มิถุนายน 2552

 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
เมื่อสาวเซ่อเจอหนุ่มมารุมรัก 2

งั้นเล่าเรื่องหมอกระดูก แทรกก่อนดีกว่า

เราเล่าให้หมอฟังว่า หมอไม่เขียนว่าให้ดึงคอกี่กิโล เขียน 12-14 ปอนด์
นักกายภาพ เลยดึงเราซะ 8 กิโล

หมอ "โอ๊ย จะบ้าเหรอ ไม่รู้รึไง หนึ่งปอนด์ มีกี่โล ตอนเ็ด็กไม่เคยเรียนกันรึไง
เฮ้อ ถ้ามันเก่ง มันจะเป็นนักกายภาพบำบัดเหรอ โง่ชะมัด ไม่รู้ว่ากี่โล
ชั้นให้เธอดึง 6 กิโล ไม่ต้องเพิ่ม"

โห หมอนี่ด่านักกายภาพ หรือหลอกด่าตรูวะเนี่ย

เรา "นักกายภาพ ให้หนู เพิ่มทำอุลตร้าซาวด์ด้วยค่ะ"

หมอ "มันแถมให้ก็ทำไปเถอะ"

เรา "แถมที่ไหนคะ เพิ่มเงินอีก 150 บาท"

หมอ "เฮ้ย นึกว่าทำฟรี เหมือนกินไอศครีม แถมวิปครีม
ทีหลังไม่ต้องทำ มันแค่ทำให้จั้กกะจี๋ ไม่ช่วยอะไรหรอก
แล้วนี่ดีขึ้นไม๊ ดีขึ้นกี่เปอร์เซนต์"

เรา "แค่ 10% "

หมอทดลองกำลังแขนสองข้าง

หมอ "กำลังข้างซ้ายอ่อนกว่าครึ่งหนึ่งนะ"
เรา "เฮ้อ เมื่อไหร่จะหายเนี่ย"

หมอ "นี่เธอเป็นมากี่ปี จะใช้เวลาแค่นี้หายเหรอ ดีขึ้นก็บุญแล้ว ไปๆ
ให้ไปทำกายภาพ อีกเดือน ค่อยมาเจอกันใหม่นะ หรือจะให้ชั้นสั่งผ่าตัด"

เรา "เอ่อ ไม่ต้องค่ะ ลาละค่ะอาจารย์"

--------------------------------------------------------------------------------

เพื่อนห้องบัญชี มาบอกเราว่า มีผู้ชายคนหนึ่ง เค้าบอกว่ารักเรา
พรุ่งนี้ตอนไปเข้าแถวเคารพธงชาติ จะชี้ให้ดูนะ

เพื่อนบัญชีหนึ่ง "คนนี้หล่อมาก เรายังแอบชอบอยู่เลย"
เพื่อนบัญชีสอง "เค้าเรียนช่าง .... เรียนเก่ง หล่อ สูง ขาว เป็นคนเรียบร้อยมาก"
เพื่อนบัญชีหนึ่ง "แต่ก็เหมาะกันดีนะ ถ้าอยู่ด้วยกัน จะคุยกันไม๊เนี่ย"

อะไร ใครไหนเนี่ย ทำไมเราไม่เคยเห็นใครหล่อ ๆ มาเฉียดเลยเนี่ย
เว่อร์ป่าวเนี่ย

ชอบมาทำให้อยากรู้ แต่เราก็สงวนท่าทีเอาไว้ ไม่ถามอะไรต่อ
ปล่อยให้สองสาวเค้าเล่ามาก็พอ

เรากลับไปนอนคิดว่าใคร คิดยังไงก็คิดไม่ออก

เฮ้อ จะคิดถึงคำพูดเพื่อนทำไม นอน ๆ ตื่นเช้าก็รู้แล้วว่าใคร

ตอนเช้า ไปเข้าแถว จำได้ว่าวันแรกที่เจอเค้าเป็นวันที่เรียนเนตรนารี กับลูกเสือ
เค้ายืนอยู่หัวแถว ตรงข้ามกับเรา แต่ไกลคนละฟากสนาม (เสาธงอยู่ตรงสนาม รึเป็นแบบนี้ทุกรร. ม่ายรู้)

เพื่อนชี้ให้ดูใหญ่ คนนั้นไง ๆ

เรามองแล้ว ทำไมเราไม่เคยเห็นเลยหว่า มองข้ามไปไหนเนี่ย

เอ่อ คุณลักษณะ ก็เหมือนเพื่อนว่านั่นแหละ
เหมือนพระเอกการ์ตูนญี่ปุ่นเลย สูงประมาณ 180
แต่งตัวเนี๊ยบ เรียบร้อย

แต่เราก็สงวนท่าที ทำเฉย "อ๋อ เหรอ"
ไม่ได้ ๆ ไม่ไว้วางใจเพื่อนบัญชี เดี๋ยวเอาคำพูดเราไปเล่าให้เค้าฟัง

แต่กับเพื่อนเลขา หรือใคร เราก็ไม่เล่าเหมือนกัน

ถ้าเทียบกับหนังเกาหลี ก็เป็นหนึ่งใน F4 ได้เลยค่ะ

--------------------------------------------------------------------------------

น้าเล็กเราเรียนอาชีวะอยู่อีกจังหวัด ที่เคยเล่าให้ฟัง
น้าเราเรียนบัญชี เก่งระดับเข้าแข่งขันชนะ วิทยาลัยอื่นตลอด

หลัง ๆ เธอไปอยู่หอพัก ไม่อยู่กับพี่สาวและพี่เขยละ

เธอโทรมาหาเราว่า ศุกร์ที่จะถึงหลังเลิกเรียน จะพาเพื่อนมาเที่ยวจังหวัดเรา
เธอพาผู้หญิงตัวเล็ก คนหนึ่งมาด้วย

