:: (ไม่)วุ่นนัก รักข้างบ้าน9 ::




เรื่องนี้ ไม่มีพล็อต ไม่มีไคลแม็กซ์ ไม่มีจุดหักมุม เรื่องราวจะราบเรียบ ค่อยเป็นค่อยไปกับความสัมพันธ์ของตัวละคร ผู้เขียนต้องการเขียนเป็นเรื่องสั้นโรมานซ์ ดังนั้นจึงอัดแน่นไปด้วยความหวานและโรแมนติก ใครที่แพ้เรื่องสั้นแนวนี้ อ่านแล้วไม่อิน เลี่ยน จะอ้วก ไม่แนะนำให้อ่านค่ะ





...ความต่างระหว่างวัย...





...บ้า...ก็บ้ารักคุณนั่นแหล่ะ...


...ถ้าเมล็ดพันธ์แห่งดอกไม้ เติบโตขึ้นมาได้ด้วยหยาดฝนที่หลั่งรินมาทีละเล็กทีละน้อยในฤดูฝน...เมล็ดพันธ์แห่งความรักของฉัน ก็คงเติบโตขึ้นได้ด้วยคำหวาน ที่คริสเฝ้าหว่านลงมาในหัวใจทีละเล็กทีละน้อยในฤดูหนาว อากาศภายนอกยังคงเย็นเยียบ บางครั้งหิมะตกโปรยปราย จนระเบียงหน้าบ้านขาวโพลนไปด้วยเกล็ดบริสุทธิ์ของมัน แต่หัวใจของฉันไม่มีความเหน็บหนาวอีกแล้ว...เพียงแค่คิดถึงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขา เพียงแค่คิดถึงคำพูดเอาแต่ใจของเขา เพียงแค่คิดถึงแววตาคมๆ ของเขา ที่มองตรงมาสู่ฉัน ราวกับฉันเป็นเพียงคนเดียวที่สำคัญในโลกใบนี้ เพียงแค่คิดถึงรอยจูบที่ริมฝีปากเบาๆ คิดถึงฝ่ามือร้อนที่มอบไออุ่น...แค่นี้ความอบอุ่นก็เพียงพอแล้ว สำหรับหัวใจคนคนนึง...ใน ขณะนี้...ฉันคิดว่าเพียงพอแล้วนะ

นักข่าวสาว...สายฝน รายงานสภาพอากาศของหัวใจยามเที่ยงคืน...




หลังจากที่นอนอ่านไดอารีที่ลงมือเขียนไปซักครู่ซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายรอบ สายฝนก็อมยิ้มกับตัวเอง ดวงตาเป็นประกาย ถ้าพัคเกอิน แห่ง Personal Taste ( ซีรี่ย์เกาหลีเรื่องหนึ่ง นำแสดงโดย ซอยเยจิน และ ลีมินโฮ ) กำลังรายงานสภาพอากาศหัวใจของเธอผ่านทางความคิด สายฝนก็อยากจะทำอย่างนั้นบ้าง แต่หญิงสาวอยากจะเก็บความทรงจำและความรู้สึกอันงดงามนี้ไว้ ในสถานที่ ที่สามารถจับต้องและมองเห็นได้...อย่างในไดอารีเล่มนี้มากกว่า

คิดแล้วก็แอบหน้าแดง รู้สึกเขินๆ กับการกระทำแบบเด็กๆ แบบนี้จังเลย และหวังว่า...ความรู้สึกแสนหวานที่จับหัวใจอยู่ในขณะนี้ คงไม่จบลงอย่างรวดเร็วเกินไปหรอกนะ...








หลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะย้ายไปทำงานกับฟรานเชสโก้ดีหรือไม่ ชายหนุ่มก็ไม่ได้เร่งเร้าแต่อย่างใด แต่สิ่งหนึ่งที่เขายังมีให้อย่างสม่ำเสมอ ก็คือการโทรมาหา ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบอย่างเพื่อนคนหนึ่ง ชายหนุ่มยังคงระยะห่างไว้อย่างเหมาะสม ไม่ก้าวเข้ามากเกินไปจนสายฝนต้องอึดอัด แต่ก็ไม่ถอยห่างออกไปจนทำให้สายฝนรู้สึกถึงความห่างเหิน...เขาบอกเธอว่าอย่างไรนะ เขาขอความเป็นเพื่อน ความเป็นมิตรในขณะนี้ ขอเพียงแค่หญิงสาวไม่ตัดรอนสัมพันธไมตรีของเขา ก่อนจะได้เรียนรู้และรู้จักตัวตนของเขาเสียก่อน


ฟรานเชสโก้เป็นชายหนุ่มรูปงาม เขาสูง เขาหล่อ เขาฐานะดี การศึกษาดี มารยาทดี หญิงสาวรู้ดีว่า การที่ผู้ชายคนหนึ่งที่ดีพร้อมขนาดนั้นมาให้ความสนใจ ย่อมเป็นเรื่องที่ดี ปลายฝนพี่สาวของเธอบอกว่า ไม่เห็นเสียหายตรงไหน ที่จะรับชายหนุ่มเอาไว้พิจารณา ในเมื่อสายฝนเองก็ไม่มีใครในใจ


...ไม่มีหรือ ? ...


