Group Blog
กล้วยไม้ในป่าไทย
Thai native orchid profiles
โลกสีเขียว
ถอดความ
GMOs
เล่าเรื่องจากภาพถ่าย
Portfolio
Film addicted
Half frame
เรื่องเมืองไทย
ขายกลัวยไม้
<<
กันยายน 2548
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
11 กันยายน 2548
มุดถ้ำ ... หาน้ำทอง
All Blogs
กล้วยไม้พันธุ์แท้ดอกหอม (ตอนที่ 2)
กล้วยไม้พันธุ์แท้ดอกหอม (ตอนที่ 1)
ทิ้งใบ ให้ดอก
กล้วยไม้พันธุ์แท้ของไทยที่มีบทบาทต่อการทำลูกผสม (ตอนที่ 2)
กล้วยไม้พันธุ์แท้ของไทยที่มีบทบาทต่อการทำลูกผสม (ตอนที่ 1)
กล้วยไม้ในสวนยาง (ตอนที่ 2)
กล้วยไม้ในสวนยาง (ตอนที่ 1)
บานเดี๋ยวเดียวก็เหี่ยวเสียแล้ว
ถิ่นอาศัยของกะเรกะร่อนในธรรมชาติ
สำรวจกล้วยไม้กับชายบ้าหม้อ (ข้าวหม้อแกงลิง) ตอน 2
สำรวจกล้วยไม้กับชายบ้าหม้อ (ข้าวหม้อแกงลิง) ตอน 1
สิงโตในรังเพลิง
กล้วยไม้ในป่าชุ่มน้ำ
ลุยโคลน .. ดูสิงโตอาบน้ำ
กล้วยไม้ ... ไม่น่าเลี้ยง (ตอนที่ 3)
กล้วยไม้ ... ไม่น่าเลี้ยง (ตอนที่ 2)
กล้วยไม้ ... ไม่น่าเลี้ยง (ตอนที่ 1)
ตะเข็บไทย .... ตะเข็บไพร
เลาะริมน้ำ ... ตามหาฉัททันต์
ตามรอยหมูป่า หาก่อ เฟิน และกล้วยไม้
ม. ม้า เงื่องหงอย
เขา ฒ.ผู้เฒ่า
มุดถ้ำ ... หาน้ำทอง
ดูเหลืองกาญจน์ที่ป่าไทรโยค
กล้วยไม้ป่าภาคใต้
จากหาดทรายขาว ... สู่ตะนาวศรี
กะเรกะร่อนกับต้นตาล
มุดถ้ำ ... หาน้ำทอง
เราเหมือนกองทหาร ผู้บังคับบัญชาส่งไปรบที่ไหน เราต้องไป ทหารที่ดีไม่เกี่ยงสนามรบ ทหารเก่งๆ ต้องรบได้ทุกสมรภูมิ ในทะเลทราย ภูเขาหิมะ ป่าดงดิบ หรือในเมืองหลวง ก็ต้องรบให้ชนะได้ทั้งนั้น ผมยังจำวันแรกที่ลูกพี่พูดกับผมในวันเริ่มเข้าทำงานได้ดี
ผมกำลังจะเสร็จสิ้นภารกิจในงานที่ได้รับมอบหมายและกำลังจะถูกย้ายกลับกรุงเทพ ห้าปีกับสามเดือนเต็ม ที่ผมใช้ชีวิตในภาคใต้ 5 จังหวัดได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และกระบี่ แต่กระนั้นผมก็ยังพูดภาษาใต้ไม่ได้และฟังภาษาใต้ไม่ออกอยู่ดี โอ๊ค รุ่นน้องของผมเอ่ยปากชักชวนไปดูพืชชนิดหนึ่ง ซึ่งเขาพบที่ภูเขาแห่งหนึ่งใน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เขาคิดว่ามันเป็น ว่านน้ำทอง
Ludisia discolor