เราก็ให้ยืมมอเตอร์ไซด์ พาเพื่อนไปเที่ยว

กลับมาเข้าห้องทะเลาะกัน

เพื่อนอะไรฟระเนี่ย ตบตีกันจังเลยวุ้ย
ซักพักอีกครึ่งชั่วโมง ก็ดีกันละ


อีกวัน เราก็ไปช่วยแม่ทำงาน

เรา "ทำไมน้าเล็กไม่ลงมาซะทีนะ"

แม่ "ไปตามน้าซิ ทำอะไรอยู่ ลงมาได้แล้วสายแล้ว"

เราวิ่งขึ้นบนบ้าน แง้มประตูห้องนอน

ไปเจอภาพเหมือนบนรถไฟฟ้า เมื่อกี๊

น้าเรา จุ๊บหน้าผากเพื่อน มองตากันซึ้ง กอดกันกลม

แต่ที่หนักกว่าบนรถไฟฟ้า คือ ใส่แต่ underwear

เราขยี้ตาดูอีกครั้ง ไม่จริ๊ง ไม่จริงใช่ไม๊ ชั้นตาฝาดไปใช่ไม๊

เราลงไปหาแม่อีกครั้ง

เรา "น้าแต่งตัวยังไม่เสร็จ เดี๋ยวลงมาค่ะ"

เราว่าเราคอยสังเกตุการณ์ดีกว่า ไม่กล้าถามสองคนนั้นหรอก

ตอนกลางวัน เห็นสวีทกันอยู่ดี ๆ แต่ตอนเย็น ผู้หญิงถูกน้าเราตีอีกละ
น้าเราขี่่มอเตอร์ไซด์ ออกไปไหนไม่รู้ ทิ้งแฟนไว้คนเดียว

เฮ้อ กลายเป็นทอมไปเมื่อไหร่ฟระเนี่ย

เราขึ้นบนบ้าน เข้าห้องเสื้อผ้า เพื่อเตรียมชุด ไปอาบน้ำ

ตกใจหมดเลย เห็นผู้หญิงคนนั้น ใส่ผ้าถุง อาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ
กำลังเช็ดตัวอยู่

เรากำลังจะออกจากห้อง ผู้หญิงดึงแขนเราเอาไว้

โผเข้ากอด


ฮือ ฮือ จะทำยังไงดีเนี่ย แฟนน้าเรานะ

โดยไม่ทันตั้งตัว ขณะยืนตะลึงอยู่นั้น เธอก็หอมแก้มเรา

เล่าแล้วก็ตื่นเต้น ปนอายอะค่ะ งั้นเปลี่ยนไปเ่ล่าตอนอื่นก่อนดีไม๊
กลัวมีคนรับม่ายด้ายอะ เค้าจะอมยิ้มหายไม๊น๊า

เธอดึงมือเราไปจับตรงหน้าอกของเธอ

กรี๊สสสส ชั้นไม่ได้เรียนหมอศัลย์มะเร็งเต้านมนะยะ ตรวจให้เธอหน่อยก็ได้วะ
บรื๋อ ผ้าถุงหลุดลุ่ยหมดละ ทำใจไม่ได้ หนีดีกว่า (ยังไม่ได้ตรวจนะ)

เราบอกให้เธอใส่เสื้อผ้าซะ เราจะออกไปข้างนอก

จู่ ๆ เราก็แมนขึ้นมา พร้อมกับภาวะสับสนทางแพทย์ตั้งแต่บัดนั้น


ทำไมเราไม่รังเกียจผู้หญิงคนนี้เนี่ย

หรือเพราะพ่อชอบให้เราแต่งตัวแบบผู้ชาย เธอเลยแอบชอบเรา
เพราะเราหล่อกว่าน้า ใช่ไม๊ๆๆ


รึว่าเราชอบผู้หญิงเข้าให้แล้ว



เฮ้ย ถ้าน้าเรารู้เข้าจะทำไงฟระเนี่ย ฮือฮือ

ผู้หญิงมาเริ่มก่อนนะ โปรดเข้าใจหลานบ้าง เลือดต้องข้นกว่าน้ำสิ

แค่เล่าประสบการณ์ตื่นเต้นให้ฟัง คงไม่เป็นไรนะคะ 555


--------------------------------------------------------------------------------
เราลุ้นระทึกจนถึงวันอาทิตย์ ระหว่างนั้น แมนขึ้นมาทันที

อยากหล่อบ้าง มีสาวมาชอบก็ดีเหมือนกันแฮะ


วันอาทิตย์สองคนนั้นก็ทะเลาะกันอีกละ

สาวดี้ เก็บเสื้อผ้าหนี บอกเราให้เราขี่มอเตอร์ไซด์ไปส่งที่ขนส่ง

เราลังเล แต่ก็ต้องไปส่ง น้าเรางอนหายไปไหนไม่รู้แล้ว

ขี่มอเตอร์ไซด์ สาวดี้ก็กอดเราแนบแน่น บรื๋อ เอาอีกแล้ว
ระหว่างนั้นก็เล่าเรื่องน้าให้เราฟัง อย่างนู้นอย่างนี้


เราไปส่งเธอที่ขนส่ง

ตั้งแต่นั้น ไม่เคยเจอเธอ อีกเลย

และโตขึ้นมา สาวดี้ กับน้าเราต่างก็มีแฟนเป็นผู้ชายค่ะ
สงสัยตอนนั้น จะเป็นแฟชั่นมากกว่า ก็เรียนพานิชย์มีแต่ผู้หญิงนี่นา

