Group Blog
กล้วยไม้ในป่าไทย
Thai native orchid profiles
โลกสีเขียว
ถอดความ
GMOs
เล่าเรื่องจากภาพถ่าย
Portfolio
Film addicted
Half frame
เรื่องเมืองไทย
ขายกลัวยไม้
สิงหาคม 2548
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
18 สิงหาคม 2548
จากหาดทรายขาว ... สู่ตะนาวศรี
All Blogs
กล้วยไม้พันธุ์แท้ดอกหอม (ตอนที่ 2)
กล้วยไม้พันธุ์แท้ดอกหอม (ตอนที่ 1)
ทิ้งใบ ให้ดอก
กล้วยไม้พันธุ์แท้ของไทยที่มีบทบาทต่อการทำลูกผสม (ตอนที่ 2)
กล้วยไม้พันธุ์แท้ของไทยที่มีบทบาทต่อการทำลูกผสม (ตอนที่ 1)
กล้วยไม้ในสวนยาง (ตอนที่ 2)
กล้วยไม้ในสวนยาง (ตอนที่ 1)
บานเดี๋ยวเดียวก็เหี่ยวเสียแล้ว
ถิ่นอาศัยของกะเรกะร่อนในธรรมชาติ
สำรวจกล้วยไม้กับชายบ้าหม้อ (ข้าวหม้อแกงลิง) ตอน 2
สำรวจกล้วยไม้กับชายบ้าหม้อ (ข้าวหม้อแกงลิง) ตอน 1
สิงโตในรังเพลิง
กล้วยไม้ในป่าชุ่มน้ำ
ลุยโคลน .. ดูสิงโตอาบน้ำ
กล้วยไม้ ... ไม่น่าเลี้ยง (ตอนที่ 3)
กล้วยไม้ ... ไม่น่าเลี้ยง (ตอนที่ 2)
กล้วยไม้ ... ไม่น่าเลี้ยง (ตอนที่ 1)
ตะเข็บไทย .... ตะเข็บไพร
เลาะริมน้ำ ... ตามหาฉัททันต์
ตามรอยหมูป่า หาก่อ เฟิน และกล้วยไม้
ม. ม้า เงื่องหงอย
เขา ฒ.ผู้เฒ่า
มุดถ้ำ ... หาน้ำทอง
ดูเหลืองกาญจน์ที่ป่าไทรโยค
กล้วยไม้ป่าภาคใต้
จากหาดทรายขาว ... สู่ตะนาวศรี
กะเรกะร่อนกับต้นตาล
จากหาดทรายขาว ... สู่ตะนาวศรี
รุ่นน้องของผมคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า เขาได้ไปพบดอกไม้ในสภาพธรรมชาติชนิดหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นกล้วยไม้หรือไม่ ชาวบ้านเรียกมันว่า ละเหม็ด บางคนก็เรียก ละเหม็ดหิน ดอกมีหลายสี และขึ้นอยู่ดาษดื่น ผมจึงวางแผนเดินทางไปดูด้วยตัวเองในสัปดาห์ต่อมา ทุ่งตะโก เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดชุมพร หากจะเดินทางไปสุราษฎร์ธานีต้องผ่านอำเภอนี้ คนนำทางพาเรามุ่งหน้าไปยังป่าแห่งหนึ่งซึ่งเป็นพื้นที่รกร้าง ห่างจากชายหาดไม่ถึงกิโลเมตร
ป่าชายหาด
นั่นไงพี่โหด ละเหม็ดหิน ที่เล่าให้ฟัง โอ๊ค เป็นรุ่นน้องผม 3 ปีตั้งแต่โรงเรียนมัธยมจนกระทั่งเรียนปริญญาตรีในมหาวิทยาลัย ขออนุญาตแนะนำเขา เพราะการเข้าป่าในครั้งนี้ เขาจะเป็นพระเอกและตัวโกงในคราวเดียวกัน เขาชี้ไปที่กอกล้วยไม้กลุ่มใหญ่ ขึ้นอยู่กับพื้นทรายสีเทาๆ มองดูคล้ายผงปูนซีเมนต์มากกว่า
อ้อ นี่มัน ม้าวิ่ง นี่หว่า
