Carpe Diem !

<<
มกราคม 2559
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
8 มกราคม 2559
 

Lovely Tallinn : Yeahhh.. it's (much better than) Okay.

หลังจากเรานั่งเรือเฟอร์รี่จากเฮลซิงกิ เป็นเวลา 2 ชม. เราก็มาถึงเมือง Tallinn ประเทศ Estonia ในตอนเช้า ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆในกลุ่มประเทศบอลติก ที่คนไทยอาจจะไม่ค่อยรู้จักมากนัก ทั้งๆที่เป็นเมืองเก่าสมัยยุคกลางที่น่ารัก น่าเที่ยวมาก

เราเอาของไปเก็บในที่พัก ซึ่งอยู่ในย่านเมืองเก่า ไม่ไกลจากกำแพงเมืองโบราณมากนัก นับว่า location ดีมากทีเดียว

 After spending 2 hours on the ferry from Helsinki, we finally arrived Tallinn, the lovely medieval city in Baltic countries.



เมื่อเราเดินผ่านกำแพงเมืองเข้าไป ก็จะได้พบกับเขตเมืองเก่า ที่มีบ้าน และร้านค้าเล็กๆ มากมาย บนถนน cobble stone


We walked pass the old city wall to the cobble stone street that led us to the old town and our hostel (which located right in the old town).



เราเริ่มต้นด้วยการซื้อขนมขึ้นชื่อของที่นี่ (และภายหลังมาทราบว่า ประเทศอื่นๆในแถบนี้ ก็มีขนมนี้ขายเช่นกัน) คือ อัลมอนด์คั่วเคลือบผง cinnamon ของร้าน Olde Hansa ร้านอาหารเก่าแก่ชื่อดังของเมือง Tallin ซึ่งจะมีหนุ่มน้อยแต่งตัวแบบยุคกลาง มายืนคั่วอัลมอนด์ให้ดู และชิมกันได้ก่อนซื้อ


Our first stop in this town was at the famous Olde Hansa restaurant. We tasted and bought roasted almonds with cinnamon...yummy !!



เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ ที่ไม่ต้องดูแผนที่ ไม่ต้องคิดมากอะไร เดินมั่วๆไปก็ทั่วภายในวันเดียว

You can wandering around this lovely little city without any map, I'm sure you will enjoy it and won't get lost.



แต่เราก็เลือกที่จะเริ่มต้นการเที่ยวเมืองนี้ ด้วยการไปร่วมกับ local guide tour ที่อาคารที่ว่าการเมืองในจัตุรัสกลางเมือง Raekoja plats (Town Hall Square) ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO เมื่อปีค.ศ. 1997

ไกด์สาวของเราวันนี้ หน้าตาและบุคลิกเหมือน Amy ในซีรีย์ The big bang theory มาก แถมยังฮา มุกเยอะพอกันอีกด้วย


However, we decided to join the free walking tour at the city hall. Our guide was a native Estonian who look really much alike (and as hilarious as) Amy in my favorite TV show, the Big Bang theory.



ยอดที่เห็นสูงๆหลังตึกนี้นั่นแหละ คือหอคอยของอาคารที่ว่าการเมือง Tallinna raekoda (Tallinn Town Hall)

The high tower behind that building is the tower of the city hall. You can see the green dragons that believed to be the protector of this city.



Tallinna raekoda (Tallinn Town Hall) เป็นอาคารหินสมัยยุคกลาง จะเห็นว่ามีมังกรสีเขียวสวมมงกุฎประดับอยู่เหนือกำแพง เชื่อกันว่าเป็นมังกรผู้ปกป้องคุ้มครองเมือง