หญิงสาววางสายลง หลังจากขอผลัดผ่อนการชวนออกไปทานอาหารของฟรานเชสโก้ เป็นเวลาเดียวกับที่คริสเปิดประตูเข้ามาพอดี วันนี้เขามาในชุดเสื้อยืดคอเต่าสีสดใสกับกางเกงวอร์มเก่าๆ ยิ่งแต่งตัวสบายๆ แบบนี้ และผมเปียกๆ เรียบลู่จากการอาบน้ำอย่างลวกๆ เพราะเขาไม่ทันเช็ดศรีษะให้แห้งก็คงรีบออกมาหาเธอ ยิ่งเป็นการขับเน้นความเป็นเด็กของเขาให้เด่นชัดขึ้น ถึงเขาจะสูงกว่าเธอมากมาย แต่เขาก็คือเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งเท่านั้น


...เธอจะฝากหัวใจไว้กับเด็กคนหนึ่งได้อย่างไร...


...สายฝนสะท้อนใจ...ทำไมเขาไม่เกิดเร็วกว่านี้ซักสิบปีนะ หรือไม่...เธอก็น่าจะเกิดช้ากว่านี้ซักสิบปี...ไม่อย่างนั้น ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คงไม่ทำให้เธอทั้งรู้สึกซาบซ่านใจ และกระอักกระอ่วนใจไปพร้อมๆ กัน...


"ใครหรือ" เขาถาม ทั้งๆ ที่สายฝนคิดว่าเขาคงได้ยินการสนทนาบางส่วนในตอนท้าย

สายฝนเลือกจะไม่โกหก "ฟรานจ้ะ" เพราะรู้ว่าการโกหก ไม่เคยทำให้อะไรดีขึ้นมา

คริสเดินไปเปิดตู้เย็น แล้วยัดขวดน้ำอัดลมหายขวดที่เขาซื้อมา ใส่เข้าไปในชั้นวางอย่างเงียบๆ ไม่พูดไม่จา แผ่นหลังกว้างของเขาที่หญิงสาวมองเห็นนั้น แม้ไม่สามารถแสดงความรู้สึกใดๆ ได้ แต่สายฝนกับรู้สึกอึดอัด และแฝงไว้ด้วยความหวั่นใจ

"เขาแค่.." อึกอักเล็กน้อย "เขาแค่โทรมาชวนไปทานข้าวที่บ้าน"

คริสหันมาเลิกคิ้วมอง ไม่เอ่ยอะไร แต่สายฝนตีความสายตานั้นได้ว่า...ผมยังไม่ได้ถามเลย...

"แต่ฉันอยากบอก" สายฝนเอ่ย ก่อนจะหรี่ตามองตอบเขาบ้าง "ถ้าฉันตกลงไป เธอจะว่าอย่างไร"

ชายหนุ่มหยิบโค้กมากระป๋องหนึ่ง ก่อนจะปิดตู้เย็นดังปังใหญ่..." ผมจะว่าอะไรล่ะ ฟรานเขาเป็นผู้ใหญ่ เขาหล่อ เขารวย.."

สายฝนหรี่ตามองมากยิ่งขึ้น "เธอหมายความว่ายังไง" ถามอย่างเอาเรื่อง

คริสเดินไปทิ้งตัวลงที่โซฟาแรงๆ เปิดกระป๋องโค้ก เสียงซ่าของแก๊สดังสะท้านในความเงียบ เขากระดกโค้กเข้าปากโดยไม่มองหันเธอ หันสายตาไปมองทีวีอย่างไม่มีจุดหมาย สายฝนตามลงมานั่งข้างๆ พร้อมกับยื่นผ้าขนหนูให้

"เช็ดผมให้แห้งซะ" ก่อนจะถามซ้ำ "เธอหมายความว่ายังไง"

คริสไม่รับผ้าในมือ "เขาหล่อ เขารวย ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธเขาได้" ตอบห้วนๆ

"อ้อ..อ.." สายฝนร้องอ้อเบาๆ เข้าใจถึงปฏิกริยาของเขาขึ้นมาบ้าง เขาหึงเธอใช่หรือเปล่า แอบยิ้มในดวงตา ก่อนจะเติมเชื้อ