แต่ไม่ค่อยมั่นใจนัก เพราะใบมีสีเข้มจัด แถมไม่มีลายสีน้ำตาลแดงเหมือนที่เขาเคยพบ
เข้าถ้ำ
การเดินทางครั้งนี้ยังมีคุณหมูกลิ้งและคุณบ้านเรา ที่ตามมาสมทบเราจากภูเก็ตร่วมเดินทางไปกับเราด้วย เมื่อโอ๊คเล่ารายละเอียดของการเดินทางสั้นให้ทราบแล้ว เราจึงออกเดินทางไปยังเขาเตี้ยๆ ลูกหนึ่ง ซึ่งไม่ไกลจากถนนและแหล่งชุมชนเท่าไรนัก เดินแค่ไม่กี่นาทีเราก็ถึงเชิงเขา ผมสังเกตว่ามีเศษขยะพวกขวดน้ำ ซองขนมขบเคี้ยวตกอยู่เกลื่อน อาจเป็นพวกวัยรุ่นที่เข้ามาใช้พื้นที่เป็นแหล่งมั่วสุมกระมัง โอ๊คบอกว่าการจะเดินขึ้นเขาต้องลอดถ้ำ และมุดขึ้นไปข้างบน ถ้าเดินอ้อมต้องปีนหินชันๆ ขึ้นไปซึ่งเสียเวลานาน ทางมุดถ้ำเป็นทางลัด
น่าสนุกดีชะมัด มีมุดถ้ำด้วยวุ้ยยยยย ผมนึกในใจ พอถึงปากถ้ำ โอ๊คเป็นคนนำทางคนแรก ตามด้วยผม คุณหมูกลิ้งและคุณบ้านเรา ถ้ำที่ว่าควรเรียกว่าปล่องหินเสียมากกว่า เพราะเป็นรอยแยกของหินขนาดพอให้คนตัวเล็กๆ มุดรอดไปได้ ภายในไม่ถึงขนาดมืดตึ๊ดตื๋อ ดูไม่น่ากลัว ระหว่างที่เรามุดขึ้นไปมีค้างคาว 4-5 ตัวส่งเสียงจิ๊ดจ๊าด บินออกนอกปล่องไป ผมชอบจินตการในแง่ร้ายว่าในปล่องหินมืดๆ เราจะเจออะไรบ้าง รังงูจงอาจ แมลงป่องช้าง ตะขาบตัวใหญ่ โครงกระดูกมนุษย์ คิดมากก็เสียวสันหลังเหมือนกันครับ ภายในถ้ำมีกลิ่นอับๆ แล้วดูเหมือนออกซิเจนจะน้อยกว่าปกติ ถ้าอยู่นานๆ อาจจะหมดสติได้อยู่เหมือนกัน ผมเจอขี้ค้างคาวด้วย แต่ไม่ได้เก็บมาหรอกครับ ขี้ค้างคาวนี่มีฟอสฟอรัสสูงกว่าปุ๋ยคอกชนิดอื่นๆ แถวๆ ราชบุรีโกยจากถ้ำมาขายกิโลละหลายบาท ขัดผลประโยชน์ถึงขนาดยิงกันตายก็มี ระยะหลังๆ มีการลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาขายด้วย
ปลายปล่อง
เมื่อออกมาสู่ปากปล่องถ้ำ โลกก็กลับสว่างขึ้นอีกครั้ง แม้อากาศจะร้อนอบอ้าวแต่ก็หายใจสะดวกกว่าอยู่ในถ้ำมาก ประสบการณ์ในภาคใต้ทำให้ผมคาดเดาได้ว่า ความร้อนชื้นนี้ อีกไม่ช้าไม่นานมันจะตามมาด้วยพายุฝน ที่นี่ฝนตกได้แม้ไม่มีเค้าฝนมาก่อนเลย เราทั้งสี่ต่างเร่งหากล้วยไม้ที่อยากเจอ และโอ๊คก็เป็นคนพบคนแรก
ใช่มั้ยพี่ ว่านน้ำทองใช่มั้ย เขาถามพร้อมควักกล้องถ่ายรูปแบบฟิล์มขึ้นมาด้วย
ว่านน้ำทอง
Ludisia discolor
