เรื่องของพระ.......
ถ้าตอนใส่บาตรแล้วที่ยืนสกปรกมาก จะต้องถอดรองเท้าใส่บาตรด้วยหรือไม่?
พระไม่ฉันรองเท้านะโยม...ไม่ต้องเอา รองเท้าใส่มานะ.....
พระนอนไม่หลับ เลยไปหาหมอใหม่จบมาจากเมืองนอก หมอ: เป็นอะไรครับ พระ: จำวัดไม่ได้จ๊ะโยมหมอ
หมอ: (ทำหน้างง..) แล้วจะกลับวัดยังไง พระ: (ทำหน้างงด้วย..) มามอไซรับจ้างก็ต้องกลับมอไซ นะโยม
หมอ: (ทำหน้าง๊งงง...) แล้วมอไซรับจ้าง จำวัดได้เหรอ พระ: (ทำหน้าง๊งงงด้วย...) มอไซรับจ้างจำวัดไม่ได้หรอกโยม มีแต่พระที่จำวัดได้
หมอ: (ทำหน้างงง๊งงง...) อ้าวไหนบอกว่าจำวัดไม่ได้ไง พระ: !=-+#@ %^&*( +๐"?
จำวัดเป็นภาษาพระแปลว่านอน นะโยม.................
หมอ: อ๋ออออออออออออออออออออออออออ......
ญาติโยมหลายท่านมักถามว่า "ท่านบวชเรียนมาตั้งแต่ อายุยังน้อย อยู่ในเพศบรรพชิตมามากกว่าครึ่งชีวิต มี โอกาสสัมผัสชีวิตฆราวาสไม่มากนัก แล้วเอาข้อมูลวัตถุดิบหรือมุกมาจากไหนหนักหนา"
อาตมาก็ตอบว่า หลักๆเลยก็คือ การอ่าน นอกจากนั้นก็ หนัง ละครที่ญาติโยมดูกันนั่นแหละ พอตอบออกไป อย่างนี้ โยมก็สวนกลับทันที "ไม่ผิดข้อห้ามหรือท่าน"
อาตมาก็จะอธิบายไปว่า ดูเพื่อให้เท่าทันกิเลสจะได้สกัดมันถูก และที่สำคัญหากอาตมาไม่รู้หรือไม่เข้าใจ ตลอดจนไม่เท่าทันเรื่องราวทางโลก และจะมาบรรยาย ธรรมให้ญาติโยมรู้สึกอินกันได้อย่างไร ซึ่งนอกจากการ อ่าน การดูและการฟังแล้ว หลายวัตถุดิบที่นำมาสร้าง เป็นมุกฮาก็ได้มาจากการพูดคุยกับเหล่าโยมๆนี่แหละ
อย่างวันหนึ่งระหว่างที่อาตมากำลังฉันเพลอยู่ก็มีโยมท่านหนึ่งโทร.มา "พระอาจารย์เหรอคะ นี่อาตมาเองนะคะ" "หา อะไรนะ" "พระอาจารย์เหรอคะ นี่อาตมาเองค่ะ" "ถ้าโยมแทนตัวว่าอาตมา แล้วอาตมาจะแทนตัวอาตมา ว่าอะไร" "อ๋อ ขอโทษค่ะ" หลังจากนั้นก็คุยธุระกันจนจบ อาตมาก็กล่าวว่า "เจริญพร" "ค่ะ เจริญพรเช่นกัน" แน่ะมีอวยพรให้พระด้วย....
