ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
13 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
-Love is...- Vol.3 (23)


"...ข้าฆ่าเจ้าแน่ ถ้าเจ้าไม่เม้นต์..."





เขายอมรับว่าเขาทำไม่ดี ไม่แปลกเลยหากเธอจะโกรธเขาขนาดนั้น...

มะเหมี่ยวไม่เคยลืมจอย ข้อนี้ใครๆ ก็รู้ดี... เขารู้ตัวเองว่าผิดที่มองเห็นน้อยหน่าเป็นภาพซ้อนทับของจอย แต่นั่นมันเพียงแค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น...

เขาไม่ลืมอดีตก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเดินหน้าไม่ได้นี่...

เขาไม่ได้อยากจะลืมจอย เพราะนั่นคือหนึ่งในความทรงจำที่แสนดีของเขา ส่วนน้อยหน่า...

เธอสำคัญสำหรับเขาอย่างที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่ามากมายแค่ไหน...และเขาจะไม่ยอมเสียเธอไป

เขาไม่ได้บ้าถึงขนาดจะเอาใครมาแทนใคร... คนตายไปแล้ว...ยังไงก็คือตายไปแล้ว และคืออดีต คือความทรงจำที่งดงามที่ไม่มีความจำเป็นอะไรจะต้องลบเลือนสิ่งดีๆ ออกไป

และตอนนี้เขาก็อยู่กับปัจจุบัน...มีผู้หญิงคนหนึ่งคอยเคียงข้าง...

เขาอาจจะผิดที่เคยมองเห็นเธอเป็นตัวแทน... แต่วันเวลาที่ผ่านมาทุกอย่างบอกเขาได้ดีว่า...

เธอสำคัญกับเขา เพราะเธอเป็นเธอ ไม่ใช่เพราะเธอเหมือนใคร...

ร่างของน้อยหน่านอนนิ่งอยู่บนเตียง หันหลังให้กับมะเหมี่ยวที่ยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของเตียง สายตาของเขาปวดร้าว แต่มันคงไม่เท่ากับร่างที่นอนสะอื้นอยู่ตอนนี้...

เมื่อคืนเธอร้องไห้จนเผลอหลับไปที่ห้องนอนเล็กนั่น โดยที่ไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้แม้แต่น้อย... เกือบรุ่งสางแล้วนั่นแหละที่เขาคิดว่าเธอหลับสนิทแล้วจึงค่อยไปอุ้มร่างของเธอให้มานอนบนเตียง...

เตียงนอนหนานุ่ม ยุบยวบลงไปตามน้ำหนักของตัวมะเหมี่ยวที่ขยับตัวลงมา ก่อนจะเอนกายข้าไปหาร่างที่สะอื้นน้อยๆ อยู่นั้น... และทันทีที่เธอตื่น เธอก็ร้องไห้ทันที เพียงแค่คิดว่า ตัวเองมีฐานะอะไรกับเขา...ซึ่งนั่นมันเข้าใจผิดชัดๆ

“ฉันอยากให้เธอฟังฉันนะ” เขากระซิบข้างๆ หูของเธอ แต่น้อยหน่ากลับยกมือขึ้นปิดหูทันที

มะเหมี่ยวเม้มปาก...สะกดกลั้นอารมณ์หงุดหงิดที่เริ่มจะก่อตัวขึ้น ทำไมเธอไม่รับฟังอะไรเขาเลยนะ... ที่ผ่านมาเขาแสดงออกไม่มากพอหรือไงว่าเธอมีค่ากับเขาแค่ไหน...

“หน่า..ขอร้อง...ฟังฉันสักนิด...”

เพี๊ยะ! ทันทีที่เสียงกระซิบของเขาสิ้นสุดลง เสียงเนื้อกระทบเนื้อก็เกิดขึ้นทันที... หลังมือของน้อยหน่าสัมผัสแก้มเนียนของมะเหมี่ยวจนเป็นรอยแดงปรากฏอย่างรวดเร็ว...โดยที่เธอไม่แม้แต่จะลืมตามองดูรอยแดงนั้น

มะเหมี่ยวหลับตานิ่ง หงุดหงิดก็จริง แต่ไม่โกรธ หากเธอจะทำมากกว่าตบเขาก็ยอม ขอแค่เธอฟังเขาก็เพียงพอแล้ว...

