#จับหุ้นทำเงิน “หุ้น #PRM พริมา มารีน ธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บน้ำมันและปิโตรเคมีเหลว กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก”

หากพูดถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แล้วธุรกิจอะไรจะได้รับประโยชน์? … สิ่งที่ผมนึกออกทันทีก็คือ อุตสาหกรรมน้ำมันและปิโตรเคมี ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแทบทุกประเภททั่วโลก โดยธุรกิจของ ‘เรือขนส่งน้ำมัน’ ที่เป็นส่วนสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมนี้ จึงได้รับประโยชน์และมีทิศทางที่เติบโตตามไปด้วยครับ

ผลิตภัณฑ์น้ำมันดิบประเภทต่างๆ ตลอดจนผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับโลกใบนี้ ลองนึกภาพดูนะครับว่าหากเราไม่มีน้ำมันใช้จะเกิดอะไรขึ้น (ไม่อยากจะคิดเลย) … วันนี้ผมจึงขอนำเสนอ บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) ที่เป็นหุ้นน้องใหม่ IPO หรือชื่อย่อคือ PRM มาลอกเปลือกเลือกแต่แก่นให้ศึกษากัน

ลักษณะกิจการของ PRM

ธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ประกอบด้วย 4 ธุรกิจหลัก ดังต่อไปนี้

1. ธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์น้ำมันกึ่งสำเร็จรูปและปิโตรเคมีเหลว (“ธุรกิจเรือขนส่งฯ”)

ให้บริการลูกค้าที่ทำธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ เพื่อขนส่งสินค้าไปสู่ปลายทางที่ลูกค้ากำหนด โดยจะต้องให้ความสำคัญต่อความปลอดภัย (Safety & Security) อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม การควบคุมคุณภาพสินค้าตามที่ลูกค้ากำหนด โดยไม่ให้มีการปนเปื้อน (Zero Contamination) และไม่ให้คุณสมบัติทางเคมีของสินค้าที่ขนส่งเปลี่ยนแปลง รวมถึงการขนส่งที่ตรงต่อเวลา (Punctuality)

2. ธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บน้ำมันดิบ และผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป (Floating Storage Unit, FSU) (“ธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บ FSU”)

ให้บริการขนส่งและจัดเก็บสินค้าแบบลอยน้ำ (Floating Storage Unit) โดยใช้เรือที่มีถังจัดเก็บสินค้าขนาดใหญ่เป็นสถานที่จัดเก็บ ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีหน้าที่ในการเก็บรักษาสินค้าของลูกค้าให้ยังคงคุณภาพ คุณสมบัติ และปริมาณตามที่ลูกค้ากำหนดในระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ และให้บริการผสมน้ำมัน (Blending) บนเรือตามเกรดน้ำมันที่ลูกค้าต้องการเพื่อกระจายสินค้าต่อให้แก่ลูกค้ารายอื่นในภูมิภาค

3. ธุรกิจเรือขนส่งและสนับสนุนปฏิบัติการทางทะเล (Offshore Support Vessel) (“ธุรกิจเรือ Offshore”)

ให้บริการเรือสนับสนุนปฏิบัติการทางทะเลแก่ลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทสำรวจและขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล โดยมีธุรกิจที่ให้บริการ ได้แก่ ธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บน้ำมันดิบสำหรับแท่นขุดเจาะน้ำมัน (Floating Storage and Offloading Unit, FSO) ธุรกิจเรือขนส่งและที่พักอาศัยสำหรับพนักงานประจำแท่นขุดเจาะน้ำมัน (Accommodation Work Barge, AWB) และธุรกิจเรือสนับสนุนลากจูง การจัดการสมอ (Anchor Handling Tug, AHTs)

4. ธุรกิจบริหารจัดการเรือ (Ship Management) (“ธุรกิจบริหารเรือ”)

เป็นส่วนสำคัญของการดำเนินธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทฯ โดยมีขอบเขตงานหลัก เช่น การบังคับและควบคุมการเดินเรือ การจัดหาคนประจำเรือ (Crew) การบำรุงรักษาเรือ การดำเนินการด้านใบอนุญาตและเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการ เป็นต้น

