Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
9 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 
ม. ม้า เงื่องหงอย



ผมกลับมายืนที่นี่อีกครั้ง พร้อมรำลึกถึงครั้งแรกเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่ได้เดินทางมาที่นี่ครั้งแรก มันช่างแตกต่างกันมากเหลือเกิน ทั้งถนนลาดยางที่ตัดใหม่เอี่ยมที่สามารถขับรถเข้าถึงอย่างสบายๆ รถราผ่านเข้าออกเกือบทุก 5 นาที ทั้งที่สมัยก่อนพื้นที่ตรงนี้ดูลึกลับ จะมีก็แต่ชาวบ้านกับคนหลงทางที่จะเข้ามาถึงจุดนี้ได้กระมัง

เบื้องหน้าผมคือผืนป่าชายหาด คะเนด้วยสายตาผืนดินตรงหน้าน่าจะมีเนื้อที่ 3-4 ไร่ ต้นไม้ใหญ่ที่เคยเห็นในป่านี้เมื่อ 4 ปีก่อนบัดนี้ถูกโค่นลงหมดแล้ว เหลือเพียงไม้ทนเค็มเล็กๆ ความสูงสุดน่าจะประมาณ 3 เมตร แต่เมื่อไรที่ไม้เหล่านี้โตพอที่จะตัดได้อีก มันก็คงถูกตัดอีกอยู่ดีนั่นแหละ ชาวบ้านใช้ไม้เหล่านี้เป็นเชื้อเพลิงในการผึ่งปลาทะเลและปลาหมึก และที่ท้ายป่า ผมยังเห็นสิ่งปลูกสร้างใหม่ที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้สำหรับรมควันทรัพยากรจากทะเลเหล่านี้อีกด้วย

ต้นเดือนตุลาคม 2548 ผมกับพี่ดวงตั้งใจจะมาเยี่ยม “ม้าวิ่ง Doritis pulcherima” เสียหน่อย เหตุก็เพราะเมื่อหลายปีก่อน ผมกับเพื่อนๆ เคยเจอมันแบบดาษดื่น เมื่อเดินลุยเข้าไปต้องหาที่วางเท้าให้ดี เพราะเผลอเข้าเมื่อไรเป็นได้เหยียบเอาบนกอม้าวิ่งที่ขึ้นกระจายตัวบนพื้นดิน มันจัดให้เป็นกล้วยไม้ที่สามารถเจริญเติบโตได้บนพื้นหิน (Lithophytic) แต่มันต้องจัดให้อยู่ในกลุ่มพืชทนเค็มได้ด้วย มันสามารถขึ้นอยู่บนพื้นทรายแน่นๆ ที่ผสมรวมกับเศษซากอินทรียวัตถุในบริเวณนั้น

ดอกไม้ไปไหน
ผมได้ยินข่าวจากคนที่เป็นหน่วยข่าวกรองส่วนตัวก่อนวันที่ผมจะเดินทางเข้ามา 1 วันว่า มีนักวิชาการเห็นแก่ตัวเดินทางมาที่นี่เมื่อวันอาทิตย์ เขากลับไปพร้อมม้าวิ่งเต็มกระบะ 1 คันรถปิคอัพ อ่านไม่ผิดหรอกครับ 1 กระบะรถปิคอัพจริงๆ โครงการอนุรักษ์พันธุ์อะไรนั่นเป็นใบเบิกทางที่ดีที่สามารถสร้างสิทธิทำอะไรที่คนทั่วๆ ไปไม่สามารถทำได้ เขาเก็บไปทำไมกันตั้ง 1 คันรถ อนุรักษ์บ้าบออะไรกัน มันเป็นสมบัติของใครกันแน่ มันควรเป็นของชาติ หรือพูดให้ถูกจริงๆ แล้ว มันควรที่จะเป็นสมบัติของมวลมนุษยชาติเสียด้วยซ้ำ ผมไม่เถียงหรอกว่ากล้วยไม้ที่เป็นลูกผสมต่างมีพื้นฐานจากกล้วยไม้พันธุ์แท้ด้วยกันทั้งสิ้น แต่การนำออกไปจากป่าเป็นคันรถ ผมนึกไม่ออกจริงๆ ว่าเขาเอาไปทำอะไรมากมายขนาดนั้น

