยอมรับ ..คือผมมันเป็นคนเห็นแก่ตัว...ถึงผมจะปล่อยตัวคุณไว้ แต่ผมจะไม่ยอมปล่อยมือจากคุณ"

จูบลงปลายจมูกเชิดๆ น่ารักนั้นแผ่วเบา ก่อนเอ่ยประโยคสุดท้ายด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "และจะไม่ยอมปล่อยหัวใจคุณด้วย"

ว่าจบก็ก้มลงจูบบนริมฝีปาก ดูดซับเอาความหอมหวานในยามเช้าของหญิงสาวจนหมดสิ้น และตั้งใจจะทำอย่างที่เขาบอกเธอนั่นแหล่ะ


...ผมจะครอบครองทุกอย่างที่ผมต้องการ...


กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น...สายลมหนาวด้านนอกยังคงพัดมา...เอาน่า..เดี๋ยวซักพัก ฤดูหนาวก็จะผ่านไป


...วิถีของความรักไม่ใช่เรื่องของคนสองคนก็จริง...แต่ถ้ามีความรักอยู่ตรงนั้น พวกเขาจะต้องจับมือกันแล้วผ่านมันไปให้ได้...











Create Date : 11 กันยายน 2553
Last Update : 11 กันยายน 2553 17:28:15 น. 4 comments
Counter : 937 Pageviews.

 
แค่คิดว่าเค้าจะไป ก็เหงาแล้วใช่มะสายฝน


โดย: sakeena IP: 124.120.162.9 วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:1:07:21 น.  

 
ความรัก .. ประกอบไปด้วยอะไรมากมายที่เกินจะคาดคิด
นอกจากความอดทน ความเชื่อใจ มุ่งมั่น และศรัทธา
บางทีก็ต้องรอคอยให้ผ่านคืนของวันและเวลา
ที่จะทำให้รักแข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วย


สู้เขานะจ๊า พ่อคริส สุดหล่อ !!




โดย: Paulo วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:11:42:11 น.  

 
ดีมาก ตาคริส โตเป็นผู้ใหญ่ให้ได้ไวๆ นะ เอาใจช่วย


โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:19:29:05 น.  

 
คิดถึงจูบของคริสจังเลย มาสักทีสิจ๊ะ *-*


โดย: sakeena IP: 124.120.181.19 วันที่: 8 ตุลาคม 2553 เวลา:9:20:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nikanda
Location :
จันทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]




ลายปากกา









New Comments
Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
11 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nikanda's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.