Carpe Diem !

<<
มกราคม 2559
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
1 มกราคม 2559
 

From Russia with love : St.Petersburg


ในที่สุด เราก็ได้เวลาเดินทางออกจากมอสโคว์ ขึ้นรถไฟเป็นเวลาอีก 1 วัน 1 คืน เพื่อจะมายังเมือง St.Petersburg เมืองหลวงเก่าของรัสเซีย ที่มีฉายาว่า ไข่มุกแห่งยุโรปเหนือ ...รักเมืองนี้อีกแล้ว เพราะมีคุณสมบัติของเมืองที่เราชอบ คือ มีแม่น้ำ หรือทะเลสาบ หรือแหล่งน้ำอะไรก็ตามไหลผ่าน มีสถาปัตยกรรมสวยๆ อากาศดี

After spending 3 days in Moscow, we took the train for 1 day and 1 night to St. Peterburg, the former capital city of Russia, the pearl of northern Europe. I love this kind of city; good weather with water (lake, sea, river) across the city and beautiful architecture.



หลังจากลงรถไฟ เราก็หาที่พัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมือง แต่ที่ปวดใจคือ โฮสเทลมันดันไม่มีป้ายชื่อ ! (จริงๆมี แต่ว่าไม่ตรงกับชื่อใน booking) ทำให้เราหาไม่เจอในตอนแรก และใครที่บอกว่าคนรัสเซียไม่มีน้ำใจ ขอเถียงขาดใจเลย เพราะทุกเมืองที่เราไป ก็จะมีคนที่พยายามบอกทาง ช่วยหาโรงแรม ...ที่นี่ก็เช่นกัน ...

แต่ !! คุณป้าที่ช่วยบอกทางเรา ก็ได้มีพฤติกรรมที่ทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราปวดหัวทุกครั้งที่เจอ คือ ไม่รู้ทาง แต่อยากจะช่วย ก็เลยมั่วเอา 555


(คือ ถ้ามีคนมาถามทาง แล้วเราไม่ทราบ ถ้าอยากช่วยจริงๆ ให้บอกเค้าไปเลยว่า ขอโทษทีนะ ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน หรือถ้าอยากช่วยจริงๆ ให้เปิดหาข้อมูลเพิ่ม หรือไปถามคนที่รู้ แต่อย่าบอกมั่วๆ เพราะเค้าจะเชื่อเรา และมันยิ่งทำให้เค้าเสียเวลานะ จริงๆ ! พี่เจอบ่อย !!)

แต่สรุปว่า ในที่สุด หลังจากเดินวนไปมาตามคุณป้าซักพัก เราก็เจอโฮสเทลนี้(ด้วยตัวเอง 555)

ถ้ามาเมืองนี้ ก็ขอแนะนำให้พักที่นี่ เพราะราคาถูก ทำเลดี สะอาด facility ดี ชื่อ dream house hostel Sadovaya จองได้ใน //www.booking.com (feedback ไปแล้วว่าให้ทำป้าย ไม่รู้เค้าปรับปรุงรึยัง)

We stayed at dream house hostel Sadovaya. It was a nice, cheap and clean hostel with perfect location (just a few minutes walk to St.Isaac Cathedral), eventhough it was a bit difficult to find because there's no sign in front of the hostel (I gave them feedback, so maybe there are the sign now ;p).

St.Isaac Cathedral




จากนั้นเราก็ไปกินอาหารเที่ยงกันที่ร้านดังอีกหนึ่งร้าน อยู่ไม่ไกลจากวิหารเซนต์ไอแซคเลย ร้านนี้เป็นบ้านเดิมของกวีชื่อ K.F. Ryleev ร้านบรรยากาศดี อาหารอร่อย ราคาไม่แรงเท่า cafe Pushkin

เราสั่งเกี๊ยวสไตล์รัสเซีย (ทริปนี้ลองกินเกี๊ยวมาตั้งแต่จีน ไปจนถึงยุโรปตะวันออก จริงๆมันก็รสชาติเหมือนๆกันหมดอ่ะ) ขาห่านกับลูกแพร์ตุ่นไวน์แดง มันฝรั่งทอดราดไข่ปลาและซาวร์ครีม และสเต็กเนื้อกระต่ายราดซอสครีม เครื่องดื่มเป็นน้ำส้ม พันธ์ที่ปลูกได้เฉพาะที่ St.Petersburg เท่านั้น (รสชาติเปรี้ยวได้ใจ) ของหวานเป็นเครมบรูเล


Then we had lunch at Dom restaurant, the former home of the Decembrist Ryleev. The food was great, reasonable price with nice atmosphere and service. Recommended ! 





