ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
28 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

-Love is...- Vol.3 (14)

"...ข้าฆ่าเจ้าแน่ ถ้าเจ้าไม่เม้นต์..."



“ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้นนะ...ปัญหามันคือผู้หญิงคนนั้นรักพู่ต่างหาก”

“พริกคิดมากไปหรือเปล่า? ชุติกับพู่เป็นเพื่อนร่วมงานกันมาตั้งแต่พู่เข้ามาทำงานที่สำนักพิมพ์แล้วนะคะ...ตอนที่พู่เริ่มทำงานใหม่ๆ ชุติคือคนที่ช่วยพู่เกี่ยวกับงานมาตลอดนะ”

“ก็เพราะอย่างนั้นไงล่ะพู่... พริกถึงให้อยากอยู่ห่างๆ เอาไว้พู่ไม่รู้หรอก”

“ไม่รู้อะไรคะพริก... ตั้งแต่ออกจากบริษัทมาพริกก็เอาแต่บอกให้พู่อยู่ห่างจากชุติ ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่าง...”

“ทำไมจะไม่ทำล่ะคะ”

“ไม่ได้ทำค่ะ...”

“ทำสิ...”

“พริก...เขาไม่ได้ทำอะไรค่ะ”

“ทำ...”

เสียงทุ้มเถียงที่ดังมาจากในตัวบ้านทำเอาสองคนที่กำลังลงจากรถหันหน้ามาสบตากัน ก่อนจะรีบสาวเท้าเข้าไปในบ้าน

“พู่ไม่เห็นหรือไงว่ายัยนั่นมองพู่ยังไง”

“เขาจะมองยังไงคะ? เราก็แค่เพื่อนกันจริงๆ นะคะพริก” ชมพู่ไม่พูดเปล่าเธอเดินเข้ามาเกาะแขนของคนรักยกมือขึ้นแตะเบาๆ ที่ข้างแก้มของเขาอย่างเอาใจ

เธอรู้อยู่หรอกว่าที่พริกโวยวายอยู่อย่างนี้เพราะเขาหึงหวงเธอ แต่จะให้เธอทำยังไงได้ล่ะ ชุติเองก็ไม่เคยแสดงออกอะไรอย่างที่พริกพูด แถมอีกฝ่ายยังเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีอีกด้วย...เห็นทีเรื่องนี้เธอจะตามใจคนรักไม่ได้

“พู่...” พริกหันมาเกาะเอวเล็กขอดของเธอไว้ก้มหน้าเอาศีรษะซบลงกับหน้าผากของเธอ...

“ฉันสองคนมาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า?” มะเหมี่ยวเอ่ยถามด้วยเสียงแกล้งสงสัยก่อนจะยักคิ้วหลิ่วตาให้กับเพื่อนรัก

พริกถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายหันมาพยักเพยิดใส่มะเหมี่ยว ก่อนจะหันกลับไปมองใบหน้าสวยหวานของชมพู่ที่เหมือนกับเพื่อนรักอย่างกับแกะ

“พริกขอร้องนะพู่ อยู่ห่างๆ ยัยนั่นนะ...นะคะ” พริกพูดเสียงอ่อนเสียงหวานจนชมพู่เกือบใจอ่อนพยักหน้า แต่เธอยังคงมีสติดีพอที่จะไม่หลงเสน่ห์อาการออดอ้อนของคนตาดุ เธอรู้ดีรายนี้น่ะบังคับแล้วไม่ได้ผลก็ออดอ้อน

“พู่ยืนยันนะคะว่าชุติเป็นเพื่อนร่วมงานเท่านั้น” เขาไม่ได้ต้องการคำตอบแบบนี้สักหน่อย

น้อยหน่ายืนมองทั้งคู่ก่อนที่จะหันมาสะกิดแขนของมะเหมี่ยวยื่นหน้าไปอีกทาง คุณหมอก็พาซื่อแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราว ทำฟอร์มไม่ยอมถอยห่างจนคนสวยต้องดันร่างของเขาออกไปทางห้องครัว แหม...ก็ดูสถานการณ์แล้วดูท่าว่าจะมีการอ้อนแบบถึงเนื้อถึงตัวมากกว่านี้น่ะสิ...