--------------------------------------------------------------------------------

เดี๋ยวเล่าตอน F4 ให้ฟังนะ ปั่นต้นฉบับแป๊บค่า
--------------------------------------------------------------------------------

เพื่อนถามว่า "ตกลงเคยเห็นคนนี้ไม๊"

เรา "ฮึ ไม่เคยเห็นเลย"
แต่คำถามในใจ อยากถามเพื่อนต่อว่า เค้ามาชอบเราตอนไหน เคยเห็นเราที่ไหนเหรอ แต่ก็ไม่กล้าถามเพื่อน

เพื่อน "เค้าเป็นลูกของข้าราชการทั้งคุณพ่อคุณแม่ (บอกตรงกลัวเค้าอ่านเจอ อิอิ) เลิกเรียน กลับบ้านทันที ไม่เคย เถลไถล เด็กเรียน เป็นไงล่ะ"

เรา "อืม เหรอ เดี๋ยวเราไปเข้าห้องเรียนก่อนนะ วันนี้มีสอบพิมพ์ดีดด้วย"

ปกติเรียนพิมพ์ดีด เรากะยัยเพื่อนเลขา แข่งกันสุดฤทธิ์
ว่าใครจะปัดแคร่ก่อนกัน ถ้าเราได้ข่มขวัญเพื่อนในชั้น โดยการปัดแคร่ก่อน
คนอื่นจะเสียขวัญ พาลให้พิมพ์ผิด ๆ ถูก ๆ

ในห้องเลขา จะมีเพื่อนอีกคน พิมพ์เร็วมาก และผิดเยอะมาก
แต่ค่าเฉลี่ย ออกมาก็ยังส่งเข้าประกวดได้

ส่วนเพื่อนเลขาคนเดิม พิมพ์ไม่ค่อยผิด จิตใจมั่นคง
เราชอบปัดแคร่แข่ง เพราะนั่งข้างกัน แต่ถ้าเพื่อนปัดก่อนทีไร
เรามักจะหวั่นไหว พาลเสียกำลังใจไปเลย แต่ยังไงเราสองคนก็ได้เกรดสี่
วิชาพิมพ์ดีด คะแนนนำเพื่อนในห้องไปไกลโข


แต่วันนี้จิตใจเราไม่อยู่กะร่องกะรอย หน้า F4 ลอยมาหลอนซะละ
ระหว่างเรียนพิมพ์ดีด เราพิมพ์ไม่ผิดแต่พิมพ์ช้า เพื่อนปัดแคร่นำตลอด

หลังจากวันแรก ก็เหมือนได้เห็นเค้าทุกวัน

เข้าแถวทีไรเจอทุกที ผ่านไปซักสองอาทิตย์

ทีนี้มีการขี่มอเตอร์ไซด์ผ่านหน้าบ้านเราด้วย

ปะหน้ากันจัง ๆ เค้ายิ้มให้เรา

เราไม่ยิ้มให้หรอก ยิ้มให้ผู้ชายไม่เป็นน่ะ

ทำเป็นไม่เห็นดีกว่า 555 มุขถนัดนัก


เจอกันที่รร. เดินผ่านก็ยังไม่กล้ามอง
เจอเพื่อนแซว ยิ่งไปกันใหญ่

ส่วนตัวเค้า เพื่อนเค้าก็ต้องลากมาคุยกับเรา

มีอยู่ครั้งหนึ่ง เรานั่งโต๊ะหินอ่อน รอเพื่อนเลขา ขึ้นไปส่งสมุดการบ้าน

เพื่อนของเค้า ดึงแขนเค้า ตรงเข้ามาที่โต๊ะเรา

ฮือฮือ อยู่คนเดียว ทำไงดีเนี่ย ไม่นะ อย่าเข้ามา

เพื่อนเค้า ก็ถามใหญ่ "รอใครจ๊ะ น้องเนื้อฯ"

แหวะ รุ่นเดียวกันเรียกน้องทำไมเนี่ย

ถามอะไรมา เราเงียบอย่างเดียว จนสองคนนั้นไม่รู้จะคุยกับเรายังไง
ให้เราตอบ

แถมเรายังวิ่งหนีอีกต่างหาก 555 นึกถึงเรื่องนี้แล้วอายชะมัด

ช่วงนั้น หนุ่ม ๆ เข้ามาจีบ หลายคน หลายแผนก แต่เราก็ยังไม่เคย
คุยกับคนไหน หรือแม้แต่ยิ้มให้ก็ไม่มี

แถมยังมีเพื่อนเลิฟกระเทย เป็นเกราะป้องกัน ใครแซวมา เธอจัดการปกป้อง
เราทุกอย่าง

เพื่อนกระเทย "เดี่ยวตรูจัดการให้เองย่ะ"

เพื่อนกระเทยเรา บอกว่า เวลาอยู่บ้านต้องเก๊กแมนสุดฤทธิ์
เพราะพ่อไม่ชอบกระเทย ถ้าไปบ้านชั้น เห็นชั้นแมนไม่ต้องตกใจ
แต่พวกหล่อนไม่ต้องกลัว อยู่กะชั้นรับรองปลอดภัย ต่อให้มานอนบ้านชั้น
ชั้นก็ไม่ทำอะไรพวกหล่อนหรอก หยะแหยง เพศเดียวกันย่ะ

--------------------------------------------------------------------------------
ช่วงเรียนอยู่ปีสอง เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น

เริ่มจากเพื่อนหนิมก่อนเลย
ซึ่งนำพาให้เราไปรู้จักสังคมอีกแบบ

เพื่อนหนิม เริ่มมีกลุ่มเพื่อนต่าง รร. มีนัดกันไปตั้งวงดื่มเหล้า
หลังเลิกเรียน เพื่อนหนิมเห็นเป็นเรื่องเท่ห์
แต่เราไม่ยอมเท่ห์ด้วย กลัวแอลกอฮอล์ทำลายสมองอันน้อยนิด
ให้มันฝ่อไปอีก ตายแน่ตรู