ผมเดินนำหน้าพี่ดวงเข้าไปในเขตที่เคยพบม้าวิ่งอยู่เป็นจำนวนมาก แค่ไม่ถึง 50 เมตรจากปากทางเข้า เราก็ได้พบกับเศษต้นม้าวิ่งตกหล่นอยู่เป็นจำนวนมาก บ้างก็แห้งตายไปแล้ว บ้างก็ยังสดอยู่ เมื่อเดินเข้าไปลึกขึ้นอีก ผมยิ่งรู้สึกสลดหดหู่ใจยิ่งขึ้นไปอีก กล้วยไม้ที่เคยเห็นอยู่เป็นจำนวนมาก คะเนด้วยสายตาเหลือไม่ถึงครึ่งหนึ่ง ผมวานให้พี่ดวงช่วยสำรวจทั่วบริเวณอย่างลวกๆ ว่า มีจุดใดที่ผิดปกติมากกว่าที่เห็น เพียง 15 นาที พี่ดวงก็ตะโกนเรียกให้ไปดูเศษต้นม้าวิ่ง

บริเวณที่เห็นเป็นคลองเล็กๆ มีหญ้าขึ้นรก ซึ่งมีเศษม้าวิ่งที่ถูกถอนขึ้นมาอย่างชุ่ยๆ ทิ้งอยู่ ส่วนใหญ่มันไม่มีราก เขาเก็บมันมาและนำมาคัดตรงคลองนี้เอง ส่วนที่รากขาดเขาทิ้งมันไว้ เลือกไปแต่สภาพดีๆ ผมวานให้พี่ดวงคัดเอาต้นที่พอมีหวังที่จะรอดแล้วเดินไปพบกันที่จุดนัดพบ ผมอยากเก็บภาพสิ่งที่เหลืออยู่ เพราะไม่มั่นใจเลยว่าครั้งหน้าที่ผมจะมีโอกาสเข้ามาเหยียบที่นี่อีกครั้ง ผมจะพบมันบ้างหรือเปล่า




ในปีปกติ ม้าวิ่งจะเริ่มให้ดอกในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนต่อเนื่องมาเรื่อยๆ เดือนตุลาคมคมจึงต้องเรียกว่าเป็นปลายฤดูดอกแล้ว สีของดอกม้าวิ่งมีความหลากหลายมาก แบบกลีบและปากมีสีเดียวกัน ทั้งสีชมพูเข้ม ชมพูอ่อน ค่อนไปทางขาวเหลืองก็มี แบบที่กลีบเป็นสีชมพู สีแดง ปากเป็นสีเหลืองก็มี ผมพยายามเก็บภาพให้ได้หมดทุกสี ยุงลายตัวเล็กๆ กัดกวนอยู่ไม่ขาด ยิ่งเวลาเราเริ่มเหงื่อออก มันยิ่งตามรุมตอมจองล้างจองผลาญอย่างไม่ลดละ ว่ากันว่ายุงจะบินตามก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มนุษย์หายใจออกมา พอมันจับเรดาห์ได้ก็โจมตีในทันที ครู่ใหญ่ๆ พี่ดวงกลับมาพร้อมม้าวิ่งหอบใหญ่ที่คัดเลือกจากของทิ้ง ทำเอาผมตกใจเพราะมันเยอะเหลือเกิน จนต้องย้ำแกว่าเอาเฉพาะส่วนที่คนถอนทิ้งไว้เท่านั้น แกก็พยักหน้าหงึกๆ ตอบว่าใช่ และบอกว่ายังเอามาไม่หมด ยังเหลืออีกครึ่งหนึ่ง ต้องเดินกลับไปเอาอีกเที่ยว

