พัฒนาชีวิตด้วยปัญญา และความดี
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2560
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
11 ตุลาคม 2560
 
All Blogs
 
#จับหุ้นทำเงิน “ลงทุนรับเศรษฐกิจฟื้นตัว กับ หุ้น ADB หรือ บมจ.แอ็พพลาย ดีบี หนึ่งในผู้นำผลิตภัณฑ์กาว



#จับหุ้นทำเงิน “ลงทุนรับเศรษฐกิจฟื้นตัว กับ หุ้น ADB หรือ บมจ.แอ็พพลาย ดีบี หนึ่งในผู้นำผลิตภัณฑ์กาวและยาแนวและเม็ดพลาสติกคอมปาวด์”

แนวคิดการลงทุนในยุคนี้ สำหรับผมต้องขอบอกว่า … การเกาะไปกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยภาพรวม ถือเป็นแนวทางที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นที่ยิ่งเศรษฐกิจเติบโต ยิ่งต้องใช้สินค้าของเขามากๆ อย่างหุ้นที่ผมจะขอแนะนำในบทความนี้ก็คือ หุ้น ADB หรือ บมจ.แอ็พพลาย ดีบี ซึ่งกิจการของเขาถือเป็นผู้นำในผลิตภัณฑ์กาวอุตสาหกรรม ยาแนว และเม็ดพลาสติกคอมปาวด์ ที่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้แฝงตัวอยู่ในกิจวัตรประจำวันของเราแทบจะทุกอย่าง ส่วนความน่าสนใจจะเป็นอย่างไร … ติดตามได้จากบทความนี้เลย     

จากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศยักษ์ใหญ่ฝั่งอเมริกาและยุโรป เริ่มมีสัญญาณที่ค่อนข้างชัดเจน ทำให้เศรษฐกิจในหลายๆ ประเทศมีทิศทางการปรับตัวดีขึ้น และส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมและการผลิตมีแนวโน้มปรับตัวในเชิงบวกตามไปด้วย

แน่นอนว่าสินค้าที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมอย่างผลิตภัณฑ์ประเภทกาวและยาแนว รวมถึงเม็ดพลาสติก ย่อมได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และนั่นคือที่มาของหุ้น ADB หรือ บริษัท แอ็พพลาย ดีบี จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำผลิตภัณฑ์กาวและยาแนว และนวัตกรรมเม็ดพลาสติกคอมปาวด์ จะมีความน่าสนใจแค่ไหน ตามผมมาเลยครับ …

ลักษณะธุรกิจของ ADB

บริษัทฯ ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 2 กลุ่ม ได้แก่

  • กลุ่มผลิตภัณฑ์กาวและผลิตภัณฑ์ยาแนว (Adhesive and Sealant) ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์กาวชนิดต่างๆ เพื่อใช้ยึดติดวัสดุ และผลิตภัณฑ์ยาแนว โดยมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ เช่น แบรนด์ ADB DB SPARKO DAI-I-CHI และ OMAKU และรับจ้างผลิต (OEM) ให้เจ้าของตราสินค้าชั้นนำในระดับสากล
  • กลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ (Plastic compound) ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกพีวีซีแบบนิ่มและแบบแข็ง เส้นใยสังเคราะห์โพลีโพรพิลีน และเม็ดเทอร์โมพลาสติกอิลาสโตเมอร์ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีทีม R&D ที่อยู่ระหว่างวิจัยและพัฒนาเม็ดพลาสติกคอมปาวด์เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์ (Medical grade PVC compound) และเม็ดพลาสติกฮาโลเจนฟรีที่มีคุณสมบัติไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ที่เป็นสินค้านวัตกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูง

ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์จำหน่ายให้แก่ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ประเทศในกลุ่มอาเซียน ตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป และอเมริกา โดยการจำหน่ายโดยตรงให้แก่ลูกค้า และจำหน่ายผ่านผู้จัดจำหน่ายสินค้า (Distributor)

อะไรที่เป็นปัจจัยที่จะทำให้กิจการเติบโต

ADB มียอดขายจากทั้งสองกลุ่มผลิตภัณฑ์ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน โดยมีกลุ่มลูกค้าอยู่ในอุตสาหกรรมหลายประเภท อาทิ อุตสาหกรรมผลิตสายไฟฟ้า ผู้จัดจำหน่ายสินค้า รวมถึงอสังหาฯ และการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เรียกได้ว่า หากภาคอุตสาหกรรมโดยรวมมีแนวโน้มเติบโตขึ้น ก็จะดีต่อกิจการนั่นเองครับ ซึ่งโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC ที่รัฐบาลกำลังผลักดันให้เป็นรูปธรรม ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ดีสำหรับธุรกิจอย่างไม่ต้องสงสัย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจผลิตภัณฑ์กาวและยาแนวนั้น ชัดเจนว่าจะเติบโตตามอุตสาหกรรมอสังหาฯ และทุกๆ อุตสาหกรรมที่ต้องใช้กาวและยาแนว ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมรองเท้า อุตสาหกรรมยานยนต์ … ซึ่งผมคิดว่ามีแววที่จะเติบโตสูงเลยทีเดียว เนื่องจากเมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ภาคอสังหาฯ และการบริโภคในภาพรวมก็จะฟื้นตัวตามไปด้วย และแน่นอนว่าจะต้องใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับการใช้เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ไปทำสายไฟฟ้า จากแผนโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าและสายสื่อสารโทรคมนาคมแบบสายอากาศเป็นระบบสายใต้ดินในพื้นที่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจในอีก 10 ปีข้างหน้า (ปี 2559 – 2568) จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงความต้องการด้านคุณสมบัติของสายไฟฟ้า สายเคเบิ้ล และสายสื่อสารโทรคมนาคมที่จะนำมาใช้ โดยทั้งนี้ บริษัทฯ ก็มีสินค้ารองรับความต้องการในส่วนนี้ไว้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ ยังมีการลงทุนปรับปรุงและพัฒนาเครื่องจักร (upgrade) และใช้เงินลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถผลิตสินค้าต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงในอนาคต เรียกว่าเตรียมความพร้อมไว้แล้วนั่นเอง

