Bloggang.com : makampom-ta : สอบ KNS en EPE

สอบ KNS en EPE

หลังจากที่ส่งเรื่องขอสอบไป 2 สัปดาห์เราก็ได้รับจดหมายจาก DUO ให้ไปสอบข้อสอบส่วนกลาง (ฉะนั้นใครที่ยังไม่อยากสอบหรือยังไม่พร้อมก็อย่าเพิ่งส่งคำร้องขอสอบน่ะค่ะ ส่งเเค่พอร์ทโฟลิโอเเล้วบอกอาจารย์ว่าเดี๋ยวส่งเรื่องสอบทีหลัง เพราะส่วนใหญ่เวลาส่งพอร์ทเขามักจะให้กรอกใบสมัครสอบเลย ถ้ายังไม่พร้อมก็บอกเขาได้ว่ามาส่งพอร์ทเฉยๆยังไม่อยากสอบ)
27 ตุลาคม 2554 กำหนดสอบสองตัวคือ KNS เเละ EPE (ของเราสอบเเค่สองตัวเพราะเราได้คะเเนนจาก MVV เกินกว่า 37 คะเเนน เคเมนเตอร์ส่งจดหมายมาตั้งเเต่ตอนที่เรามาถึงที่นี่ใหม่ๆว่าเราไม่ต้องสอบ TGN เราก็เอาจดหมายจากเคอเมนเตอร์เเนบไปกับคำร้องขอสอบด้วย)
มีเวลาเเค่สองสัปดาห์ในการอ่านหนังสือ เราก็อ่านเท่าที่เรียนกับโรงเรียนเพราะมันไม่ทันเเล้ว
พอถึงวันสอบก็เตรียมจดหมายนัดสอบ เเละพาสปอร์ตหรือไอดีการ์ดไปด้วย ไปถึงสถานที่สอบก่อน 30 นาที ได้สอบ 13.00-16.00
ไปถึงเเจ้งเคาน์เตอร์ด้านหน้าว่าเรามาสอบเขาก็จะลงหลักฐาน
นั่งรอเจ้าหน้าที่เรียก ระหว่างนี้ก็อ่านอะไรไปพลางๆ
เจ้าหน้าที่เรียกเข้าสอบ ให้โชว์บัตร เเละ จดหมายนัดสอบ เซ็นต์ชื่อเเละได้ที่นั่ง
วางบัตรไอดีการ์ดไว้ที่บนโต๊ะ สัมภาระทุกอย่างไว้ใต้โต๊ะ
รูปเเบบของข้อสอบทั้งKNS เเละ EPE จะเหมือนกันคือมีตัวละคร เเละสถานการณ์สมมุติถ้าเราเป็นตัวละครนั้นๆเราจะทำอย่างไร จะต่างกันนิดหน่อยตรงที่คำตอบของKNS จะตายตัวมากกว่า สามารถอ่านในหนังสือได้ เเต่EPEจะหนักทางขั้นตอน ระเบียบวิธีปฏิบัติเเละวัฒนธรรม ถ้าคนอยู่ที่เนเธอร์เเลนด์นานเเล้วมันจะเป็นประโยชน์มากเพราะรู้จักวัฒนธรรมของคนดัชต์บ้างเเล้ว เเต่เราเพิ่งมาอยู่ได้1ปีกับอีก3เดือน เราว่าข้อสอบมันยากสำหรับเรามาก เราก็เรียนรู้วัฒนธรรมหลายๆอย่างจากครอบครัวเเฟนน่ะเเต่พอไปสอบรู้เลยว่าเรายังรู้ไม่หมดเพราะบางข้อก็ทำไม่ได้ คำตอบมันก่ำกึ่งเเละคำตอบบางอย่างใช้ได้กับคนไทยเเต่ใช้กับคนดัชต์ไม่ได้ เช่นเรื่องการตรงต่อเวลามันก็มีในหนังสือเเต่เขาจะไม่ถามโต้งๆว่าอะไรคือค่านิยมของคนดัชต์เเต่เขาจะให้สถานการณ์มา
ตัวอย่าง เราไปเยี่ยมญาติที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาล เเต่เวลาเยี่ยมหมดเเล้ว เราจะทำยังไง
1.กลับบ้าน
2.เดินเข้าไปเยี่ยมญาติเลย
3.บอกพยาบาลว่าเราจะขอเข้าเยี่ยม
อันนี้เราก็สังเกตุจากที่เเฟนเราทำถ้าหมดเวลาเขาจะเดินกลับทันที ถ้าเป็นเราเรามาเเล้วก็ไม่อยากเสียเที่ยวเราจะขอพยาบาลเข้าเยี่ยม เเต่เราใช้ความรู้สึกเราตอบไม่ได้ ต้องสวมวิญญาณคนดัชต์ตอบคำถามนี้ คือกลับบ้านเลย
ยิ่งรู้คำศัพย์มากยิ่งดีเพราะถ้าเราไม่รู้คำศัพย์มันจะทำให้เราอ่านเนื้อเรื่องไม่เข้าใจว่าข้อสอบกำลังพูดถึงเรื่องอะไร
เราได้ข้อสอบ KNS จำนวน 43 ข้อ เวลา 1 ชั่วโมง เเละ EPE จำนวน 38 ข้อ เวลา 1 ชั่วโมง
เพราะฉะนั้นมีเวลาเฉลี่ยข้อล่ะไม่เกิน 2 นาที ในการทำข้อสอบ เเต่ละคนอาจจะได้ข้อสอบไม่เหมือนกันจำนวนข้อก็อาจจะไม่เท่ากัน