ลืมถ่ายรูปมา ขอยืมภาพมาจาก //www.wikipedia.org


ไกด์พาเราเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆตามถนนในเมืองเก่า พร้อมทั้งเล่าประวัติศาสตร์ของเมือง (ซึ่งบัดนี้เราก็เริ่มจำรายละเอียดไม่ค่อยได้แล้ว) เริ่มจากอนุสาวรีย์แก้ว (The War of Independence Victory Column) กลาง Freedom square ที่นำเข้าแก้วจากประเทศ Czech republic (ที่ใครๆก็ทราบว่ามีชื่อเสียงด้านการทำแก้วที่สุดแห่งหนึ่งในโลก) เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ผู้ที่สูญเสียชีวิตไปในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพของประเทศเอสโตเนีย (เอสโตเนียมีการต่อสู้เพื่ออิสรภาพหลายครั้ง ประกาศอิสรภาพเป็นช่วงสั้นๆหลายครั้ง และยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด [แบบดีๆ]กับประเทศฟินแลนด์ และ[แบบไม่ค่อยดีนัก]กับโซเวียต)

แต่ปรากฏว่า พอสร้างเสร็จแล้ว ชาวเมืองกลับไม่ค่อยชอบอนุสาวรีย์นี้เท่าไร เพราะรู้สึกว่ามันช่างเป็นอนุสาวรีย์ที่หน้าตาน่าเกลียด เป็นการสิ้นเปลืองเงินโดยใช่เหตุ และก็ต้องซ่อมแซมบ่อย เนื่องจากแก้วมักจะตกลงมาแตกบ่อยครั้ง เมื่อมีลมพัดแรงๆ และบางครั้ง แก้วก็เปลี่ยนสี จากสีขาวเป็นสีชมพู เนื่องจากฝุ่นจับอีกด้วย

แต่ด้วยความที่คนเอสโตเนีย เป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึก ชอบก็ไม่บอกว่าชอบ เกลียดก็ไม่บอกว่าเกลียด และจะมีคำพูดติดปาก เวลาที่โดนถามถึงความรู้สึกหรือความเห็นเกี่ยวกับสิ่งใด ชาวเอสโตเนียก็จะตอบแค่ Yeah....it's okay. พร้อมทำกลอกตาบน ปากสระอิ ยักไหล่นิดๆ ...อนุสาวรีย์นี้ ก็ตกอยู่ใน category ของ Yeah ...it's okay. เช่นกัน


The guide took us to the War of Independence Victory Column at Freedom square that made from the imported glass from Czech republic as the memorial for people who lost their life during Estonian war of independence. Turned out that people were not very happy with this monument due to the hideous design, the waste of money and the need for frequent renovation (the glass fell often when the wind blown.). But if you ask the local ...they will not say that they hate it. They will just shrugged their shoulders and say "Yeahh...it's OK."



ส่วนยอดสูงอีกยอดนี่ คือโบสถ์ Niguliste kirik (St. Nicholas's Church) ที่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Eesti Kunstimuuseum ไปแล้ว

มีคนถามไกด์ว่า ปัจจุบัน คนเอสโตเนียเคร่งศาสนาแค่ไหน ไกด์ตอบว่า ปัจจุบัน ประชากรเอสโตเนียส่วนใหญ่ เป็นคนที่ไม่นับถือศาสนาใด ไม่ค่อยมีคนไปโบสถ์ แม้แต่จะแต่งงาน ก็ยังนิยมแต่งงานกันในสวน หรือที่โรงแรมมากกว่า หากมีญาติหรือเพื่อนคนใด ที่จัดงานแต่งงานในโบสถ์ แขกที่จะต้องไปร่วมงาน จะเครียดกันมาก ว่า เอ๊ะ ชั้นจะต้องยืนตรงไหน ทำตัวยังไงในโบสถ์ เนื่องจากไม่ได้เข้าโบสถ์กันมานานมากแล้วนั่นเอง


When we walked pass St. Nicholas's Church, someone asked our guide how religious Estonian people these days. The guide answered that most people are non-religious, they will go to the church only when their relatives decide to get marry in the church and feel awkward about where to stand and what to do in the church.



ไกด์พาเราเดินเลียบกำแพงเมืองเก่า ขึ้นไปบนเนิน Toompea hill ระหว่างทางจะมีศิลปินวางรูปวาดขายเป็นระยะๆ


We walked along the city wall, up to Toompea hill.



