We took the train from Ulaan Baataar to Irkutsk, the small city of Russia, for Baikal lake, the biggest fresh-water lake in the world.

เราใช้เวลาอยู่บนรถไฟขบวนนี้เป็นเวลา 1 วัน 1 คืนเต็มๆ เรายังคงนอนใน 4-berth compartment ที่มีประตูปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวเหมือนเดิม สภาพรถไฟขบวนนี้ ดูเก่า และไม่สะอาดเท่ากับขบวนจากปักกิ่งไปมองโกเลีย แถมไม่มีแอร์ ดังนั้น ถ้าเราปิดกระจก ก็จะรู้สึกร้อนและอึดอัด หายใจไม่ค่อยออก แต่พอเราเปิดกระจก ก็จะได้กลิ่นควันรถไฟ และเสียงรถไฟที่ดังมาก แถมเผลอๆก็มีฝนสาดเข้ามาอีก

We stayed on the train for almost 24 hours in 4-berth compartment. This train was older than the Mongolian train with no air-con. So we had to choose between open the window to get some air (with carbonmonoxide) and raindrops ...or shut the window with no ventilation inside.

และแล้วเราก็เริ่มมองเห็นวิวของทะเลสาบไบคาล ...

And now .....The Baikal lake !

ตอนแรกๆตื่นเต้นมาก ถ่ายรูปกันรัวๆ พอซักพัก เฮ้ยยยย ทะเลสาบมันใหญ่จริงอะไรจริง รถไฟใช้เวลาเดือบชั่วโมง ในการวิ่งอ้อมทะเลสาบ จนคิดว่า แบบนี้อาจจะไม่ต้องแวะเที่ยวละมั้ง เบื่อแล้ว 555

The lake was so big, it took almost 2 hours for the train to pass this lake. So we get bored with the view already by the time we reached Irkutsk.

แต่แล้ว ยังคงมีวิบากกรรมเกิดขึ้นกับเราจนได้ เมื่อโฮสเทลที่จองไว้ 2 คืน ปฏิเสธเราดื้อๆ ว่าห้องเต็ม ไม่มีห้องให้เรานอน !! (คาดว่าคงรับ overbooked แล้วเราดันมาแจ็คพอตแตกที่เราพอดี) แต่เราก็ไม่ยอมเด็ดขาด ต่อรองจนในที่สุด เค้ายอมให้เรานอนที่ห้องว่าง เป็นเวลา 1 คืน แต่วันรุ่งขึ้น เราจะต้องไปหาโรงแรมใหม่ เราจึงติดต่อ //www.booking.com ที่เราจองไว้ เพื่อร้องเรียนและขอความช่วยเหลือ สรุปว่า ทาง booking.com ก็หาที่พักใหม่ให้เรา แพงกว่าเดิม ไกลกว่าเดิม แต่ก็สบายกว่าเดิม โดยทาง booking จะออกค่าใช้จ่ายส่วนเกินให้ ถ้าเอาใบเสร็จมาเบิก

แล้ววันรุ่งขึ้น เราก็ไปเที่ยวทะเลสาบไบคาลตามที่ตั้งใจไว้ เป็นวันที่อากาศเย็น และมีฝนตกปรอยๆทั้งวัน

ทั้งๆที่เป็นทะเลสาปน้ำจืด แต่ทำไมชิมแล้ว รู้สึกว่าเค็มหว่า 55

However, we visited the Baikal lake anyway on the next day. The weather was quite cold for us that day.

I wondered why the water was salty when it's a fresh-water lake. (Yes, I already tasted it)

และแน่นอน ทุกคนที่มาเที่ยวทะเลสาปไบคาล ก็จะต้องชิมเมนูที่ปรุงจากปลาโอมุล ซึ่งเป็นปลาที่พบได้เฉพาะที่ทะเลสาปนี้ และภายหลังเจ้าปลาโอมุลนี้ ก็จะกลายเป็นปลาเจ้าปัญหาที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์หลายอย่างหลังจากนี้

The must-try dish : Omul fish ! Found only in Baikal lake..

