Group Blog
 
<<
กันยายน 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
11 กันยายน 2548
 
All Blogs
 
มุดถ้ำ ... หาน้ำทอง

“เราเหมือนกองทหาร ผู้บังคับบัญชาส่งไปรบที่ไหน เราต้องไป ทหารที่ดีไม่เกี่ยงสนามรบ ทหารเก่งๆ ต้องรบได้ทุกสมรภูมิ ในทะเลทราย ภูเขาหิมะ ป่าดงดิบ หรือในเมืองหลวง ก็ต้องรบให้ชนะได้ทั้งนั้น” ผมยังจำวันแรกที่ลูกพี่พูดกับผมในวันเริ่มเข้าทำงานได้ดี

ผมกำลังจะเสร็จสิ้นภารกิจในงานที่ได้รับมอบหมายและกำลังจะถูกย้ายกลับกรุงเทพ ห้าปีกับสามเดือนเต็ม ที่ผมใช้ชีวิตในภาคใต้ 5 จังหวัดได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และกระบี่ แต่กระนั้นผมก็ยังพูดภาษาใต้ไม่ได้และฟังภาษาใต้ไม่ออกอยู่ดี “โอ๊ค” รุ่นน้องของผมเอ่ยปากชักชวนไปดูพืชชนิดหนึ่ง ซึ่งเขาพบที่ภูเขาแห่งหนึ่งใน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เขาคิดว่ามันเป็น “ว่านน้ำทอง Ludisia discolor” แต่ไม่ค่อยมั่นใจนัก เพราะใบมีสีเข้มจัด แถมไม่มีลายสีน้ำตาลแดงเหมือนที่เขาเคยพบ

เข้าถ้ำ
การเดินทางครั้งนี้ยังมีคุณหมูกลิ้งและคุณบ้านเรา ที่ตามมาสมทบเราจากภูเก็ตร่วมเดินทางไปกับเราด้วย เมื่อโอ๊คเล่ารายละเอียดของการเดินทางสั้นให้ทราบแล้ว เราจึงออกเดินทางไปยังเขาเตี้ยๆ ลูกหนึ่ง ซึ่งไม่ไกลจากถนนและแหล่งชุมชนเท่าไรนัก เดินแค่ไม่กี่นาทีเราก็ถึงเชิงเขา ผมสังเกตว่ามีเศษขยะพวกขวดน้ำ ซองขนมขบเคี้ยวตกอยู่เกลื่อน อาจเป็นพวกวัยรุ่นที่เข้ามาใช้พื้นที่เป็นแหล่งมั่วสุมกระมัง โอ๊คบอกว่าการจะเดินขึ้นเขาต้องลอดถ้ำ และมุดขึ้นไปข้างบน ถ้าเดินอ้อมต้องปีนหินชันๆ ขึ้นไปซึ่งเสียเวลานาน ทางมุดถ้ำเป็นทางลัด

“น่าสนุกดีชะมัด มีมุดถ้ำด้วยวุ้ยยยยย” ผมนึกในใจ พอถึงปากถ้ำ โอ๊คเป็นคนนำทางคนแรก ตามด้วยผม คุณหมูกลิ้งและคุณบ้านเรา ถ้ำที่ว่าควรเรียกว่าปล่องหินเสียมากกว่า เพราะเป็นรอยแยกของหินขนาดพอให้คนตัวเล็กๆ มุดรอดไปได้ ภายในไม่ถึงขนาดมืดตึ๊ดตื๋อ ดูไม่น่ากลัว ระหว่างที่เรามุดขึ้นไปมีค้างคาว 4-5 ตัวส่งเสียงจิ๊ดจ๊าด บินออกนอกปล่องไป ผมชอบจินตการในแง่ร้ายว่าในปล่องหินมืดๆ เราจะเจออะไรบ้าง รังงูจงอาจ แมลงป่องช้าง ตะขาบตัวใหญ่ โครงกระดูกมนุษย์ คิดมากก็เสียวสันหลังเหมือนกันครับ ภายในถ้ำมีกลิ่นอับๆ แล้วดูเหมือนออกซิเจนจะน้อยกว่าปกติ ถ้าอยู่นานๆ อาจจะหมดสติได้อยู่เหมือนกัน ผมเจอขี้ค้างคาวด้วย แต่ไม่ได้เก็บมาหรอกครับ ขี้ค้างคาวนี่มีฟอสฟอรัสสูงกว่าปุ๋ยคอกชนิดอื่นๆ แถวๆ ราชบุรีโกยจากถ้ำมาขายกิโลละหลายบาท ขัดผลประโยชน์ถึงขนาดยิงกันตายก็มี ระยะหลังๆ มีการลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาขายด้วย

