เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าที่ลือกันมานานเท็จจริงอย่างไรไม่ทราบ หลายท่านก็คงได้ยินเรื่องนี้กันมาบ้างแล้ว ยังไงก็ฟังหูไว้หูแล้วกันนะคะ.....ส่วนตัวเจ้าของบล๊อกก็เคยได้ยินได้อ่านมาหลายหนแล้วแหละ ขนาดได้ยินได้อ่านมาหลายหนอย่างที่ว่า พอได้อ่านอีกครั้งยังอ่านไปขนลุกไปเลยแหละค่ะ...หลายคนบอกว่าบริเวณป้ายรถเมล์หน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ (งามวงศ์วาน) ตอนกลางคือนหลังจากห้างปิดแล้วเนี่ยผีดุเป็นบ้า ลือกันเป็นตุเป็นตะว่า เคยมีแท็กซี่หลายคันถูกผู้หญิงผมยาวเรียกจากหน้าห้างฯ ให้ไปส่งที่วัดสมรโกฏิ ถนนรัตนาธิเบศร์พอคนขับแท็กซี่ขับไปถึงหน้าวัดปรากฏว่าผู้โดยสารผู้หญิงผมยาวคนนั้นก็หายตัวไป เป็นที่เลื่องลือกันว่าผีที่หน้าห้างเดอะมอลล์งามวงศ์วานนี้คือหญิงสาวที่เคยใช้ที่จอดรถของห้างฯ เป็นที่ฆ่าตัวตาย จนปัจจุบันนี้ห้างฯได้ทำลวดตาข่ายมาอ๊อกปิดไว้หมดทุกด้านเพื่อป้องกันไม่ให้มีใครมาใช้เป็นสุสานอีกแต่ก็ยังไม่วายมีข่าวมาเรื่อย ๆ ว่ามีคนกระโดดตึกตายที่นี่เป็นประจำเรื่องข่าวลือนี้นายกล้าโชเฟอร์แท็กซี่ (มือใหม่) ที่เพิ่งมาหางานทำในกรุงเทพฯ ก็ได้ยินมาเหมือนกันแต่ความที่แกเป็นคนกล้าสมชื่อ แกจึงไม่เชื่อแล้วแกยังคงวนเวียนรับ-ส่งผู้โดยสารแถวงามวงศ์วานและใกล้เคียงเป็นประจำ เพราะรายได้ดีเนื่องจากแถวนี้ตอนดึก ๆ ไม่ค่อยมีแท็กซี่กล้าขับผ่านมา เรื่องของเรื่องคือมีอยู่วันหนึ่งดึกมากแล้ว นายกล้าขับรถผ่านหน้าห้างเดอะมอลล์ฯ ก็ปรากฏว่ามีผู้หญิงสาวสวยไว้ผมยาวสยาย ยืนโบกรถอยู่หน้าห้างฯ ฉับพลันที่เห็น นายกล้าก็นึกไปถึงเรื่องที่เพื่อน ๆ ชาวแท็กซี่โจษขานถึงขึ้นมาทันทีแต่ความที่แกเป็นคนกล้าประกอบกับผู้หญิงคนนั้นก็ดูว่าเป็นคนชัดๆ แกจึงจอดรถเข้าไปรับ พอหญิงสาวเปิดประตูรถ กลิ่นน้ำหอมฉุนกึกก็ปะทะจมูกของนายกล้าทันที"โชเฟอร์ ไปแถววัดธาตุทองนะ จะไปมั้ย?" หญิงสาวถาม"ไปครับผม" นายกล้าตอบ ในใจคิดว่าไม่ใช่วัดสมรโกฏิแบบที่ลือกันนี่หว่าหญิงสาวก้าวขึ้นนั่งที่เบาะหลังพร้อมกับบอกนายกล้าว่า ไปทางด่วนนะนายกล้ากดมิเตอร์แล้วออกรถขับตรงไปขึ้นทางด่วนงามวงศ์วาน กลางดึกเช่นนั้นทางด่วนเงียบสนิท นาน ๆ ถึงจะมีรถขับมาสักคันกลิ่นน้ำหอมของหญิงสาวยังเตะจมูกอยู่ บรรยากาศเงียบเชียบชวนอึดอัดถึงนายกล้าจะกล้าเพียงไรก็ตามแต่แกก็อดชำเลืองมองกระจกส่องหลังไม่ได้เมื่อเห็นหญิงสาวนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา แกก็เลยชวนคุยเพื่อทำลายบรรยากาศอันอึดอัดนี้"รอรถนานมั้ยครับ" นายกล้าถาม"นานสิ แท็กซี่หายไปไหนหมดไม่รู้" หญิงสาวพูดเรื่อย ๆ"ก็มีข่าวลือเรื่อง....