มะเหมี่ยวกำลังจะอ้าปากงอนง้อคนรักอีกครั้ง แต่เสียงออดหน้าห้องก็ดังขึ้นเสียก่อน... ไม่ต้องออกไปดูเขาก็รู้ว่าเป็นใคร... แดเนียลคงมาถึงแล้ว เพื่อนของเขาไม่เคยผิดเวลา คุณหมอคนเก่งที่ตอนนี้ไม่อยากเก่ง และเริ่มไม่อยากเป็นหมอเสียแล้ว ทะเลาะกันได้ในเวลาที่ไม่เหมาะเอาเสียเลย...

“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น...หน่า...เธอสำคัญกับฉันจริงๆ ไม่ใช่เพราะใคร แล้วฉันจะติดต่อมานะ” พูดจบ ริมฝีปากนุ่มของเขาก็จรดลงที่ขมับที่มีไรผมของเธอปกคลุมอยู่ ซ้ำๆ หลายครั้งติดๆ กัน...



ร่างสูงของมะเหมี่ยวลากกระเป๋าเดินทางเพียงใบเดียวออกจากอพาทเม้นต์ โดยมีแดเนียลเดินตามข้างกาย ไม่มีเสียงพูดคุยอะไร เพราะเขารู้ว่าเพื่อนคงยังไม่อยากจะพูดอะไรตอนนี้


น้อยหน่ามองรถยนต์ของแดเนียลแล่นออกห่างจากบริเวณอพาทเม้นต์ ด้วยหัวใจที่แทบจะหาเศษเสี้ยวไม่ได้.. เขาไปแล้ว... เดินทางไปทำสิ่งที่ทุกคนเรียกว่า เสียสละในสถานที่ที่อันตรายจนไม่น่าจะรับได้... โดยที่เขาได้สร้างแผลร้ายให้กับหัวใจของเธอไป

“คนใจร้าย”...








“แย่ขนาดนั้นเลยหรือคะพ่อ” เสียงหวานใสของบุตรสาวฝาแฝดเอ่ยถามบิดาทันทีที่เดินทางมาถึงเยอรมันเมื่อทราบเรื่องและหาวันหยุดได้ แต่นั่นก็กินเวลาไปเกือบเดือน

“พ่อก็จนใจนะ ไม่รู้จะช่วยพูดยังไง” ชมพู่นั่งหน้าเศร้า “แล้วไหนลูกว่าจะมีแฟนมาด้วยไง”

“พริกติดธุระค่ะ อีกสองวันจะตามมา” นายจุลจักรพยักหน้า เริ่มทำใจว่าบ้านนี้คงไม่มีใครหาลูกเขยหนุ่มมาให้แน่นอน... แต่ก็นั่นล่ะ เขาไม่เคยบังคับจิตใจลูกอยู่แล้ว...

“แล้วเรื่องมันเป็นยังไงคะ”

“เฮ้อออ” คนเป็นพ่อถอนหายใจเฮือกใหญ่ “หนูหน่าเข้าใจว่าเหมี่ยวใช้ตัวเองเป็นตัวแทนของ...ของหนูจอยน่ะ”

“พระเจ้า...”

“แต่พ่อก็เข้าใจหนูหน่าหรอกนะ พอเห็นรูปที่ห้องนอนเล็กนั่น พ่อก็คิดเป็นอื่นไม่ได้เลย... เวลาสองคนนั้นยิ้ม เหมือนกันมาก ให้ความรู้สึกเดียวกันเลย...ไม่แปลกหรอก ถ้าหนูหน่าจะเสียใจขนาดนั้น”

“เหมี่ยวไม่น่าจะเป็นคนแบบนั้น” นายจุลจักรพยักหน้า แต่สีหน้าก็หนักใจกับความมั่นคงของลูกสาวคนโต

“พ่ออยากให้เป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ”

“ตอนนี้หน่าอยู่ไหนคะ”

“อยู่ห้องนอนของมะเหมี่ยวข้างบนน่ะลูก พ่อปล่อยให้อยู่คนเดียวที่อพาร์ทเม้นต์ไม่ได้หรอก เลยพามาอยู่ด้วยกันซะที่นี่ ดีเหมือนกัน คนแก่อย่างพ่อจะได้มีเพื่อน แถมหนูหน่าก็จะได้ไม่ต้องคิดมาก”

“งั้นเดี๋ยวพู่ขอไปดูเพื่อนก่อนนะคะ” ชมพู่ขยับกายลุกขึ้น แต่ก็มีอะไรมาหันเหความสนใจของเธอ