ข้างต้นก็คือ สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆระหว่างพูดคุยกับ เหล่าญาติโยม จนถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับอาตมาไป แล้ว
หรืออย่างก่อนหน้านี้มีโยมผู้หญิงคนหนึ่ง เดินถือ สังฆทานมาอย่างมาดมั่น พอเข้ามาในกุฏิแล้ว เธอก็มุ่ง ตรงไปที่พระบวชใหม่รูปหนึ่งทันที "ถวายสังฆทานค่ะ"
พระบวชใหม่ด้วยความที่ยังจำบทสวดต่างๆ ไม่ค่อย คล่องนัก จึงหยิบหนังสือขึ้นมาดู "ไม่ต้องค่ะ" โยมผู้หญิงคนนั้นกล่าวอย่างหนักแน่นตาม สไตล์สาวมั่น "ดิฉันท่องได้ค่ะเพราะคุณยายพาเข้าวัดตั้งแต่เด็กๆ" เธอพนมมือขึ้น ก่อนกล่าวว่า
"อิมานิ มะยัง ภันเตสะปะริวารานิ คิกขุ สังโฆ" (ที่ถูก ต้องจะต้องเป็น ภิกขุ สังโฆ)
พระบวชใหม่มีสีหน้างุนงง ก่อนหันมาถามอาตมา "คิก ขุสังโฆ นี่มันฟังทะแม่งๆ นะหลวงพี่"
อาตมาเกรงว่าโยมผู้นั้นจะหน้าแตก ก็เลยตอบไปว่า "คิก ขุ แปลว่า น่ารัก
สังโฆ แปลว่า สงฆ์ คิกขุสังโฆ ก็คือ แด่พระสงฆ์ผู้น่า รัก" เท่านั้นแหละ พระใหม่รูปนั้นนั่งยืดทั้งวันเลย ....
แต่ก็มีบางกรณีที่การพูดผิดของคุณโยมทำให้อาตมา แทบจะสำลักอย่างเมื่อเร็วๆนี้ มีโยมท่านหนึ่งโทรศัพท์ มา "หลวงพี่ขา ขอเรียนเชิญนิมนต์ค่ะ" "ไปไหนล่ะโยม" "ไปมรณภาพที่บ้านน่ะคะ!"
โห นิมนต์พระไปตายถึงที่บ้านเลย อาตมาจึงบอกไปว่า ถ้านิมนต์ไปงานศพไปให้ได้ แต่ถ้าเชิญไปมรณภาพ นี่ ช่วงนี้อาตมาไม่ว่างจริงๆ ขอตัวเถอะนะโยม.......
จากตัวอย่างข้างต้น คุณโยมอาจจะเห็นเป็นเรื่องขบขัน แต่มันก็สะท้อนให้เห็นความห่างเหินระหว่างคนกับวัดได้ ในระดับหนึ่ง ปัจจุบันนี้คนจะนึกถึงวัดในกรณีพิเศษ เท่านั้น เช่นงานบวช งานศพ
ต่างกับสมัยก่อนที่วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน ฆราวาส กับพระจึงสนทนากันไหลลื่น ไม่มีคำแปลกๆ หรือผิดที่ผิดทางออกมาให้พระสดุ้งแต่ อย่างใด ซึ่งถ้าพูดถึงศัพท์แสงที่แสลงใจแล้ว ตอนไปบิณฑบาตอาตมาจะเจอบ่อย มากเช่นมีอยู่ครั้งหนึ่งระหว่างที่กำลังเดินๆอยู่ ก็ได้ยินเสียงใสๆ แว่ว ขึ้นมา "แม่ๆ พระมาขอข้าว" "มาเยอะไหมลูก" "มา 2 อัน" โห เรียกอย่างกับชิ้นส่วนรถยนต์ นี่ถ้ามาเยอะๆไม่เรียก เป็นฝูงเลยเหรอ....
ดังนั้นเวลาไปบรรยายธรรมให้นักเรียนฟังอาตมาจะนำ เรื่องนี้ไปสอดแทรกเพื่อสอนเด็กๆด้วย "ถ้าพระกิน เรียก ฉัน" " พระนอน เรียกจำวัด" (บางคนเรียกขี้เกียจเป็นพระ นอนไม่ได้) " พระป่วย เรียก อาพาธ" " พระตาย เรียก มรณภาพ" (ไม่ใช่เรียกป่อเต็กตึ๊งนะ) " แล้วพระอาบน้ำล่ะเรียกอะไรเอ่ย" คราวนี้อาตมาถาม ให้เด็กๆ ตอบบ้าง "เรียกคนมาดู".....
ขอบคุณ Chanthaket Phetthaphone
Create Date : 13 พฤษภาคม 2555 |
Last Update : 13 พฤษภาคม 2555 6:40:56 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1394 Pageviews. |
|
|