เป็นกล้วยไม้ระบบรากดินที่มีลำต้นอวบน้ำทอดขนานไปกับพื้น ดอกสีขาวน้ำนม ปากแต้มเหลือง ดูไม่สมมาตร แต่จุดเด่นของกล้วยไม้ชนิดนี้อยู่ที่ใบ เพราะใบยาวเรียวสีเขียวเข้ม มีลวดลายเส้นสีน้ำตาลแดงสะท้อนแสงสวยงาม ฝรั่งเขาเรียกว่า Jewel orchid เจ้าว่านน้ำทองกลุ่มที่เห็นกลุ่มแรกห้อยตัวลงมาจากโขดหินที่มีใบไม้แห้งปิดทับอยู่เต็มไปหมด เมื่อเปิดใบไม้แห้งที่คลุมโคนก็เห็นว่าเจ้าว่านน้ำทองขึ้นอยู่บนซากอินทรียวัตถุนุ่มๆ ชื้นๆ และยังพบมันอีกหลายกลุ่มขึ้นกระจายไปทั่วบริเวณ ทั้งสี่คนต่างแยกย้ายไปถ่ายรูป ผมสังเกตว่าลายเส้นของว่านน้ำทองที่นี่ไม่ค่อยชัดเจนนัก สันนิษฐานว่าจุดที่พบมีไม้ใหญ่อยู่มาก มันอาจได้รับความเข้มแสงไม่มากพอ การขยายพันธุ์ว่านน้ำทองทำได้ง่ายเหมือนกับการปักชำสะระแหน่และคุณนายตื่นสาย แค่ตัดปักในเครื่องปลูกที่ชื้นและระบายน้ำดี เมื่อต้นเริ่มตั้งตัวได้ก็จะแตกใบใหม่ไปเรื่อยๆ ข้อสำคัญคือการรักษาความชื้นบริเวณที่ปลูกให้ชื้นอยู่เสมอ เพราะหากความชื้นในอากาศต่ำเกินไป ลำต้นจะค่อยๆ แห้งตายไป เช่นเดียวกันกับเครื่องปลูกที่ไม่แฉะเกินไป เพราะหากน้ำขังก็จะเน่าได้ทันที แต่การขยายพันธุ์ในธรรมชาติจะเป็นงอกจากเมล็ด ฝักที่แก่จะแตก เมล็ดเล็กๆ ภายในนั้นจะลอยไปตกทั่วบริเวณ หากสภาพแวดล้อมเหมาะสมก็จะงอกขึ้นเป็นต้นใหม่
คุณหมูกลิ้งและคุณบ้านเราปีนหินขึ้นไปต่อ ก็พบสิงโตอีกชนิดหนึ่งเกาะอยู่บนโขดหินชันๆ มันน่าจะเป็น สิงโตพัดแดง
Cirrhopetalum lepidum
และใกล้ๆ นั้นเองก็พบ ขาไก่ป่า
Flickingeria fimbriata
ขึ้นอยู่เป็นกอใหญ่ แต่มีดอกอยู่เพียงดอกเดียว ขณะที่กำลังจะถ่ายรูปเจ้าขาไก่ป่า ลมฝนก็เริ่มพัดกระพือแรงขึ้นเรื่อยๆ เมฆสีเทาๆ พัดเปลี่ยนรูปไปมาลอยอยู่เหนือหัวเข้ามาใกล้เราแล้ว ผมปลดโหมดกล้องเป็นออโต้ กดไปได้ 2-3 รูป ฝนเม็ดใหญ่ๆ ก็เริ่มตกลงมา แล้วทุกคนก็ต่างวงแตก เก็บกล้องกันจ้าละหวั่น เราทั้งสี่คนปีนกลับลงมาหลบฝนที่ชะง่อนผาด้านล่าง เก็บกล้องไว้ใต้ช่องหิน แต่ก็เสียวใจชะมัด เพราะฝนตกแรงๆ แบบนี้นานๆ เข้า จะมีน้ำไหลลงมาจากด้านบน กล้องดูไม่ค่อยปลอดภัยเลย เรายืนตากฝนคุยกันร่วมครึ่งชั่วโมง ฝนก็เริ่มซาลงบ้าง