พัฒนาชีวิตด้วยปัญญา และความดี
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
4 ธันวาคม 2558
 
All Blogs
 
เจาะหุ้นวีไอไม่เสี่ยง : เจาะประเด็นการควบรวมกิจการ BECL และ BMCL

ประเด็นการควบรวมกิจการ BECL และ BMCL

บทนำ

ใกล้ควบรวมกันเต็มทีแล้วระหว่า BMCL (รถไฟฟ้าใต้ดิน) กับ BECL (ทางด่วนกรุงเทพฯ) หลายคนอาจจะยังสับสนว่าควบรวมแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ดีอย่างไร? หรือจะเสียมากกว่าดี? จากที่นายแว่นธรรมดาได้ติดตามหุ้นตัวนี้กิจการทำนองนี้มาโดยตลอด พบว่า... รถไฟฟ้าในเมืองน่าจะเป็น เมกะเทรนด์ อย่างไม่ต้องสงสัย... หากเราไปดูเมืองใหญ่ๆ ในต่างประเทศ ที่มีสายการเดินรถไฟฟ้าใต้ดินกระจายไปทั่วเมือง ผู้คนต่างเดินทางด้วยรถไฟฟ้ากว่า 50% ของประชากรเมือง อย่างในกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่นที่มีประชากรกว่า 33 ล้านคน ก็ใช้รถไฟฟ้าไปกว่า 15 ล้านเที่ยวต่อวันเข้าไปแล้ว

จากการที่ผมเคยไปดูงาน ณ.กรุงโตเกียว พบว่าภายในระบบของรถไฟฟ้าใต้ดินมีตั้งแต่ร้านอาหาร ธนาคาร ไปรษณีย์ ฯลฯ เรียกว่า “มาเต็ม” ไม่ผิดอะไรกับห้างสรรพสินค้าย่อมๆ เมื่อเรามองเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ นักลงทุนควรเตรียมความพร้อมที่จะ “เกาะขบวน” รถไฟฟ้าสายนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้วงที่หุ้นตกแบบนี้ อาจถือเป็นโอกาสเก็บหุ้น แต่รายละเอียดต้องไม่ตกหล่นเช่นกัน ติดตามได้จากบทความนี้เลยดีกว่าครับ

BMCL

คำแนะนำของบริษัทหลักทรัพย์

นายแว่นธรรมดาได้นำ Tim Line การควบรวมกิจการทั้งสองมาพิจารณา และพบว่าหุ้นตัวใหม่ หรือ BEM สามารถเริ่มต้นการซื้อขาย หรือ Trading ได้ภายในต้นปีหน้าเป็นอย่างเร็ว แน่นอนที่สุดว่าอย่างช้าก็อาจเป็นเดือนเมษายนปีหน้า (เผื่อใจไว้บ้างก็ดีครับ) ด้วยความวุ่นวายของเอกสาร ระบบเอกชน ระบบราชการ ทำให้การควบรวมติดขัดไปบ้าง แต่ผมยังคงเชื่อมั่นว่าจะควบรวมได้สำเร็จ สำหรับคำแนะนำของบริษัทหลักทรัพย์ แน่นอนที่สุดว่าแนะนำให้ “ซื้อ” [ถ้าไม่เข้า ครม นัดหน้า 8/12/2558 ตามข่าวก็เลื่อนไปปีหน้าไม่เกิน 1/4/2559]

BEM

(ขอบคุณภาพจาก TISCO)

ข้อกังวลต่างๆ ของนักลงทุนกับหุ้นตัวใหม่

จากความไม่ชัดเจนของการควบรวมทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจ หรือหวั่นไหว แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดครับ นักลงทุนยังกังวลเรื่องของค่าใช้จ่ายสัปทานที่จะเพิ่มขึ้นทุกปี และค่าส่วนแบ่งจากยอดขายที่ต้องจ่ายให้กับรัฐอีก เพื่อความกระจ่าง เรามาดูกันทีละประเด็นดีกว่า

ตารางสัปทาน BMCL

จากตารางเราพบว่าการจ่ายค่าสัปทานจะเริ่มปีที่ 11 ซึ่งได้เริ่มเก็บแล้วในปี 2558 นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ BMCL ขาดทุนในไตรมาสล่าสุด แต่มันไม่ใช่ทั้งหมด เพราะ BMCL ยังต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้ต่อปีให้กับรัฐอีกด้วย ราว 1-5% และในช่วง 5 ปีสุดท้ายต้องจ่ายสูงกว่า 15% ของรายได้ค่าตั๋วโดยสารที่เก็บได้