ซ้าย : ปลาโอมุลย่าง ขวา : ปลาโอมูลอบชีส (ยังไม่ทิ้งคอนเซ็ปต์เน้นชีส นม เนย)

ระหว่างเดินเล่น ก็จะเห็นหนุ่มๆพ่อค้าปลาชาวรัสเซียกำลังย่างปลาโอมุลกันอยู่ โดยเราสามารถหาซื้อปลาโอมุลตากแห้งไปเป็นของฝาก หรือจะเลือกซื้อของที่ระลึก เช่น ตุ๊กตาแมวน้ำ (ซึ่งเราก็ไม่เห็นแมวน้ำที่นี่เลยซักตัวแฮะ)

You can buy the sun-dried Omul fish or the seal dolls for the souvenir.

จริงๆแล้วถ้าเรามีเวลา เราสามารถไปเที่ยว Olkhon island หรือไป hiking ตามเส้นทางในหมู่บ้าน Listvianka นั่งรถไฟสาย Circum Baikal railway ได้ แต่เราไม่ได้ไป

วันรุ่งขึ้น เพื่อนสาวที่เดินทางไปด้วยกัน เกิดอาการอาหารเป็นพิษ ต้องนอนพักทั้งวัน เราจึงออกไปสำรวจเมืองคนเดียว ตามแผนที่ historical trail ของที่นี่ และเก็บภาพมาเล่าให้เพื่อนฟังในตอนเย็น

ทุกอย่างที่นี่ดูใหญ่โตมโหฬารไปหมด ไม่ว่าจะเป็นตึก อาคาร ถนนหนทาง

Everything looked enermous here.

เมืองเอียร์คุตส์ มีฉายาว่า Paris of Siberia ภายในเมืองก็จะมีบ้านไม้เก่าๆ อาคารสำคัญทางประวัติศาสตร์ อนุสาวรีย์ โบสถ์ สวนสาธารณะมากมายให้เราเดินชม

รัสเซียเป็นประเทศที่มีอนุสาวรีย์ ฮีโร่เยอะมาก มีตั้งแต่รูปปั้นนายพล นักเขียน เลนิน คาส์ล มาร์ค ไปจนถึงรูปปั้นนักท่องเที่ยวหลงทางนั่นแหละ

เราสามารถเดินเล่นที่ริมฝั่งแม่น้ำแองการาได้

โดยรวม เอียร์คุตส์ก็เป็นเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งในเส้นทางสายทรานส์มองโกเลีย ที่น่าแวะเที่ยว มีทั้งทะเลสาบไบคาล และเส้นทางประวัติศาสตร์ แต่หากใครมีเวลาน้อย ไม่อยากแวะเมืองนี้ คุณก็สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบไบคาลได้อย่างเต็มอิ่มเกือบ 2 ชม.ตั้งแต่บนรถไฟ

Irkutsk is quite a lovely little city along the transmongolia route that you can easily visit lake Baikal from here. But if you have limited time of travel, the view of Baikal lake from the train is quite a satisfaction for us.

Travel Tips :

- Irkutsk hostel : คือโรงแรมแรกที่ปฏิเสธเรา ราคาไม่แพง ห้องสบาย ทำเลดี แต่ระวัง overbooked

- Apartments № 1 Dzerzhinskogo 29 from the Green Crow คือโรงแรมที่สองที่ booking หาให้ กว้างขวาง สบายมาก นอนได้ซัก 20 คน แต่ข้อเสียคือ ทำเลค่อนข้างไกลกว่า hostel แรก และเนื่องจาก

เป็น apartment ที่เจ้าของห้องปล่อยให้เช่า ไม่ใช่ hostel จึงทำให้การติดต่อกับ key keeper นั่้นค่อน

ข้างยาก หากคุณไม่มีโทรศัพท์หรือ อินเตอร์เน็ต และเค้าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เล้ยยยย ...

- การเดินทางไป Baikal lake ทำได้หลายวิธี เช่น นั่งรถบัส หรือ minivan โดยจะต้องไปขึ้นที่สถานีขนส่ง ที่ อยู่ใกล้ๆ main market รถจะออกเมื่อคนเต็ม ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆ ขากลับ ก็มาขึ้นรถ

ตรงที่เราลงนั่นแหละ