Doritis pulcherima
เป็นกล้วยไม้ที่พบกระจายในสภาพธรรมชาติของไทย โดยเฉพาะในภาคใต้และตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นกล้วยไม้ที่ทนแล้งได้ดี สามารถเจริญเติบโตบนหินและทนความเค็มได้ดี ชาวบ้านแถวนั้นเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนกล้วยไม้ชนิดนี้มีอยู่มากกว่านี้หลายเท่า พอนายทุนเริ่มเข้ามาจับจองพื้นที่ทำโรงงาน ทำลานตากปลาหมึกและปลาทะเล ป่าไม้บริเวณนี้ถูกตัดไปเผาถ่านทำเชื้อเพลิง และม้าวิ่งจำนวนมากถูกแผ้วถางไปอย่างไร้คุณค่า บ้างก็นำวัวเข้ามาเล็มแทนหญ้าในยามขาดแคลน ขณะที่ผมกำลังสาละวนไล่จับมดแดงนับสิบตัวออกจากคอเสื้อ เสียงเจ้าโอ๊คก็ตะโกนโหวกเหวก พี่โหด ระวังเหยียบ
เหยียบอะไร ขี้เหรอ??? ผมถามพร้อมๆ กับยกรองเท้าขึ้นมาดูว่าเหยียบไปหรือยัง
ก็ม้าวิ่งนั่นแหละพี่ ผมกลัวพี่เหยียบ มันเยอะดีจัง ม้าวิ่งที่นี่ขึ้นเป็นกลุ่มๆ และหนาแน่นมาก ทุกๆ ตารางเมตรจะต้องพบมันขึ้นอยู่ติดๆ กัน โดยเฉพาะบริเวณใต้ต้นไม้ หลายกอเริ่มติดฝักและเมื่อสมบูรณ์เต็มที่ เมล็ดเหล่านี้คงจะปลิวไปในบริเวณนั้น หากได้รับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ชีวิตใหม่ก็พร้อมกำเนิดขึ้น หลังจากลุยผ่านดงม้าวิ่งและรังมดแดงมาสักครู่ เราก็พบเจ้าป่านอนสงบนิ่งใต้ต้นไม้เตี้ยๆ ต้นหนึ่ง โอ๊คถามผมว่า สิงโต อะไรพี่ ผมตอบอย่างมั่นใจกลับไปว่า ไม่รู้โว้ยยย
เก็บกลับไปบ้างมั้ยพี่ เอาไปจำแนกดู เผื่อเป็นสปีชี่ส์ใหม่ ได้ดังกันคราวนี้
เอาแค่รูปก็พอ แล้วทำพิกัดไว้ ถ้าไม่มั่นใจค่อยกลับมาดูอีกที หลังจากนั้นก็ได้ทราบว่า มันน่าจะเป็น สิงโตพัดแดง
(Cirrhopetalum lepidum)
ซึ่งพบได้ง่ายในทั่วไปในป่าของไทย ขณะที่พบกำลังถ่ายภาพสิงโตกอนั้นอยู่ เจ้าโอ๊คที่ลุยล่วงหน้าไปก่อนก็ตะโกนเรียกอีก
พี่โหด มาดูเร็ว นี่กล้วยไม้หรือเปล่า ต้นยาวๆ ใบแหลมๆ ขึ้นกับพื้น มีดอกมั้ย ผมตะโกนถามกลับ ไม่มีซักดอกเลยพี่
มันก็คือ
Bromheadia finlaysoniana
นั่นเอง เป็นกล้วยไม้ดิน ดอกสีขาวน้ำนม ปากสีม่วงและเหลือง ที่สำคัญดอกหอมเป็นที่สุด กล้วยไม้ชนิดนี้สามารถออกดอกได้เกือบตลอดปี แต่ข้อเสียคือมันจะบานให้ชื่นชมแค่ครึ่งวันเช้า พอตกบ่ายก็จะเหี่ยวและค่อยๆ แห้งไป ผมชอบกล้วยไม้ชนิดนี้ตรงก้านดอกที่เป็นหยักและแข็ง ผมว่ามันสวยดี โอ๊คถามว่า ตัวนี้หายากมั้ย ผมบอกเขาว่าเพิ่งเจอในป่าเป็นครั้งแรกเหมือนกัน ฉับพลันมันก็คว้าเอาเสียมเล็กๆ ที่เหน็บมาที่กระเป๋าหลังกางเกงยีนส์ พร้อมถามในเชิงปรึกษาว่า ขุดเลยมั้ยพี่ ผมแกล้งทำไม่ได้ยิน เฉไฉไปถ่ายรูปเพิ่ม พี่โหด ให้ขุดกลับมั้ยพี่ ผมหันกลับมามองเขาอีกครั้ง ทำหน้าเฉยๆ แต่แฝงแววตาอำมหิตโดยไม่ต้องพูดอะไร โอ๊คเก็บเสียมใส่กระเป๋าหลังตามเดิม แสดงว่าเขารู้ว่าผมหมายถึงอะไร