แต่ก็มีเพื่อนอีกคนในห้องเลขา ที่ไปกับเพื่อนหนิม ชอบดื่มเหมือนกัน
เพื่อนคนนี้แปลกมาก มีพ่อชอบดื่มเหล้า คุณย่าก็ชอบ เป็นกันทั้งตระกูล
ถ้าเพื่อนคนนี้ ตาเขียว เดินขาเป๋ มาเรียน

เพืื้อน ๆ ถาม "เฮ้ย ไปโดนไรมา"

เพื่อนตัวเล็ก "ต่อยกับพ่อมา ทะเลาะกัน"

เรา "เฮ้ย นี่กล้าสู้พ่อเลยเหรอ"

ตัวเล็ก "เออ เมาเหล้า สู้กัน พ่อต่อยตาตรูว่ะ เลยเป็นสีเขียวอมม่วง
ไม่ต้องปัดอายแชโดว์มันละวันนี้ 555"

โอ๊ย กรำ ยังหัวเราะได้ น่าช่วยกันทำให้สีตา เสมอกันสองข้างจัง 555


เพราะความเก๋า ของเพื่อนคนนี้ มันดูนักเลง เลยเหมือนพวกเราจะไปเชื่อฟัง
เกรงใจมันมาก สั่งเพื่อนได้ ล้อเพื่อนได้

--------------------------------------------------------------------------------

เก็บจาก hi5 มาฝากค่ะ

เรื่อง ตำรวจ

ณ อนุเสาวรีย์ย่าโมตอนบ่ายที่ร้อนอบอ้าววันหนึ่งได้มียายแก่ๆ
คนหนึ่งมากราบไหว้ขอพรกับย่าโม

ยาย "ย่าโมเจ้าโปรดช่วยลูกช้างด้วยเถิดเจ้าค่ะลูกช้างไม่ได้เจอหน้า
ลูกมาหลายปีแล้วขอให้ย่าโมดลบันดาลให้ได้เงิน สัก 500 บาท
ลูกช้างจะเอาเป็นค่ารถไปเยี่ยมลูกที่กรุงเทพฯ"

ในขณะที่ยายกำลังขอพรจากย่าโมอยู่ตำรวจที่ยืนโบกรถอยู่ใกล้ๆ
ได้ยินเข้า ด้วยความสงสารตำรวจจึงเอาเงินให้ยายไป 300 บาท
หลังจากได้เงินจากตำรวจยายก็กลับมาไหว้ย่าโมอีกครั้ง

ยาย "ลูกช้างกราบขอบพระคุณย่าโมมากเจ้าค่ะที่ให้เงินมาแต่ทีหน้า
ทีหลังอย่าฝากตำรวจมาอีกนะเจ้าคะ เพราะตำรวจมันอมไป
200 บาท"
ตำรวจ ?!?!?!?!

--------------------------------------------------------------------------------
ช่วงนั้นที่วิทยาลัยช่วงพักเที่ยง จะเปิดเพลงสถานี FM ของตัวจังหวัด
เราเดินกับเพื่อนอยู่ เสียงดีเจบอกว่า

"เพลงนี้ขอมอบให้น้องเนื้อฯ จากช่าง........"

วิทยาลัยของเรามีช่างยนต์ ช่างไฟ ช่างอิเลคฯ ช่างเชื่อมฯ
ช่างก่อสร้าง


ระบุแต่แผนก แต่ไม่ระบุตัวบุคคล แต่ช่างแผนกนี้
มีมาแซวเราแค่คนเดียว เราพอเดาได้ (ไม่ระบุกลัวเค้าอ่านเจอ555)


ระหว่างเดินเล่น แล้วเจอเพลงประกอบ เราก็เขิลสุดๆ เดินหน้าแดง
เพื่อนบางคนฟังทันก็มาแซวในห้องเรียน

เราคิดในใจ ตาคนนั้น บ้า ทำเราขายหน้าชะมัด

ขยัน ขอเพลงมาให้บ่อย ๆ เชียว

หลังๆ มีช่างแผนกอื่น ขอเพลงแข่งกับคนนี้อีก

แล้วคิดดู เราจะกล้าเดินเล่นอีกไม๊ โน่น กินข้าวเสร็จ เข้าห้องเรียน
ไปแกล้งหลับดีกว่า

--------------------------------------------------------------------------------
บางวัน เราเรียนวิชาการขาย ห้องเรียนจะอยู่ชั้นที่หนึ่ง ใกล้กับสหกรณ์
พวกช่างแผนก........ มาซื้อขนม และนั่งอยู่หน้าห้องเรียนพวกเรา
พอเลิกเรียนปุ๊ป

เพื่อนตัวเล็ก "กรี๊สสสส นายฝรั่งนั้นของชั้นนะ ชั้นเล็งไว้ตั้งแต่ปีหนึ่งแร้ว ห้ามแย่ง"

เพื่อนสาวห้าว "ตรูเล็งไว้ ตั้งแต่ตรูอยู่ม.ต้นแล้ว ของตรู ยัยเล็ก ยัยเนื้อฯ
พวกเมิงห้ามยุ่งกะของตรูนะ หล่อมั้ย ๆ"

เรา "เออๆ ก็หล่อแหละ"

เพื่อนตัวเล็ก "แต่ของยัยเนื้อฯ นายที่ยืนเก๊กอยู่โน่น 555
ขี้อายยังกะผู้หญิง"