“ฮู้...เธอนี่พาฉันมาทำอะไรที่นี่เนี่ย? ฉันอยากนั่งสบายๆ ที่โซฟานะ...” มะเหมี่ยวบ่นไม่จริงจังนักเขาเดินไปเอาเครื่องปั่นมาวางไว้ที่โต๊ะทำอาหารจัดการต่อปลั๊ก และไปเปิดตู้เย็นหาผลไม้ออกมากะว่าจะทำน้ำผลไม้กิน

“ก็จะยืนเป็นก้างเขาหรือไงล่ะ...ฉันอยากดื่มน้ำแครอท”

“ทำเองดิ...” มะเหมี่ยวว่า แต่ก็หยิบเอาแครอทออกมาจากตู้เย็นพร้อมกับแอปเปิลมาล้างจนสะอาดเอี่ยมปอกเปลือกเสร็จสรรพ

“ขอบใจนะ...” น้อยหน่ายิ้มหวาน มะเหมี่ยวเพียงแค่มองด้วยหางตากระตุกยิ้มเท่านั้น

“ของตอบแทนมันสูงนะน้ำแก้วนี้น่ะ” ร่างสูงหันมาจ้องตากับคนสวยจนเธอต้องหันหน้าหนีแววตากรุ้มกริ่มนั้น

มะเหมี่ยวหัวเราะขำ ก่อนจะหั่นแครอทลงเครื่องปั่น ตามด้วยแอปเปิลเดินไปเปิดเอาน้ำแข็งที่ทำไว้มาด้วย เพียงไม่นานน้ำปั่นสีอมส้มน่าทานก็วางตรงหน้าคนสวย แต่พอมือของเธอจะไปคว้ามาดื่มเจ้าแก้วเครื่องดื่มก็เป็นอันหายวับไปต่อหน้าเพราะคุณหมอตัวดีอาศัยความเร็วคว้าไปก่อน

“ของแลกเปลี่ยนคนสวย” น้อยหน่าทำหน้ามุ่ยหันซ้ายหันขวาก่อนจะค่อยๆ ยื่นหน้าไปจุ๊บเบาๆที่แก้มซ้ายของคุณหมอจอมกวนที่ยืนยิ้มหวานหน้าทะเล้นอยู่

“เหมี่ยว!ขอคุยด้วยหน่อย” อารมณ์หวานๆ มันหายวับไปก็เพราะไอ้ประโยคนี้นี่แหละ น้อยหน่าผละออกห่างจากใบหน้าของมะเหมี่ยว คุณหมอทำหน้ายุ่งทันทีเมื่อเห็นเจ้าของประโยคเมื่อสักครู่

“ไม่มีอะไรจะคุยกับแกนี่” มะเหมี่ยวเลี่ยง ส่งแก้วน้ำปั่นให้กับน้อยหน่าซึ่งเธอก็รับไว้โดยดี

“หน่าไปข้างนอกนะ” พูดจบแล้วก็หมุนตัวเดินออกไปนอกห้องครัว มะเหมี่ยวเทน้ำปั่นที่เหลือใส่แก้วอีกใบแล้วยกขึ้นจิบ

“แกมีอะไรวะไอ้พริก! ฉันนึกว่าแกคุยกับพู่รู้เรื่องแล้วซะอีก”

“ถ้ารู้เรื่องฉันจะมาหาแกหรือไง”

“ค่าปรึกษาของฉันแพงนะ” มะเหมี่ยวพูดทำหน้าตาเจ้าเล่ห์

“มันเป็นเรื่องซีเรียสนะเหมี่ยว” มะเหมี่ยวไม่กวนอะไรอีก นั่งฟังเพื่อนรักบ่นๆ แล้วก็บ่นบางครั้งสายตาก็เหลือบออกไปนอกห้องครัวมองน้องสาวฝาแฝดกำลังพูดคุยกับน้อยหน่า จะพูดให้ถูกก็คือน้อยหน่านั่งฟังชมพู่มากกว่า เหมือนกับที่เขาฟังพริกอยู่นี่แหละ

“ฟังอยู่หรือเปล่า”

“เต็มสองหูเลย” ตอบไปว่าอย่างนั้นแต่สายตากลับมองสบตากับคนสวยที่หันสายตามาทางห้องครัวพอดี เขาเลยส่งยิ้มหวานให้อีกที แหมๆ...

“มีอะไรกับหน่างั้นเหรอ” พริกถามด้วยเสียงเรียบนิ่งติดรู้ทันทำเอามะเหมี่ยวหันสายตามาสบกับเพื่อนรัก

“เรื่องของแกน่าสนใจกว่าเรื่องของฉัน...สรุปยัย...อะไรนะ? จุติ?”

