Mooton
 
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
5 มกราคม 2555
 
 
London School of Speech, India / โรงเรียนสอนภาษาที่แสนถูก

หลังจากที่ฉันเข้าพักที่ convent ได้แค่ 2 วัน ฉันก็ต้องไปลงเรียนภาษาที่ Elizabeth คนที่ไปรับฉันที่สนามบินและหาที่อยู่ให้ฉันเป็นเจ้าของอยู่ จะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจาก London School of Speech, Ulsoor Road. และเพื่อนร่วมห้องคนแรกของฉันก็คือ Ulyanga สาวมองโกเลียที่เป็น roommate ฉันนั่นเอง

เราเดินไปเรียนด้วยกันแต่เช้า จากถนน Indiranagar จนถึง Ulsoor ก็ไกลพอสมควร ประมาณโลกว่าๆ ได้มั้ง จำไม่ค่อยจะได้ มันนานมาแล้วด้วย จำได้แต่ครั้งแรกที่เดินนี่โคตรเมื่อย รู้สึกว่ามันไกลมาก ยังดีที่มีต้นไม้ 2 ข้างทางและอากาศก็ไม่ได้ร้อนมาก ถ้าอยู่ที่ไทยแล้วเดินอย่างนี้นี่คงเหงื่อออกร้อนตายกันไปข้าง ฟุตบาทที่นี่ก็แปลก แบบว่าใช้หินแผ่นใหญ่และหนามาต่อๆ กัน แถมไม่เรียบอีกต่างหาก เดินกันสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกกันไป ยังงงอยู่ว่าทำไมทำทางเท้าแบบนี้ เคยมีคนสะดุดหัวฟาดพิ้นกันมาแล้ว ตอนหลังเพิ่งมารู้ว่าเค้ากำลังรื้อทำทางเท้าใหม่และสร้างรถไฟฟ้า สภาพก็เลยเป็นอย่างนั้น แต่อะไรก็ไม่เท่ากับเดินเข้าถนน Ulsoor ถนนนี้แทบไม่มีต้นไม้เลยให้ตาย จนใกล้ๆ ถึงโรงเรียนนั่นแหละ บรรยากาศถึงจะเหมือนกับถนน Indiranagar หน่อย กว่าจะถึงโรงเรียนฉันก็หอบซะ ไม่น่าเชื่ออีเพื่อนมองโกเลียเล๊ยยย นี่ไม่ไกลของมันนะ แต่จะว่าไปมันก็ไม่ถึงกับไกลมาก ถ้าเดินบ่อยๆ แล้วมันก็ชิน แต่หลังๆ ฉันนั่งรถเมล์กลับ convent อ่ะ ก็ไม่รู้ว่ามันไกลหรือไม่ไกลกันแน่

London school of speech ไม่เป็นเหมือนที่ฉันจินตนาการไว้ ที่ฉันเห็นเป็นเหมือนบ้านคนมากกว่า และมันก็ใช่จริงๆ เพราะด้านล่างเป็นบ้านของ Principal ข้างบนเป็นสถานที่เรียน ไม่มีแอร์ค่ะ มีแต่พัดลง โอ้ว...ในชีวิตไม่เคยเรียนสถาบันสอนภาษาที่ไหนที่ไม่มีแอร์มาก่อนเลย ที่เรียนที่แรกก็แปลกละ อยู่ๆ ไปฉันก็เข้าใจ เพราะอากาศมันสบายๆ เลยไม่จำเป็นต้องติดแอร์ค่ะ จริงๆ แล้วมีหลายสาขาทั่วบังกาลอร์ แต่ที่นี่เป็นสาขาแรกและใหญ่ที่สุดค่ะ อาจารย์ที่ดีที่สุดก็ประจำอยู่ที่นี่เช่นกัน



