ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
22 กรกฏาคม 2555

รวบ 2นศ.ลิธัวเนียใส่หน้ากาก “เดอะแมส“ ใช้ ATM เก๊กดเงิน ทำ3วันได้นับแสน

รวบ 2นศ.ลิธัวเนียใส่หน้ากาก “เดอะแมส“ ใช้ ATM เก๊กดเงิน ทำ3วันได้นับแสน

ศปอช.ภ.จว.ชลบุรี แถลงรวบ 2 นักศึกษาชาวลิธัวเนียใส่หน้ากาก "เดอะแมส" ใช้บัตรปลอมไปกดเงินตู้เอทีเอ็ม 3 วันได้เงินไปนับแสน

วันที่ 21ก.ค.55 เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.2 , พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี , พ.ต.ท.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส รองผกก.ปป.สภ.บางละมุง , พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผกก.ปป.สภ.เมืองพัทยา , พ.ต.ท.ภาคสุวัฒน์ ชมถนอม สว.สส.สภ.ห้วยใหญ่ ช่วยราชการศูนย์ประสานงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ภ.จว.ชลบุรี หรือ ศปอช. พร้อมกำลังตำรวจ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายมาริอูส เคียดิอูนาส (Mr.Marius Giedriunas) อายุ 22 ปี กับ นายเดนคิส วาลคาอูสคัส(Mr.DangisValkauskas) อายุ 20 ปี สัญชาติลิธัวเนีย ผู้ต้องหาใช้บัตรเครดิตปลอม พร้อมของกลาง บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมมีแถบแม่เหล็กด้านหลัง คล้ายบัตรเอทีเอ็มจำนวน 30 ใบ หมวกแก๊ปสีดำ 2 ใบ หน้ากากพลาสติก 1 อัน และธนบัตรสกุลดอลล่าห์จำนวน 460 ดอลล่าห์

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอช.ภ.จว.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ว่า มีชาวต่างชาติใส่หน้ากากคล้ายกับในหนังเรื่อง "เดอะแมส หน้ากากเทวดา" นำบัตรเครดิตปลอมตระเวนถอนเงินตามตู้เอทีเอ็มของธนาคารในเขตเมืองพัทยา ภายหลังจึงนำกำลังออกสืบสวน

กระทั่งทราบว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้คือ นายมาริอูส กับนายเดนคิส ซึ่งเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศลิธัวเนีย และกำลังจะขึ้นรถทัวร์บริเวณแยกแกรนด์คอนโดมิเนียม ย่านชายหาดจอมเทียน เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อขึ้นเครื่องบินกลับประเทศ กำลังตำรวจจึงติดตามไปจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพว่า บัตรเครดิตปลอมดังกล่าวได้สั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตจากเอเย่นต์ในประเทศอังกฤษ ซึ่งข้อมูลในบัตรส่วนใหญ่จะเป็นของผู้เสียหายที่อยู่ในประเทศฝรั่งเศส จากนั้นจึงเดินทางจากประเทศลิธัวเนียนำมาตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็มในประเทศไทย

โดยในพื้นที่สัตหีบกดไปแล้ว 145 ครั้งแต่ไม่ได้เงิน ส่วนพื้นที่พัทยาและศรีราชา กดไปแล้วนับร้อยครั้ง ได้เงินไปประมาณ 10,000 ดอลล่าห์ หรือประมาณ 300,000 บาท ซึ่งในการกดแต่ละครั้งมักจะสวมหน้ากากพลาสติกและหมวก

เพื่อปิดบังอำพรางใบหน้า เมื่อได้เงินจะส่งกลับไปให้เพื่อนร่วมแก๊งในประเทศบ้านเกิด โดยตัวเองจะได้ส่วนแบ่ง 40% และเพิ่งเข้ามาก่อเหตุได้เพียง 3 วัน   

ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้นตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา "ทำบัตรอิเล็กโทรนิกส์ปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนใดส่วนหนึ่ง เติมหรือตัดทอนข้อความหรือแก้ไขด้วยประการใดๆ ในบัตรอิเล็กโทรนิกส์ที่แท้จริง ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งสิ่งใดๆ อันได้มาโดยรู้ว่าเป็นของที่ทำปลอมหรือแปลงขึ้น" ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



  • สนับสนุนเนื้อหา Spring News




Create Date : 22 กรกฎาคม 2555
Last Update : 22 กรกฎาคม 2555 10:19:44 น. 0 comments
Counter : 2055 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ข่าวดี
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]