“เด็กหนุ่มชื่ออีริคเขาเอาของนี่มาให้คุณหน่าค่ะ บอกว่าเป็นของของคุณเหมี่ยว ไปหาที่อพาทเม้นต์ไม่มีคนอยู่เลยมาที่นี่” ป้ามาลีนั่นเอง เธอเดินเข้ามาพร้อมกับซองสีน้ำตาลปึกใหญ่

“เดี๋ยวพู่จัดการเองค่ะ” ชมพู่ยื่นมือไปรับซองนั้นมาถือไว้

“คุณพู่ไม่พักสักหน่อยเหรอคะ เพิ่งบินมาถึงแท้ๆ”

“ไม่ล่ะค่ะ...มีอะไรที่น่าเป็นห่วงอีกเยอะ...” ว่าแล้วก็หมุนตัวเดินขึ้นชั้นสองของบ้านทันที เหลือไว้แต่บิดาและป้ามาลีที่คอยมองตาม

“ต้องเตรียมอะไรเพิ่มหรือเปล่าคะ”

“ตามใจมาลีเถอะนะ...ไม่รู้จะอีท่า” ป้ามาลียิ้ม ก่อนจะเอ่ยขึ้นหลังจบประโยคอดีตท่านทูต

“ก็คนรักกันแท้ๆ นะคะ”

“ใช่...แต่ลูกสาวเรานี่สิรักหนูหน่าเขาหรือเปล่า”

“รักสิคะ แหม...คุณหน่าน่ารักขนาดนั้น คุณเหมี่ยวไม่รักก็แปลก ตลอดเวลาก็เห็นแต่มองตามคุณหน่าตาไม่กระพริบ มากน้อยยังไงก็รักไม่ใช่เหรอคะ...”นายจุลจักรยิ้มออกกับคำพูดของป้ามาลีที่บอก

“ถ้าเด็กๆ เข้าใจอย่างที่คนแก่ๆ อย่างเราเข้าใจก็ดีสินะ”

“อีกเดี๋ยวก็ต้องเข้าใจกันค่ะ...เขาเกิดมาคู่กันแล้ว” ว่าแล้วก็ยิ้มจนเจ้าบ้านเริ่มไม่เข้าใจ

“คู่กัน”

“งั้นสิคะ” ป้ามาลียังคงยืนยิ้มกริ่ม เมื่อนึกถึงเรื่องต่างๆ ที่ตัวเองสังเกตจากท่าทางของคนทั้งคู่ “คุณเหมี่ยวน่ะ ตั้งแต่มีคุณหน่ามาอยู่ด้วย ไม่เคยเข้าไปอยู่ในห้องนั้นอีกเลย แถมมองคุณหน่าด้วยสายตาที่รักมากกว่าเวลาที่มองรูปนั่นอีกนะคะ อย่าว่ามาลีเม้าท์เลยค่ะ... สายตาคนละแบบเลย ที่มองรูปน่ะ แค่คิดถึง นึกถึงเท่านั้นแหละค่ะ...แต่กับคุณหน่านี่สิคะ...” นายจุลจักรคลี่ยิ้ม

“อย่างนี้หรอกเหรอ...แค่ยังนึกถึง ไม่ได้ลืม แต่ก็ไม่ได้เจ็บปวดแล้วสินะ”

“ประมาณนั้นแหละค่ะ”

“เฮ้อออ... สงสัยลูกสาวบ้านนี้ไม่มีใครพาลูกเขยเข้าบ้านสักคนเลยสินะ”

“ท่านก็ว่าไป...อีกสองสามวันลูกเขยก็บินมาแล้วนี่คะ...” มาลีกระเซ้าแหย่จากที่ได้ยินคุณหนูคนเล็กพูด

“นั่นผู้หญิงนะนั่น”

“แต่ก็หล่อกว่าผู้ชายไม่ใช่เหรอคะ? ดีไม่ดี หนุ่มที่ท่านเคยหมายตาจะเอามาเป็นเขยก็ไม่มีใครหล่อสู้ได้นะคะนั่น”

“มาลีรู้ได้ยังไงล่ะ? เคยเห็นเหรอ?” ป้ามาลีส่ายหน้าทันที พร้อมกับยิ้มจางๆ

“คุณหน่าเล่าให้ฟังน่ะค่ะ”

“โธ่...มาลี” นายจุลจักรว่า แล้วส่ายหน้า ก่อนมาลีจะเดินหนีไปทำหน้าทีต่อ...