หมายเหตุ :- รูปภาพจากเว็บของคุณ นิรุทธ์ อำนวยศิลป์ค่ะ เรียนที่เดียวกับแกเลย ขออนุญาตนำมาลงประกอบนะคะ ขอบคุณค่ะ

ฉันกรอกใบสมัครเรียน ลงมันทั้ง conversation แบบกลุ่มและเรียนแบบตัวต่อตัว ค่าเรียนต่อเดือนก็ประมาณ เกือบ 3000 รูปี อยากรู้ว่าเป็นเงินไทยเท่าไหร่ก็เอา 0.8 คูณเข้าไปเลยค่ะ ราคานี้รวม conversation group course 2 ชม.ต่อวัน และเรียนแบบตัวต่อตัวอีก 2 ชม.ต่อวัน เรียนอาทิตย์ละ 5 วัน ราคานี้ไม่รวมตำราและหนังสือเรียนนะคะ คุณต้องซื้อต่างหากแต่ราคาก็ยังถูกอยู่ดี ฉันใช้เล่ม Intermediate level เล่มละไม่ถึงร้อยอ่ะ ราคาถูกมากใช่ไหมคะ ถ้าเป็นที่เมืองไทยก็หลายพันแล้วค่ะ ฉันถึงบางอ้อว่าทำไมหลายๆ คนจึงเลือกเรียนภาษาที่อินเดีย เพราะค่าใช้จ่ายมันถูกนี่เอง

หลังจากชำระค่าเล่าเรียนเสร็จ ฉันก็เริ่มเรียน Coversation class กับอาจารย์ Russel วันนั้นเลย แกสอนแต่ conversation อย่างเดียว แกพอมีอายุและท่าทางใจดี มีอารมณ์ขันและสำเนียงแกไม่เหมือนอินเดียเลย แกออกเสียงถูกต้องทุกคำเพราะแกจบทางด้านภาษาศาสตร์โดยตรง แถมจบโทเสียด้วย จากมหาวิทยาลัยที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดีย Mysore University ค่ะ ฉันเคยถามแกว่าจบดีขนาดนั้นทำไมถึงมาทำงานสอนที่โรงเรียนเล็กๆ แบบนี้ ความสามารถและประสบการณ์ของแกน่าจะทำงานที่ดีกว่านี้ได้ เพราะหายากที่คนอินเดียจะพูดและรู้ภาษาอังกฤษได้ดีขนาดนี้ คำตอบของแกยังติดอยู่ในใจฉันจนทุกวันนี้เลย แกตอบว่าแกรักงานสอนหนังสือและความสุขของแกคือการได้สอนนักเรียนอย่างพวกฉันให้มีรู้ภาษาอังกฤษได้ดียิ่งขึ้น แค่นั้นแกก็พอใจแล้ว ทุกวันนี้ฉันได้ข่าวว่าแกได้ลาออกจากสถาบันแห่งนี้เพราะมีปัญหากับเจ้าของโรงเรียน และไม่รู้ว่าแกไปทำงานที่ไหน แต่ฉันเชื่อว่าแกก็ยังคงสอนหนังสืออยู่ที่ไหนสักที่ในบังกาลอร์นั่นแหละ