“ชุติ”

“นั่นแหละ...ชุติมาชอบชมพู่แล้วมาแนวว่าจะงัดข้อกับแกว่างั้น?”

“อือ...” พริกรับคำง่ายๆ ยกมือขึ้นเท้าคางขมวดคิ้วยุ่ง

“แกก็เขี่ยให้กระเด็นเลยสิวะ”

“ทำได้ง่ายๆ ที่ไหนขนาดไปประกาศว่าคบกันขนาดนั้นแล้ว ยัยนั่นยังหนายิ่งกว่าซีแพ็คสามชั้นทนทานพิเศษดื้อด้านตามติดชมพู่ยังกับเงา ให้ตายเถอะไอ้เหมี่ยว! ฉันอยู่ที่เชียงใหม่น่ะแต่นั่นอยู่ใกล้กันแค่นี้เอง”

“แกนี่ปากร้าย” มะเหมี่ยวว่าเมื่อได้ยินสิ่งที่พริกเปรียบเทียบกับชุติจนพริกแอบเบ้หน้า ไม่ได้พูดตอบโต้ว่าอะไรทั้งที่ในใจแอบคิดว่า ว่าคนอื่นไม่ได้ดูตัวเองเลยนะนั่น

“ชมพู่ก็เถียงแทนยัยนั่นคอเป็นเอ็น นี่เห็นว่าวันเสาร์นี้มีงานอะไรบ้าบอที่สำนักพิมพ์ก็ไม่รู้ แกเชื่อเถอะว่ายัยด้านนั่นต้องทำตัวเป็นแฝดอินจันกับชมพู่แน่ ขนาดฉันไปนั่งหัวโด่เฝ้าอยู่ตรงนั้นทนโท่” มะเหมี่ยวทำหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ดีไม่ได้นำเสนอความคิดเห็นอะไรแต่ในใจกลับคิดอะไรอยู่เงียบๆ

“จะหาว่าฉันบ้าก็ได้นะเหมี่ยว แต่...โอ้ย! พู่คงรู้สึกไม่ดีที่ฉันทำตัวบ้าบออย่างนี้ ไม่ใช่ฉันไม่เชื่อใจพู่ แต่ฉันไม่อยากให้ใครมายุ่งกับผู้หญิงของฉัน...”

“เอาน่า” มะเหมี่ยวว่ายกน้ำขึ้นจิบเหลือบมองไปนอกห้องครัวเห็นน้องสาวนั่งเช็ดน้ำตาป้อยๆ โดยมีน้อยหน่าคอยส่งทิชชูให้
แผลบางอย่างถึงจะหายไปแล้วก็จริง แต่มันยังทิ้งรอยแผลเป็นไว้อยู่เพื่อคอยย้ำเตือนตลอดเวลา กรณีพริกกับชมพู่ก็เหมือนกัน

แม้ว่าพริกจะไม่ได้โกรธชมพู่เรื่องนอกใจแล้วก็ตาม แต่เพราะไม่อยากเสียใจแบบเดิมๆ นั่นอีกแล้วทำให้กลายเป็นคนขี้ระแวงไปซะหมด ส่วนชมพู่เองเพราะตัวเองเคยมีชนักติดหลังเวลาจะพูดจะยืนยันอะไรกับเรื่องทำนองนี้ก็กลัวว่าคนรักจะไม่เชื่อใจ ต่างคนต่างบั่นทอนความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน...

คุณหมอได้แต่ถอนหายใจทิ้งเมื่อคิดถึงเหตุผลทั้งหมด เอาไงดีล่ะที่นี้ เป็นแต่รักษาคนไข้ ผ่าๆ เย็บๆ ไม่ก็จับฉีดยา สั่งยาแค่นั้น อีเรื่องทำนองนี้ก็ไม่ค่อยจะอยากยุ่งซะด้วยสิ

“ฉันเชื่อว่าพู่ไม่ได้คิดอะไรกับคนอื่น แต่ฉันไม่เชื่อคนที่เข้ามาในชีวิตของพู่ ไม่เข้าใจตัวเองเลยสิวะ” กูก็ไม่เข้าใจมึง... คุณหมอคิด แต่กลับส่งยิ้มหวานให้กับคนสวยที่มองมาทางเขา

“ขอเวลาคิดหน่อยละกัน ใจเย็นก่อน อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้กับพู่ ร้องไห้แล้วนั่น” มะเหมี่ยวว่าพร้อมกับบุ้ยหน้าไปทางห้องรับแขกพริกรีบหันขวับไปมองก่อนจะลุกพรวดดิ่งไปหาคนรักจนน้อยหน่าต้องหลบฉากออกมา