ปลายปล่อง
เมื่อออกมาสู่ปากปล่องถ้ำ โลกก็กลับสว่างขึ้นอีกครั้ง แม้อากาศจะร้อนอบอ้าวแต่ก็หายใจสะดวกกว่าอยู่ในถ้ำมาก ประสบการณ์ในภาคใต้ทำให้ผมคาดเดาได้ว่า ความร้อนชื้นนี้ อีกไม่ช้าไม่นานมันจะตามมาด้วยพายุฝน ที่นี่ฝนตกได้แม้ไม่มีเค้าฝนมาก่อนเลย เราทั้งสี่ต่างเร่งหากล้วยไม้ที่อยากเจอ และโอ๊คก็เป็นคนพบคนแรก
“ใช่มั้ยพี่ ว่านน้ำทองใช่มั้ย” เขาถามพร้อมควักกล้องถ่ายรูปแบบฟิล์มขึ้นมาด้วย
ว่านน้ำทอง Ludisia discolor เป็นกล้วยไม้ระบบรากดินที่มีลำต้นอวบน้ำทอดขนานไปกับพื้น ดอกสีขาวน้ำนม ปากแต้มเหลือง ดูไม่สมมาตร แต่จุดเด่นของกล้วยไม้ชนิดนี้อยู่ที่ใบ เพราะใบยาวเรียวสีเขียวเข้ม มีลวดลายเส้นสีน้ำตาลแดงสะท้อนแสงสวยงาม ฝรั่งเขาเรียกว่า “Jewel orchid” เจ้าว่านน้ำทองกลุ่มที่เห็นกลุ่มแรกห้อยตัวลงมาจากโขดหินที่มีใบไม้แห้งปิดทับอยู่เต็มไปหมด เมื่อเปิดใบไม้แห้งที่คลุมโคนก็เห็นว่าเจ้าว่านน้ำทองขึ้นอยู่บนซากอินทรียวัตถุนุ่มๆ ชื้นๆ และยังพบมันอีกหลายกลุ่มขึ้นกระจายไปทั่วบริเวณ ทั้งสี่คนต่างแยกย้ายไปถ่ายรูป ผมสังเกตว่าลายเส้นของว่านน้ำทองที่นี่ไม่ค่อยชัดเจนนัก สันนิษฐานว่าจุดที่พบมีไม้ใหญ่อยู่มาก มันอาจได้รับความเข้มแสงไม่มากพอ การขยายพันธุ์ว่านน้ำทองทำได้ง่ายเหมือนกับการปักชำสะระแหน่และคุณนายตื่นสาย แค่ตัดปักในเครื่องปลูกที่ชื้นและระบายน้ำดี เมื่อต้นเริ่มตั้งตัวได้ก็จะแตกใบใหม่ไปเรื่อยๆ ข้อสำคัญคือการรักษาความชื้นบริเวณที่ปลูกให้ชื้นอยู่เสมอ เพราะหากความชื้นในอากาศต่ำเกินไป ลำต้นจะค่อยๆ แห้งตายไป เช่นเดียวกันกับเครื่องปลูกที่ไม่แฉะเกินไป เพราะหากน้ำขังก็จะเน่าได้ทันที แต่การขยายพันธุ์ในธรรมชาติจะเป็นงอกจากเมล็ด ฝักที่แก่จะแตก เมล็ดเล็กๆ ภายในนั้นจะลอยไปตกทั่วบริเวณ หากสภาพแวดล้อมเหมาะสมก็จะงอกขึ้นเป็นต้นใหม่