เรา "เฮ้ย ไม่ใช่ ๆ ของชั้นซะหน่อย"



ในใจเรา นายฝรั่งนี่ก็หล่อดี สายตาเจ้าชู้เชียว
แต่เราว่า F4 ดูดีกว่า ตั้งใจเรียน เรียบร้อยด้วย
(เค้าสองคนเรียนห้องเดียวกัน)


ทำไมเราคอยแต่คิดถึงเค้านะ จะบ้าเหรอเนี่ย

เย็นนั้น เรานำความไปปรึกษาแม่ เพราะแม่คือเพื่อนที่ดีที่สุด
รับรองไม่บอกต่อให้ใครฟังเป็นแน่


เรา "แม่คะ น้องเป็นอะไรไม่รู้ เวลาเห็นนาย F4 ใจมันเต้นตึ้กๆๆ
แบบนี้แปลว่า น้องกำลังหลงรักเค้าเหรอคะแม่"

แม่ "ไม่ใช่หรอก วัยรุ่นก็อย่างงี้แหละ หึหึ"

เรา "แล้วมีคิดถึงด้วยนะ แม่เคยเป็นไม๊ล่ะ"

แม่ "เมื่อก่อนแม่มีคนมาจีบเยอะแยะ แต่ก็ไม่รักใคร"

เรา "แม่เลยมาแต่งกับพ่อ เพราะผู้ใหญ่หาให้ น้องรู้แล้ว"

แม่ "เชื่อผู้ใหญ่ไว้น่ะดีที่สุดลูกเอ๊ย"


ถึงจะปรึกษาแม่ แต่เราก็เคืองตัวเอง ที่ชอบแสดงออกตรงกันข้าม
เค้ามาผ่านหน้าบ้าน หรือมาทัก เราก็ทำเฉย และเค้าก็ไม่เคยมาคนเดียว
ขี้อายเหมือนกัน

แต่อีกทางเราก็แอบขี่มอเตอร์ไซด์ไปผ่านบ้านเค้าเหมือนกัน
(ไม่เห็นหน้า เห็นหลังคาบ้านก็ยังดี เราไม่ได้ไปคนเดียว
ชวนเพื่อนไปซื้อของ ทางที่ต้องผ่านบ้านเค้า)
ในใจก็ลุ้น อย่าให้เค้าโผล่มาเห็นชั้นนะ อายตายเลย

--------------------------------------------------------------------------------
เหตุการณ์ F4 เริ่มตั้งแต่ปีหนึ่ง มาถึงปีสองก็ยังไม่เคยคุยกันเลยค่ะ

เล่าเรื่องเพื่อนหนิมก่อนดีกว่า


เพื่อนมีแฟน เริ่มโดดเรียน ไปเที่ยวกับแฟน

เพื่อนเลขา "เห็นไม๊ ผู้ชายเป็นมารของการเรียน
มันเริ่มโดดเรียนแล้ว สมองน้อยแกดูมันไว้เป็นตัวอย่างนะ"

และแล้ว คำพูดของเพื่อนเลขาก็เป็นจริง
เพื่อนหนิมโดนรีไทร์ ตอนสอบปลายภาคเสร็จ

และยิ่งทำตัวกู่ไม่กลับ จนคุณพ่อของเพื่อน (เป็นเพื่อนพ่อเรา)
ตรอมใจ ดื่มเหล้าทุกวัน จน expire (แอบใช้ศัพท์พี่หมอแล้ว)

ภาพเพื่อนมีแฟน เสียผู้เสียคน ทำให้เราลืมเรื่อง F4 ไปซะสนิท

จดหมายที่เขียนไว้ใต้โต๊ะหนังสือ ที่บ้าน เอาไปฉีกทิ้งดีกว่า
(เราเขียนจดหมาย ระบายความในใจ เกี่ยวกับ F4 ใส่ในลิ้นชัก
กะรอชาติหน้าค่อยส่งให้เค้ามั้ง555)


พอกันที ความรัก ถ้าเป็นคู่กัน รอให้เรียนจบปริญญาก่อน
เราคงได้เป็นแฟนกันนะ จะรอชั้นไม๊ ฮึ
(ถามอยู่ในห้องนอนตัวเอง เค้าคงรู้หรอก กรำ T_T)

--------------------------------------------------------------------------------
ตอนเรียนปี.2 เพื่อนปีหนึ่งที่แยกย้ายไปเรียนสาขาอื่นๆ
จะมีเพื่อนคนหนึ่ง ไปเรียนการขาย

เป็นคนสวย หน้าหวาน ขาว น่ารัก โอ๊ย ชอบๆ

ถ้าเราเจอ หรือเดินผ่าน เวลาพักเรียน
ถ้าเจอคนนี้ เราต้องไปหยอก ไปบีบแก้มเค้าละ

เรา "มนุษย์ต่างดาว มาละ"
(เค้าจะหวีผมปิดหูกาง แต่หูโผล่ออกมาจากผม เพราะผมเส้นเล็กบาง)

หวาน "อิอิ ปิดไว้แล้วนะ"

เรา "เรียนการขายสนุกไม๊ ขอจับแก้มอีกทีดิ๊ คิดถึงจัง"

หวาน "งั้นมากอดเค้าด้วยดิ คิดถึงเหมือนกัน"

เพื่อนคนนี้สุขภาพไม่ดี เป็นไวรัสตับอักเสบบี
เห็นอย่างงี้ เธอต้องฉีดยาให้ตัวเองเป็นประจำ น่าสงสารมาก

แต่เธอก็มีแฟนแล้ว เพราะมาเรียนที่ตัวจังหวัดต้องอยู่หอพัก
พวกผู้ชายชอบไปจีบสาวที่หอพักหญิง