อำลา ... ถาวร
การทำลายล้างที่รุนแรงกว่านั้นก็คือการบุกรุกที่เพื่อเปลี่ยนไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นเช่น การทำสวนปาล์มน้ำมันและยางพารา รวมถึงการปลูกสิ่งก่อสร้าง ซึ่งจำเป็นต้องดันเอาต้นไม้ออกจึงปรับที่ได้ กล้วยไม้เหล่านี้แทบไม่มีโอกาสรอดเลย เพราะหากรอดหลงเหลือจากการปรับที่ได้ มันยังต้องผจญกับพิษยาฆ่าหญ้าที่ติดตามมาอีก ชาวบ้านไม่รู้จักว่าม้าวิ่งคืออะไร รู้แต่ว่ามันเป็นพืชที่ไม่ต้องการ นึกว่ามันเป็นหญ้าเสียด้วยซ้ำ บ่อยครั้งเราจึงเห็นชาวบ้านนำวัวมาผูกให้เล็มหญ้าที่ชายป่า วัวไม่ชอบกินม้าวิ่งนักหรอก แต่มันจะเดินรอบหลักและย่ำจนกอกล้วยไม้จนแหลก เคยได้ยินเรื่องม้าวิ่งที่มีถิ่นกำเนิดที่จังหวัดชุมพรที่เดียวที่มีชื่อว่า “ม้าบิน var.chumpornensis” มั้ยครับ ลักษณะที่แตกต่างจากม้าวิ่งทั่วไปก็คือมันมีหู (Splash) สีเหลืองส้มแต้มอยู่ที่ปลายกลีบ ม้าบินในสภาพธรรมชาติทุกวันนี้ สันนิษฐานได้ว่าหายากเต็มที ทั้งที่สมัยก่อนเป็นไม้ที่พบไม่ยากเลย คนเก่าแก่เคยเล่าให้ฟังถึงม้าบินที่ อ.ปะทิวว่า หากพ้นเขต อ.เมืองออกไปตามถนนทางไปหาดทุ่งวัวแล่น ป่าชายหาดเกือบทุกแห่งเต็มไปด้วยม้าวิ่ง และมีบางจุดที่สามารถพบม้าบินด้วยเช่นกัน หลังจากความหนาแน่นของชุมชนบริเวณนั้นเริ่มมากขึ้น พื้นที่ป่าเหล่านี้กับเปลี่ยนไปเป็นพื้นที่การเกษตรบ้าง ที่อยู่อาศัยบ้าง เราจึงไม่มีโอกาสได้เห็นกล้วยไม้ชนิดนี้ง่ายๆ เมื่อแต่ก่อนอีกต่อไป

ผมถ่ายรูปจนพอใจแล้ว ออกมายืนตรงลานเล็กๆ กลางป่า รู้สึกบอกไม่ถูกกับกองม้าวิ่งที่พี่ดวงเอามากองไว้ มันมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 100 ต้น นึกอยู่ว่าจะจัดการกับมันอย่างไรดี จะปล่อยไว้ที่นี่มันก็ตาย หากจะรอดก็คงต้องเผชิญกับการถูกคุกคามอีกแน่ ถ้าจะเอากลับไปด้วย ผมก็ไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็นคนทำลายธรรมชาติ ในที่สุดผมตัดสินใจให้พี่ดวงแบ่งม้าวิ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นส่วนที่มีรากติดมาบ้าง ผมกับพี่ดวงช่วยกันเอาไปปลูกที่ใต้ต้นไม้ริมป่านั่นเอง อีกส่วนเป็นต้นที่ไม่มีรากติดเลย ผมเอามันกลับมาด้วย นับจำนวนดูได้ 44 ต้น โอกาสรอดคงไม่ถึงครึ่ง

ผมกลับออกมาด้วยความคิดที่ตบตีกันในสมอง คุณจะว่าผมดัดจริตมั้ย ถ้าจะบอกว่าผมสงสารมันเหลือเกิน ทำอย่างไรจะรักษาส่วนที่เหลืออยู่ให้ได้ ทำอย่างไรจึงสามารถให้มันได้กำเนิดใหม่ สืบสายพันธุ์ของมันในสภาพแวดล้อมที่เป็นบ้านที่แท้จริงของมัน นึกไม่ออกจริงๆ ครับ







Create Date : 09 ตุลาคม 2548
Last Update : 9 ตุลาคม 2548 16:24:03 น. 22 comments
Counter : 1001 Pageviews.

 
น่าสงสารจัง ทำไมเค้าถึงไม่เพาะ ใช้เก็บแบบนี้อีกหน่อยก็โตไม่ทันสินะ


โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 9 ตุลาคม 2548 เวลา:16:43:03 น.  

 
ผมสงสัย "โครงการอนุรักษ์ฯ " อะไรนั่นจริงๆ เก็บไม้อย่างไร ไม่มีหลักวิชาการ เหลือเศษกระจาย เต็มพื้นที่ รากขาดกระจุยมั่ง ถ้านักวิชาการเก็บจริงๆ เขาจะเลือกเก็บในช่วงที่ออกดอกเต็มที่ สามารถหาความหลากหลาย แล้วเก็บเป็นตัวอย่างเพียงชนิดละไม่ถึง 10 ต้น

แต่ม้าวิ่ง มันมีตัวอย่างอยู่เยอะแยะแล้ว แถมไม้ขวดก็เพียบเลย ผมเองมีสี่ห้าต้น ติดฝักเล่น ก็ยังติด
ไม่เห็นต้องขนเป็นคันรถเลย

ขอร่วมประณามด้วยเถอะครับ


โดย: เสือจุ่น (เสือจุ่น ) วันที่: 10 ตุลาคม 2548 เวลา:10:38:22 น.  