"อืม..ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหล่ะ เขาน่ารักจริงๆ อัธยาศัยก็ดี " ว่าแล้วก็เช็ดผมให้กับชายหนุ่มเสียเอง เมื่อชายหนุ่มไม่ยอมรับผ้าในมือ แต่เขายังคงทำตัวแข็งอยู่อย่างนั้น แถมยังย่นคอหลบมือของเธอเสียอีก

"งั้นก็ไปสิ" เขาบอก ปากที่เคยยิ้มล้อเลียนอยู่เป็นนิจ บัดนี้ตวัดงอขึ้นมาเล็กน้อยอย่างเด็กแสนงอน สายฝนยีผ้าขนหนูแรงขึ้นอย่างกระแทกกระทั้น

"นี่..นี่..นี่. หมั่นไส้."

"โอ๊ย..ย..นี่คุณ เช็ดหัวคนนะครับ"

"ไปด้วยกันไหม " สายฝนเอ่ยชวนดื้อๆ

คริสทำหน้ามุ่ยยิ่งขึ้น "ทำไมผมต้องไปด้วย"

"ก็เธอกำลังจะเป็นญาติเขา และฉันก็บอกปัดเขาไปหลายครั้งแล้วด้วย ฉันเกรงใจ"

"ผมจะเป็นญาติกับเขาแล้วไง..ผมมีสิทธิ์อะไร จะไปแทรกแซงเดทของคุณ" เขารวน

"...ก็.." ลังเลชั่วครู่ "....เธอเป็นแฟนฉันไง" สายฝนตอบในที่สุด

คริสหันมามอง "แฟนลับๆที่คุณบอกใครไม่ได้น่ะหรือ" ...เขาถามเบาๆ "แล้วจะให้ผมใช้ข้ออ้างอะไรในการเสนอหน้าไป"

และสายฝนไม่มีคำตอบที่ดีพอสำหรับคำถามแรกนั้น หญิงสาวจึงเลือกที่จะเงียบเสีย ก่อนจะเช็ดผมของเขาต่อไปอย่างเงียบๆ รู้สึกถึงอาการผ่อนคลายลงของร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ ร่างกายภายนอกเท่านั้นที่ผ่อนคลาย แต่ภายในครุกรุ่นด้วยอะไรบางอย่าง



คริสนั่งจ้องกระป๋องโค้กนิ่ง บางครั้งเขาทำท่าจะยกมันขึ้นมาดื่มแต่แล้วก็ชะงักไป ลังเล ราวกับว่าเขากำลังกำทุ่นระเบิดไว้ในมือ และกำลังครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่าง...เป็นต้นว่า...เขาควรจะกำมันไว้ให้มันระเบิดในฝ่ามือเขา หรือเขาควรจะขว้างมันทิ้งไป ให้มันไประเบิด ณ ที่ใดที่หนึ่ง ที่ห่างไกลออกไป


...แล้วความรู้สึกปวดหนึบๆ ในอกของเขา เขาควรจะทำอย่างไรกับมันดี...


ตั้งแต่ชีวิตในวัยเด็ก เขาพรั่งพร้อมทุกอย่าง พ่อที่ร่ำรวยมหาศาล เพียงแค่ร่ำร้องว่าเขาต้องการสิ่งใด สิ่งนั้นก็จะลอยละลิ่วมาอยู่ตรงหน้าราวกับเนรมิต แม่ที่ใจดีราวกับนางฟ้า แม้บางครั้ง เขาจะทำตัวเกเร อันธพาลตามประสาวัยรุ่น ถูกดุถูกว่า แต่ความรักของแม่ยังคงเปี่ยมล้น อยู่โรงเรียน เขาคือนักเรียนดีเด่น เรียนน้อย ขาดเรียนบ่อย แต่เขาเป็นนที่หนึ่งของชั้น ด้วยมันสมองที่เกิดมาฉลาดเหนือคนอื่นๆ เพื่อนพ้องเอาใจ ตามใจ มีผู้หญิงมาเกาะแกะมากหน้าหลายตา ไม่ถูกใจก็เปลี่ยน ... เขาไม่เคยสัมผัสกับความรู้สึกที่ต้องอิจฉา หรือริษยาใคร


แต่ใครก็ได้ ช่วยบอกเขาหน่อยเถอะ ว่าความรู้สึกปวดหนึบๆ ในอก เมื่อยามที่เห็นฟรานเชสโก้คอยเฝ้าเอาอกเอาใจสายฝนที่โต๊ะอาหารในค่ำคืนนั้น หรือความรู้สึกเจ็บแปร๊บๆ เมื่อยามที่รู้ว่า ฟรานเชสโก้ชอบและกำลังทำคะแนนเพื่อพิชิตใจคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ นี้ คืออะไรกัน ใช่ความหึงหวงหรือไม่