ด้านบน Toompea hill จะเป็นที่ตั้งของ Alexsander Nevski katedraal (Alexander Nevsky Cathedral) และ Toompea Castle อาคารรัฐสภาสีชมพูหวานแหวว ไกด์บอกว่า ทาลลินเป็นเมืองเล็กๆ วันดีคืนดี เราก็อาจจะไปยืนซื้อผักอยู่ข้างๆนายกรัฐมนตรีของประเทศ หรือกระทบไหล่ดาราที่มาวิ่งในสวนสาธารณะได้เป็นเรื่องปกติ


We saw Alexander Nevsky Cathedral and the pastel pink parliament. You may see the prime minister buying some fruits in the fresh market by himself.



หอคอยนี้ คือ Tall Hermann’s Tower ซึ่งมีธงชาติเอสโตเนียปลิวไสวอยู่บนยอด

ไกด์ให้เรานั่งบนสนามหญ้า แล้วประวัติของธงว่า เดิมธงแถบสีดำ ฟ้า ขาวนี้เป็นธงของสมาคมนักศึกษาของเอสโตเนีย แต่ภายหลังรัฐบาลได้เลือกธงนี้ เพื่อเป็นธงประจำชาติ แล้วธงนี้ก็ถูกโซเวียตแบนอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ Singing revolution และการทำโซ่มนุษย์ (human chain) ที่ยาวที่สุดในโลก เพื่อเรียกร้องอิสรภาพ ธงนี้ก็ถูกนำมาใช้เป็นธงของประเทศอีกครั้ง และก็ถูกใช้เรื่อยมาจนทุกวันนี้

โดยภายหลัง มีคนพยายามจะอธิบายความหมายของแต่ละสีในธงนี้ ซึ่งในที่สุด คำอธิบายที่ได้รับความนิยมมากสุดคือ สีฟ้า เป็นสีของท้องฟ้าและอิสรภาพ สีดำ คือสีของดินและการต่อสู้อย่างยากลำบากและยาวนานของชาวเอสโตเนีย และสีขาว คือความบริสุทธิ์และอนาคตที่สดใส


The blue-black-white flag above Tall Hermann's tower use to be the flag of Estonian student association, but later this flag became the national flag. The blue color represents the sky and freedom, black represents the soil and fight during the hard time of people and white is the pure spirit and brighter future.



และแล้วก็มาถึงไฮไลท์ของทัวร์ วิวบังคับ ที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปมุมสูงของเมือง ที่เห็นทั้งยอดโบสถ์ Niguliste kirik (St. Nicholas's Church) และยอดศาลาว่ากลางเมือง ก่อนที่ไกด์จะพาเราเดินลงเนิน และชักชวนให้เราไปลองดื่มเหล้าท้องถิ่นของเมืองทาลลิน ที่มีชื่อว่า Vana Tallinn (แต่เราก็ไม่ได้ลองหรอกนะ กลัวเมา กลับโฮสเทลไม่ถูก อิอิ)


Then we reached the most photogenic view of this city. Lovely !



หลังจากแยกย้ายจากคุณไกด์ Amy (นามสมมติ) เราก็เดินเตร็ดเตร่ในเมือง และหาอะไรกินในคาเฟ่เล็กๆที่แนะนำใน lonely planet (จำชื่อไม่ได้) ก่อนจะเข้าพักในโฮสเทล และเราจะเดินทางต่อไปยังเมือง Riga ประเทศลัตเวียกันต่อในวันพรุ่งนี้


After finished the walking tour, we spent the evening strolling around the old town. We should have tried the local liquor Vana Tallinn, but we didn't.




I love Tallinn. It's my most favorite city in these Baltic countries.



And tomorrow, we will take the bus another city in these Baltic countries, Riga, Latvia.




