Bloggang.com : saranan : Live in Indian Convent

Mooton

มกราคม 2553

					1	2
3	4	5	6	7	8	9
10	11	12	13	14	15	16
17	18	19	20	21	22	23
24	25	26	27	28	29	30
31

14 มกราคม 2553

Live in Indian Convent

Live in Indian Convent

ช่วง 3 เดือนแรกฉันพักใน convent ที่ถนน Indiranagar ซึง่เป็นย่านคนรวยอาศัยอยู่เยอะและมีต้นไม้ใหญ่ๆ เต็ม 2 ข้างทาง ร่มรื่นมาก แต่ปัจจุบันถูกโค่นทิ้งทั้งแถบเพื่อสร้างรถไฟฟ้า

Convent นี้เป็นหญิงล้วนและคนที่มีสิทธิ์พักได้ต้องเป็นคนคริสต์เท่านั้น แต่ฉันกับเพื่อนชาวมองโกเลียได้พักเพราะ principal ที่เป็นคริสต์มาติดต่อและเป็น guardian ให้กับพวกฉัน จึงไม่มีปัญหา

ห้อง ฉันเป็นห้องเดียวที่มีห้องน้ำในตัว ขณะที่ห้องอื่นๆ จะใช้ห้องน้ำที่อยู่ข้างนอก เป็นห้องน้ำรวม ฉันพักรวมกับเพื่อนชาวอินเดียและมองโกเลียทั้งหมด 5 คน เตีนงนอน 2 ชั้น มีห้องพักทั้งหมด 3 ห้อง มีคนพักทั้งสิ้น 30 คน คนที่พักเกือบทังหมดเป็นชาว kerela ภาษาท้องถิ่นคือ มาเลยาลัม แต่พวกเธอก้อสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดี และ 97% ของคนที่มาจากรัฐนี้เป็นคนมีการศึกษาที่ดีที่สุดในอินเดีย นอกจากนี้ ส่วนใหญ่พวกหล่อนจบการศึกษาอย่างต่ำปริญญาโท ไม่ธรรมดาเลยใช่ไหมคะ

วัน แรกที่เข้ามาอยู่ฉันก็ต้องพบ sister เพื่อรับฟังกฏเกณฑ์ต่างๆ ของที่นี่ ตั้งแต่เวลาเข้าออกยันเวลาเข้านอน ความรู้สึกเหมือนกลับไปอยู่โรงเรียนประจำยังไงยังงั้น ทั้วๆ ที่แต่ละคนทำงานทำการแล้ว บางคนมาที่นี่เพื่อมาฝึกงานก่อนเรียนจบโท ทำ project อะไรเทือกนั้น บางคนมาเพื่อเรียนภาษาอังกฤษอย่างฉันและเพื่อนชาวมองโกเลีย แต่พวกเขาจะเรียนภาษาที่ 3 อย่างเยอรมัน ฝรั่งเศส ขึ้นอยู่กับประเทศที่จะไปทำงาน ส่วนใหญ่จะเป็น programmer หรือไม่ก็ nurse ฉันเคยถามพวกหล่อนว่าทำไมถึงมาพักที่นี่ ก็ได้ความว่าค่าที่พักถูกและปลอดภัยถ้าเทียบกับสังคมข้างนอก คนที่จะพักที่นี่ต้องมีคนรับรอง อาจจะมีจดหมายจากพ่อแม่หรือญาติพี่น้องเพื่อทาง convent จะได้ติดต่อและสอบถามประวัติความเป็นมาได้และคอยแจ้งความประพฤติถ้าเด็กคน ไหนทำตัวนอกลู่นอกทาง โอ้...ขนาดนั้น

แต่ ค่าที่พักก็ถูกจริงๆ นั่นแหละค่ะ เมื่อปี 2007 ฉันจ่ายเดือนละ 1800 รูปีรวมค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าอาหารเช้าและเย็น ไม่มีแอร์นะคะ แอร์ไม่จำเป็นสำหรับที่นี่เพราะมันเย็นอยู่แล้ว แต่ตอนนี้น่าจะขึ้นแล้วเพระาค่าใช้จ่ายสูงขึ้นทุกปี หรือบางทีเค้าอาจจะไม่รับคนต่างชาติแล้วก็เป็นได้ หลังจากที่ฉันกับเพื่อนมองโกเลียสร้างเรื่องไว้ให้ซะมากมาย ภายในห้องไม่มีตู้เสื้อผ้าหรือสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรสักเท่าไหร่ มีโต๊ะเขียนหนังสือที่ต้องแบ่งกันใช้ มีฟูกให้แต่ต้องซื้อผ้าปูกับปลอกหมอนรวมถึงผ้าห่มมาเอง อะไรก็ไม่ทรมานเท่ากับไฟดับค่ะ ดับบ่อยมากใน 1 วัน ยิ่งกลางคืนนี่แทบอยากตาย ยุงเยอะมาก ตัวโตอย่างกะยุงป่า เกิดมาไม่เคยเห็นยงตัวใหญ่ขนาดนี้และเป็นแบบนี้ท้งเมือง ถ้าวันไหนไฟดับตอนกลางคืนนี่ก็ถือว่าซวยไป คืนั้นแทบไม่ได้นอนเพราะโดนยุงกัดทั้งคืน แถมใน convent นี่ต้นไม้ใหญ่เยอะอย่างกับสวนสาธารณะย่อมๆ บ้านยุงชัดๆ นี่ก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่ฉันอยากย้ายไปอยู่ข้างนอก