ขอให้เป็นอย่างที่มาลีพูดเถอะนะ ไหนๆ จะมีสะใภ้เข้าบ้านแล้ว ก็ขอสะใภ้คนนี้ละกัน...










“ชมพู่” น้อยหน่านิ่งอึ้งเมื่อเห็นว่าใครมาเคาะประตูห้องพัก... ก่อนจะยืนตัวสั่นน้ำตาคลอ และโผกอดเพื่อนรักที่ยิ้มให้กำลังใจอยู่

“โอ๋...ใจเย็นๆ สิคะ อย่าร้องนะอย่าร้อง” ชมพู่โอบปลอบเพื่อน ก่อนจะค่อยๆ พากันเข้าไปนั่งคุยกันในห้องนอน

“ทำไมเรื่องมันเป็นแบบนี้ล่ะ...ทุกอย่างที่ผ่านมา...หน่าเป็นได้แค่ตัวแทนของจอยเท่านั้น” ไม่ต้องมีอารัมภบท ไม่ต้องมีบทนำ การที่ชมพู่มาในจังหวะนี้นั่นหมายความว่าเธอรู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้อยหน่าบ้าง

“เหมี่ยวเขาบอกอย่างนั้นเหรอหน่า” ชมพู่ถามด้วยเสียงอ่อนหวาน ปลอบประโลม น้อยหน่าส่ายหน้า ปล่อยให้น้ำตาหยดลงแล้วลงอีก

“รูปนั่น...มันฟ้องอยู่แล้ว...” จากนั้นชมพู่ก็ปล่อยให้น้อยหน่าได้ปลดปล่อยความเสียใจ ความเจ็บปวดที่เก็บเอาไว้ออกมา เธอเพียงแค่นั่งรับฟังสิ่งต่างๆ ที่พรั่งพรูออกมา รับฟังอย่างสงบนิ่ง จนอีกฝ่ายน้อยหน่าเริ่มเย็นลงนั่นแหละ...

“ทำไมต้องทำกับหน่าขนาดนั้นด้วย...” น้อยหน่าสะอื้น

“หน่า...พู่ว่าใจเย็นๆ นะ รอให้เหมี่ยวกลับมาอธิบายก่อนนะ... แล้วก็นี่...คนชื่ออีริคฝากเอามาให้” ชมพู่ยื่นซองสีน้ำตาลปึกใหญ่ให้น้อยหน่า ก่อนจะขยับกายลุกขึ้น “ พู่ขอไปพักก่อนนะ...ค่อยๆ คิด ค่อยทบทวนนะคะหน่า...คนรักกัน”

น้อยหน่าปล่อยให้เสียงประตูห้องค่อยๆ จางหายไปก่อนที่จะลงมือเปิดซองกระดาษ ล้วงเอาสิ่งที่อยู่ด้านในออกมา เธอเดาได้อยู่แล้วว่ามันคืออะไร อัลบั้มรูป...

มือสวยเปิดดูได้ไม่กี่รูปก็วางลง มันบาดใจเธอลึกๆ รูปภาพตอนที่เธอกำลังยิ้ม มันแทงเข้าไปในใจของเธอจนแทบจะหาพื้นที่ที่ยังดีอยู่ไม่เจอแล้ว... บาดลึกจนเกิดจะเยียวยา

ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่ ก็ไม่เคยก้าวผ่านเส้นที่เขาขีดไว้เลยสินะ... ไม่ว่าจะเนิ่นนานแค่ไหน...เธอก็ทำได้แค่...เป็นตัวแทน!







“แย่มากเลยนะคะพริก... หน่าเหมือนคนตายทั้งเป็น ส่วนมะเหมี่ยวก็ไปอยู่ที่เสี่ยงขนาดนั้น...”

