พฤศจิกายน 2557

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
10
11
13
16
17
18
21
23
24
25
27
28
29
30
 
 
19 พฤศจิกายน 2557
บทที่ 3 สิงคโปร์ 40%


สิงคโปร์


แสงเรืองรองส่องผ่านกระจกด้านข้างฉุดให้หญิงสาวซึ่งนั่งริมหน้าต่างมองกลุ่มก้อนเมฆหนาลอยตัวนิ่งกลางท้องฟ้า กลุ่มเมฆเหล่านั้นคล้ายสายไหมฟูฟ่องในตู้ปั่นน้ำตาลที่มักมีเด็กๆ ล้อมวงรอซื้อขนมละลายในปาก มุกตาภานึกอยากสัมผัสหมู่เมฆขาว มันคงนุ่มนิ่มเหมือนปุยฝ้ายละเอียดอ่อน


การนั่งเครื่องบินครั้งแรกทำให้หญิงสาวตื่นตากับบรรยากาศมุมสูง มองเห็นแผ่นดินอยู่ไกลลิบๆ ประทับใจจนต้องหยิบโทรศัพท์ซึ่งเปิดโหมดการบินกดถ่ายภาพเก็บไว้ว่าครั้งหนึ่งเคยขึ้นสูงเสียดฟ้า เมื่อได้ภาพสมใจก็ทิ้งตัวพิงพนักเก้าอี้ ชื่นชมฝีมือการถ่ายภาพของตน


ปลายหางตามองเห็นความเคลื่อนไหวด้านข้างจึงอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองหนุ่มแว่นดำขยับกายเปลี่ยนเป็นกอดอก นั่งเฉยนานๆ คงปวดเมื่อยตามเนื้อตัว มุกตาภานึกขำ ตั้งแต่ขึ้นเครื่องรันติมาก็นั่งอยู่ในท่าเดิมคล้ายหลับใหลไม่ใส่ใจผู้คนรอบข้าง แวบหนึ่งที่ความคิดแล่นขึ้นสมอง เขาอาจข่มตาหลับเพราะรำคาญกับการนั่งอยู่ใกล้ๆ เธอ


มุกตาภาชะโงกมองคนด้านข้าง โบกไม้โบกมือตรงหน้าเขาราวกับสำรวจว่าหลับจริงหรือไม่ ทว่ารติมาก็ยังนิ่งเฉยราวกับรูปปั้น เธอจึงหันมองนอกหน้าต่างอีกครั้ง อากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศภายในเครื่องบินรวมกับแสงแดดแยงตาทำให้คนตื่นก่อนไก่โห่เริ่มง่วงเหงาหาวนอน เปลือกตาหนักอึ้งและผล็อยหลับไป


ภายในห้องโดยสารของสายการบินเงียบเชียบ ผู้โดยสารส่วนใหญ่หลับตาพักผ่อน เสียงของแอร์โฮสเตสสาวเริ่มเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มสำหรับลูกค้าที่สั่งจองไว้พร้อมกับตั๋วเที่ยวบิน เสียงก๊อกแก๊กปลุกรติมาให้รู้สึกตัว แรงกดทับตรงข้างแขนทำให้เขาเบี่ยงหน้าไปมอง


หญิงสาวซึ่งนั่งด้านซ้ายเอียงศีรษะหลับซบแขนของเขาราวกับหมอนหนุนชั้นดี รติมาเอนกายหนี ใช้นิ้วชี้จิ้มศีรษะของเธอให้นั่งตรงในตำแหน่งเก้าอี้ของตัวเอง ทว่าคนหลับคอพับคออ่อนเอียงกลับมาพิงแขนของเขาอย่างเดิม รติมาถอนใจแต่ยังไม่ยอมแพ้ดันร่างอ่อนปวกเปียกให้กลับไปอีกครั้ง


“คุณกับแฟนโกรธกันหรือครับ”


เสียงแตกหนุ่มด้านซ้ายดึงรติมาหันขวับ ชะงักนิ้วที่จะดันมุกตาภาค้างกลางอากาศ  ประหลาดใจกับคนยุ่งเรื่องชาวบ้านแต่ทำสงบนิ่งดูลาดเลา กระแสความสงสัยจากแววตาคู่นั้นจ้องมองรติมาราวกับจับผิดจนนึกถึงข้อตกลงที่ต้องจับคู่กับยายขี้เซาตลอดทริปการเดินทางนี้


“เปล่าครับ แล้วคุณล่ะครับมีอะไรหรือเปล่า”


รติมาเปลี่ยนจากผลักไสเป็นจับศีรษะของมุกตาภาอย่างทะนุถนอมแนบอิงตรงไหล่ของเขาสร้างภาพคู่รักไม่ให้ผิดสังเกต เพิ่งนึกได้ว่าชายคนนี้คือทีมจัดกิจกรรมคู่รักหวานจี๊ดและเขาอาจไม่ทราบถึงข้อตกลงตามแผนการ


“ไม่มีหรอกครับ ผมคิดว่าคุณทะเลาะกัน แค่อยากบอกให้ดีๆ กันไว้เพราะหนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้คุณกับแฟนต้องตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋เพื่อร่วมกิจกรรมต่างๆ หากโกรธกันอาจเสียผลประโยชน์นะครับ เดี๋ยวจะว่าผมไม่เตือน” ชายหนุ่มยิ้มร้าย