มุมมองของผมก็คือ ค่าสัปทานมีผลกระทบค่อนข้างน้อยในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ เนื่องจากในปี 2559 รถไฟฟ้าสายสีม่วง (รถไฟฟ้าบนดิน) จะเริ่มเปิดดำเนินการ ทำให้บริษัทใหม่มีรายได้จากการรับจ้างเดินรถสายสีม่วงเป็นรายได้ค่อนข้างจะคงที่ และจะช่วยชดเชยรายจ่ายจากค่าสัปทานได้ แต่ผลกระทบจะเริ่มมากขึ้นในช่วงต่อจากนั้น หากจำนวนผู้โดยสารเติบโตได้ทันก็จะชดเชยรายจ่ายจากสัปทานได้เช่นกันครับ

ในส่วนของส่วนแบ่งรายได้ที่ต้องจ่ายให้กับรัฐยิ่งมีผลกระทบน้อย เนื่องจากคิดเพียง 1-5% เท่านั้น สำหรับผมแล้วไม่ถือว่าเป็นประเด็นที่ทำให้รู้สึกกังวลใจแต่อย่างใด ... ในส่วนของสัปทานทางด่วนที่จะหมดอายุภายใน 5 ปีต่อจากนี้ มุมมองส่วนตัวของผมคิดว่าคงได้ต่ออายุไปครับ ให้เจ้าเดิมดูแลก็เรียบร้อยดีอยู่แล้ว และผู้ประกอบการคงไม่อยากให้หลุดมือไปง่ายๆ แต่คงต้องพิจารณากันอีกทีเมื่อเวลาที่ต้องต่ออายุมาถึง

สำหรับหุ้นตัวใหม่ BEM นั้น ในมุมมองของผมยังมีสินทรัพย์แฝงที่รอการปลดล็อก

สินทรัพย์แฝงที่รอกับ “ปลดล็อก”

สำหรับหุ้นตัวใหม่ BEM นั้น ในมุมมองของผมยังมีสินทรัพย์แฝงที่รอการปลดล็อก ได้แก่ สัญญาสัปทานการเดินรถที่ต้องรอข้อกฏหมายว่าสามารถทำได้เหมือนกับ BTS ทำ BTSGIF หรือไม่ ยังมีสัปทานทางด่วนที่มีมูลค่าสูงอาจจะนำมาทำกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานก็ได้ และยังมีหุ้นดูแลโฆษณา พื้นที่เช่าในระบบ หรือ BMN ที่ยังรอคลอดออกมาเป็นหุ้นใหม่ เหมือนที่ BTS คลอด VGI ออกมา

ในความเห็นของหลายท่านเข้าใจว่า... อนาคตเมื่อควบรวมกันแล้วน่าจะเป็นกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ใหญ่พอสมควร อันได้แก่ CKP ไชยบุรี TTW กิจการน้ำประปาไทย และ BEM  กิจการรถไฟฟ้า-ทางด่วน ซึ่งจะช่วยพัฒนา infra-structure ของประเทศไทยในอนาคตได้ดีทีเดียว นอกจากนั้นบริษัทลูกที่รอการเติบโตและเข้าตลาด คือ BMN ซึ่งน่าจะ generate รายได้อีกทางหนึ่งรวมถึง พื้นที่ว่างเปล่าจำนวนมากที่รอเวลาในการพัฒนาเมื่อโอกาสมาถึง...อย่างที่ผมไปเห็นการเติบโตที่ต่างประเทศ และรถไฟฟ้ากลายเป็นการคมนาคมหลักของคนเมือง ช่วยลดปัญหาการจราจร และประหยัดเวลาในการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ คงต้องติดตามดูต่อไป

อย่างไรก็ตามการควบรวมครั้งนี้น่าจะสร้างประโยชน์ทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน การรวมกันจะทำให้มีเงินลงทุนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสการลงทุนและการเติบโต ดีกว่ามีเงินลงทุนแต่ขาดโอกาส อีกทั้งการปรับขึ้นค่าทางด่วนเป็นไปอย่างจำกัดนั่นเอง

[ข้อคิดเห็นของนายแว่นธรรมดา]

ส่วนตัวผมคิดว่าการรวมกันในครั้งนี้จะสร้างประโยชน์ให้กับบริษัทใหม่เป็นอย่างมาก ผมเห็นอนาคตของบริษัทไม่ใช่แค่ปีหรือสองปีเท่านั้น ผู้คนจะเข้ามาใช้บริการมากขึ้นทุกๆ วัน สายการเดินรถที่เพิ่มขึ้นจะทำให้บริษัทเติบโตอย่างที่หลายคนอาจคิดไม่ถึง... มีคนบอกว่าสองบริษัทนี้มีหนี้สินเยอะ แต่ผมเข้าใจว่ามันคือหนี้สินของการลงทุน ผิดกับหุ้นซิ่งบางบริษัท ที่มีแต่หนี้ โครงการก็ลอยๆ ไม่รู้จะทำจริงหรือไม่ แต่ราคาไปไกลถึงดาวอังคารกันแล้ว...