“ร้องไห้ทำไมคะพู่” พริกทรุดกายลงโอบร่างบางของชมพู่เข้ามาในอ้อมกอด
“ไม่เอานะคะไม่ร้องนะ เดี๋ยวไม่สวยนะ ไหนดูสิตาบวมหมดแล้ว” พริกเชยค้างคนรักขึ้น ใช้นิ้วโป้งเช็ดคราบน้ำตาทิ้ง แล้วยื่นหน้าไปจุมพิตที่หน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน

“พู่ไม่ได้คิดอะไรกับชุตินะพริก... เขาเป็นแค่เพื่อนร่วมงานจริงๆ” สาวหวานยังคงสะอื้นแม้จะไม่มีน้ำตาไหลอาบแก้มแล้วก็ตามเถอะ

“ค่ะ...ไม่ร้องนะคะคนดีนะ” คนตาดุปลอบ เขาไม่ชอบเวลาชมพู่ร้องไห้มันชวนอึดอัดพิกล เห็นแล้วพาลจะโมโหตัวเองที่ทำให้เธอต้องเป็นอย่างนี้

“พริกระแวงพู่ใช่มั้ยคะ เพราะพู่เคยทำเรื่องไม่ดีไว้”

“ไม่นะคะพู่ ไม่พูดถึงมันนะ...มันผ่านไปแล้ว เรื่องมันจบไปแล้วพริกเชื่อใจพู่นะคะ” แต่เขาไม่เชื่อใจคนที่ก้าวเข้ามาต่างหาก

“แต่พริกโมโหเรื่องชุติ”

“เพราะพริกรู้ว่าเขาคิดยังไงกับพู่ไงคะ อีกอย่าง พริกไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายกับพู่ ถึงพู่ไม่คิด แต่เขาก็คิด” ชมพู่เม้มปากสีหน้าครุ่นคิด เธอควรจะทำอย่างไรดีหนอ? ถ้าเธอยังทำตัวเหมือนเดิมคนรักก็จะไม่สบายใจ แต่ถ้าตัดรอนไปเลยก็คงไม่ดี ยังไงก็คนทำงานร่วมกัน

“พู่ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง”

“อย่าเพิ่งคิดอะไรเลยค่ะ ไปอาบน้ำก่อนดีกว่านะคะ เดี๋ยวจะได้ลงมาทานอะไรกันนะ พริกหิวแล้ว” ชมพู่พยักหน้าหงึกหงักตั้งท่าจะลุกไปอาบน้ำแต่ตัวเองยังติดอยู่ในอ้อมกอดของคนรัก

“ปล่อยพู่สิคะ” ชมพู่อ้อมแอ้มบอก คนตาดุยิ้มหวานใส่ทำเอาคนมองสะเทิ้นอาย

“พริกว่าพริกไปช่วยพู่อาบน้ำดีกว่า” นั่นไงล่ะ สาวหวานส่ายหน้าหวือทันที รู้เต็มอกเลยล่ะว่าถ้าพริกไปอาบน้ำให้มีหวังว่าข้าวเย็นไม่ได้กินกันพอดี

“น่า...นะคะ สัญญาว่าแค่อาบน้ำอย่างเดียวนะ” ถึงสัญญาก็ไม่เอา ดังนั้นชมพู่จึงเอาแต่ส่ายหน้าก่อนจะพยายามบิดตัวออกจากอ้อมกอดแล้ววิ่งขึ้นชั้นสองของบ้าน ปล่อยให้คนรักมองตามด้วยสายตารักใคร่

“ฉันชอบจังเวลามองพริกกับชมพู่อย่างนี้ เห็นเขาสองคนมีความสุขแล้วฉันมีความสุขจัง”

“อืม...” มะเหมี่ยวมายืนอยู่ด้านหลังของน้อยหน่าที่ยืนพิงขอบประตูห้องครัว เขาไม่ได้ตอบอะไรมากกว่านั้น สายตามองตามน้องสาวที่วิ่งขึ้นชั้นสอง และกลับมามองที่เพื่อนรัก...

ต้องมีสักวิธีสิน่าที่จะจัดการกับมารความรักน่ะ...



ก็ว่าจะไม่อะไรแล้วนะ! แต่มันทนไม่ไหว!