(มันคงไม่มีอะไรแย่มากกว่านี้แล้วใช่มั้ยคะ) เสียงจากปลายสายประเทศไทย จับความรู้สึกห่วงใยได้อย่างเห็นได้ชัด จนชมพู่ถอนหายใจออกมา

“ไม่ว่ายังไง พู่ก็มั่นใจนะคะว่าเหมี่ยว “รัก” หน่า แต่ไม่รู้ว่าอะไรถึงทำให้สองคนนั้นมองความรู้สึกของตัวเองไม่ออก”

(ความทรงจำที่ไม่เคยลืมกับปมด้วยที่คอยตอกย้ำ บางครั้งมันก็ทำให้คนเรามองข้ามอะไรไปนะคะ)

“พู่ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย... ตอนที่หน่าตามเหมี่ยวมาที่นี่พู่ก็คิดว่าทุกอย่างคงจะลงตัวแล้ว”

(พริกไม่เคยคิดแบบนั้นเลยพู่... เราค่อยคุยกันตอนพริกถึงเยอรมันนะ...มะรืนเช้านะคะ ทำใจให้สบายนะ) เสียงปลอบโยนดังผ่านสายทางไกล ทำให้หน้าหวานๆ คลี่ยิ้มออกมาได้...

“รีบมานะคะ”

(ค่ะ) ปลายสายวางไปแล้ว แต่ชมพู่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

สายตาของเธอทอดมองออกไปนอกหน้าต่างเหม่อมองใบเมเปิลสีแดงร่วงหล่นลงกับพื้น พร้อมกับแสงแดดฤดูใบไม้ร่วงที่เริ่มอ่อนแสงลงเรื่อยๆ

เมื่อไหร่นะ...ความรักของพี่สาวฝาแฝดจะเป็นรูปเป็นร่างจนเต็มหัวใจเสียที... ต้องเจ็บปวดไปอีกนานแค่ไหนกัน?







สองวันต่อมา...

พริกเดินทางมาถึงเยอรมันโดยสวัสดิภาพ แต่ข่าวคราวของมะเหมี่ยวกลับเงียบหาย ทั้งๆ ที่ใกล้ครบเวลาสองเดือนตามที่กำหนดไว้แล้ว...

“ไม่ได้ข่าวเลยค่ะ ตอนนี้พ่อให้ทูตของไทยในเยอรมัน และทูตของเยอรมันติดต่อกับทางสถานทูตทางนั้นอยู่ว่าคณะแพทย์ที่ไปเป็นยังไงบ้าง?”

“หน่าล่ะคะ...” คำถามของพริกทำเอาชมพู่ถอนหายใจเฮือก

“เจอเรื่องรูปของจอยก็เศร้าแล้วนะคะ ตอนนี้ยิ่งหนักกว่า...” ทั้งสองมาหยุดที่ห้องรับแขก ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไป...

เสียงของ ฯพณฯ จุลจักรกำลังพูดคุยกับโทรศัพท์ด้วยภาษาเยอรมันรัวเร็ว ดูเคร่งเครียดจนพริกขมวดคิ้ว เขาไม่ถนัดเรื่องภาษาเยอรมันดังนั้นจึงจับความหมายไม่ได้ แต่นั่นไม่สำคัญเท่าร่างระหงของน้อยหน่าที่นั่งมองพ่อของชมพู่ด้วยสายตาคาดหวัง มือของเธอกำแน่นอยู่กับกระโปรงผ้าเนื้อดีสีขาวนั้นแน่น...

“หน่า...พริกมาถึงแล้วนะ” ชมพู่เดินเข้าไปนั่งข้างๆ กับร่างของน้อยหน่า เธอหันมาเล็กน้อย และมองไปหาพริกที่เดินมาหย่
อนกายนั่งโซฟาอีกตัวเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้นก่อนจะหันหลับไปทางพ่อของมะเหมี่ยวอีกครั้ง

“Danken.” เสียงทุ่มของนายจุลจักรทำให้น้อยหน่ากระตือรือร้นทันทันที เธอขยับกายเข้าไปใกล้ทันทีพร้อมคำถามที่ฟังแล้วดูน่าสงสาร นั่นเพราะน้ำเสียงที่สั่นสะท้านของเธอ

“เป็นยังไงบ้างคะคุณพ่อ? จะติดต่อได้ตอนไหนคะ? เหมี่ยวปลอดภัยใช่มั้ยคะ?” นายจุลจักรทอดสายตาแววอ่อนโยนปนเห็นใจให้กับน้อยหน่า

เธอน้อยใจ เสียใจกับการกระทำของมะเหมี่ยวแค่ไหน แต่นั่นก็น้อยกว่าความรักความห่วงใยที่เธอมีให้เขาอยู่ดี... ตอนนี้ที่ติดต่อเขาไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาเป็นตายอย่างไร...ทำเอาเธอแทบบ้า