หลังจากเจอกันวันนั้น ผ่านไปอีกอาทิตย์

--------------------------------------------------------------------------------
เพื่อนห้องการขาย มาบอกเราว่า ยัยหวาน expire แล้ว ให้เราไปงานศพด้วย


ฮือฮือ ทำไมเธอต้องตายด้วย ความตายยังอยู่ห่างไกลพวกเราไม่ใช่เหรอ

เธอก็รักษาตัวเองดีทุกอย่าง แล้วทำไมๆ


เรารวมเพื่อนๆ ในกลุ่ม ไปงานศพ เศร้ามาก พี่สาวของยัยหวาน
หน้าเหมือนยัยหวานมาก กำลังท้องอยู่ด้วย จริง ๆ เค้าไม่ให้คนท้อง
มางานศพ แต่พี่สาวก็มา ร้องไห้เหมือนจะขาดใจตายตรงนั้นให้ได้
ส่วนแฟนของเธอก็บวชให้


ภาพเก่า ๆ ตามหลอกตามหลอนเรา ตลอดเวลาช่วงนั้น
เราเดินผ่านเธอตรงนี้ เราจับแก้มตรงนั้น เรากอดกันอาทิตย์ก่อนไม่ใช่เหรอ
ไม่มีเค้าลางมาก่อนว่าเธอจะไปเลยนี่

ไม่มีแล้วคนนั่งกินข้าวตรงหน้า
ไม่มีแล้ววาจาอันสดใส
ไม่มีแล้วคำปลอบโยนด้วยหัวใจ
ไม่มีแล้วไม่มีคัยไม่มีเทอ
ไม่มีคนร่วมตากแดดร่วมตากฝน
ไม่มีคนคอยเคียงข้างอยู่เสมอ
ไม่มีคนทุกวันเห็นทุกวันเจอ
ไม่มีเทอฉันจะสุขใด้อย่างไร
ลาแล้วเพื่อนวันวานอันหวานฉ่ำ
ลาแล้วจำไมตรีอันดีใว้
พวกเราเป็นเพื่อนกันตลอดไป
ลาแล้วใจ ลาแล้วจาก ไม่อยากลา T_T

-----------------------------------------------------------------------------
วิทยาลัยเรามีงานกีฬาสี และเราได้เป็นเชียร์ลีดเดอร์
ทีนี้ก็เลยได้มี หัวหน้านักเลงในจังหวัดมาปิ๊ง

(งานกีฬาสี ใครอยากจะมาดูกีฬาก็ได้ พวกนศ.ต่างสถาบันก็เข้ามาดูกีฬากัน)

วิธีการจีบก็คือ ฝากเพื่อนหนิมซึ่งโดนรีไทร์ไปแล้ว มาบอกเรา

เพื่อนหนิม "เฮ้ย ยัยเนื้อ พี่เบิ้ม ปิ๊งแกว่ะ ก๊ากๆๆ"

เรา "เบิ้มไหนอีกล่ะเนี่ย "

เพื่อนหนิม "ไว้ดูเองดีกว่า ไม่ได้เรียนที่เดียวกะแกหรอก แต่เป็น 555
หัวหน้าพวกดมกาว"

เราคิดว่าคงไม่มีวงโคจรต้องไปพบพวกนี้แน่นอน
แต่ผิดคาด

อีกอาทิตย์ถัดมา เพื่อนหนิม ขี่มอเตอร์ไซด์มาหาที่บ้านเรา หลังเราเลิกเรียน

หนิม "นี่ ยัยเนื้อ มานี่เร็ว ไปส่งชั้นหน่อย"
เรา "ไปไหนล่ะ"

หนิม "รีบ ๆ ขึ้นรถ ก่อนพ่อแกมาเห็น เร็วๆ สิ ส่งชั้นไปหาเพื่อนหน่อย"

เรา "เออๆๆ ก็ได้ รีบกลับก่อนหกโมงเย็นนะ เดี๋ยวพ่อมา"

ยัยหนิมพาเรา ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ

เรา "ไหนบอกส่งไปหาเพื่อน"
หนิม "เออ น่า พวกมันยังมาไม่ถึง เลี้ยงหนม หน่อยดิ
ชั้นหิว ไม่ได้กินอะไร มาตั้งแต่กลางวันแล้ว"

เรา "ทำไมไม่กินวะ เอ้า มีแค่ยี่สิบบาท"
หนิมไปซื้อลูกชิ้นมากิน

ซักพักยัยหนิมบอกให้เราขึ้นมอเตอร์ไซด์

หนิม "ได้เวลาละไปเร็ว"
เรา "อะไรวะเนี่ย ไปไหนอีก แกจะทำอะไรบอกมาซิ แปลกๆ ตั้งนานแล้วนะ"

หนิม "เอ่อ ไม่มีไร เร็วขึ้นรถเร็ว"

เราคิดว่ามันต้องมีแผนอะไรแน่

หนิมขี่มอเตอร์ไซด์ พาเราไปซอยเล็ก ๆ ที่มีศาลาร้างอยู่

เราเห็นมีผู้ชายสองสามคน ถือถุงพลาสติก มีอะไรขาวขุ่นข้างใน
และเห็นมีมะนาวผ่าซีกอยู่ในถุงด้วย

เรา "หนิม พวกนั้นถืออะไรอะ"

หนิม "มันกำลังดมกาวกัน"

หนิมเดินไปถามหาลูกพี่พวกนั้น

หนิม "ลูกพี่ไปไหน"
พวกนั้น พยักหน้า "นั่นไง" แล้วพวกนั้นก็เอาถุงพลาสติกขึ้นมาสูดดม
เหมือนกับกลัวว่ากลิ่นจะเล็ดลอดออกมา ถือปิดปากถุงอย่างดี