หลังจากเดินสำรวจจนเมื่อย ตกไปเกือบเที่ยงวัน เมื่อกินข้าวกินปลากันเรียบร้อยแล้ว พวกเรามีการคุยกันถึงป่าอีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลเท่าไร ซึ่งโอ๊คเล่าให้ผมฟังถึงดงหม้อข้าวหม้อแกงลิง ฟังดูแล้วน่าสนใจ พรุ่งนี้พวกเราค่อยเดินทางต่อ พักเอาแรงก่อน ผมโดนมดแดงกัดจนแดงไปทั้งตัว หารองเท้าบู้ทไปด้วยนะพี่ หน้าฝน น้ำเยอะ
ย่ำน้ำตามหากล้วยไม้
เบื้องหน้าผมคือแนวปลายเทือกเขาตะนาวศรีซึ่งกั้นพรมแดนระหว่างจังหวัดชุมพรและระนองออกจากกัน หากพวกเรามีแรงพอที่จะข้ามเขาสี่ห้าลูกข้างหน้านี้ได้ เราก็จะเขาสู่เขตอำเภอละอุ่น จังหวัดระนอง เมื่อจัดแจงใส่รองเท้าบู้ทกันแล้วจึงเริ่มบุกตัดเข้าไปในสวนปาล์มน้ำมันของชาวบ้าน เมื่อถึงเชิงเขา พื้นก็เริ่มแฉะ มีทางน้ำที่ไหลลงจากภูเขาลงมาตลอดเวลา หญ้าที่ขึ้นสูงเกือบท่วมหัวและไม่สามารถมองเห็นพื้นที่เราจะเดินไปข้างหน้า ทำให้ผมคิดถึงรังงูจงอาง มีคนเราให้ผมฟังว่าเคยปีนขึ้นเอาตัดต้นจันผาบนเขาแต่พบกับรังงูจงอาจ แม่งูจะหวงลูกมาก มันเลื้อยไล่ผู้บุกรุกอย่างไม่ลดละ และหากโดนงูจงอางกัดก็ไม่ต้องพยายามคิดว่าจะไปหาหมอ แต่ให้คิดถึงพ่อแม่และผู้มีพระคุณแล้วนอนรอฟังพระสวดได้เลย
เราได้เจอกล้วยไม้ชนิดแรกที่ขึ้นอยู่ขวางทางน้ำนั่นเอง มันคือว่านหัวครู
(Eulophia spectabilis)
ครั้งแรกที่เห็นผมยังไม่แน่ใจนัก เพราะครั้งที่เคยพบกล้วยไม้ชนิดนี้ในป่าทางเหนือติดกับชายแดนพม่า กล้วยไม้ชนิดนี้มีสีออกไปทางแดง แต่ดอกที่เห็นนี้มีสีน้ำตาล กลีบข้างปรกห่อลง มาทราบเอาทีหลังว่ากล้วยไม้ชนิดนี้มีลักษณะภายนอกที่หลากหลายมากขึ้นอยู่กับบริเวณที่อยู่อาศัยที่พบ
หลง
ผม โอ๊ค และเอี๊ยบ วางแผนเดินแยกทางกันเพื่อสำรวจ แล้วค่อยวนกลับมาพบกันที่จุดนัดพบ เพื่อจะได้มีโอกาสสำรวจพื้นที่ให้กว้างขึ้น เพียงไม่กี่อึดใจหลังจากแยกทางกัน ผมก็พบกับกล้วยไม้อีกชนิดหนึ่งซึ่งไม่ทราบว่ามันเป็นอะไร ดูต้นแล้วคล้ายหวายแดงที่สุด แต่ถึงวันนี้ก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามันใช่หวายแดงหรือไม่ เกือบชั่วโมงต่อมาผมก็พบกับสิ่งที่ผมอยากเจอ มันเป็นบึงน้ำตื้นๆ ที่เต็มไปด้วยหม้อข้าวหม้อแกงลิงเต็มไปหมดนับหมื่นนับแสนต้น หม้อสีเขียวดูมันวับ มันสวยจับใจเหลือเกิน จำได้ว่ากดชัตเตอร์ไปเป็นร้อยๆ รูป พอใกล้เวลานัด ผมพยายามเดินกลับไปที่จุดนัด แต่ก็พบว่าตัวเองหลงทางเสียแล้ว เพราะพยายามเดินออกมาทางใดก็จะกลับมาที่บึงหม้อข้าวหม้อแกงลิงนั่นทุกครั้ง
ผมตะโกนเรียกเพื่อนให้รู้ว่าผมอยู่ตรงไหนด้วยเสียงแหลมๆ ดังๆ แต่ก็ไม่มีเสียงใดตอบกลับมาเลย เกือบๆ ชั่วโมงถัดมา ผมเมื่อยขาจนสุดจะทน ลองจินตนาการถึงการเดินลุยน้ำขนาดเกือบครึ่งแข้ง มันใช้แรงกว่าเดินบนบกธรรมดาหลายเท่านัก ผมนั่งพักบนท่อนไม้ขนาดย่อมๆ ที่ชาวบ้านตัดไว้แต่ยังไม่ได้ลากออกไป ส่งเสียงเรียกเพื่อนเป็นครั้งคราว หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงก็เจอโอ๊คเป็นคนแรก สภาพเหมือนนักมวยไทยเดินออกจากมุมในยกสุดท้าย กางเกงยีนส์เลอะเทอะและเปียกน้ำทั้งตัว เขาเล่าให้ฟังว่าขณะที่เดินก้าวไปข้างหน้าที่มองไม่เห็น เขาตกลงไปไปในบ่อน้ำขนาดลึกครึ่งตัว กว่าจะทุลักทะเลปีนขึ้นมาได้ก็เล่นเอาเหนื่อย ยังขาดแต่เอี๊ยบอีกคนที่ยังหากันไม่พบ แต่ไม่นานก็เจอเพื่อนเราคนสุดท้ายในสภาพมอมแมมไม่ต่างจากเราเลย ในมือเขามีกล้วยไม้ชนิดหนึ่งซึ่งพวกเราไม่เคยรู้จักมาก่อน พวกเรา 3 คนจึงเดินกลับไปดูแหล่งที่พบกันอีกครั้ง
มันก็คือ เอื้องพรุ
Thrixspermum amplexicaule
ความยาวลำต้นเป็นวาๆ เลื้อยพาดไปตามต้นไม้เตี้ยๆ โคนลำต้นอยู่ในน้ำ นับเป็นกล้วยไม้ชนิดหนึ่งที่มีการดำรงชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ เจ้าเอื้องพรุกำลังออกดอกสีม่วงเล็กๆ แต่สวยจับใจ คงมีโอกาสเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นที่จะพบกล้วยไม้ชนิดนี้ในสภาพธรรมชาติ
เมื่อเก็บภาพประทับใจจนหนำใจก็ตกใกล้ค่ำเต็มที ฤดูฝนในป่าแบบนี้ยุงชุมชะมัด ผมว่ามันกัดทะลุกางเกงยีนส์ 2 ชั้นได้ ไม่ได้โม้ แถวนี้ก็เป็นเขตมาลาเรียระบาดเสียด้วย 3 หนุ่มจึงเร่งฝีเท้ากลับอย่างอิ่มเอมใจ วันนี้ช่างมีความสุขจริงๆ กลับถึงที่พักก็หมดแรงพอดี อาบน้ำอาบท่า ต้มน้ำร้อน เอาบะหมี่ซองมากินกันหิว ก็มานั่งคุยกันวิพากษ์วิจารณ์กันต่ออีกหน่อย ไม่ถึง 5 นาที ร่างกายมันไม่ไหว เรียกร้องให้ Shut down ตัวเอง ไปล่ะครับ
Create Date : 18 สิงหาคม 2548
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2553 19:03:06 น.