พอท้องอิ่มแล้ว เราก็ออกเดินเที่ยวสำรวจเมือง และไปตามหาเรือรบหลวงออโรร่ากัน



หลังจากเดินกันมาไกลมาก ในที่สุดเราก็เจอเรือลำนี้ แต่ปรากฏว่า มันไม่ใช่ออโรร่า ..มันเป็นร้านอาหารจ้า !! ไม่เป็นไร เราก็ถ่ายรูปไว้ แล้วตามหาออโรร่ากันต่อไป


เมื่อเดินกันไปถึงจุดที่มีป้ายเขียนว่า "เรือรบหลวงออโรร่า" แต่ ไหนอ่ะเรือ ? อึ้ง เรือกูอยู่ไหน ?? (เสียงจาพนมดังขึ้น) เหลือแต่เสาไม้ผูกสมอ !! 
อ่านป้ายไปมา ก็ได้ความว่า ตอนนี้เค้าเอาเรือไปปรับปรุงซ่อมแซม ...โอ้โห อุตส่าห์เดินมาตั้งไกล ในที่สุด คุณก็หลอกดาว !! สรุปว่า เราเลยมาเสียเที่ยวค่ะคราวนี้ ไม่เป็นไร ดูภัตตาคารเรือแทนไปก่อนละกัน 555

Then we walked across the town to find Aurora the battleship. But as we reached the point where the aurora was .....we didn't see any battleship because it was moved for maintenance.
However, we found the ship restaurant nearby and took the photo instead. haha


ว่าแล้วก็อย่าให้เสียเที่ยว เราก็เดินไปเที่ยวต่อที่ Peter and Paul fortress ซึ่งเราสามารถเดินเข้าไปเที่ยวภายในป้อมได้ฟรี แต่ภายในจะมี museum เล็กๆมากมายให้เราเข้าอีก (มีทั้งที่ชมฟรี และเสียตังค์) เราก็เลือกเข้าแต่อันที่ฟรีนะ เพราะว่า ยังมีอีกหลายมิวเซียมในทริปนี้ที่ตั้งใจว่าจะไป ต้องประหยัดบ้างอะไรบ้าง
Then we went to Peter and Paul fortress, you can enter for free. There are a lot of small museums and exhibition inside (some are free but some are not).



รูปปั้น Peter the Great เค้าเชื่อกันว่าถ้าไปถูนิ้วชี้ข้างขวาจะทำให้โชคดี สังเกตว่านิ้วนั้นเงาวาววับกว่านิ้วอื่นเชียว
A statue of Peter the Peter the Great in the fortress, rubbing his finger brings good luck.



เราเดินเล่นเรื่อยเปื่อย ผ่านรูปปั้น Griffin ที่ Bank bridge ไปยัง Church of the Savior on blood

ตอนเย็นๆจะมีตลาดนัดขายของที่ระลึกริมคลองด้วย



จากนั้น เราก็พาเพื่อนๆเดินผ่านสวนสาธารณะกลางเมือง เพื่อไปนั่งเล่น ถ่ายรูปหน้า bronze horseman statue 

Then we walked through the park to see the bronze horseman statue.



เพื่อไปปิดท้ายวันนี้ ด้วยการไปซื้ออาหารและกินขนมที่คาเฟ่และร้าน Bakery แสนอร่อยชื่อ Bushe 
ถ้าใครไป St.Petersburg และชอบกิน bakery ห้ามพลาดร้านนี้ด้วยประการทั้งปวง อร่อยทุกอย่าง พ่อค้าน่ารัก พูดภาษาอังกฤษได้ 
We ended our first day in St.Petersburg at Bushe, cafe and bakery, I was totally in love with it. Everything is delicious !!


วันรุ่งขึ้น เราสามคนตื่นแต่เช้า เพื่อจะไปต่อคิวเข้าชม The hermitage 


The next day, we woke up early and went
 to the Hermitage museum.



ภายในมิวเซียมก็ตกแต่งอย่างสวยงาม มีงานศิลปะ อัญมณีและของล้ำค่ามากมายให้ชม (ใช้เวลาอย่างต่ำครึ่งวัน ถึงจะชมได้ทั่ว)



ก่อนเข้าชม เราสามารถเช่า audioguide ได้ ราคาประมาณ 600 RUB (ถ้าจำไม่ผิด) หรือถ้าไปกันหลายคน จะหุ้นกันแล้วจะให้คนที่ถนัดภาษาอังกฤษที่สุดในกลุ่ม ฟังแล้วแปลให้เพื่อนฟังอีกทีก็ประหยัดดี



หลังจากนั้น เราก็นั่งรถบัสออกนอกเมือง เพื่อไปเที่ยว Peterhof palace กันในช่วงบ่าย 