ผู้ชายที่เดินเข้ามา ตัวใหญ่ ใส่เสื้อกล้าม มีลายสักลายพร้อยไปทั้งแขน
น่ากลัวมาก หน้ามีแต่รอยแผลเป็น พอแล้วไม่กล้าดูมาก

หนิม "นี่ไงพี่เบิ้ม ที่เคยเล่าให้ฟัง พี่เบิ้ม นี่ยัยเนื้อฯนะ"
เราเงียบ เขยิบตัวไปอยู่ข้างหลังหนิม โดยอัตโนมัติ

หนิม "พี่เบิ้ม เดี๋ยวหนิมมานะ พาเพื่อนไปส่งก่อน"

เบิ้ม "อืม"

บุคลิกเค้าน่ากลัว แต่กลับไม่ได้กล้าคุยหรือแซวเรา กลับรู้สึกว่าเค้าเคอะเขิน
ด้วยซ้ำ

หนิมพาเรามาส่งบ้าน
เรา "ตกลงแกเล่นอะไรเนี่ย"
หนิม "น่า ชั้นพนันกับพี่เบิ้ม ว่าต้องพาแกไปให้ได้ นะ ครั้งนี้ครั้งเดียว"
เรา "เออ ถ้ามีอีก ชั้นจะฟ้องพ่อ"
หนิม "เฮ้ย อย่านะ ขอร้อง ชั้นไปก่อนนะ"


คืนนั้น เรารีบท่อง นะโม สามจบ
ขออย่าให้ได้พบเจอพี่เบิ้มอีกนะคะ เทียบกับ F4 แล้วอย่างกะฟ้ากะเหว

แถมยังเป็นหัวหน้านักเลง ที่ไม่เรียนหนังสืออีก กรำ

--------------------------------------------------------------------------------
พอถึงเทศกาลลอยกระทง เราก็ไปลอยกระทงกับกลุ่มเพื่อน
โดยมีน้องสาวเราไปด้วย เอามอเตอร์ไซด์ไปหลายคัน

เราไปซื้อกระทงจะไปลอยละ

ยัยหนิม โผล่มาบอกว่า

"พี่เต๋า เอ๊ย พี่เบิ้ม กำลังถือกระทง ตามหาตัวแกอยู่

บอกว่าจะขอลอยพร้อมกัน เอาเส้นผมใส่ลงไปในกระทงด้วย"

เรา หันซ้าย หันขวา "เฮ้ย ไม่เอานะ"

เราเห็นกลุ่มพี่เบิ้มเดินมาแต่ไกล เราถือกระทงวิ่งหนีไปหลบอีกทาง
ในที่สุดเราก็ได้ลอยกระทงคนเดียว

พลัดหลงกับเพื่อนและน้อง น้ำตาซึมอีกละ

เราตัดสินใจกลับบ้านก่อนดีกว่า กลัวเจอพี่เบิ้ม
ยังไงเดี๋ยวเพื่อนก็ต้องมาส่งน้องเราอยู่แล้ว


เราไปถึงบ้านปิดกุญแจรถ จูงรถไปเก็บ

ย่องขึ้นประตูหลังบ้าน ไม่ให้พ่อได้ยิน ไม่ให้พ่อเห็น

เข้าไปหลบในห้องนอนรอน้อง

ฮื้อ เมื่อไหร่จะมานะ พวกเพื่อนๆ ถ้าพ่อรู้เข้า ตรูโดนตีอีกแน่
ระหว่างลุ้นอยู่นั้น

เสียงมอเตอร์ไซด์มาจอดหน้าบ้าน
เพื่อนมันไม่ย่องเบาให้เราแล้วสิ พ่อเปิดประตูออกไป

พ่อ "ไหนพี่สาวไปไหน ทำไมมันไม่กลับ"

น้อง "อ้าว ก็รถจอดนั่นไงคะ"

พ่อ "มันอยู่ไหน ทำไมมาก่อนน้อง"

เราค่อย ๆ โผล่หัวออกมา "อยู่นี่ค่ะ"

ฮือ ฮือ กลัว

พ่อ "เป็นพี่ยังไง ไม่รอน้องกลับมาพร้อมกัน มาโดนตีซะดีๆ โทษฐานทิ้งน้อง
ไปเอาไม้ที่เหน็บข้างฝามาเดี๋ยวนี้"

เราเดินให้ช้าที่สุด ไปหยิบไม้มาให้พ่อตี

เราโดนตีต่อหน้าเพื่อนเป็นครั้งที่สองในชีวิตวัยรุ่น

พ่อตีเราจนเหนื่อยแล้ว ก็เข้าห้องไป

เพื่อนรีบขี่รถกลับไปก่อน แบบตื่นๆ ไม่เคยเจอ
(คนนี้เพื่อนม.ต้น ที่ไปเรียนสายสามัญ)

น้องสาวรีบไปหายามาทาแผลให้เรา

คืนนั้นเราร้องไห้จนหลับไป พ่อไม่เคยถามเหตุผล
แต่ถึงถามเราจะตอบว่าอะไรล่ะ จะโดนหนักกว่าเดิมไม๊ล่ะ

--------------------------------------------------------------------------------
ตอนเด็ก เรากับน้อง ๆ มักเรียนพิเศษ กับญาติ ๆ ที่คุณพ่อเราวานมาสอน
มีอยู่คนหนึ่งเป็นครูสอนพิเศษให้น้องชายเรา ทุกคนเรียกว่าจ่า
เราก็เรียกจ่าตาม ไม่ได้เรียกพี่ หรือน้า หรืออา