...เขาไม่เคยต้องหึงหวงใครมาก่อน เขายังไม่พร้อมจะรับมือกับความรู้สึกนี้... เขาบอกตัวเอง ก่อนจะกระดกโค้กอีกครั้ง









สายฝนนั่งมองเขาอย่างเงียบๆ ครู่ใหญ่ ชายหนุ่มไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาล้อเล่น ยิ้มล้อเลียน หรือแอบขโมยจูบเธออย่างที่เคยทำมาตลอดในช่วงหลายอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ หญิงสาวรู้สึกใจหาย คล้ายๆ บางสิ่งบางอย่างขาดหาย เหมือนมีม่านหมอกบางๆ มากั้นกลาง ทั้งๆ ที่สายฝนและเขานั่งแนบชิด แนบสนิทกันเช่นนี้

"โกรธหรือ" สายฝนถาม

"เปล่านี่" เขาตอบ

"คริส.." สายฝนเรียกอย่างอ่อนโยน " เรามาคุยกันแแบบเปิดอกอีกซักครั้งดีไหม"

คริสหันมามองด้วยสายตานิ่ง..นาน...รอคอย

"จำได้ไหม ที่เราเคยพูดกันว่า เรามาลองคบกันเล่นๆ ในตอนนั้น ในตอนนี้ เธอคิดอย่างไร ฉันยอมรับนะ ว่าฉันชอบเธอ ชอบมากเสียด้วย "

"แล้ว..?"

"แล้วฉันก็รู้สึกมีความสุขเวลาเธอกอดฉัน ฉันโมโหเวลาที่เธอล้อเล่น ล้อเลียน แต่ฉันก็อยากอยู่กับเธอให้นานๆ นานที่สุดเท่าที่จะทำได้....แต่.."

"แต่..?" เขาทวนเสียงสูง เลิกคิ้ว..

"แต่เธอยังเด็ก เธอเป็นเด็กคนนึงเท่านั้น ตอนนี้ฉันอายุยี่สิบหก..แล้ว.." ยังไม่ทันจบ คริสก็สวนขึ้นมา

"แล้วไง คุณเป็นผู้ใหญ่ แต่ซักวันผมก็จะเป็นผู้ใหญ่ ซักวันผมก็จะอายุเท่าคุณ อีกเจ็ดแปดปี ผมก็จะอายุยี่สิบหกเหมือนกัน"

"ก็ใช่.."สายฝนว่า "แต่เมื่อถึงเวลาที่เธอเป็นผู้ใหญ่ เมื่อเธออายุยี่สิบหก ฉันก็จะอายุสามสิบสาม ฉันก็จะกลายเป็นสาวแก่ " หญิงสาววางผ้าลง เมื่อผมเขาเริ่มแห้งสนิท

"เมื่อเธอเป็นผู้ใหญ่ ฉันก็จะกลายเป็นสาวแก่.." หญิงสาวย้ำ

"คุณต้องการจะพูดอะไรกันแน่.." เขาถาม

สายฝนกระแทกเสียง " เธอไม่เข้าใจเหรอ ว่าวันนี้เธอยังเด็ก แล้วเธอก็จะกลายเป็นผู้ใหญ่ เป็นชายหนุ่มเต็มตัว เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ แล้วสาวๆ ก็จะมารุมล้อมเธอเต็มไปหมด"

เขาแกล้งขัด "ตอนนี้ผมก็สาวตรึมนะ" ผลที่ได้รับ คือกำปั้นที่ซัดเข้าเต็มหลังเขาอย่างแรง

"อย่ามาล้อเล่นนะ...ฉันจะบอกว่าแล้ววันนั้น ฉันก็จะเป็นสาวแก่ แห้งเหี่ยว หัวโต เป็นยัยแก่ขึ้นคานที่ไม่มีใครสนใจ"

เมื่อนึกภาพตามคำพูดของตัวเองแล้ว สายฝนก็อยากหัวเราะออกมา ถ้าวันนี้เธอไม่คว้าโอกาสดีๆ ที่เข้ามาหา ถึงวันนั้นเธอจะไม่มีโอกาสอีกแน่ๆ..สายฝนคิด

"แล้วไง" คริสถาม ทำลายความเงียบและภวังค์ทั้งปวง "ถ้าวันนึงคุณแก่ ผมก็ยังจะชอบคุณ ชอบคุณแบบที่เหี่ยวๆ นั่นแหล่ะ" เขาว่า