สรุปง่ายๆ ว่า ปัจจัยที่จะทำให้เติบโต ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยภาพรวม การบริโภคที่สูงขึ้น และอีกอย่างก็คือ หากกิจการสามารถลดต้นทุน เพิ่มอัตรากำไรสุทธิในบรรทัดสุดท้ายได้ จะเป็นแรงส่งให้หุ้นเติบโตได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

รายได้ และอัตรากำไรของบริษัทฯ

สรุปผลการดำเนินงานที่สำคัญ ปี 2557 ปี 2558 ปี 2559 
1.    รายได้จากการขายกลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ 686.96 712.08 725.83
2.    รายได้จากการขายกลุ่มผลิตภัณฑ์กาวและผลิตภัณฑ์ยาแนว 710.05 722.3 685.95
รายได้จากการขาย (ล้านบาท)  1,397.01 1,434.38 1,411.78
อัตรากำไรขั้นต้น (ร้อยละ) 14.14 18.11 20.27
อัตรากำไรสุทธิ (ร้อยละ) 1.83 2.36 5.30

กำไรขั้นต้น ปี 2557 ปี 2558 ปี 2559
ล้านบาท ร้อยละ ล้านบาท ร้อยละ ล้านบาท ร้อยละ
1.    กำไรขั้นต้นกลุ่มผลิตภัณฑ์กาวและผลิตภัณฑ์ยาแนว 104.28 52.80 160.48 61.77 188.19 65.76
2.    กำไรขั้นต้นกลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ 93.24 47.20 99.30 38.23 98.01 34.24
กำไรขั้นต้นรวม 197.52 100 259.79 100 286.19 100
1.    อัตรากำไรขั้นต้นกลุ่มผลิตภัณฑ์กาวและผลิตภัณฑ์ยาแนว (ร้อยละ) 14.69 22.22 27.43
2.    อัตรากำไรขั้นต้นกลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ (ร้อยละ) 13.57 13.95 13.50
อัตรากำไรขั้นต้นรวม (ร้อยละ) 14.14 18.11 20.27

มาดููรายได้ของบริษัทฯ กันจะพบว่าอยู่ที่ประมาณ 1,400 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเติบโตค่อนข้างดี ซึ่งจะเห็นได้ว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์กาวและผลิตภัณฑ์ยาแนวเป็นกลุ่มผลิตที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงและเติบโตดีมาก

โดยทั้งนี้ บริษัทฯ มีการวางแผนและจัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการในอนาคตเพื่อสนับสนุนการขยายตัวให้แก่สินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์กาวและผลิตภัณฑ์ยาแนวซึ่งเป็นสินค้าซึ่งสร้างผลกำไรที่น่าสนให้แก่บริษัทฯ ซึ่งจะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างกำไรให้แก่บริษัทฯ มากขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเน้นกลยุทธ์ด้านการออกแบบและพัฒนาสินค้าให้ตรงต่อความต้องการของลูกค้าโดยบริษัทฯ มีทีม R&D ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มากกว่า 12 ปีซึ่งเข้าไปมีส่วนร่วมกับลูกค้าในการออกแบบพัฒนาสินค้าต่างๆ ให้ตรงต่อลักษณะการใช้งานมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทฯ ยังมีแผนการวิจัยและพัฒนาสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ เช่น เม็ดพลาสติกพีวีซีเพื่ออุตสาหกรรมการแพทย์ (Medical grade PVC compound) และเม็ดพลาสติกฮาโลเจนฟรี (Halogen free compound) เพื่อสร้างทางเลือกให้แก่ลูกค้า และเป็นการสร้างรายได้และผลกำไรที่ดีให้แก่บริษัทฯ ในอนาคตอีกด้วย

ตรวจสุขภาพทางการเงินกันหน่อย

สรุปฐานะทางการเงินที่สำคัญ 31 ธันวาคม 2557 31 ธันวาคม 2558 31 ธันวาคม 2559
สินทรัพย์รวม (ล้านบาท) 885.38 948.10 1,072.39
หนี้สินรวม (ล้านบาท) 639.98 675.22 774.82
ส่วนของผู้ถือหุ้น (ล้านบาท) 245.40 272.88 297.57
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า) 2.61 2.47 2.60
อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ร้อยละ) 2.82 3.76 7.49
อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ร้อยละ) 11.45 13.31 26.54