“ใจเย็นๆ ลูก ทางนั้นส่งคนไปดูที่แคมป์แล้ว ได้เรื่องยังไง เขาจะติดต่อมาอีกทีนะ” น้อยหน่ามองใบหน้าของบิดาคนรักที่เธอเคารพราวกับพ่อแท้ๆ ก่อนจะพยักหน้าด้วยสีหน้าที่พยายามทำความเข้าใจ ทั้งๆ ที่ในใจของเธอมันร้อนรุ่มจนแทบทนไม่ไหว

“คุณพ่อคะ” ชมพู่เรียกบิดา ก่อนจะหันไปทางพริกที่ลุกขึ้น และเดินเข้าไปทรุดลงกับพื้นข้างโซฟาที่ คุณจุลจักรนั่งอยู่ “คุณพ่อจุลค่ะ คุณพ่อคะ พริกค่ะ” พริกกราบลงบนตักของนายจุลงจักร ได้รับการตอบรับด้วยฝ่ามืออบอุ่นที่ศีรษะ (ตบหัวหลุดเล้ย...อิอิ)

“เดินทางมาเหนื่อยเลยสิลูก” พริกเงยหน้าขึ้นมายิ้ม

“นิดหน่อยค่ะ...”

“นั่งข้างบนเถอะ เหมื่อย...”

“ขอบคุณค่ะ” พริกขยับตัวขึ้นมานั่งบนโซฟาเช่นเดิม ก่อนจะหันไปมองน้อยหน่าที่นั่งเงียบ ใบหน้าโศกจนแทบไม่เหลือความสวย...

“หน่า... เหมี่ยวไม่เป็นไรหรอก” พริกพูดขึ้น แต่คนสวยก็เพียงแค่พยักหน้า

“เราจะทำยังไงต่อไปดีคะ” นายจุลจักรส่ายหน้ากับคำพูดของลูกสาว

“ตอนนี้เราทำได้แค่รอ... พู่พาพริกไปพักก่อนดีกว่านะ มาเหนื่อย ๆ เย็นค่อยลงมาทานข้าวนะ”

“ได้ค่ะ” ชมพู่รับคำ ก่อนจะพาพริกเดินขึ้นไปชั้นบน โดยไม่ลืมที่จะชวนน้อยหน่าขึ้นไปด้วย

นายจุลจักรถอนหายใจ ใบหน้าที่เรียบเฉยนั้น...ดูอ่อนล่าลงทันตาเห็นเมื่อพ้นร่างของลูกสาวคนเล็กแล้ว... คำพูดของทางสถานทูตเยอรมันประจำอัฟกานิสถานทำเอาเขาไม่กล้าที่จะบอกกับลูกสาว เพื่อน และคนรักของลูกได้...ว่าเขาได้รับรู้อะไรมา

“แคมป์ที่พักถูกทหารเข้ายึด ถูกเผาไม่เหลือ คณะแพทย์มีทหารอเมริกันช่วยไว้ได้ แต่กำลังหลบหนี ตอนนี้ทางเรากำลังติดตามความคืบหน้าอยู่ เราจะแจ้งทันทีที่ทราบข่าวครับ” ถึงจะพูดอย่างนั้น...แต่เขาวางใจได้หรือ...นั่นลูกสาวของเขาทั้งคนนะ

“เราจะพยายามเต็มที่เพื่อช่วยบุตรสาวของ ฯพณฯ ท่านครับ” แล้วเขาจะพูดอะไรได้นอกจาก ขอบคุณล่ะ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายโปรดคุ้มครองลูกของเขาด้วยเถอะ





“เหมี่ยวไม่เป็นไรหรอกหน่า...ไอ้นั่นมันดวงแข็งจะตาย” พริกเอ่ย เหมือนเก็บของเสร็จและเดินเข้ามาหาเพื่อนอีกห้องหนึ่งพร้อมคนรัก...

“หน่าไม่อยากให้อะไรมาพรากเขาไปเหมือนอย่างที่สมองกำลังคิดนะพริก... หน่ายังไม่ได้ฟังคำอธิบายของเขาเลย” เธอเริ่มสะอื้น... ในมือกอดอัลบั้มรูปไว้แน่น...