Travel tips

1. Free guided tour จะมีอยู่ทุกเมืองท่องเที่ยวในยุโรป บางเมืองที่ฮิตๆใหญ่ๆ ก็จะมีหลายบริษัท สามารถไปถามรายละเอียดได้ที่ information center หรือหาจากใบปลิวในโฮสเทล


- ส่วนมากมักจะมีจุดนัดพบที่ Landmark ของเมืองนั้นๆ เช่น จัตุรัสกลางเมือง ศาลาว่าการเมือง อนุสาวรีย์ หรือโบสถ์สำคัญๆ ไกด์จะถือธง หรือสัญลักษณ์อะไรซักอย่างให้เรารู้


- ทัวร์มักมี 2 - 3 รอบต่อวัน มักจะเป็นรอบ 10.00, 14.00 และ 17.00 เลือกไปได้ตามสะดวก (แต่รอบที่คิดว่าดีสุด ถ้าเราไปถึงเมืองนั้นแต่เช้า คือรอบ 10.00 หลังนำสัมภาระไปเก็บเข้าที่พักแล้ว เพราะไกด์จะพาเราไปชมสถานที่เด่นๆของเมืองจนครบ พร้อมเล่าประวัติศาสตร์ และเกร็ดความรู้สนุกๆ

ซึ่งจะทำให้การเดินเตร็ดเตร่เก็บตกสถานที่ไกด์ไม่ได้พาไป หรือการเข้าไปละเมียดชมสถานที่ที่ไกด์พาเราไปอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากทัวร์จบลง มีความสนุกยิ่งขึ้น เพราะเราทราบที่มา และประวัติศาสตร์ของที่นั้นๆแล้วนั่นเอง)


- ชื่อว่า free ก็จริง แต่ตอนท้ายสุดของทัวร์ ไกด์จะขอให้เราสนับสนุนด้วยการให้ทิป เท่าไรก็ได้ ตามความพอใจ และอาจจะไปช่วยกดโหวตในเว็บไซต์ เพื่อทำให้เค้ามีกำลังใจในการทำทัวร์แบบนี้ต่อ


- บางเมือง อาจมีหลายทัวร์ให้เลือก มีทั้งทัวร์กิน ทัวร์ดื่ม ทัวร์ประวัติศาสตร์ ทัวร์ศิลปะ ทัวร์ผี ก็เลือกไปร่วมได้ตามความสนใจ


You can join the free walking tour in almost every touristic city in Europe. The meeting points usually are the most important landmarks of each city. The tours usually start at 10.00, 14.00 and 17.00. There are various kind of walking tours in some cities such as the ghost tour, the art tour, pub-crawling tour, the history tour.

You pay some tips to support the guides after the tours end.


2. ที่พัก Viru Backpackers hostel จองได้ทาง //www.booking.com มีห้องหลายแบบให้เลือก สะอาด ราคาไม่แพง มีอาหารเช้า และ  free wifi  ข้อสำคัญ คือ location ดีมาก อยู่ใน old town เลย (ข้อเสียข้อเดียวคือ วันที่เราไป และห้องที่เราไปพัก ดันตรงกับถนนหน้าโฮสเทล ซึ่งมี street performance มาเล่นดนตรีจนถึงเกือบสี่ทุ่ม ช่วงแรกๆเล่นเพลงฟังสบายๆก็ดีหรอก แต่พอดึกๆ ยังไม่หยุด แถมเปลี่ยนแนวเพลงเป็นร็อค ปวดหัวมาก จนในที่สุด มีคนสาดน้ำใส่ ใจนึงก็นึกสงสารว่าเครื่องดนตรีจะเสียหายแค่ไหน แต่ใจนึงก็นึกขอบคุณ ไม่งั้นเราคงไม่ได้นอนกันทั้งคืน)


We stayed at Viru backpacker hostel from //www.booking.com. The location is superb. Wifi is fast. It offers various types of rooms that should fit your need and the breakfast is included. It's also cheap and quite clean. I would recommend it for the budget travellers who visit Tallinn.





Create Date : 08 มกราคม 2559
Last Update : 8 มกราคม 2559 15:36:02 น. 1 comments
Counter : 2869 Pageviews.  
 
 
 
 
สวยมากค่ะ อยากไป
 
 

โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 8 มกราคม 2559 เวลา:12:25:03 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

nystagmus
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Google
..comprendre c'est pardoner.. ..live as if you will die tomorrow.. learn as if you will live forever.. gandhi
[Add nystagmus's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com