แรกๆ ที่เรียนกับแกก็โอเคอยู่ ฉันรู้สึกว่ามันสนุกดี ด้วยความที่มี class เดียวและห้องเดียว ฉันเริ่มเรียนตอน 9 โมงเช้า พอมีคนมาหลังจากฉันก็สามารถเข้ามาเรียนได้เลย แล้วมันจะสอนยังไงล่ะนี่ ฉันก็เริ่มเอะใจตั้งแต่ชั่วโมงแรกละ กลายเป็นว่าฉันเรียนซ้ำกับไอ้ชั่วโมงที่แล้วที่เพิ่งเรียนไป เพราะมีนักเรียนเข้ามาเรียนเพิ่มทุกๆ ครึ่งชั่วโมง จารย์แกก็กลับไปสอนซ้ำใหม่ที่เพิ่งสอนไปตะกี๊ นี่มัน class อะไรวะเนี่ย สรุปเรียนทั้งเดือนก็ไปไม่ถึงไหนอ่ะค่ะ สิริรวมแล้วไม่เกิน 20 หน้า แม่เจ้า แถมบางครั้งเรียนๆ อยู่ พอครบ 2 ชม. ฉันต้องไปเรียนตัวต่อตัวกับ Miss อะไรสักอย่างฉันจำชื่อแกไม่ได้แล้ว ก็ลุกไปได้เลย โดยแกก็สอนพวกที่เหลือต่อไป เพื่อนร่วมห้องก็มีหลากหลายชื้อชาติค่ะ ทั้งญี่ปุ่น (นานๆ โผล่มาคน ฉันเรียนมา 2-3 เดือนเจอแค่คนเดียว) เกาหลี (อันนี้อย่างเยอะ) Ivory Coat อิหร่าน นี่ก็เยอะใช่ย่อย มองโกเลีย ก็มีมาแค่คนเดียว ไทย (อันนี้มาเจอหลังๆ ละ) และอินเดีย ก็สนุกสนานกันดีค่ะ เพื่อนบางคนฉันยังติดต่ออยู่ หลังๆ ฉันเข้าเรียนเพราะอยากเจอเพื่อนมากกว่าฟังแกสอน ฉันจำได้ประโยคเดียวและใช้จนถึงทุกวัันนี้เพราะพูดมันทุกชั่วโมงคือ

Thank you for your compliment!!!

มาถึงตัวต่อตัวบ้าง อาจารย์ที่สอนฉันก็อายุมากแล้ว ฉันได้อาจารย์คนเดียวกับเพื่อนมองโกเลีย เพื่อนฉันไม่ชอบแกเอาซะเลย เพราะแกสอนช้ามาก 2 ชม. ได้ไม่เกิน 4 หน้า 3 เดือน ยังไม่ถึงครึ่งเล่มเลย นี่ขนาดเรียนทุกวันนะ บางวันแกนั่งหลับต่อหน้านักเรียนที่แกสอนก็มี หลังๆ ฉันกับเพื่อนมองโกเลียเลยย้ายอาจารย็สอนด่วน ของฉันจะมีการบ้านพิเศษกว่าคนอื่นเพราะแกรู้ว่าฉันจะเรียน MBA เลยต้องฝึกเขียนและติวฉันเป็นพิเศษ แกให้ topic ที่ใช้สอบ Toefl มา และฉันถูกด่าเรื่องลายมือเพราะตัวหนังสือฉันเล็กไป ช่องไฟต้องห่างกว่านี้ เขียนต้องเต็มบรรทัด กรูอยากจะบ้า ตอนอยู่ไทยไม่เห็นมีใครมาว่าลายมือฉันเลย คนอินเดียเขียนตัวเท่าหม้อแกง โคตรใหญ่อ่ะ แต่ทุกวันนี้ฉันเขียนใหญ่กว่านั้นอีกค่ะ ฉันเลยได้การบ้าน writing นัยว่ามันจะช่วยทำให้ลายมือฉันดีขึ้น ซะงั้น

อยู่มาวันนึง อาจารย์ใหญ่เรียกฉันไปพบหร้อมกับยื่นหนังสือให้ฉันอ่านออกเสียงให้แกฟัง ฉันอ่านยังไม่ทันจบย่อหน้านึงเลย แกก็สั่งให้ฉันหยุดและส่งฉันเข้า Pronunciation class ตอนนั้นเลย อาจารย์ที่เทรนฉันคือ Miss Geetha เป็นเวลา 1 ชม. ทุกวัน ทำอย่างกับทุกวันนี้ฉันยังมี class ไม่พอ อย่าคิดนะคะว่าเทรนฟรี ของฟรีไม่มีในโลกค่ะ เสียเงินเข้า class นี้อีก เอามันเข้าไป ฉันไม่เข้าใจว่ามันจะสำคัญอะไรนักหนา แค่พูดและสื่อสารได้ก็น่าจะพอแล้ว และไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเรียนโทของฉันตรงไหน แต่เชื่อไหมคะว่า มันส่งผลกับฉันอย่างมากในเวลาต่อมา