"นี่ไง...คือสิ่งที่บ่งบอกว่าเธอยังเด็ก เธอคิดอะไรแค่ในมุมปัจจุบัน แค่วันนี้เธอชอบ เธอก็คิดว่าเธอจะชอบตลอดไป เธอไม่รู้หรือ ว่าหัวใจคนเรามันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ก็เหมือนกับฤดูที่มันเปลี่ยนไปนั่นแหล่ะ วันนี้มันหนาว อีกหลายเดือนมันจะเป็นฤดู ใบไม้ร่วง ใบไม้ผลิ ร้อน และฝนตก...ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงเสมอ"

"ทำไมคุณชอบดูถูกความรู้สึกคนอื่นเสมอ " เขากระแทกกระป๋องโค้กลงกับโต๊ะ และควักบุหรี่ขึ้นมาคาบที่มุมปาก จะจุดไฟ สายฝนดึงมันออกจากปากเขา เขาหันมามองนิดนึงอย่างไม่พอใจ

"ฉันไม่ชอบคนสูบบุหรี่" เธอเสียงแข็ง

คริสกระแทกไฟแช็คลงบนโต๊ะ "และผู้ใหญ่แบบคุณก็ชอบเอาแต่ใจ...คุณไม่ชอบที่ผมเด็กและมัวแต่มองปัจจุบัน ผมก็ไม่ชอบเหมือนกันที่คุณเอาแต่เฝ้ามองแต่อนาคตที่ยังมาไม่ถึง...ทำไมล่ะ?" เขาถาม

"วันนี้ผมชอบคุณ ผมมั่นใจในความรู้สึกของผม แต่คุณกลับไม่มั่นใจในอะไรซักอย่างเลย"

"ใช่ ฉันไม่มั่นใจในอะไรเลย เพราะอะไรรู้ไหม?" สายฝนเสียงแข็งบ้าง

"เพราะฉันชอบเธอมากไง ยิ่งฉันชอบเธอมากเท่าไหร่ ฉันยังกลัว ฉันยิ่งกังวลใจ ...คริส..." เธอเรียกเขาอีกอย่างอับจนคำพูด


... และเขาชอบคำนั้น เขาชอบที่จะได้ยินจากว่า..คริส...ที่เอื้อยเอ่ยจากปากเธอ...


"ฉันโตแล้ว ฉันเคยรักคนอื่นมาก่อน" เธอบอก " และฉันเคยสัมผัสแล้วว่า ความรู้สึกรักนั้นมันไม่ยั่งยืน เขาคนนั้นหมดรักฉันไปรักคนอื่น ฉันจะเป็นจะตาย ร้องไห้เหมือนโลกจะดับสลาย...แล้วไง..แล้ววันนี้ ฉันก็มาชอบเธออีก เธอเห็นไหม ว่าความรู้สึกต่างๆ มันเปลี่ยนได้เร็วขนาดไหน"

"ผมไม่แคร์.." เขาเถียง "วันนี้คุณชอบผม เพียงพอแล้ว ...วันพรุ่งนี้ความรู้สึกของคุณจะเป็นยังไงผมไม่รู้ แต่ผมจะทำให้ทุกๆ วันที่เหลืออยู่ในวันพรุ่งนี้และวันต่อไป ให้คุณชอบผมมากขึ้นเรื่อยๆ มากจนคุณลืมผู้ชายทุกคนที่คุณเคยรัก "

คำพูดนั้น ทำให้สายฝนอึ้งไป เธอก็อยากให้เป็นเช่นนั้น...แต่..

"คริส... ฉันบอกตรงนะว่า ถึงฉันจะชอบเธอมาก และวันพรุ่งนี้ก็อาจจะมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ฉันมีความฝันของฉัน ซักวันนึงฉันก็จะต้องแต่งงานกับใครซักคนที่รักฉัน ที่เหมาะกับฉัน ทั้งเรื่องหัวใจและเรื่องวัย..และ.."

"คนที่รวยๆ...คนที่พร้อมให้คุณได้ทุกอย่าง" คำเสริมของคริส ได้การหยิกไปอีกที่ต้นขาแข็งแรง

"นั่นแหล่ะ "..สายฝนยอมรับ อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องการหลอกเขา และหลอกตัวเอง


"ถ้าผมเกิดเร็วกว่านี้ซักสิบปี ถ้าผมอายุมากกว่าคุณ คุณจะกล้าเปิดเผยไหมว่าผมเป็นคนที่คุณคบอยู่" เขาถาม..คำตอบคือความเงียบ

..นั่นแหล่ะ คือสิ่งที่ฉันต้องการ...



"ถ้าผมรวยกว่านี้ คุณจะยืนอยู่ข้างผมไหม"..เงียบ

...ไม่จำเป็นเลย แต่ถ้าได้ก็ดี..