ฟ้าดูสว่างขึ้นบ้าง จึงตัดสิ้นใจว่าเราจะค่อยๆ ปีนกลับลงไป ไม่รอจนฝนหยุด เราพยายามหาทางลงใหม่ที่ไม่ใช่เส้นทางเดิม มองลงไปเห็นสวนปาล์มน้ำมันของชาวบ้าน แต่ก็ต้องปีนโดยต้องห้อยตัวจากโคนกอไผ่ลงไป สรุปว่ากลับทางเดิมดีกว่า แต่ผมรู้สึกว่าขาขึ้นเร็วกว่าขาลง เพราะป่าที่ปกคลุมด้วยใบไม้แห้งเมื่อมันเปียกน้ำนี่ลื่นนัก แต่ก็มุดปล่องถ้ำเดิมลงกลับสู่ด้านล่างอย่างปลอดภัยทุกคน
หลังจากที่ผมถูกย้ายที่ทำงานแล้ว ก็ยังไม่ได้กลับไปอีกเลย
Create Date : 11 กันยายน 2548
Last Update : 11 กันยายน 2548 14:27:39 น.
19 comments
Counter : 1528 Pageviews.
Share
Tweet
หน้าตาแบบนี้เอง ขอบคุณที่นำมาให้ชมน่ะ
โดย:
อินทรีทองคำ
วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:9:12:19 น.
อืม ผจญภัยดีเหมือนกันนะครับ
โดย:
เ ม ฆ ค รึ่ ง ฟ้ า
วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:15:02:17 น.
สวัสดีครับ
วันนี้ว่าง ไม่มีงานจึงออกเที่ยวชมตามสถานที่ต่างๆ
มาถึงบ้านนี้ สีสวยแสบทรวงดีแท้ อดใจที่จะแวะไม่ไหว
จึ่งเข้ามาแวะเดินชมเยี่ยม ....อูววว สวยจริงๆ แบบว่าสวยและมีคุณค่า
จริงๆด้วย ทำให้ได้รู้จักอะไรๆ หลายอย่าง จากที่ไม่เคยรู้จักเลย.....
.....................
ขอบพระคุณครับ ว่างๆคงจะต้องเข้ามาเยี่ยม พร้อมรับความรู้อีกครับ
รักษาสุขภาพนะครับ
โดย: ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) IP: 203.113.81.140 วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:16:57:27 น.
เจ๋งดีครับน้าโหด.......ผมเองก็ อยากไปแบบนี้บ้างแต่ก็ไม่มีโอกาสสักที
โดย: Amder IP: 61.91.243.86 วันที่: 12 กันยายน 2548 เวลา:8:36:03 น.
มาเยี่ยมครับ
โดย: พีแพท47 (
พีแพท47
) วันที่: 12 กันยายน 2548 เวลา:23:33:21 น.
ชอบอ่านเรื่องแบบนี้ค่ะ ถ้าไปเองบ้างคงจะน่าสนุกดีนะคะ
โดย: noojew (
noojew
) วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:19:52:21 น.
โห มามุดถ้ำถึงกระบี่เลย ผมยังไม่รู้เรื่องเลยนะเนี้ย ไม่ชวนกันบ้างเลย
โดย: ลิงเล IP: 203.188.28.45 วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:20:25:59 น.