พริกไม่รู้หรอกว่าอะไรเป็นอะไร แต่ที่แน่ๆ เขาไม่ปลื้มอย่างแรง ถ้าทำได้เขาจะถล่มไอ้สำนักพิมพ์ที่ชมพู่ทำงานนี่ให้พินาศไปซะเลย

“พริกคะ...อย่าทำหน้าดุสิคะ” ชมพู่เข้ามาไกล่เกลี่ยสถานการณ์เมื่อเห็นว่าพริกทำหน้าเหมือนจะจับมนุษย์ทุกคนหักสองท่อนแล้วโยนใสปากเคี้ยวกลืนลงท้อง

“...” เขาไม่ตอบอะไรทั้งนั้นอารมณ์มันเสียจนกู้ไม่กลับ ทำเอาสาวหวานไม่สบายใจ เวลาพริกโมโหน่ะน่ากลัวขนาดไหนเธอรู้ดีที่สุดนั่นแหละ แล้วคู่กรณีของพริกก็คือชุติซะด้วย

“พริกจะไปรอที่รถ...วันนี้กลับเร็วหน่อยก็ดีนะคะ ไอย์กับยุยจะมาที่บ้าน พวกพัฒด้วย” พูดจบก็ลุกพรวดขึ้นคว้าเอากระเป๋าโน้ตบุ๊กติดมือไป โดยไม่หันหลังกลับมามองคนรักที่นั่งทำหน้าจ๋อยอยู่

สาเหตุที่พริกเดือดจัดขนาดนี้ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่เขามาถึงที่สำนักพิมพ์แล้วมาเห็นตอนที่ชุติกอดเธอไว้ในอ้อมกอดเท่านั้น!

สำหรับชมพู่น่ะ แค่กอดเท่านั้น แต่สำหรับพริกไม่แค่นั้นน่ะสิ

เธอนึกขอบคุณอาชีพอาจารย์ของพริกที่ทำให้เขามีสติและความอดทนมากกว่าเมื่อก่อนมากเพราะไม่อย่างนั้นชมพู่เชื่อว่าชุติอาจจะต้องไปนอนแหม็บอยู่ในโรงพยาบาลสักแห่งแน่ ที่กล้ามากอดและหอมแก้มเธอต่อหน้าพริก

เรื่องของเรื่องก็แค่เจ้าของสำนักพิมพ์มาแจ้งว่าจะให้โบนัสตอนสิ้นเดือนนี้เท่านั้น ก็ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับพนักงานที่ร่วมกันทำงานกันอย่างเหน็ดเหนื่อย โดยเฉพาะชุติ เธอได้รับตำแหน่งพนักงานดีเด่นด้วย เธอเลยแสดงความดีใจด้วยการรวบร่างของชมพู่ที่ยืนอยู่ใกล้มากอดและหอมแก้มจังหวะเดียวกับที่พริกมาหาและได้เห็นพอดิบพอดี

ชมพู่รับรู้ได้ถึงความตึงเครียดของพริกจากแรงที่จับต้นแขนของเธอตอนที่เขาโอบกอดหลังจากที่รอให้ชุติปล่อยอ้อมแขนจากเธอแล้ว... ความไม่พอใจที่แผ่ออกมาจากตัวของพริกทำเอาทุกคนพูดไม่ออกโดยเฉพาะชุติที่รับไปเต็มๆ ดวงตาดุของพริกวาววับน่ากลัวจับจ้องที่ใบหน้าของชุตินิ่ง นิ่งขนาดที่ว่าชมพู่กลัวแทน

“ยินดีสำหรับตำแหน่งพนักงานดีเด่นนะคะ...” ถ้อยคำหลังจากนั้นของพริกชมพู่ไม่ได้ยินว่าอะไรเพราะเบามาก แต่เธอมั่นใจว่าชุติได้ยินแน่เพราะใบหน้าของเพื่อนร่วมงานซีดเผือดจนไร้สีเลือด

จากนั้นพริกก็เดินกลับไปนั่งที่โซฟารับแขกตัวประจำและเพิ่งจะลุกเดินหนีเธอไป ชมพู่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะลุกกลับไปที่โต๊ะ ตั้งใจว่าจะเคลียร์งานให้เสร็จเพราะรายชื่อแขกที่จะมาที่บ้านเย็นนี้ทำให้เธอมั่นใจว่าจะต้องมีปาร์ตี้กันแน่ๆ

“พู่...” ชมพู่หันมาตามเสียงเรียก เธอเห็นชุติทำสีหน้าเป็นกังวลอยู่

“คะ?”