"ถ้าผมประสบความสำเร็จอย่างฟราน คุณจะมองผมใหม่ไหม?"..เงียบ

...ฉันมองเธออยู่แล้ว ขณะนี้ ถ้าวันนึงเธอประสบความสำเร็จ ฉันจะร่วมยินดีกับเธอ...




ฟังคำถามของเขาแล้ว สายฝนก็ถามตัวเองในใจ แล้วอะไรเล่าคือปัญหาทั้งหมด วัยของเขาใช่ไหม โลกนี้อะไรก็เปลี่ยนแปลงได้เสมอ ทั้งความรู้สึก ความคิด ฐานะ ความพร้อม หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง คือเขาจะยังเป็นเด็กกว่าเธอเสมอ เจ็ดแปดปีเชียวนะ ไม่ใช่ปีหรือสองปี

"คริส.."

"ถ้าผมไม่อยู่ที่นี่ ถ้าผมต้องไปจากที่นี่ คุณจะไปกับผมไหม" เขาถามติดตลกอย่างฝืดๆ

"ไปไหนล่ะ"

"ไปในที่ ที่มีแต่เรา ไปในที่ ที่คุณไม่ต้องแคร์คนรอบข้าง ว่าเขาจะมองอย่างไร"

".."

มีคนรักมากมาย ที่สามารถก้าวข้ามความต่างนี้ไปได้...แต่เขาและเธอ ยังไม่ใช่คนที่รักกันมากมายอย่างนั้น มีทางไหนบ้าง ที่เราจะสามารถก้าวข้ามความคิดนี้ไปได้ เราต้องรักกันใช่ไหม เราต้องรักกันให้มากกว่านี้ใช่ไหม

"คริส...เราไม่มีทางไปไหนพ้นหรอก ไม่ใช่คนรอบข้างหรอกที่เป็นปัญหา สำคัญที่ใจฉันต่างหาก ที่ยังยอมรับสิ่งนั้นไม่ได้"




คริสขว้างกระป๋องโค้กเปล่าๆ ลงไปในถังขยะที่วางอยู่ที่มุมห้องอย่างแม่นยำ หันมามองคนข้างๆ อย่างเต็มตา ฝ่ามือหยาบดึงมือเล็กเรียวมาเกาะเกี่ยวไว้

"มือคุณนุ่มมาก" เขาว่า

สายฝนมึนงงกับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างระทันหันของเขา "ไม่จริง ช่วงนี้ฉันทำไมหนัก มือหยาบเชียว" แล้วพยายามบิดมือออกอย่างอับอาย แต่เขาไม่ปล่อย

"ไม่เลย มือคุณนุ่มมาก แถมอุ่นอีกด้วย เชื่อไหม?" เขาถามระคนบอกเล่า " แค่ผมจับมือคุณไว้แบบนี้ ผมไม่รู้สึกหนาวเลย"

ว่าแล้วยกหลังมือของหญิงสาวขึ้นมาแนบแก้ม หญิงสาวรู้สึกถึงเคราจางๆ ที่วันนี้เขาคงไม่ได้โกนออก ความสากเล็กๆ ทิ่มแทงผิวหนังเบาๆ แต่เสียวซ่านทะลุทะลวงหัวใจ

"คริส..." สายฝนเรียก

"หลังมือของคุณ ให้ความรู้สึกยอดเยี่ยม" เขาเอียงหน้ามาหา แล้วจูบลงเบาๆ บนหลังมือนั้น สัมผัสอ่อนโยนของริมฝีปากเขา ทำให้ผิวหนังของเธอเห่อชา

"คุณรู้ไหม...คุณทำให้ผมรู้สึกอยากเป็นเด็กดี เป็นเด็กตัวเล็กๆ ให้คุณดูแล คอยหว่งใย ใส่ใจ ... แต่ในขณะเดียวกัน คุณก็ทำให้ผมอยากเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ร้ายๆ เอาแต่ใจ และแย่งทุกความสนใจของคุณมาที่ผมเพียงคนเดียว"

"คริส.." น้ำเสียงเรียกนั้นอ่อนหวาน สะท้านหวั่นไหว

คริสพลิกฝ่ามือ แล้วกดจูบหนักๆ ลงที่กลางฝ่ามือขาวสะอาดสะอ้าน "ผมชอบเวลาที่คุณเรียกชื่อผม มันทำให้ผมรู้สึกมีตัวตน และไร้ตัวตน"

"คริส..."

"ผมอยากให้คุณเรียกชื่อผมบ่อยๆ" เขาบอก

"คริส..."

"ผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่า ผมเด็กและอายุน้อยกว่าคุณ แต่ผมจะทำให้คุณรักผม จะพยายามทำให้คุณรักผมมากขึ้นเรื่อยๆ รักมากจนคุณสามารถมองข้ามความต่างนี้ไปให้ได้"


เขาจากไปแล้ว ลุกจากไปอย่างเงียบๆ เหมือนตอนที่เขาเดินเข้ามา เขาจากไปหลังจากที่ทิ้งประโยคนั้นไว้ให้หญิงสาวได้ครุ่นคิด และนอนหลับไปพร้อมๆ กับที่ประโยคนั้นยังฝังแน่นและตรึงตราในหัวใจ








ปล. ถึงฟี่...ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ มาแล้วค่ะ พยายามเค้นเอาคริสมาฝาก อาจจะไม่หวานมากช่วงนี้ แบบว่าจะเริ่มเข้าสู่ดราม่าแล้ว...แหะ แหะ เจ็บเล็กๆ ค่ะ เจ็บเล็กๆ เจ็บนิ๊ด..ด..ด..เดียว








Create Date : 10 สิงหาคม 2553
Last Update : 10 สิงหาคม 2553 6:50:12 น. 13 comments
Counter : 856 Pageviews.

 
สวัสดียามเช้าครับน้องแจง

พี่ก๋ารออ่านตอนรวมเป็นเล่มดีกว่าครับ
ชอบอ่านรวดเดียวเลย อิอิอิ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:8:21:58 น.  

 
มาเกาะขอบหน้าต่างบ้านสายฝนอ่ะ
รู้สึก "เฮ้อ" .. นิดนึงตอนนี้

แต่รู้ไหม แจงเลือกเขียนดราม่าแบบที่เราชอบเลย
ไม่งี่เง่า ไม่เข้าใจผิดไปเอง ไม่เลือกหลบหน้า
และ ไม่ต้องมีมือที่สามแบบร้าย ๆ 55++

เป็นฟีล..จัดการปัญหาระหว่างคน 2 คน
ที่เลือกคุยกันด้วยเหตุผล

สายฝนมีสิทธิหวั่นไหวไม่มั่นใจ ด้วยความต่างของอายุเป็นหลัก
แน่นอน ถ้าผู้หญิงอายุมากกว่าหลายปีแบบนี้
ในขณะที่คริส ไม่หวั่นในความต่างนั้นและมุ่งมั่นจะพิสูจน์
ก็นะ ต้องทำได้แน่ ๆ พระเอกนี่
แต่จะยังไง .. อันนี้รอชม ๆ ^^

อารมณ์ของสายฝนถ้าเป็นเราคงกำลังรู้สึกว่า
แม้จะรู้ว่าไม่อาจจับจูงมือของคริสไปได้ตลอดทาง
แต่ก็ไม่อยากปล่อยเลย .. ประมาณนี้ล่ะมั้ง ^^

แจงเอาฉากนี้มาใส่ในช่วงที่มันหวานกำลังดีนะ
ถ้าเลยจุดไปอาจจะหวานจนมันมากมายเกิน

แต่นี่ นอกจากดำเนินเรื่องรักหวาน ๆ ..เอาฟรานเข้ามา
ก็เหมาะเหม็งกับการถึงเวลาจัดการความสัมพันธ์
ที่ควรจะหาทางออกซะที

เฮ้อ .. เขียนเก่งจริง ๆ ((แอบอิจฉาเล็กน้อยถึงปานกลาง 55))

มันดูเป็นนิยายที่ใกล้ความเป็นจริงทีเดียว

ปล.1 แอบชอบฉากเช็ดผมให้ เป็นฉากในใจไม่ว่าใครเป็นคนเช็ดให้ใครก็ตาม
รู้สึกมันเป็นความใส่ใจห่วงใยที่น่ารักมาก ..

ปล.2 แอบยิ้มกับฉากที่คริสบอก แล้วไง วันนึงผมก็ต้องอายุ 26 อ่านแล้วรู้สึกว่า "คนเขียน" น่ารัก คิดได้ไง

ปล.3 ขอบคุณแจงเช่นกัน ที่เข็นทั้งคริสและสายฝนออกมาให้อ่าน มีความสุขมาก ๆ

** เม้นท์ยาวหน่อยนะจ๊ะวันนี้ ขออภัยไว้ล่วงหน้า ^^


โดย: Paulo วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:9:10:53 น.  

 

มนต์มยุเรศบทที่๑๔ เสร็จแล้วค่ะ อย่าลืม แวะไปทักทายกันนะคะ ดรสา
สร้างกริตเตอร์

คุณนิ สบายดีนะคะ ระลึกถึงเสมอนะคะ


โดย: ดรสา วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:9:25:08 น.  