ชอบครับ ใบสวยดีครับ
โดย:
Paphmania
วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:10:39:42 น.
สนุกดีครับ
โดย: หมอกฝน IP: 202.44.231.8 วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:19:00:48 น.
สวัสดีครับ เข้ามาเยี่ยมชม ครับ
โดย: Agri_07 (
Agri_07
) วันที่: 17 กันยายน 2548 เวลา:17:02:15 น.
ความรู้มากมายจริง
คราวหน้าขออนุเคราะห์ชี้แนะบางเรื่องได้มั้ยคะ
โดย: shadow-of-art (
shadow-of-art
) วันที่: 19 กันยายน 2548 เวลา:21:57:58 น.
ขอบคุณครับ น่าสนุกดี ชอบไปแบบนี้เหมือนกันแต่ยิ่งนานวันโอกาสจะไปก็น้อยลง
โดย:
สำเภางาม
วันที่: 20 กันยายน 2548 เวลา:6:47:22 น.
ขอบคุณน้าโหดที่แวะไปเยี่ยม
ตามมาบอกว่า"ผิด"ค่ะ
เกิดที่ใต้...ตอนนี้ตัวอยู่ใต้ (ใกล้ๆเขาเหมนที่อุดมไปด้วยรองเท้านารี ไงคะ)
แต่หัวใจอยู่อีสาน
จิตวิญญาณอยู่ภาคเหนือ
ส่วนที่เหลือ กะจะเอาไปไว้ทิเบต
ไม่ได้สำนวน
อดีดเร่ร่อน พอๆกับน้าโหดมั้ง
(โม้ซะเขินเองเลย)
โดย: shadow-of-art IP: 203.113.71.166 วันที่: 20 กันยายน 2548 เวลา:20:35:15 น.
อืม.. อยากไปด้วยคนนะเนี่ย แต่ไอ้เจ้าขาไก่นี่ที่บ้านมีอยู่กอนึง กล้วยไม้อะไร๊ปีนึงออกดอกหนเดียวยังไม่พอแถมวันเดียวโรยอีกตะหาก ขี้อายมาก....
โดย: ไม้ชายน้ำ IP: 210.246.72.229 วันที่: 21 กันยายน 2548 เวลา:20:32:15 น.
ตามมาชม ธรรมชาติ ที่ไม่มีโอกาสได้ไปคะ
โดย: เอื้องโมก IP: 61.91.242.48 วันที่: 23 กันยายน 2548 เวลา:15:03:07 น.
มาอ่านคับ
โดย: t'pong ( ต้ม ) IP: 203.172.33.95 วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:21:46:36 น.
อ่านแล้วนึกถึงสมัยก่อนอยู่บางคล้า มีค้างคาวไปอาศัยอยู่ใต้หลังคา เคยหลุดเข้าไปในมุ้ง ด้วยความที่ยังเด็กกลัวซะคนตั้งชันเลย กว่าจะไล่ให้มันออกมาได้ ตกใจทั้งคนทั้งค้างคาว
ว่านน้ำทองใบสวยมากชอบ ๆ มีทำรูปใส่ไว้ใน//www.sarapad.com/dada/
ด้วยหล่ะ อิอิ
โดย:
ดา ดา
วันที่: 3 ตุลาคม 2548 เวลา:21:46:53 น.
เข้ามาอ่านค่ะเพราะสนใจ อยากรู้อยากเห็นทุกเรื่องของน้าโหด เพราะไม่มีโอกาสที่จะใช้ชีวิตแบบนี้อีกแล้ว หมดเวลา
โดย: noklekkaa(papagearna) IP: 158.108.211.31 วันที่: 13 มิถุนายน 2549 เวลา:22:10:33 น.
-ของชอบ
โดย: fir IP: 223.255.227.8 วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:23:34:14 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
น้าโหด
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [
?
]
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add น้าโหด's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.