“ถ้าหมอนั่นมาขอโทษจะหายโกรธมันมั้ยหน่า? เธอรักเหมี่ยวมากพอที่จะอภัยให้เหมี่ยวได้มั้ย?” น้อยหน่าสะอื้นฮัก กอดอัลบั้มรูปนั้นไว้แน่น...

“หน่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขาพริก... หน่า...ต้องตายแน่ๆ ถ้าเขา...” เธอพูดต่อไม่ได้ ไม่อยากให้อะไรเป็นอย่างที่คิดเลย...

เธอพยายามตัดใจ พร้อมกับไม่สนใจไอ้อัลบั้มรูปที่เพิ่งได้มา แต่สุดท้ายเพราะความซุ่มซ่ามของตัวเองเลยเอามือไปปัดโดนจนมันตกลงพื้น พอจะก้มลงหยิบ หน้าที่เปิดค้างอยู่ของอัลบั้มก็ทำให้เธอชะงักค้าง...

“หน่า...พริกอยากจะบอกอะไรสักอย่างนะ...” เสียงของพริกดังแทรกเข้ามาในความคิดของเธอ พร้อมกับภาพความทรงจำเมื่อวันก่อนซ้อนทับกัน

“เหมี่ยวไม่ใช่คนที่แยกแยะอะไรไม่ได้... คนเราต้องมีพลาดบ้าง... มันอาจจะทำ...ทำให้หน่ารู้สึกเสียใจเรื่องจอย... แต่... ลองคิดดู... ถ้ามันไม่รักหน่าเลย ต่อให้หน้าตาหน่าเหมือนจอยยังกับแกะ ก็ไม่มีทางจะคบกันมาจนทุกวันนี้หรอก เพราะเนื้อแท้ คนสองคนไม่เหมือนกันสักนิด นิสัยของหน่ากับจอย ต่างกันนะ...” พริกพูด...และนั้นก็คือสิ่งที่เธอคิดได้เมื่อคืนตอนที่มองดูรูปถ่ายทุกภาพที่เหลือ


สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่เธอเสมอ ไม่ว่าเธอจะยิ้มหรือไม่ยิ้ม เขาอยู่เคียงข้าง ไม่ก็อยู่รัศมีที่จะปกป้องเธอเสมอ... ตลอดเวลา... เขามีเธออยู่ในสายตา...และในความเป็นจริง ไม่ใช่รูปภาพ... เขาแสดงให้เห็นเสมอ...ว่า...เธอสำคัญแค่ไหน

“หน่ารู้... เขาไม่มีทางเอาหน่าไปแทนใครได้... เพราะหน่าคือหน่า... และถ้าเขาไม่รักหน่า...เหมี่ยวไม่มีทางให้หน่ามาอยู่ข้างๆ ไม่มีทางจะมองหน่าแบบนี้”

ในมือของเธอสั่นเทา...เปิดภาพถ่ายออกมา...

เธอกำลังเงยหน้ามองใบไม้ที่ร่วงหล่นลงมา... ส่วนมะเหมี่ยว เขายืนมองเธอนิ่งๆ ภาพอาจจะดูไม่ชัด แต่พริกที่มองอยู่ก็รู้ว่าเพื่อนรักมองคนรักด้วยสายตาเช่นไร...

เหมือนกับตอนที่มะเหมี่ยวมองจอยหรือเปล่าเขาไม่อาจรู้ได้ เพราะมันเนิ่นนานจนลืมไปแล้ว... แต่ ณ ตอนนี้ที่เห็น... ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มะเหมี่ยวไม่ได้รักน้อยหน่า หัวใจของเพื่อนรัก มีผู้หญิงคนนี้อยู่เต็มหัวใจ...

“เหมี่ยวจะไม่เป็นไรค่ะหน่า... พระเจ้าต้องคุ้มครองค่ะ” ชมพู่ที่นั่งเงียบมานานเอ่ยให้กำลังใจ... และไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่ออีก ประตูห้องก็เปิดออกอย่างไร้มารยาท เพราะคนที่เข้ามาเร่งรีบเกินกว่าจะมี...

“เหมี่ยว...เหมี่ยวติดต่อมา...”