 
อายุเป็นเพียงตัวเลข
คริสพูดขนาดนั่น ไม่ใจอ่อนหรอ
สงสารคริสจัง มะเดียวดูแลให้


โดย: sakeena IP: 124.120.92.123 วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:9:53:01 น.  

 
953/958

โหวตวันนี้วันสุดท้าย
แต่โหวตนี้ยังไม่ใช่โหวตสุดท้ายค่ะ อิอิ

บล๊อกแก๊งค์สู้ๆๆๆ คร่า


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:15:09:49 น.  

 
โหวตค่ะ

วันนี้วันสุดท้ายแล้ว ขอให้โชคดีค่ะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:16:31:36 น.  

 
งานตะพาบหนนี้ใช้เวลาห้านาที เลยวิ่งปัดเป่ค่ะน้องแจง
วิ่งวุ่นกับงานบล็อกซะหัวหมุนๆ

คืนนี้คงจะโค้งสุดท้าย
อะไรพร้อมๆกัน ชักจะมึนๆ อิ อิ
เมื่อตอนค่ำ ไฟฟ้าก็มาดับ เกาะสวาทหาดสวรรค์
ก็เลยล่มไม่เป็นท่า

ไว้ผ่านคืนนี้จะแวะมาอ่านให้จบนะคะ
เห็นคุณฟี่เม้นไว้ชักจะสนใจ


แอมอร



โดย: peeamp วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:18:36:49 น.  

 
อ้า...............
รู้จักบล็อกนิยายอีกบล็อกนึงแล้ว
ต้องหาเวลาว่างๆ มานั่งอ่านนิยายย้อนหลังซะแล้ว

ปล.ขอบคุณนะครับที่เดินทางไปฉี่หน้าบ้าน อุ้บ....ไปเยี่ยมไปเยือนกันถึงบล็อก แล้วจะเข้ามาอ่านนิยายรวบยอดนะครับ


โดย: แสง สีรุ้ง วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:18:37:58 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องแจง

วันนี้นอกจากได้อ่านงานแบบคร่าวๆ ผ่านๆ สำหรับ
บล็อกวันนี้แล้ว ก็ยังได้อ่านคำวิจารณ์และการพูดคุย
ของคุณฟี่อีกต่างหาก เรียกว่าได้หลายต่อเลยค่ะ

พี่เองอ่านเรื่องราวแบบเรื่องสั้น นิยายได้แบบว่าแล้วแต่อารมณ์
บางทีก็ชอบ บางทีก็ไม่ บางทีก็ขำ บางทีก็หวาน
เลยกลายเป็นคนหลากอารมณ์ มันก็ต้องระวังบ้างเหมือนกัน
เพราะอารมณ์บางอย่างผสมกันไปมา ทำให้เรา
อ่านแล้วไม่อินกับเรื่องเค้าไปซะ น่าเสียดาย และต้อง
ปรับปรุงนิสัยในการอ่านแบบเปิดใจให้มากๆ ค่ะ


ว่าแล้วหลายเรื่องเลยน๊ายังไม่ได้อ่าน อ้อ เกือบลืมค่ะ
น้องแจงเขียนงานแบบนี้ออกมา ตัวหนังสือเหมือนว่าเป็นของ
นักเขียนที่ดังๆ เดี๋ยวนี้เลยนะค่ะ ไม่ลองส่งงาน
ไปพิมพ์บ้างเหรอค่ะน้องแจง


โดย: JewNid วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:18:51:41 น.  

 
oh no can't take any pain ka...


โดย: Olathe IP: 71.199.69.216 วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:23:29:27 น.  

 


โดย: teansri วันที่: 11 สิงหาคม 2553 เวลา:5:39:30 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

สวัสดีวันฝนฉ่ำค่ะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นค่ะ พอดีชอบดูหนังแนวผจญภัยน่ะค่ะ
เลยติดอยู่ในหัวประกอบกับนิยายที่อ่านด้วย "มงกุฎดอกไม้แห่งอูรุค"
นี่เอามาจากหนังสือเรื่อง"ทรายนี้ยังมีรัก"ของคุณวรรณวรรธ์น่ะค่ะ


โดย: ท่านหญิงน่าเกลียด วันที่: 11 สิงหาคม 2553 เวลา:8:21:19 น.  

 
วันหยุดวันนี้
ปั่นนิยายอีกแล้วค่ะ

สักวันตูนต้องเขียนนิยายให้จบ
มาเป็นกำลังใจให้คุณแจงเขียนนิยายจบก่อนตูนนะคะ


โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 12 สิงหาคม 2553 เวลา:9:12:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nikanda
Location :
จันทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]




ลายปากกา









New Comments
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
10 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nikanda's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.