สุขภาพทางการเงิน หรือตรวจงบดุลของกิจการถือว่าผ่านฉลุยครับ โดยปี 2559 ADB มีสินทรัพย์สุทธิรวม 1,072 ล้านบาท และเติบโตขึ้นทุกปี ในขณะที่หนี้สินโตช้ากว่าสินทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันมีหนี้สินเพียง 774 ล้านบาท และหนี้สินบางส่วนอาจเป็นหนี้สินทางการค้าอีกด้วย

สำหรับส่วนของผู้ถือหุ้นก็เติบโตตามสินทรัพย์ที่โตขึ้น ในปีล่าสุดมีส่วนของผู้ถือหุ้นเกือบ 300 ล้านบาท แต่สิ่งที่ต้องติดตามก็คือ หนี้สินต่อทุนค่อนข้างสูงถึง 2.6 เท่า ซึ่งหากได้เงินจากการนำหุ้นเข้าตลาด หนี้สินต่อทุนจะลดลงไปเอง ที่สำคัญอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นสูงถึง 26.54% ในปีล่าสุด

จำนวนหุ้นที่เสนอขาย          

สำหรับจำนวนหุ้นที่เสนอขายมีทั้งหมด 180,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 30.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้

มูลค่าที่ตราไว้ (par) 0.50 บาทต่อหุ้น มูลค่าตามราคาบัญชี  (Book value) 0.71 บาทต่อหุ้น ซึ่งคำนวณจากส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 ซึ่งเท่ากับ 297.57 ล้านบาท และหารด้วยจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ก่อนการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้จำนวน 420,000,000 หุ้น

ข้อสรุปหุ้น ADB

สำหรับข้อสรุปของหุ้น ADB ก็คือ หุ้นตัวนี้มีแนวโน้มเติบโต และจะเติบโตไปกับเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงตลาดต่างประเทศที่เริ่มฟื้นตัว เนื่องจากเป็นสินค้าที่นำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่แฝงอยู่ในการใช้ชีวิตประจำวันของเรา หรือใช้ในงานก่อสร้าง โดยการเติบโตจะมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภาพใหญ่ รวมทั้งการที่บริษัทฯ มีทีม R&D ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านการผลิตซึ่งทำให้บริษัทฯ สามารถผลิตสินค้าที่หลากหลายและสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้เสมอในอนาคต

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องติดตามก็คือคู่แข่งในตลาด และเศรษฐกิจจะฟื้นตัวดีหรือไม่ อย่างไร ซึ่งถ้าราคาหุ้นไม่แพงจนเกินไป ก็ถือว่าเป็นหุ้นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ

ใครยังอ่านข้อมูลไม่จุใจ เข้าไปติดตามข้อมูลของกิจการเพิ่มได้ที่นี่ครับ https://www.adb.co.th/

การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้เขียนเพียงให้ข้อมูล ไม่รับผิดชอบต่อผลการลงทุนของท่านในทุกกรณีนะครับ

#นายแว่นลงทุน

[เกี่ยวกับผู้เขียน]

นายแว่นธรรมดา stand top of living“นายแว่นธรรมดา” หนึ่งในกูรูหุ้น FINOMENA และผู้ก่อตั้ง //www.topofliving.com ผู้เขียนหนังสือ “ลงทุนหุ้นโตเร็ว” และหนังสือขายดี “กลยุทธุ์จับจังหวะลงทุนหุ้น” ปัจจุบันเป็นนักลงทุนอิสระ นักเขียนอิสระ ขอถ่ายทอดความรู้ด้านการลงทุน เผื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ

ติดต่อนายแว่นธรรมดาได้ที่นี่ครับ  naiwaentammada@gmail.com

Top Banner




Create Date : 11 ตุลาคม 2560
Last Update : 11 ตุลาคม 2560 10:06:23 น. 0 comments
Counter : 1664 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ตี๋2555
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [?]




สวัสดีครับผม "นายแว่นธรรมดา" ผู้เขียนหนังสือขายดี "รวยหุ้นแบบ VI ไม่เสี่ยง" หนังสือ "หุ้น 5 พารวย" และเป็นผู้ก่อตั้ง http://www.naiwaen.com เว็บไซค์การลงทุนในหุ้น กองทุนรวม และ Money Market อีกมากมาย
และ http://www.topofliving.com เว็บไซค์เกี่ยวกับการเลือกซื้อบ้านหลังแรก การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยนิยามส่วนตัวก็คือ ทำให้ความมั่งคั่ง กลายเป็นเรื่อง "สนุก"
หากต้องการข้อมูลข่าวสารการลงทุนอย่างรวดเร็ว และเชื่อถือได้ แวะไปกด LIKE ที่นี่นะครับ https://www.facebook.com/NaiwaenTammada

ผมยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนๆ นักลงทุนทุกท่าน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ
Free counters!
New Comments
Friends' blogs
[Add ตี๋2555's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.