พระราชวังแห่งนี้มีขนาดกว้างใหญ่มาก แบ่งเป็นหลายส่วน ทั้งส่วนของอาคารพระราชวัง ที่เปิดให้เข้าชมด้วย แต่ต้องซื้อบัตรเพิ่ม (หรือถ้ามีตั๋วชุดใหญ่ที่ซื้อมาจาก the hermitage อยู่แล้วก็ใช้เข้าได้เลย)



และยังมีส่วนที่เป็นสวน และน้ำพุ เรียกว่าเดินกันครึ่งวันก็ยังไม่ทั่ว




นอกจากนี้ยังมีสวน มีน้ำพุเยอะมากจนแทบจะเรียกได้ว่า เป็นสวนแห่งน้ำพุกันเลยทีเดียว 



น้ำพุบางอัน มีคนแอบนั่ง control น้ำอยู่ด้านใน บางครั้งจะแกล้งปิดน้ำ พอเด็กๆเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ว่าทำไมไม่มีน้ำออกมา เจ้าหน้าที่ก็แกล้งเปิดน้ำพุ่งให้เด็กเปียกเล่นซะงั้น แต่เด็กๆบางคนก็เตรียมพร้อมเปียก ด้วยการใส่เสื้อกันฝนมา และหัวเราะคิกคักชอบใจเวลาโดนน้ำพุพุ่งใส่




วันนี้เดินกันทั้งวัน ปิดท้ายด้วยอาหารมื้ออร่อยอีกมื้อที่ St.Petersburg ร้านนี้อยู่ข้างๆ Church of the Savior on blood 



พรุ่งนี้ก็ถึงเวลาบอกลารัสเซีย และเราจะเริ่มเข้าสู่ประเทศกลุ่มเชงเก้นกันแล้วววววว ... ฟินแลนด์นั่นเอง !!




Travel tips : ส่วนใหญ่มิวเซียมในยุโรป จะปิดวันจันทร์ ดังนั้น ถ้าจะไปเมืองที่ต้องเข้ามิวเซียม จะต้องวางแผนดีๆ โดยควรที่จะเช็ควัน-เวลา ที่เปิดให้เข้าชมก่อนที่เว็บไซต์ของแต่ละมิวเซียม และข้อสำคัญ มิวเซียมบางแห่งที่คิวยาวๆ มักจะเปิดให้จองตั๋วได้ล่วงหน้าทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งจะทำให้เราประหยัดเวลา ต่อคิวไปได้เยอะเลย (บางมิวเซียมจะมีค่าบริการในการซื้อตั๋วทางอินเตอร์เน็ตเพิ่ม)


The hermitage museum : https://www.hermitagemuseum.org/


เวลาเปิด : อังคาร พฤหัสฯ เสาร์ อาทิตย์ : 10.30-18.00, พุธ ศุกร์ : 10.30-21.00, ปิดวันจันทร์


ราคาตั๋ว : มีตั๋วหลายแบบ แต่ที่เบสิคสุด เข้าชมมิวเซียมได้ คือ 400 รูเบิล


Peterhof palace : เนื่องจากอยู่นอกเมือง วิธีไปจะยากนิดนึง คือ


1. นั่ง metro ไปลงที่สถานี Tekhnologicheski institute


2. เปลี่ยนขบวนเป็นสายสีน้ำเงิน โดยไปลงที่สถานี Moskovskaya


3. ต่อรถบัสสาย 13 หรือสาย 39 หรือ minibus สาย K13 หรือ K39 ไปยัง peterhof


ใช้เวลาเดินทางรวมทั้งหมด ประมาณ 1 ชม. บนรถบัส อย่านั่งเพลินนะ ให้เปิด map.me ดู location หรือจะถามคนข้างๆ/คนขับบ้าง ว่าถึง Peterhof รึยัง


สวนเปิดทุกวัน + ฟรี แต่พระราชวัง ปิดวันจันทร์เช่นเดียวกัน (เสียค่าเข้าชม)


- ร้านอาหาร Dom อร่อย ราคาเหมาะสม บรรยากาศดี อยู่ริมคลอง ไม่ไกลจาก St. Isaac cathedral

- Bushe : Bakery lover ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง !! เลิฟมาก กินทุกวัน 

- dream house hostel Sadovaya : สะอาด location ดี facility พร้อม (อุปกรณ์ทำครัว ซักผ้า รีดผ้า แต่อย่าซักรีดหลังสี่ทุ่ม จะคิดเงินเพิ่ม ก่อนหน้านั้นฟรี)




Create Date : 01 มกราคม 2559
Last Update : 2 มกราคม 2559 10:56:04 น. 0 comments
Counter : 493 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

nystagmus
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Google
..comprendre c'est pardoner.. ..live as if you will die tomorrow.. learn as if you will live forever.. gandhi
[Add nystagmus's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com