รติมาฉีกยิ้มกลับและลอบถอนใจทิ้งศีรษะพิงพนักเก้าอี้ เหนื่อยหน่าย ไม่อยากนึกถึงอนาคตที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า ดวงตาภายใต้กรอบแว่นดำชำเลืองมองหญิงสาวซึ่งอิงแนบไหล่และพ่นลมหายใจพรืดก่อนข่มตาหลับ รอถึงที่หมายคงปลีกวิเวกได้สักพัก


‘ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ขณะนี้เรานำท่านมาสู่ท่าอากาศยานชางงี ประเทศสิงคโปร์แล้วครับ กรุณารัดเข็มขัดที่นั่งปรับพนักเก้าอี้ให้อยู่ในระดับตรง ปิดโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จนกว่าสัญญาณเตือนจะสิ้นสุด ตรวจสอบเอกสารการเดินทางและสิ่งของของท่านก่อนออกจากเครื่องบิน’


เสียงประกาศจากกัปตันของสายการบินสร้างความตื่นตัวให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ยกเว้นมุกตาภาที่ยังหลับฝันหวานหนุนแขนของรติมาไม่ยอมตื่นจนเขาต้องสะกิดเบาๆ คนนอนหลับปัดคนสะกิดคล้ายรำคาญ คิ้วเรียวขมวดยุ่งพลางยกมือเช็ดปากและกลืนน้ำลาย


“ตื่นได้แล้ว” เมื่อแรงสะกิดไม่ได้ผลรติมาจับข้อมือของมุกตาภาเขย่าและส่งเสียงปลุกให้เธอรู้สึกตัวตื่น


คนปรือเปลือกตาหันซ้ายหันขวาและขยับตัวนั่งตรง ยกมือเช็ดข้างปากอีกครั้ง เหยียดแข้งขาขณะหันมองคนข้างๆ ซึ่งนั่งนิ่งไม่ใส่ใจกันสักนิด


“ถึงแล้วเหรอ” มุกตาภาเปิดปากถามไถ่ และเขาพยักหน้าตอบ


“คุณคะรบกวนคาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อยด้วยนะคะ” แอร์โฮสเตสสาวแย้มยิ้มขณะแจ้งให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามกฎระเบียบของสายการบิน


มุกตาภาทำหน้าเหรอหราจำไม่ได้ว่าเผลอปลดเข็มขัดออกตอนไหน ด้วยความลนลานจึงรีบทำตามคำบอกกล่าวและสุดท้ายก็เจอปัญหาเดิม สายเข็มขัดนิรภัยคาดไม่เคยแน่นอย่างเคย!


“เลิฟ! ช่วยฉันดึงหน่อยสิ มันไม่ได้อีกแล้ว” เมื่อแอร์โฮลเตสคล้อยหลังเธอรีบกระชิบขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนก่อนแอร์สาวจะเดินกลับมาสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้ง


รติมาขมวดคิ้วอยากทำไม่แยแส ทว่าสีหน้าของเธอก็เว้าวอนเสียจนต้องคว้าเข็มขัดมาดึงให้ส่วนหนึ่งก็เกรงว่าผู้ชายข้างๆ จะจ้องจับผิดและกล่าวหาว่าเขาไม่มีน้ำใจกับคู่รัก“โทษนะ” รติมาขออนุญาตถือวิสาสะคว้าสายเข็มขัดดึงให้ตามคำขอ เมื่อแอร์โฮสเตสเดินกลับมาอีกครั้ง มุกตาภาก็ส่งยิ้มแห้งๆ ให้หล่อนเป็นจังหวะเดียวกับรติมาทิ้งหลังพิงพนักเก้าอี้เมื่อภารกิจลุล่วงด้วยดี


“ขอบคุณ” เธอกล่าวเบาๆ เพราะสายเข็มขัดไม่สมประกอบหรือเธอคาดไม่เป็นก็ไม่ทราบทำให้ขายหน้าถึงสองครั้งสองคราในวันเดียวกัน


ความอึดอัดจู่โจมเมื่อเครื่องบินร่อนลงจนเข้าสู่รันเวย์ อาคารสีขาวคล้ายคลังสินค้ายาวตลอดแนว มีป้าย SINGAPORE CHANGI AIRPORT สีแดงเด่นตระหง่านอยู่ชั้นดาดฟ้าของอาคารนั้น รถขนสินค้า กระบะ เก๋ง และเครื่องบินของสายการบินต่างๆ จอดเรียงรายระหว่างเครื่องบินเคลื่อนที่ผ่านจนหยุดตรงตำแหน่งจอดส่งคนเข้าอาคาร


To be...




เดี๋ยวคืนนี้จะมาต่อตอนต่อไปให้นะคะ พอดีเซฟไว้อีกเครื่องเลยวางไม่ครบแหะๆ 

=========






Create Date : 19 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2557 13:55:25 น.
Counter : 623 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มาโซคิส
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล

Blood A_Blood Type Series
เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม

ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
เ ว ล า คิ ด ถึ ง ใ ค ร บ า ง ค น ม า ก ๆ อ ย า ก ดึ ง เ ค้ า อ อ ก ม า จ า ก โ ล ก แ ห่ ง ค ว า ม ฝั น แ ล้ ว ก อ ด ซ ะ !! ใ ห้ ห า ย คิ ด ถึ ง





หากวันใด อ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง ให้ลองย้อนนึกถึงวันที่เคยตะเกียกตะกาย . .



ถ้าคนๆ หนึ่ง มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เรายิ้มออกมาได้โดยไม่ตั้งใจ.. มานก็ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถทำให้เราน้ำตาไหลได้โดยไม่รู้ตัว..

Online Now




New Comments