จากลักษณะธุรกิจของ PRM จะเห็นว่าเป็นธุรกิจที่เชื่อมต่อห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมน้ำมันและปิโตรเคมีที่จำเป็นอย่างยิ่งให้กับโลกใบนี้ รวมทั้งประเทศไทยของเรา นั่นก็คือ น้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์น้ำมันกึ่งสำเร็จรูป และปิโตรเคมีเหลว แถมยังทำกิจการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกันอีกด้วยครับ

โครงสร้างรายได้และการเติบโตของ PRM

โครงสร้างรายได้ของ PRM นั้นมีแหล่งรายได้ทั้งหมด 4 ส่วน นั่นคือ รายได้จากธุรกิจเรือขนส่งฯ, รายได้จากธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บ FSU, รายได้จากธุรกิจเรือ Offshore และรายได้จากธุรกิจบริหารเรือ

การเติบโตของรายได้ ต้องบอกว่า “เติบโตอย่างต่อเนื่อง” จากกราฟนับตั้งแต่ปี 2557 มาถึงปัจจุบัน โดยในปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้ 4.3 พันล้านบาท เติบโตจากปี 2557 ที่มีรายได้ประมาณ 3. 5พันล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากรายได้ของธุรกิจเรือขนส่งฯ และธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บ FSU เป็นหลัก

ตรวจสุขภาพทางการเงิน (ฐานะทางการเงิน)

สำหรับสุขภาพทางการเงินของ PRM ถือว่าแข็งแรง โดยจากข้อมูลล่าสุด ณ สิ้นปี 2559 มีสินทรัพย์ประมาณ 8.4 พันล้านบาท ในส่วนของหนี้สินปัจจุบันมีอยู่ 5.7 พันล้านบาท ทำให้มีส่วนของผู้ถือหุ้น 2.7 พันล้านบาท … สิ่งที่อยากให้สังเกตก็คือ ส่วนของผู้ถือหุ้นโตขึ้นมากจากปี 2557 ที่มีแค่ 1.4 พันล้าน นั่นเป็นเพราะสินทรัพย์ของ PRM มีมากขึ้น ในขณะที่หนี้สินโตช้ากว่านั่นเองครับ

ในส่วนของความสามารถการทำกำไรนั้น PRM ยังคงทำได้ดี ในปี 2557 สามารถทำกำไรสุทธิได้ 701.4 ล้านบาท ปี 2558 ทำได้ 831.2 พันล้านบาท และปี 2559 ทำได้ 1,202.2 พันล้านบาท เรียกว่ากำไรโตต่อเนื่อง … ผมอยากจะบอกว่า รายได้โต กำไรโต และปันผลก็จะโตตามไปด้วยนั่นเอง

ข้อสรุปของ PRM

สำหรับหุ้น พริมา มารีน หรือ PRM นั้น ถ้าเราดูโครงสร้างรายได้ ต้องยอมรับว่ามีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด และในส่วนของกำไรก็เช่นกัน อาจเป็นเพราะกิจการขนส่งและจัดเก็บน้ำมันและปิโตรเคมีเหลว เป็นเรื่องจำเป็นและขาดไม่ได้ในโลกเศรษฐกิจในปัจจุบัน … บางคนอาจคิดว่ากิจการเดินเรือเป็นหุ้นวัฏจักร แต่ผมมองว่า ต้องดูว่าสิ่งที่ขนส่งนั้นเป็นสินค้าจำเป็นตลอดเวลา หรือแค่ชั่วครั้งชั่วคราวนะครับ

โดยรายละเอียดของการเสนอขายหุ้น มีจำนวนหุ้นที่เสนอขายไม่เกิน 650,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนในครั้งนี้ โดยแบ่งเป็น

1)         หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) จำนวนหุ้นที่เสนอขายไม่เกิน 500,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 20.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายครั้งนี้

2)         หุ้นสามัญเดิมเสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม คือ Austin Asset Limited และ บริษัท นทลิน จำกัด จำนวนหุ้นที่เสนอขาย 105,000,000 หุ้น และ 45,000,000 หุ้น ตามลำดับ คิดเป็นร้อยละ 4.20 และร้อยละ 1.80 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายครั้งนี้ ตามลำดับ รวมทั้งหมด 150,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 6.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายครั้งนี้

ส่วนราคาหุ้นที่จะเสนอขายคงต้องตามลุ้นกันครับ ถ้าราคาไม่แรงมากเกินไปผมคิดว่าหุ้นตัวนี้น่าสนใจมากทีเดียวเลยล่ะครับ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม //investor.primamarine.co.th/ipo/

(นายแว่นลงทุน)