เขาพลายดำ นครศรีธรรมราช แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งทะเลใต้
ทริปนี้ถูกดองจนเค็มปี๋แล้วคะ สัญญากับพี่หัวหน้าสถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่า (ปัจจุบันย้ายไปอยู่สุราษฎร์ฯ) แล้วคะ ว่าจะให้น้องทำเวบให้ ผ่านมา 2 ปีเองคะ ขอทำเวบบล็อกให้แล้วกันนะคะ
พวกเราไปเที่ยวที่นครศรีธรรมราชเมื่อเดือนตุลาคมคะ ไปเพราะมีคนชวนไปเที่ยวเขาพลายดำ ซึ่งเราก็รวบรวมทีมได้ 4 คนคะใช้บริการนกแอร์ ซึ่งกำลังเปิดเส้นทางนครศรีฯ ใหม่ๆ ที่พักพร้อม คนนำเที่ยวพร้อม ตั๋วพร้อม พวกเราก็ได้เวลาลุยแล้วคะ
เขาพลายดำ เป็นภูเขาที่ติดทะเลเป็นรอยต่ออำเภอขนอมและอำเภอสิชล ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสถานีพัฒนาและอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเขาพลายดำ ตั้งอยู่ในตำบลทุ่งใส อยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองนครศรีฯ ประมาณ 86 กิโลเมตรคะ
ที่แรกที่พวกเราไปถึงคือชายหาดเขาพลายดำที่ อบจ. ได้ปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวคะ มีคนมาเที่ยวที่นี่น้อยมาก ทะเลสงบ น่าเล่นน้ำมากเลยคะ
ที่นี่มีรีสอร์ทให้พักด้วยคะ แต่ว่าพวกเราไม่ได้พักที่นี่คะ
หลังจากที่ไปแวะชายหาดแล้ว พี่หัวหน้าก็พาพวกเราขึ้นเขาสูงชัน ระยะทางหลายกิโลเมตรอยู่คะ จุดหมายปลายทางของพวกเราคือที่นี่คะ
มาถึงข้างบน เห็นวิวทะเล ภูเขา อากาศที่นี่เย็นสบายจริงๆ คะ ไปสำรวจรอบๆ สำนักงานก่อนคะ ว่ามีอะไรบ้าง
ตัวอาคารสำนักงานที่เป็นอาคารชั้นเดียว
ข้างในแบ่งโซนเป็นที่ทำงานและจัดนิทรรศการให้ความรู้ มีห้องประชุมและทำกิจกรรมด้วย
ตอนบ่ายพวกเราก็มีพี่หัวหน้า พาไปทัศนศึกษาตามทางเดินศึกษาธรรมชาติ พวกเราเลือกเส้นทางที่มีระยะกิโลกว่าๆ แต่ปลายทางคือชายหาดนั่นเองคะ
นอกจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศวิทยาแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่เข้าค่ายสำหรับเยาวชน เพื่อปลูกฝังการอนุรักษ์ป่าไม้ และสัตว์ป่าด้วยคะ
ตามทางเดินนั้นมีป่าไม้นานาพันธุ์ และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มาก โชคดีที่มีไกด์กิตติมศักดิ์พาเที่ยวคะ มีการอธิบาย ให้ความรู้กับสิ่งที่พวกเราเจอในแต่ละที่ด้วยคะ
ตามเส้นทางเดินมีจุดชมวิวด้วยนะคะ พวกเราเดินจนเหนื่อย แต่ก็มีความสุข
และแล้วก็มาสิ้นสุดปลายทางที่ชายหาดแล้วคะ
อยู่ที่นี่อาหารเช้า กลางวัน และเย็นฝากไว้กับร้านสวัสดิการที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ คะ
อาหารมีให้หลายอย่าง เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมาหมด ที่สำคัญคืออร่อยทุกอย่างจริงๆ คะ