10 comments
Counter : 1233 Pageviews.
Share
Tweet
น้าๆ งวดหน้าผมไปด้วยดิ
โดย: ลิงเล IP: 202.129.18.68 วันที่: 19 สิงหาคม 2548 เวลา:12:18:14 น.
สวัสดีค่ะโหสวยมากๆค่ะขอบคุณนะคะที่เอามาให้ชมค่ะสวยๆค่ะสวยชอบค่ะ
โดย:
oryzaja
วันที่: 20 สิงหาคม 2548 เวลา:19:12:33 น.
มาทักทายครับพี่โอ๊ต...ไปอีกเมื่อไหร่ฝากเยี่ยมลูกๆผมหน่อยนะ...
โดย:
บานาน่า
วันที่: 23 สิงหาคม 2548 เวลา:13:57:08 น.
ชอบอ่านเรื่องราวพาเที่ยวธรรมชาติแบบนี้ครับ เพลินดี
โดย:
สำเภางาม
วันที่: 23 สิงหาคม 2548 เวลา:16:38:19 น.
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ
โดย: noklekkaa(papagearna) IP: 158.108.211.210 วันที่: 13 มิถุนายน 2549 เวลา:8:08:44 น.
ผมเพิ่ง ค้นหา ม้าวิ่งในกูเกิ้ล จนลิงค์ไปที่พันธุ์ทิพย์ และต่อมาที่นี้
พอดีตอนนี้ผมกำลังเรียน และทำวิจัยเกี่ยวกับม้าวิ่ง จึงรบกวนขออนุเคราะห์ข้อมูลนะครับ
แต่ผมไม่ทราบวิธีติดต่อทางอื่น หากไม่รบกวนช่วยติดต่อมาที่เมล์ผมได้ไหมครับ jatemc@gmail.com
ขอขอบคุณล่วงหน้านะครับ
โดย: Bya IP: 158.108.211.128 วันที่: 27 กรกฎาคม 2549 เวลา:21:53:24 น.
ชอบอ่านข้อมูลเรืองกล้วยไม้ต่างๆ ของน้าโหด ครับ เพิ่งเจอ Blog น้า วันนี้ (มัวแต่ไปหลงอยู่ไหนก้อม่ายรุ๊) เป็นกำลังใจให้ครับ และจะติดตาม(อย่างเงียบๆ) ตลอดไปนะครับ
โดย: nop krap IP: 203.154.97.196 วันที่: 21 กันยายน 2549 เวลา:11:55:25 น.
ตามมาอ่านครับ ... ขอบคุณยิ่ง
โดย: สลิล IP: 222.123.153.143 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:5:33:26 น.
ดอกกล้อยไม่สวยมากเลยนะ
โดย: ไม่ระบุชื่อ IP: 125.25.187.226 วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:13:50:45 น.
ชอบเรื่องกล้วยไม้แนวสำรวจหาในป่าครับ ได้อรรถรสดี
โดย:
แจ้ห่ม47
วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:10:13 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
น้าโหด
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [
?
]
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add น้าโหด's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.