“เรื่องเมื่อสักครู่...พริกเขาคงโมโหมากใช่มั้ยคะ” เสียงที่ดูเป็นกังวลไม่ต่างจากใบหน้าทำเอาสาวหน้าหวานถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ก็นิดหน่อยค่ะ พริกเขาไม่ค่อยชอบอะไรแบบนี้น่ะค่ะ”

“ชุติไม่ได้ตั้งใจนะคะพู่ แค่...ดีใจ”

“พู่เข้าใจค่ะชุติ... ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พู่ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ วันนี้ว่าจะกลับเร็วหน่อยมีแขกมาที่บ้านค่ะ” ชมพู่ปลีกตัวออกมาก่อนเลยไม่ได้เห็นรอยยิ้มเย็นๆ ที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของชุติ





“เป็นยังไงคะอาจารย์พริก...เกือบคุมอารมณ์ไม่อยู่ขนาดนั้นหึงมากเลยล่ะสิ” เสียงที่ดังมาจากนอกตัวรถทำเอาพริกอยากขย้ำคนพูดนัก

“ระวังนะทำนิสัยไม่ดีอย่างนั้นบ่อยๆ ผู้หญิงเขาจะเบื่อและก็ทิ้งเอาได้” ชุติยังคงลอยหน้าลอยตากระทบกระเทียบพริกอย่างสนุกสนาน ยิ่งเห็นอีกฝ่ายไม่ตอบโต้อะไรเธอก็ยิ่งชอบใจ

พริกยังคงเงียบราวกับคนไม่มีปาก ปล่อยให้ชุติหัวเราะชอบใจ เธอเท้าแขนทั้งสองข้างกับประตูฝั่งคนขับที่พริกนั่งอยู่ส่งรอยยิ้มหวานที่พริกเห็นแล้วอยากจับขากรรไกรนั้นแยกออกจากกันซะ

“ฉันจะทำให้ชมพู่เบื่อนายแล้วก็ทิ้งนายให้ดู...” ชุติปรามาสไว้ก่อนจะยืดตัวขึ้นยืนแล้วหมุนตัวเดินออกไปอย่างผู้ที่กำลังได้รับชัยชนะ...

(แหมๆ ร้ายใช่เล่นนะแม่คนนี้น่ะ)

“ฉันบอกแกแล้ว” พริกพูด มองร่างของชุติที่ปรากฏอยู่ในกระจกมองหลัง “ฉันอยากจะจับยัยนั้นมาฉีกออกเป็นชิ้นๆ ซะเดี๋ยวนี้เลยไอ้เหมี่ยว”

(ใจเย็นน่า...แกต้องคิดอะไรให้มากๆ หน่อยนะ อย่าลืมเรื่องนี้พู่เป็นตัวกลาง ถ้าเกิดอะไรขึ้นชมพู่จะลำบากใจ)

ใช่แล้ว! ถ้าพริกทำอะไรลงไปคนที่จะลำบากคือชมพู่ เพราะไม่ว่ายังไงเธอก็คือคนที่ต้องรองรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ข้างหนึ่งก็คือคนรัก อีกข้างก็คือเพื่อนร่วมงาน พริกเข้าใจตรงจุดนี้ดี และเขาก็รู้ว่าชุติรู้ดีเช่นกันถึงได้ใช่จุดนี้มาเล่นงานเขา

“ฉันอยาก...ให้ตายเถอะ!”

(เอาน่า...คนพรรนี้น่ะเดี๋ยวก็แพ้ภัยตัวเองอยู่ดี เชื่อฉัน)

“แล้วเมื่อไหร่ล่ะวะ” พริกถามอย่างร้อนใจ อีกสองวันเขาก็ต้องกลับเชียงใหม่แล้ว การปล่อยให้ชมพู่อยู่ใกล้ๆ ชุติไม่ใช่เรื่องน่ายินดีสักนิด

(ใจร้อนจริ๊ง...ในเมื่อรอให้แพ้ภัยไม่ไหว เราก็เอาภัยไปประเคนให้เองเลยเป็นไง...) พริกคิดนิดหน่อยก่อนจะกระตุกยิ้ม ความตึงเครียดเมื่อสักครู่หายวับไปทันที...

“สนุกแน่!”

(ยิ่งกว่านั้นอีกเพื่อน!)