เวลา อาหารเช้าเริ่มที่ 7-9.30 น. ถ้าเลยจากนั้นก็จะไม่มีอะไรให้คุณกิน อาหารเช้าปนกันไประหว่างอเมริกันกับอาหารอินเดีย อาหารเย็นเป็นอินเดียล้วนๆ จะได้กินแกงไก่อาทิตย์ละ 2 วัน เป็นอาหารของ kerela ขอบอกว่าคนครัวที่นี่ทำอร่อยมากจนฉันชอบอาหารอินเดียจากที่นี่ จนทุกวันนี้ฉันยังไม่เคยเจอร้านอาหารอินเดียที่ไหนทำอร่อยสู้ convent ได้เลย อาหารเย็นเริ่มตั้งแต่ 18.30-19.30 เลยจากนี้ก็ไม่ได้กินเหมือนกัน ที่สำคัญไม่มีทางเลยด้วยเพราะมันจำกัดเวลาเข้าหอน่ะสิคะ ทุกคนต้องกลับเข้าที่พักไม่เกิน 20.00 น. ถ้าเข้าช้ากว่านั้นต้องโทรมาแจ้งเหตุผลกับ sister และไม่อนุญาตให้ค้างข้างนอกไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น โทษของการฝ่าฝืนคือไล่ออกสถานเดียว ห้ามหุงต้มในที่พัก ห้ามซักผ้าในห้องน้ำต้องมาซักข้างนอก ห้ามนำเหล้ามากินตลอดจนส่งเสียงดังหรือเปิดเพลงเสียงดัง ทุกๆ 2 ทุ่มครึ่งต้องไปรวมตัวกันที่ห้องรับแขกเพื่อสวดมนต์ร่วมกันก่อนเข้านอน เพราะพวกเขาเป็นคริสต์ที่เคร่งมาก ฉันกับเพ่อนมองโกเลียก็ต้องร่วมด้วยถึงแม้จะเป็นพุทธก็ตาม ด้วยเหตุผลที่ว่าพระเจ้าไม่มีแบ่งแยกศาสนาและเป็นโอกาสดีที่พวกฉันจะได้ รำลึกถึงพระเจ้าของฉันบ้าง ไม่อยากจะบอกว่าฉันกับเพื่อนมองโกเลียแหกกฏทุกข้อที่ convent ห้ามเลยแหละ เรากลายเป็นเพื่อนซี้กันและเข้ากันได้ดีในเรื่องนี้ไปเลย จนเกือบโดนไล่ออกจาก convent ก็หลายหน เจอ notice เตือนและเรียกพบจน sister ทุกคนจำได้แล้ว จริงๆ ก็จำได้ตั้งแต่ต้นเพระาฉันกับเพื่อนเป็นคนต่างชาติน่ะนะ แต่ท่านคงไม่คิดว่าเด็กไทยที่น่าจะเรียบร้อยอย่างฉันจะ out of control เท่านั้นเอง

อย่าง ที่บอก เพื่อนมองโกเลียดีใจมากที่เจอฉันเพราะเราเรียนภาษาที่เดียวกัน เธอมาเรียนก่อนฉันสัก 1 เดือน และมาอยู่ประมาณ 6 เดือนเพื่อเรียนภาษาอย่างเดียวไปและกลับไปหางานดีๆ ที่บ้าน นัยว่าถ้าได้ภาษาเงินก็จะดีตาม ส่วนฉันอยากเรียนสัก 3 เดือนเพื่อเตรียมตัวต่อโท สาว kerela 2 คนมาเรียนภาษาเยอรมันเพื่อไปทำงานต่อที่นั่น คนนึงจบพยาบาลจาก Pune หน้าตาน่ารักและค่อนข้าง conservative นิสัยร่าเริงมาก ส่วนอีกคนเคร่งกว่าในทุกๆ เรื่องแม้กระทั่งศาสนา เธอเล่นตื่นมาสวดมนต์ตอนตี 3 แถมสวดดังอีกต่างหากจนเพื่อนมองโกลเลียสะดุ้งตื่นตามเธอทุกคืน สุดท้ายเธอสรุปว่ายัยคนนี้บ้า สติไม่ดีอะไรประมาณนี้ อีกคนที่เหลือมาจาก Chennai ชีแรงมาก ซ่าสุดๆ เปิดเผยมากมาย สาวมั่น เป็นคนที่เข้ากับพวกฉันได้มากที่สุด ดูหนัง hollywood มีจงจูบในหนังได้ เธอมองว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ ผิดกับอีก 2 สาว และคนนี้เป็นคนนึงที่คอยช่วยฉันในการหา college เรียนต่อโท เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันต้องอยู่ร่วมกับคนอื่นที่ต่างชาติ ต่างภาษา มีอะไรอีกมากมายที่ต้องเรียนรู้และปรับตัวเข้าหากัน คิดไปคิดมา ก็ยังดีกว่าการอยู่คนเดียว ไม่อย่างนั้นฉันคงรู้สึกเหงายิ่งกว่านี้ และที่นี่อีกเช่นกันที่ทำให้ภาษาอังกฤษฉันพัฒนาขึ้นมาอย่างมากในคราวต่อมาอย่างไม่รู้ตัว

Create Date : 14 มกราคม 2553

Last Update : 9 กันยายน 2555 13:52:34 น.

1 comments

Counter : 624 Pageviews.