หุ้นดีๆ โครงการเห็นๆ แบบนี้ ใครไม่เห็นแบบผม อดทนรอไม่ได้ต้องข้ามไปนะครับ...

อ่านทั้งหมดของหุ้นรถไฟฟ้า คลิ๊กที่นี่เลยครับ

#ลงทุนหุ้นให้โตเร็ว : ปัญหาของนักลงทุนหุ้นโตเร็วก็คือ มองหุ้นโตเร็วไม่ออก มองภาพใหญ่ไม่ชัดเจน และจัดพอร์ตไม่เป็น ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปหากคุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้ "ลงทุนหุ้นให้โตเร็ว" ติดตามได้ที่นี่เลยครับ

[เกี่ยวกับผู้เขียน]
นายแว่นธรรมดา stand top of livingนายแว่นธรรมดา ผู้แต่งหนังสือขายดี  "รวยหุ้นวีไอไม่เสี่ยง" และหนังสือ "ลงทุนคอนโดไม่ยาก" และผู้ก่อตั้งเว็บ //www.naiwaen.com และ //www.topofliving.com ผมขออาสาถ่ายทอดประสบการณ์ด้านการลงทุนในหุ้น และอสังหาริมทรัพย์ให้เพื่อนๆ นักลงทุนทุกท่านได้อ่านแบบเข้าใจง่าย ติดตามกันให้ได้นะครับ

คำเตือน การวิเคราะห์หุ้น การลงทุนรูปแบบต่างๆ และเทคนิคการลงทุนในหุ้นเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร ผู้เขียนบทความไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยง หรือความเสียหายในการลงทุนของผู้รับข้อมูลนะครับ

#ช่องทางการติดตามข้อมูล #นายแว่นธรรมดา

สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการติดตามข้อมูล โดยเฉพาะสมาชิกเว็บ www.naiwaen.com ท่านสามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ naiwaentammada@gmail.com

หรือเข้าไปติดตามบทความในรูปแบบคลิ๊ปเสียงที่ https://www.youtube.com/channel/UCcQxvgiObaaA2DI3UOqrXZw

เพื่อนๆ ยังสามารถเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหวใหม่ล่าสุดที่บล็อกพันทิป //www.bloggang.com/mainblog.php?id=naiwaentammada(ปัจจุบันมียอดเพจวิวกว่า 3.1 ล้านวิว)

หรือยังไม่จุใจท่านยังสามารถเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนกันที่นี่ครับ https://plus.google.com/u/0/118319315169248364407

สำหรับเรื่องราวของอสังหาริมทรัพย์... เพื่อนๆ สามารถเข้าไปหาข้อมูลที่ต้องการได้ที่นี่ www.topofliving.com

และเตรียมพบกับเว็บบอร์ดคุยเรื่องหุ้นเร็วๆ นี้นะครับ

ยินดีต้อนรับทุกท่าน อีโมติคอน grin
สำหรับ "นายแว่นธรรมดา" แล้วเราจะทำให้เพื่อนๆ ทุกท่าน

"มีชีวิตที่ง่าย และดี"




Create Date : 04 ธันวาคม 2558
Last Update : 4 ธันวาคม 2558 9:04:00 น. 0 comments
Counter : 940 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ตี๋2555
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [?]




สวัสดีครับผม "นายแว่นธรรมดา" ผู้เขียนหนังสือขายดี "รวยหุ้นแบบ VI ไม่เสี่ยง" หนังสือ "หุ้น 5 พารวย" และเป็นผู้ก่อตั้ง http://www.naiwaen.com เว็บไซค์การลงทุนในหุ้น กองทุนรวม และ Money Market อีกมากมาย
และ http://www.topofliving.com เว็บไซค์เกี่ยวกับการเลือกซื้อบ้านหลังแรก การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยนิยามส่วนตัวก็คือ ทำให้ความมั่งคั่ง กลายเป็นเรื่อง "สนุก"
หากต้องการข้อมูลข่าวสารการลงทุนอย่างรวดเร็ว และเชื่อถือได้ แวะไปกด LIKE ที่นี่นะครับ https://www.facebook.com/NaiwaenTammada

ผมยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนๆ นักลงทุนทุกท่าน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ
Free counters!
New Comments
Friends' blogs
[Add ตี๋2555's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.