ปาร์ตี้เพื่อนเก่านั้นจบช้ากว่าที่คิดไว้มากนัก เมื่อบรรดาเพื่อนเก่าของพริกและมะเหมี่ยวต่างไม่ได้เจอกันมานานดังนั้นเหมือนจะมีเรื่องคุยกันไม่หยุด ว่าที่เจ้าสาวทั้งสองคนก็ดูเหมือนจะเข้ากันได้อย่างรวดเร็วเพราะกำลังอยู่ในสถานะเดียวกัน

กว่าจะล่ำลากันได้เข็มยาวละเข็มสั้นก็เลยเลขสิบเอ็ดไปเยอะ ดังนั้นเช้าวันเสาร์ชมพู่จึงแทบจะไม่อยากลุกขึ้นจากเตียง แต่เพราะว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของสำนักพิมพ์เธอจึงต้องลุกไปตระเตรียมการ พริกก็อาสาไปช่วยเธอแต่นั่นก็เหมือนการไปทำให้เธอเหนื่อยเป็นสองเท่ามากกว่าเพราะพริกกับชุติทำท่าทางฮึ่มฮำใส่กันจนเธอแทบจะหมดความอดทน กว่าเธอจะกลับถึงบ้านก็เกือบจะบ่ายสี่โมง

“พริกคะ...เดี๋ยวงานคืนนี้พูขอนะคะอย่ามีเรื่องกับชุตินะคะ ยังไงคืนนี้ก็เป็นคืนของเขา”

“ถ้ายัยนั่นไม่มาตอแยกับพู่นะคะ” พริกตอบก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟา “หน่าไม่อยู่เหรอ”

“บินไปสิงค์โป”เสียงมะเหมี่ยวตอบมาจากห้องครัว พริกจึงหันไปหาชมพู่

“ไปอาบน้ำเถอะค่ะ เดี๋ยวไม่ทันนะ”

“ค่ะ” ชมพู่ผุดลุกขึ้นเดินไปบนชั้นสอง มะเหมี่ยวจึงออกมาหยุดยืนข้างโซฟาที่พริกนั่งอยู่

“แกก็ไปเตรียมตัวสิ” พริกมีสีหน้าไม่ค่อยจะสบายใจเท่าไหร่

“แกจะทำอะไร? บอกฉันหน่อยไม่ได้เหรอ”

“แกอย่ารู้ดีที่สุด ไปเตรียมตัวเถอะ” มะเหมี่ยวไล่พริกไปอีกคนก่อนที่ตัวเองจะหายเข้าไปในห้องครัวอีกครั้ง


ชมพู่เดินออกมาจากห้องน้ำมานั่งที่โต๊ะเครื่องแป้งจังหวะเดียวกับที่ประตูห้องโดนเคาะ

“ประตูไม่ได้ล็อคค่ะ” มะเหมี่ยวเยี่ยมหน้าเข้ามาเขาฉีกยิ้มหวานแทรกกายเข้ามาในห้องพร้อมกับแก้วน้ำปั่นในมือ

“น้ำส้มค่ะจะได้สดชื่น” มือสวยของชมพู่รับน้ำส้มจากพี่สาวฝาแฝดมาจิบก่อนจะวางไว้ที่โต๊ะใกล้มือ หันมายิ้มให้มะเหมี่ยวที่ยืนทำหน้ามุ่ย

“เป็นอะไรคะ?”

“เหมี่ยวอุตส่าห์คั้นน้ำส้มจนกล้ามขึ้นหมดแล้วจิบแค่นั้นเองเหรอ?” ว่าแล้วก็ทำหน้างอจนน้องสาวอมยิ้มขำ รีบยกแก้วน้ำส้มขึ้นดื่มจนหมด

“เหนื่อยแย่เลยนะ” มะเหมี่ยวชวนคุย ชมพู่พยักหน้า ก่อนจะหันหน้าเข้ากระจก เพื่อเตรียมตัวแต่งหน้า

“ค่ะ...แต่ก็ช่วงนี้เท่านั้นแหละค่ะ...”