 
อ่านแล้วรู้สึกเสียดายนะครับ

ว่าแต่ น้าโหดน่าจะจัดทัวร์ไปเที่ยวชมป่า พรรณไม้ บ้างสิครับ (อยากไป แต่ไม่อยากใช้สมองคิดเรื่องเดินทาง)
ขอบคุณครับ


โดย: สำเภางาม วันที่: 10 ตุลาคม 2548 เวลา:17:51:28 น.  

 
อยากไปเที่ยวดูกล้วยไม้เหมือนกันครับ



โดย: Paphmania วันที่: 10 ตุลาคม 2548 เวลา:23:59:39 น.  

 
เฮ้อ........ ผมว่าถ้าน้าโหดเลี้ยงม้าชุดนี้รอดแล้วจะเอากล้วยไม้คืนป่า ผมว่าเอาไปถวายวัดดีกว่า ดูซิจะมีใครเอาของวัดมั้ย


โดย: ลิงเล IP: 203.188.27.109 วันที่: 11 ตุลาคม 2548 เวลา:19:49:46 น.  

 
เรื่องเดินป่าอยากทำเหมือนกันนะครับ แต่ก็กลัวว่างไม่ตรงกัน ไปกันคนน้อยๆ เลือกเฉพาะไม่เรื่องมากไปกัน ผมเสียดายจังคุณหมูกลิ้งหายไปไหนแล้วไม่รู้


โดย: น้าโหด IP: 203.151.140.116 วันที่: 11 ตุลาคม 2548 เวลา:20:45:17 น.  

 
คุณน้าโหด แล้วเดินป่าหน้าฝนนี่อันตรายมะอะ แล้วพวกต้นไม้สวยๆพวกดอกไม้เค้าบานกันตอนไหนอะนะ


โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 11 ตุลาคม 2548 เวลา:22:39:57 น.  

 


โดย: Hexter IP: 203.185.133.6 วันที่: 12 ตุลาคม 2548 เวลา:11:55:09 น.  

 
Pai pa' duey ji


โดย: Rbby IP: 203.146.116.101 วันที่: 13 ตุลาคม 2548 เวลา:15:15:54 น.  

 
เห็นแบบนี้แล้วอีกหน่อยคงจะไม่เหลืออะไรอยู่กับธรรมชาติ
ให้คนรุ่นหลังได้ชมนะคะ


โดย: noojew IP: 203.188.14.81 วันที่: 13 ตุลาคม 2548 เวลา:19:55:07 น.  

 
ครับ สงสัยจังครับโครการอนุรักษ์พันธ์อะไรนั่น ขนเอาไปทำไมตั้งหนึ่งคันรถ จะเอาไปอนุรักษ์บ้านท่านใดหรือ
น่าเศร้าใจครับที่สภาพธรรมชาติที่สวยงามกำลังจะถูก
ทำลายไปเพราะฝีมือนักอนุรักษ์พวกนั้น


โดย: น้าต๋อย IP: 203.146.133.10 วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:15:17:03 น.  

 
เข้ามาอ่านครับ น้าโหด

อยากไปป่าบ้าง แต่ก็ ไม่เคยไปเลย
ดูท่าทางปัจจุบัน คงไม่สามารถไปได้แล้ว สังขาร ไม่อำนวย ภาระเยอะ


โดย: กาฝากไร้ใบ วันที่: 15 ตุลาคม 2548 เวลา:13:24:34 น.  

 
สงสัยต้องขอติดตามน้าโหดไปเดินป่าแบบนี้บ้างซะแล้ว


โดย: Amder IP: 210.213.26.78 วันที่: 19 ตุลาคม 2548 เวลา:11:47:59 น.  