มีอยู่วันหนึ่ง ขำมาจนทุกวันนี้

พ่อเราก็รอจ่ามาสอนหนังสือให้น้องชาย ปกติจ่าจะมาถึงประมาณห้าโมงเย็น

วันนี้ห้าโมงครึ่งยังไม่มาอีก

พ่อ "ไอ้บ้านั่น มันไปไหน ป่านนี้ยังไม่โผล่หน้ามาอีกฟระ"

แม่ "นั่นไง มาแล้ว

จ่าเปิดประตูมายิ้มแหยง ๆ

ระหว่างที่น้องชายเรียนเรากับน้องสาวก็นั่งดูทีวีอีกมุมหนึ่ง
ไม่ได้ไปดูน้องเรียนกันเลย


จ่าเอาสมุดบันทึกมาให้เราหนึ่งเล่ม เราไหว้ขอบคุณ
และเอาไปให้แม่ดู แม่ก็ยิ้ม ๆ


หลังจากวันนั้น พวกเราก็ได้รู้ว่า จ่ามาชอบเราเข้าให้แล้ว
ที่รู้นี่ไม่ได้รู้เอง เพราะส่งตัวแทนมาบอก (คงเห็นเราบื้อจัด ไม่เก็ท)

จ่า ให้ลูกน้องมาบอก ว่าชอบเรา

เรา "จะบ้าเหรอ จ่านั่นจะเท่าแม่เราแล้วนะ โห แก่กว่าเราเกือบยี่สิบปี"

ไม่ ยังไม่จบ เรายังกลัวจ่าไม่เก็ท เหมือนก๊าน เราเลยฝากจดหมาย
ให้ลูกน้องจ่าไปด้วย

อย่า อย่าคิดว่าจดหมายรัก มันเป็นจดหมายเกลียด 555

พร่ำพรรณาคำด่าตามประสาที่เรานึกได้ในขณะนั้น

อีกสองสามวัน เราไม่เห็นลูกน้องจ่า แต่ไปถามคนที่รู้จักเค้า

เราถามถึงจดหมาย ปรากฎว่าเพื่อน ๆ เค้าบอกว่า ลูกน้องจ่าไม่กล้ายื่นจดหมายนั้นหรอก

เรา "เอ๊า เซ็งเลย คนเค้าอุตส่าห์เขียน ทำไมไม่กล้าให้"


หลังจากนั้นถ้าจ่าคนนี้มาสอนน้องเรา เราก็จะเข้าห้องปิดประตู
ไม่โผล่ไปให้เห็นหน้า

และเราก็เล่าให้แม่ฟังด้วย พ่อเราเลยไม่ให้เค้ามาสอนน้องเราอีกเลย


เราถามถึงลูกน้องจ่าอีก อยากรู้ว่าจ่าได้อ่านจดหมายเกลียดนั่นรึเปล่า

แต่ลูกน้องเค้าก็มาถูกรถชนไปเสียแล้ว เลยเป็นปริศนาไปเลย
เฮ้อ คงไม่ตายเพราะจดหมายเราหรอกนะ ไม่น่าเกี่ยวใช่ไม๊ๆ T_T

--------------------------------------------------------------------------------
งั้นมาต่อช่วงปี 3 ดีกว่า

เราบังเอิญได้เจอเพื่อนวัยเด็กประถม ที่เคยเรียน รร.พุทธศาสนาวันอาทิตย์
ด้วยกัน เพื่อนคนนี้หน้าตาน่ารักมากๆ เหมือนตุ๊กตา
เราเป็นผู้หญิงยังอดชื่นชมไม่ได้ เราเจอเค้าทั้งครอบครัวเลยค่ะ

ทีนี้ก็เลยได้เจอพี่ชายเค้าด้วย ผ่านไปซักอีกหนึ่งเดือน

พี่ชายเค้ามาหาเราถึงบ้าน มาเยี่ยม มาคุย เหมือนเราเป็นน้องสาวคนหนึ่ง
และเราก็คิดว่าพี่เพื่อนก็เหมือนพี่เรานั่นแหละ

เรียกว่าพี่ตึ๋งดีกว่า

พี่ตึ๋งเค้าอ่อนโยน ใจดี ชอบมาทำของเล่นให้น้องชายเรา
พูดจาเพราะ

วันหนึ่ง พี่เค้าก็บอกให้เราช่วยเล่นละครเป็นแฟนเค้าหน่อย
จะแกล้งแฟนเก่า แฟนพี่เค้าเพิ่งเลิกกันไปมีแฟนใหม่
เค้าอกหักเสียใจ บอกเราว่าเค้า hurt สุดๆ

พี่ตึ๋ง "นะไอ้เนื้อ เอ็งช่วยพี่หน่อยนะ"

เรา "ไม่เอา ฮึ ทำไม่ได้"

พี่ตึ๋ง "ไม่ต้องทำอะไร แค่ซ้อนมอเตอร์ไซด์พี่ ไปผ่านหน้าบ้านเค้า
แค่นั้นเอง นะๆๆ เดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยงน้ำปั่น"

เรา "เออ ก็ได้ค่ะ"

คิดแค่ได้กินน้ำปั่นฟรี 555

-----------------------------------------------------------------------------



Create Date : 05 มิถุนายน 2552
Last Update : 5 มิถุนายน 2552 20:48:22 น.
Counter : 97 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เนื้อคู่ประตูถัดไป
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Friendship iz not a game 2 play, It iz not a word 2 say,
It doesnt start on March & ends on May, It iz tomorrow, yesterday, today & every day.
น้องเพนกี้
น้อง DoryKong 1
น้อง DoryKong 2
น้อง DoryKong 3
X
X
X
X
Friends Blog
[Add เนื้อคู่ประตูถัดไป's blog to your weblog]