“ไอ้พริกไปด้วยล่ะสิ” ชมพู่ไม่ตอบเพียงแต่พยักหน้า เริ่มเอารองพื้นแตะบนใบหน้าขาวเนียนของตัวเอง

“ถ้าไม่สบายใจก็บอกเหมี่ยวได้นะพู่” ชมพู่ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะหันมามองหน้าพี่สาว

“มันไม่ใช่ไม่สบายใจนะคะเหมี่ยว แต่พู่ไม่อยากให้พริกคิดมากเกินไป...พริกดูเครียด”

“เหมี่ยวเข้าใจค่ะ...” มะเหมี่ยวยิ้มอ่อน ขยับกายไปยืนใกล้ๆ ร่างของน้องสาวรั้งให้เธอเอาศีรษะมาพิงร่างของตัวเอง ชมพู่โอบแขนรอบเอวของพี่สาวฝาแฝด เกลือกกลิ้งใบหน้ากับหน้าท้องของมะเหมี่ยว

“พริกรัก แล้วก็รอพู่มานานมากเกินไป... พอได้อยู่ด้วยกันอีกครั้งเจ้านั่นเลยทุ่มเททุกอย่างให้กับพู่ ทุกอย่างที่ทำก็เพราะว่า “รัก” พู่ อย่างเดียว และนั่นก็คือเหตุผลที่พริกมันเครียด เวลาที่มีใครก้าวเข้ามา ไม่ใช่พริกไม่ไว้ใจชมพู่นะคะ... แต่พริกไม่อยากเสี่ยงกับอะไรที่จะเข้ามายื้อแย่งชมพู่ไปจากตัวเอง” ชมพู่พยักหน้ากับคำพูดของมะเหมี่ยว เธอรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อได้ยินน้ำเสียงนุ่มนวลของมะเหมี่ยว สัมผัสที่เขากำลังลูบไปมาที่เรือนผมมันทำให้เธอรู้สึกเหมือน...ง่วงนอน!

“พู่คะ...พู่เป็นน้องสาวที่เหมี่ยวรักมากที่สุดนะคะ...รักมาก... ส่วนไอ้พริกก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเหมี่ยว อะไรที่ทำให้ได้...เหมี่ยวจะทำทุกอย่าง! ทุกวิธีการด้วย!” มะเหมี่ยวบอกด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความหมายมาด...ก่อนจะก้มลงยิ้มอ่อนโยนให้กับน้องสาวที่หลับตาพริ้มพิงร่างของเขาอยู่ มะเหมี่ยวจึงย่อตัวลงไปประคองร่างของน้องสาวพาไปนอนที่เตียง จัดแจงท่าทางให้สบายตัว ก้มลงจุมพิตที่หน้าผากมน

“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ฝันดีนะคะตื่นขึ้นมาทุกอย่างจะเรียบร้อย” มะเหมี่ยวถอยออกมาหยุดยืนมองร่างน้องสาว ก่อนจะหมุนกายคว้าแก้วน้ำส้มออกจากห้อง พบพริกยืนรออยู่แล้ว

“คนของเจ้เจี๊ยบมารออยู่ข้างล่าง”

“อาฮะ! แกก็ไปเตรียมตัวเถอะ... ไม่ต้องห่วงหรอกชมพู่แค่เหนื่อยเลยนอนพักเท่านั้นเอง” ได้ยินคุณหมอเพื่อนรักว่างั้นพริกก็วางใจ... เดินหมุนตัวจากไป

มะเหมี่ยวก้าวลงมาชั้นล่างเห็นคนที่ขอยืมจากเจ๊เจี๊ยบก็ยิ้มพอใจ

“ฉันพร้อมแล้ว...”








< ตอนที่ 13




 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2552
5 comments
Last Update : 28 กรกฎาคม 2552 21:52:32 น.
Counter : 973 Pageviews.

 

ชอบมากๆฮะ รีบๆลงตอนต่อไปเร็วๆนะฮะ^___^

 

โดย: nunkung IP: 58.8.139.16 29 กรกฎาคม 2552 18:53:20 น.  

 

สอบเสร็ด ก็รีบกลับมาอ่านเลย

อยากอ่านมากกกกก

แต่ต้องอดใจ จนกว่าจะสอบเสร็ด

มา อัพ บ่อยๆนะคะพี่ซาจัง

รู้สึกเดียวนี้บล๊อกเหงาๆ จังเลย

เห้อๆ

 

โดย: หมูน้อยกลอยใจ IP: 222.123.41.222 31 กรกฎาคม 2552 21:37:20 น.  

 

อดไจไม่ไหวววว


อยากจะรู้ตอนต่อไป :PP
มาต่อเร็วๆนะคะ : ))))

 

โดย: ai IP: 124.120.42.160 12 กันยายน 2552 23:11:06 น.  

 

งีบหายไปเลย

 

โดย: หมูน้อยกลอยใจ IP: 222.123.177.44 14 กันยายน 2552 23:44:31 น.  

 

ซาจัง หายตัว


T.T

 

โดย: ai IP: 124.122.246.5 16 กันยายน 2552 23:22:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.