เริ่มเเรกจะมีเจ้าหน้าที่มาอธิบายข้อสอบเเละเเสดงวิธีทำให้ดูเป็นตัวอย่างประมาณ 2 ข้อ
เเล้วเจ้าหน้าที่จะมาเปิดคอมให้ เช็คดูให้เเน่ใจว่าชื่อผู้สอบเป็นชื่อเรา เเล้วเริ่มทำข้อสอบได้
ข้อที่ยังไม่ได้ตอบจะเป็นสีเทา
ข้อที่ตอบเเล้วจะเป็นสีส้ม
เอาไว้สังเกตุเผื่อเราลืมตอบ
เวลามีน้อย ทำไม่ได้ข้ามไปก่อนได้ ค่อยกลับมาทำใหม่ค่ะ เพราะเเต่ละวีดีโอใช้เวลานานอยู่เหมือนกัน อันไหนไม่เเน่ใจมีเวลาเหลือกลับไปเเก้ไขใหม่ได้ ข้อสอบฟังซ้ำหลายรอบได้ ข้อไหนเลือกเเล้วจะปรากฏกรอบสีน้ำเงินที่ข้อคำตอบที่เราเลือก ถ้าจะเปลี่ยนคำตอบก็เเค่คลิกที่ข้ออื่นกรอบสีฟ้ามันก็จะไปอยู่ที่ข้อใหม่ที่เราเลือก
สอบเสร็จเจ้าหน้าบอกให้รอผลประมาณ 4 สัปดาห์ ออกรอนอกห้องเพื่อสอบตัวต่อไปหรือถ้าสอบหมดเเล้วก็กลับบ้านได้
ออกมาจากห้องสอบด้วยอาการ 50-50 มั่นใจในความรู้ที่มีเเต่ไม่มั่นใจว่าจะตอบตรงใจผู้ออกข้อสอบหรือเปล่า เพราะคำถามบางคำถามเราเอามาถามคนดัชต์สามคนเเต่ละคนยังตอบไม่เหมือนกันเลย

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2554

Last Update : 10 พฤศจิกายน 2554 13:49:27 น.

2 comments

Counter : 759 Pageviews.

สวัสดีค่ะพี่ๆได้ข้อมูลของพี่แล้วเป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ.เมื่อสิงหาคม54เคยสอบ NL2 ตกคะแนนสองคะแนนเจ็บใจจริงๆแต่ตอนนี้กำลังจะทำเรื่องขอสอบ Inburgeringsexamen คะแต่ว่าตอนนี้ไม่ได้เรียนแล้วเพราะจบกันหมดแล้วค่ะ เรื่องฟอร์ตฟอริโอจำเป็นต้องไห้คูรเซ็นต์มากไหมค่ะ? ขอบคุณค่ะ:-)

โดย: บี IP: 62.195.16.205 วันที่: 18 มิถุนายน 2555 เวลา:19:12:22 น.

เรื่องฟอร์ตฟอริโอจำเป็นต้องไห้คูรเซ็นต์มากไหมค่ะ?
ตอบ สำหรับตอนที่เราเรียน เราให้เเค่คนที่เราไปติดต่อ(หมอ ตำรวจ เคอะเมนเตอร์ฯลฯ)เซ็นต์ ส่วนอาจารย์เขาเเค่คอยดูว่าเราทำถูกไหม เเละเซ็นต์ตอนส่งเรื่องสอบให้เรา เรามีอาจารย์สองคน ต้องดูด้วยว่าอาจารย์คนไหนดูเเลพอร์ทให้เราค่ะ

โดย: makampom-ta

วันที่: 4 กรกฎาคม 2555 เวลา:17:05:52 น.