 
มนุษย์เกิดมาใช้ทรัพยากรธรรมชาติกันทุกคน แล้วแต่ว่าไครจะใช้อย่างไร บางคนใช้แบบประหยัด บางคนอาจใช้แบบเบียดเบียน แล้วทำไมไม่ถามตัวเองกันบ้างเคยให้อะไรตอบแทนธรรมชาติและผืนแผ่นดินบ้าง เคยปลูกต้นไม้กันคนละกี่ต้น น่าจะมีกิจกรรมปลูกป่าทดแทนกันบ้างนะครับน้าโหด เพราะผมเห็นเคยทำกันอยู่พักนึง แล้วก็หายไป


โดย: Sippawit (Sippawit ) วันที่: 21 ตุลาคม 2548 เวลา:16:40:41 น.  

 
เก็บเรื่องราวเคล้าความโหดสมชื่อครับ พวกนี้มันก็เป็นอะไรซักอย่างมังครับ เห็นแก่ตัวจนลืมนึกถึงผืนโลก ขอขอบคุณครับพี่ที่เข้าไปติดตามอ่านของผม


โดย: JUNGLE MAN วันที่: 24 ตุลาคม 2548 เวลา:12:21:25 น.  

 
นักวิชาการเลวๆชั่วๆแบบนี้มีอยู่ทุกอนูในทุกวงการ noklekเคยเป็นนักอนุรักษ์ฯมันทำให้หมดกำลังใจ ในที่สุดต้องเปลี่ยนอาชีพ คนพวกนี้พ่อแม่ไม่สั่งสอน ทำทุกวิถีทางเพื่อสร้างตัวเองให้มีฐานะ เพื่อ ศจ. รศ. ผศ. ซี7 8 9 10 เมื่อมาทำหนังสือพิมพ์ก็ยิ่งถอดใจ นักการเมืองนี้ตัวแสบเลย บ้านเมืองเราถึงเป็นอย่างนี้ สงสารในหลวงค่ะ เพื่อนๆnoklekก็เป็น ขอแสดงความนับถือในความเป็นนักอนุรักษ์ของ"น้าโหด"อย่างท้อหมดใจซะก่อนนะคะ noklekขอคารวะ 1จอก


โดย: noklekkaa(papagearna) (papagearna ) วันที่: 14 มิถุนายน 2549 เวลา:12:52:10 น.  

 
ขอบคุณคุณซกเล็กที่เข้ามาอ่านครับ ผมไม่ใช่นักอนุรักษ์อะไรหรอกครับ คิดว่าเรื่องนี้มันมากจนเกินงามเท่านั้นจึงนำมาเผยแพร่ครับ

อ้อ .... นกเล็กครับนกเล็ก


โดย: น้าโหด วันที่: 27 มิถุนายน 2549 เวลา:14:50:58 น.  

 
แวะมาดูม้าคะ ช่วงนี้เห็นที่JJกำลังออกดอกมีมาขายแยะ .....แก้ข้อมูลหน่อยอ่ะเคยเป็นช่างอนุรักษ์น่ะค่ะไม่ใช่นัก....คนเป็นนักฯนี่ต้องมีอุดมการเหนียวแน่น...มือไวไปหน่อยอ่ะ..เด๋วเพื่อนหมั่นใส้


โดย: noklekkaa(papagearna) (papagearna ) วันที่: 16 กรกฎาคม 2549 เวลา:14:13:26 น.  

 


โดย: nop krap IP: 203.154.97.196 วันที่: 21 กันยายน 2549 เวลา:13:32:39 น.  

 
กล้วยไม้ม้าสวยมาก


โดย: อุ้ม IP: 203.156.44.22 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:20:37 น.  

 
สวยดีนะคะชอบกล้วยไม้เป้นพิเศษอยู่แล้วคะ


โดย: เนตรภิรมย์ IP: 202.29.44.30 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:15:25:16 น.  

 
ไม่แน่ใจว่า พี่จะจำผมได้ป่าวนะคับ เมื่อไม่นานนี้ผมแวะไปที่ ที่มาอีกครั้ง เขาประกาศขายที่แล้วนะ ไม่รู้เจ้าของเขารู้ป่าวว่าที่ของเขามีกล้วยไม้เยอะขนาดนี้

ไม่รู้ว่าถ้ามีคนซื้อแล้วมันจะเป็นอย่างไรต่อไป ได้แต่เสียดายจิงๆ ครับ

ส่วนงานวิจัยผมอุปสรรคค่อนข้างเยอะ ไว้ใกล้ๆเสร็จ คงต้องรบกวนขออนุเคราห์ภาพจากพี่ด้วยนะคับ


โดย: เบีย IP: 58.8.110.156 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:47:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

น้าโหด
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Friends' blogs
[Add น้าโหด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.