คุณหมูกลิ้งและคุณบ้านเราปีนหินขึ้นไปต่อ ก็พบสิงโตอีกชนิดหนึ่งเกาะอยู่บนโขดหินชันๆ มันน่าจะเป็น “สิงโตพัดแดง Cirrhopetalum lepidum” และใกล้ๆ นั้นเองก็พบ “ขาไก่ป่า Flickingeria fimbriata” ขึ้นอยู่เป็นกอใหญ่ แต่มีดอกอยู่เพียงดอกเดียว ขณะที่กำลังจะถ่ายรูปเจ้าขาไก่ป่า ลมฝนก็เริ่มพัดกระพือแรงขึ้นเรื่อยๆ เมฆสีเทาๆ พัดเปลี่ยนรูปไปมาลอยอยู่เหนือหัวเข้ามาใกล้เราแล้ว ผมปลดโหมดกล้องเป็นออโต้ กดไปได้ 2-3 รูป ฝนเม็ดใหญ่ๆ ก็เริ่มตกลงมา แล้วทุกคนก็ต่างวงแตก เก็บกล้องกันจ้าละหวั่น เราทั้งสี่คนปีนกลับลงมาหลบฝนที่ชะง่อนผาด้านล่าง เก็บกล้องไว้ใต้ช่องหิน แต่ก็เสียวใจชะมัด เพราะฝนตกแรงๆ แบบนี้นานๆ เข้า จะมีน้ำไหลลงมาจากด้านบน กล้องดูไม่ค่อยปลอดภัยเลย เรายืนตากฝนคุยกันร่วมครึ่งชั่วโมง ฝนก็เริ่มซาลงบ้าง ฟ้าดูสว่างขึ้นบ้าง จึงตัดสิ้นใจว่าเราจะค่อยๆ ปีนกลับลงไป ไม่รอจนฝนหยุด เราพยายามหาทางลงใหม่ที่ไม่ใช่เส้นทางเดิม มองลงไปเห็นสวนปาล์มน้ำมันของชาวบ้าน แต่ก็ต้องปีนโดยต้องห้อยตัวจากโคนกอไผ่ลงไป สรุปว่ากลับทางเดิมดีกว่า แต่ผมรู้สึกว่าขาขึ้นเร็วกว่าขาลง เพราะป่าที่ปกคลุมด้วยใบไม้แห้งเมื่อมันเปียกน้ำนี่ลื่นนัก แต่ก็มุดปล่องถ้ำเดิมลงกลับสู่ด้านล่างอย่างปลอดภัยทุกคน

หลังจากที่ผมถูกย้ายที่ทำงานแล้ว ก็ยังไม่ได้กลับไปอีกเลย





Create Date : 11 กันยายน 2548
Last Update : 11 กันยายน 2548 14:27:39 น. 19 comments
Counter : 1528 Pageviews.

 
หน้าตาแบบนี้เอง ขอบคุณที่นำมาให้ชมน่ะ


โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:9:12:19 น.  

 
อืม ผจญภัยดีเหมือนกันนะครับ


โดย: เ ม ฆ ค รึ่ ง ฟ้ า วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:15:02:17 น.  

 
สวัสดีครับ
วันนี้ว่าง ไม่มีงานจึงออกเที่ยวชมตามสถานที่ต่างๆ
มาถึงบ้านนี้ สีสวยแสบทรวงดีแท้ อดใจที่จะแวะไม่ไหว
จึ่งเข้ามาแวะเดินชมเยี่ยม ....อูววว สวยจริงๆ แบบว่าสวยและมีคุณค่า
จริงๆด้วย ทำให้ได้รู้จักอะไรๆ หลายอย่าง จากที่ไม่เคยรู้จักเลย.....
.....................
ขอบพระคุณครับ ว่างๆคงจะต้องเข้ามาเยี่ยม พร้อมรับความรู้อีกครับ
รักษาสุขภาพนะครับ


โดย: ก๋งแก่(หง่อมจริงๆ) IP: 203.113.81.140 วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:16:57:27 น.  

 
เจ๋งดีครับน้าโหด.......ผมเองก็ อยากไปแบบนี้บ้างแต่ก็ไม่มีโอกาสสักที


โดย: Amder IP: 61.91.243.86 วันที่: 12 กันยายน 2548 เวลา:8:36:03 น.  

 
มาเยี่ยมครับ


โดย: พีแพท47 (พีแพท47 ) วันที่: 12 กันยายน 2548 เวลา:23:33:21 น.  

 
ชอบอ่านเรื่องแบบนี้ค่ะ ถ้าไปเองบ้างคงจะน่าสนุกดีนะคะ


โดย: noojew (noojew ) วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:19:52:21 น.  