เอ้อ เรื่องผีแถวนี้ดุสิครับเลยไม่ค่อยมีแท็กซี่คันไหนกล้าวิ่งแถวนี้" นายกล้าตัดสินใจพูดหยั่งเชิงเพื่อดูท่าทีหญิงสาวหญิงสาวหันขวับมามองนายกล้าทันที"มิน่าล่ะ เมื่อกี้ฉันเรียกตั้งหลายคันไม่มีใครจอดเลย แล้วนายไม่กลัวเหรอ? "หญิงสาวถามนายกล้ากลืนน้ำลาย "เอ้อ ไม่กลัวครับ""ก็ดี" หญิงสาวพูดพร้อมกับหันไปมองที่หน้าต่างนายกล้าขับรถต่อไปเรื่อย ๆ บรรยากาศกลับเงียบสงัดอีกครั้งเงียบจนนายกล้าได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเองเพียงคนเดียว! นายกล้าแหงนขึ้นไปมองกระจกส่องหลังเมื่อนึกขึ้นได้ทันใดนั้น! หัวใจของแกแทบจะหยุดเต้น......เมื่อเห็นภาพในกระจกเบาะหลังว่างเปล่าไม่มีแม้แต่เงาของผู้หญิงผมยาวที่นั่งคุยมาด้วยกันเมื่อกี้นี้เลย!'ship หายแล้ว ku เนี่ยเขาว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ โดนดีเข้าแล้วมั้ยล่ะ'นายกล้าคิดขณะที่กลิ่นน้ำหอมฉุน ๆ ของผู้หญิงสาวยังคงคลุ้งอยู่ในรถมือที่กำพวงมาลัยสั่นสะท้าน เหงื่อแตกพลั่กทั้งที่แอร์ในรถเย็นเฉียบขาของนายกล้าที่เหยียบคันเร่งชาจนแทบจะไม่รู้สึกแล้ว บทสวดมนต์กี่บท ๆ ที่นึกได้ นายกล้าท่องจนหมด กลิ่นน้ำหอมก็ไม่หายไปไหนยังลอยอบอวลคลุ้งอยู่ในรถแถมบางครั้งยังแรงขึ้นด้วยซ้ำไป มนต์บทแล้วบทเล่าที่นายกล้าท่องไม่ได้ทำให้กลิ่นน้ำหอมจางลงเลย นายกล้าแหงนขึ้นมองกระจกอีกครั้งเบาะหลังก็ยังว่างเปล่าอยู่ มีแต่กลิ่นน้ำหอมเท่านั้นที่บอกให้รู้ว่า "เธอ" ยังไม่ไปไหนนายกล้าเหยียบคันเร่งอย่างไม่คิดชีวิต ในใจก็อาราธนาพระดัง ๆ ทั่วเมืองไทยให้มาอยู่เป็นเพื่อนเขาใจอยากบึ่งไปให้ถึงวัดธาตุทองเร็วๆ เผื่อว่ากลิ่นน้ำหอมจะหายไปเพราะ "เธอ" คงต้องการไปลงที่นั่นจริง ๆ....โอ๊ย มาไกลเหลือเกินนะแม่คุณ.... นายกล้าคิดในใจขณะที่ยังคงเหยียบคันเร่งมิดนายกล้ามารู้สึกตัวอีกทีเมื่อรถมาติดไฟแดงตรงเชิงทางด่วนนายกล้าสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มที่ 3 ครั้งก่อนกลั้นใจแหงนหน้าขึ้นไปมองกระจกส่องหลัง และแล้วนายกล้าก็แทบจะหัวใจหยุดเต้นอีกครั้ง มือเท้าเย็นวาบแทบจะหมดแรงขนลุกซู่ทั้งตัว เหมือนใครเอาน้ำแข็งมาโปะต้นคอ ภาพที่ทำให้นายกล้าแทบช็อกก็คือหญิงสาวคนเดิมมาปรากฏตัวที่เบาะเหลังอีกครั้งแต่คราวนี้หน้าตาเธอเปลี่ยนไป!ใบหน้าของเธอมีเลือดไหลออกทางจมูกและปากนายกล้าตัดสินใจรวบรวมความกล้าอีกครั้ง เป็นไงเป็นกันวะ ไหน ๆ ก็ไหนๆแล้วจะถามให้รู้เรื่องกันไปว่า "เธอ" ต้องการอะไรกันแน่พอคิดได้ดังนั้นนายกล้าก็หันกลับไปเผชิญหน้ากับ "เธอ" ผู้นั้นก่อนที่จะถามเป็นคำถามแรกว่า "คุณเป็นอะไรตาย ?""ตายพ่อ ตายแม่ มึ_สิ" เสียงหญิงสาวคนนั้นตอบดังลั่นรถ"กูก้มลงไปแต่งหน้าหน่อยเดียว มึ_ทั้งเหยียบ ทั้งเบรคซะหน้าตากูแหกหมด แล้วยังเสือกมาถามอีกว่าเป็นอะไรตาย"Credit: ขอก๊อปเอามาจากเพื่อนที่เอามาแปะใน Facebookขอบคุณผู้เขียนเรื่องนี้มา ณ ทีนี้ด้วยค่ะ
กร๊ากกกกก หลอกให้นั่งเกร็งเป็นนานสองนาน คุณแหม่มนี่ ....