ที่พักของพวกเรา 4 คน คือบ้านไพลดำ ซึ่งสามารถนอนได้ประมาณ 6-8 คน มี 2 ห้องนอน และสามารถนอนข้างนอกห้องได้อีก มีเตียงนอนให้ ผ้านวมหอมมากๆๆๆ ไม่รู้ว่าคุณแม่บ้านที่นี่ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มอะไรซักผ้า หอมจริงๆ คะ แล้วยังหอมกลิ่นแดดอีก
ทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ พวกเราไปดูเด็กๆ ที่มาเข้าค่ายทำกิจกรรมตอนกลางคืนที่ในอาคารสำนักงาน เห็นแล้วสนุกจริงๆ คะ มีการร้องเพลง ให้ความรู้ และสอนเด็กแบบไม่ต้องเคร่งเครียดเหมือนในห้องเรียนคะ คุณจอห์นซึ่งเป็นคุณครูมาก่อนชอบกิจกรรมนี้เป็นพิเศษ
เช้าวันรุ่งขึ้น ตื่นแต่เช้าพร้อมเสียงนกร้อง ปีนเขาขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นหน้าสำนักงานคะ เสียดายมีเมฆมาบังพระอาทิตย์คะ
เช้านี้ไม่มีพี่หัวหน้าพาเที่ยวเพราะไป กทม. พวกเราวางแผนจะไปดูปลาโลมาสีชมพู (ปลาโลมาอิระวดี) ก่อนไปเราก็ขอยืมมอเตอร์ไซค์ของเจ้าหน้าที่พาคุณจอห์นซึ่งอยากเล่นน้ำทะเลที่ชายหาด เราขับมอไซค์ไปกับคุณจอห์นสองคน ขับได้แค่เกี่ยร์หนึ่งคะ เพราะทางลงเขา และขึ้นเขา ไม่รู้ว่ากลับไปพี่เจ้าของมอไซค์ต้องเปลี่ยนผ้าเบรคหรือเปล่า เพราะเราเบรคตลอดเวลา เข็ดแล้วจริงๆ นอนฝันร้ายขับมอเตอร์ไซค์หงายหลังลงเขาหลายวันเลยคะ
แล้วพวกเราก็ให้พี่เจ้าหน้าที่ซึ่งพี่หัวหน้ามอบหมายให้ดูแลกลุ่มเราพาไปหาที่เช่าเรือเพื่อไปตามล่าโลมาสีชมพูกันคะ นั่งเรือไปทางอำเภอขนอม ผ่านโรงไฟฟ้าขนอมที่ตอนนั้นกำลังมีโฆษณาฮอตฮิตกันอยู่ ไปดูเจ้าลิงๆๆๆๆ ด้วยคะ พี่คนเรือพาเที่ยวรอบๆ และบริเวณที่คิดว่าจะมีโลมาแต่ดูเหมือนจะไม่เจอ....จนพวกเราขอไปเข้าห้องน้ำที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง...จำชื่อไม่ได้แล้วคะ....และแล้วพวกเราก็เจอปลาโลมาเป็นฝูงเล่นน้ำกันอยู่คะ เสียดายถ่ายรูปใกล้ๆ ไม่ได้ เพราะเสียงเรือจะทำให้ปลาโลมาว่ายน้ำหนีคะ เห็นแค่นี้ก็มีความสุขแล้วคะ
ในวันสุดท้ายตามเส้นทางกลับเข้าเมือง พี่เจ้าหน้าที่พาพวกเราไปเที่ยวหมู่บ้านคีรีวงษ์ก่อน พวกเราอุดหนุนสินค้ามาหลายอย่างเลยคะ เราได้สบู่มังคุด สบู่ขมิ้น เสื้อผ้าย้อมสีเปลือกมังคุด และไวน์
แล้วไปต่อที่วัดมหาธาตุ นครศรีธรรมราช แหล่งต้นกำเนิดจตุคามคะ เราได้มาอยู่ 3 องค์
แล้วพวกเราก็กลับกรุงเทพโดยน้องนกสดสวยอย่างปลอดภัย
ขอขอบคุณ คุณวิโรจน์ นาคแท้ หัวหน้าสถานีพัฒนาและอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเขาพลายดำ (ในขณะนั้น) พี่เอ คนพาเที่ยว และเจ้าหน้าที่ทุกๆ ท่านที่ให้การดูแลอย่างดี และที่สำคัญคือทีมพวกเรา 4 คนที่ทำให้การเดินทางครั้งนี้เกิดขึ้น คุณจอห์น น้องลิน และน้องนี
Create Date : 06 มิถุนายน 2553 |
|
10 comments |
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 17:56:34 น. |
Counter : 5164 Pageviews. |
|
|