 
โห มามุดถ้ำถึงกระบี่เลย ผมยังไม่รู้เรื่องเลยนะเนี้ย ไม่ชวนกันบ้างเลย


โดย: ลิงเล IP: 203.188.28.45 วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:20:25:59 น.  

 
ชอบครับ ใบสวยดีครับ


โดย: Paphmania วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:10:39:42 น.  

 
สนุกดีครับ


โดย: หมอกฝน IP: 202.44.231.8 วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:19:00:48 น.  

 
สวัสดีครับ เข้ามาเยี่ยมชม ครับ


โดย: Agri_07 (Agri_07 ) วันที่: 17 กันยายน 2548 เวลา:17:02:15 น.  

 
ความรู้มากมายจริง
คราวหน้าขออนุเคราะห์ชี้แนะบางเรื่องได้มั้ยคะ


โดย: shadow-of-art (shadow-of-art ) วันที่: 19 กันยายน 2548 เวลา:21:57:58 น.  

 
ขอบคุณครับ น่าสนุกดี ชอบไปแบบนี้เหมือนกันแต่ยิ่งนานวันโอกาสจะไปก็น้อยลง


โดย: สำเภางาม วันที่: 20 กันยายน 2548 เวลา:6:47:22 น.  

 
ขอบคุณน้าโหดที่แวะไปเยี่ยม
ตามมาบอกว่า"ผิด"ค่ะ
เกิดที่ใต้...ตอนนี้ตัวอยู่ใต้ (ใกล้ๆเขาเหมนที่อุดมไปด้วยรองเท้านารี ไงคะ)
แต่หัวใจอยู่อีสาน
จิตวิญญาณอยู่ภาคเหนือ
ส่วนที่เหลือ กะจะเอาไปไว้ทิเบต

ไม่ได้สำนวน
อดีดเร่ร่อน พอๆกับน้าโหดมั้ง
(โม้ซะเขินเองเลย)


โดย: shadow-of-art IP: 203.113.71.166 วันที่: 20 กันยายน 2548 เวลา:20:35:15 น.  

 
อืม.. อยากไปด้วยคนนะเนี่ย แต่ไอ้เจ้าขาไก่นี่ที่บ้านมีอยู่กอนึง กล้วยไม้อะไร๊ปีนึงออกดอกหนเดียวยังไม่พอแถมวันเดียวโรยอีกตะหาก ขี้อายมาก....


โดย: ไม้ชายน้ำ IP: 210.246.72.229 วันที่: 21 กันยายน 2548 เวลา:20:32:15 น.  

 
ตามมาชม ธรรมชาติ ที่ไม่มีโอกาสได้ไปคะ


โดย: เอื้องโมก IP: 61.91.242.48 วันที่: 23 กันยายน 2548 เวลา:15:03:07 น.  

 
มาอ่านคับ


โดย: t'pong ( ต้ม ) IP: 203.172.33.95 วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:21:46:36 น.  

 
อ่านแล้วนึกถึงสมัยก่อนอยู่บางคล้า มีค้างคาวไปอาศัยอยู่ใต้หลังคา เคยหลุดเข้าไปในมุ้ง ด้วยความที่ยังเด็กกลัวซะคนตั้งชันเลย กว่าจะไล่ให้มันออกมาได้ ตกใจทั้งคนทั้งค้างคาว

ว่านน้ำทองใบสวยมากชอบ ๆ มีทำรูปใส่ไว้ใน//www.sarapad.com/dada/
ด้วยหล่ะ อิอิ


โดย: ดา ดา วันที่: 3 ตุลาคม 2548 เวลา:21:46:53 น.  

 
เข้ามาอ่านค่ะเพราะสนใจ อยากรู้อยากเห็นทุกเรื่องของน้าโหด เพราะไม่มีโอกาสที่จะใช้ชีวิตแบบนี้อีกแล้ว หมดเวลา


โดย: noklekkaa(papagearna) IP: 158.108.211.31 วันที่: 13 มิถุนายน 2549 เวลา:22:10:33 น.  

 
-ของชอบ


โดย: fir IP: 223.255.227.8 วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:23:34:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

น้าโหด
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Friends' blogs
[Add น้าโหด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.