“พระเจ้า!” ชมพู่อุทาน ส่วนน้อยหน่าเธอผวาลุก ก้าวพรวดยื่นมือไปรับโทรศัพท์จากมือพ่อของคนรักมา

“เหมี่ยว...” เสียงของเธอตื่นเต้น ละล้าละลัก และมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที น้ำตาแห่งความดีใจร่วงหล่นออกมาที่เขายังไม่เป็นอะไร อย่างน้อยๆ เขาก็ติดต่อมาแล้ว เขาไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่เธอนึกกลัว

(ฉันรักเธอ) นั่นคือน้ำเสียงของเขา

ประโยคแรกที่เอ่ยกับเธอทันทีที่ได้ยินเสียง เขาไม่ต้องการประวิงเวลาบ้าบออะไรแล้ว... เขากลัวจากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อคืนวาน... เขากลัวที่จะไม่ได้พูดคำนี้กับเธอ

“...บ้าที่สุดเลย...ไม่ฟังหรอก กลับมาพูดเอง...คนบ้ากลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” น้อยหน่าน้ำตาไหลพราก รู้ว่าเขาบอกรัก แต่เธออยากเห็นเขากลับมาอย่างปลอดภัยมากกว่า “ไม่กลับมาฉันโกรธจริงๆ ด้วย กลับมานะ” เธอคร่ำครวญ

(อีกไม่นานหรอก ทางนี้กำลังหาทางส่งตัวกลับอยู่) เขาบอก พร้อมกับกวาดสายตาไปรอบๆ แคมป์ผู้ลี้ภัยอีกแห่งหนึ่ง... กว่าจะจัดการกับเครื่องสื่อสารติดต่อกับใครได้ก็เล่นเอาเหงื่อแตกซิก...

“ปลอดภัยใช่มั้ย?”

(ตอนนี้น่ะนะ...) เขาตอบ ก็เพราะรู้ว่าหาความปลอดภัยได้นั้นยากเต็มทีในสถานการณ็ตอนนี้

“กลับมานะ...กลับมา...”

(ฉันจะ...กลับ...ไปไม่ต้อง...ห่วง) น้อยหน่าเริ่มขมวดคิ้ว...สัญญาณทางมะเหมี่ยวแย่มาก... และเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ดี...เพราะเขาสังเกตได้ดี ตลอดเกือบสองเดือนนี้ว่าเพราะอะไรสัญญาณถึงแย่ได้ทันทีทันใด...แบบกะทันหันทันด่วน

“สัญญาณแย่มาเลยเหมี่ยว...จะกลับมาเมื่อไหร่ เหมี่ยว ได้ยินไม่ถนัด” น้อยหน่าแทบตะโกน ทำเอาทุกคนแทบกลั้นหายใจ

(ไม่ว่าจะเกิด...ไร...ขึ้น...จะ...ไว...)

“อะไรนะเหมียว ได้ยินไม่ถนัด” น้อยหน่าเดินพล่านไปทั่วห้อง

(ฉัน...ระ...) แล้วเธอก็ไม่ได้ยินอะไรอีก...เพราะเสียงที่ดังสนั่นจากอีกฝ่ายนั้นทำเอาเธอค้างไปกลางอากาศ


เสียงดังๆ นั่น...เสียงที่ดังก่อนสัญญาณจะหายไป... เสียงนั่นมัน...

“เกิดอะไรขึ้นหนูหน่า” นายจุลจักรโผเข้ามาหาเธอ มือทั้งสองข้างจับไล่ของเธอไว้ น้อยหน่าตาลอย เบิ่งค้าง ปากของเธอเผยอพูด แต่เหมือนเสียงจะไม่มี

“หน่า...บอกพ่อ ว่าเกิดอะไร” เขาย้ำอีก

“หน่า!” ทั้งพริกและชมพูเรียกพร้อมๆ กัน... แต่เหมือนเธอจะไม่มีสติแล้ว เสียงแผ่วเบาก่อนร่างของเธอจะทรุดฮวบหมดสติไปคือ

“ระ...เบิด”....


>>>>

อิอิ...

ค้าง...ตัวเบ่อเร้อ...

สะใจวะเฮ้ย... (นิสัย)






< ตอนที่ 22







Create Date : 13 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2552 4:35:39 น. 3 comments
Counter : 710 Pageviews.

 
นิสัย


โดย: ไอ้ตัวแสบ IP: 119.46.57.229 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:41:20 น.  

 
อ้าว...ซะงั้น
ต่อเร็วๆนะฮะ


โดย: nunkung IP: 58.8.140.174 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:28:22 น.  

 
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


ซาเคียวไจร้ายอีกแล้วอะ T.T


โดย: ai IP: 124.122.245.64 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:17:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.