ทุกๆ อาทิตย์ ฉันต้องอ่านออกเสียงให้อาจารย์ใหญ่ฟังทุกวันเพื่อดูพัฒนาการด้านนี้ ไม่อยากจะบอกว่าไอ้ class เนี้ย ยากกกกกกที่สุดตั้งแต่ฉันเรียนภาษามาอ่ะ โคตรทรมาน ฉันเพิ่งรู้ว่าฉันออกเสียงไม่ถูกหลายตัวมาก มันสำคัญมากนะคะกับการออกเสียงให้ถูกต้อง เพระาถ้าคุณออกเสียงไม่ถูก ไม่มีใครในโลกเข้าใจว่าคุณพูดอะไร ต้องการสื่ออะไร อย่าสับสนระหว่าง Accent กับ Pronunciation นะคะ มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การพูดภาษาอังกฤษจะเป็น Accent แบบไหนไม่สำคัญเท่ากับการออกเสียงให้ถูกต้อง ถ้าคุณออกเสียงผิดหรือไม่ครบ ต่อให้คุณใช้ Accent อเมริกันจ๋า ก็ไม่มีทางสื่อสารรู้เรื่องหรอกค่ะ ฉันแปลกใจว่าทำไมครูที่สอนภาษาอังกฤษในไทยไม่ให้ความสำตัญในเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่มันเป็นพื้นฐานของการเรียนภาษาเลย

ฉันรู้สึกขอบคุณ Miss Elizabeth ที่ส่งฉันเข้าปิ้งใน class มหาโหดและน่าเบื่อนั่น ทุกวันนี้ฉันออกเสียงได้ดีเป็นเพราะแกแท้ๆ และขอบคุณเทนเนอร์ของฉันที่อดทนกับฉันมากมาย ทั้งๆ ที่ฉันหาเรื่องโดดเรียนสารพัด ตั้งแต่ปวดหัว ปวดท้องจนจะปวดมันทุกส่วนในร่างกายละ ยกเว้นลาคลอดเท่านั้นที่ยังไม่ได้ใช้ จนบรรดาอาจารย์นึกว่าฉันคงตายที่อินเดียแน่ ร่างกายไม่แข็งแรงเพราะตัวเล้ก เลยแนะนำให้กินนู่นนี่ยกใหญ่ บางอย่างเกิดมาไม่เคยได้ยินด้วยซ้ำ หารู้ไม่ ฉันไปนั่งแรดอยู่ที่ coffee day แถว convent บางวันเพื่อนมองโกเลียก็โดดร่มไปนั่งกะฉันด้วย

ถ้าใครสนใจอยากจะเรียนภาษาอังกฤษ บังกาลอร์ อินเดีย ก็เป็นอีกตัวเลือกนึงที่น่าสนใจค่ะ ตามรายละเอียดด้านล่างเลยค่ะ

London School of Speech, Ulsoor, Bangalore India

Address: No 32,Annaiah Reddy Road,Gupta Layout,Ulsoor,Bangalore,560008
Phone Number:
+91-80-25544943, +91-80-25368525+91-9886300157
//londonschoolofspeech.com/




Create Date : 05 มกราคม 2555
Last Update : 6 มกราคม 2555 10:35:37 น. 0 comments
Counter : 1324 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

saranan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




ดูดวงเป็นอาชีพหลัก งานประจำเป็นงานอดิเรก

ID Line : mooton.banana

[Add saranan's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com pantip.com pantipmarket.com pantown.com