The Diary of my Back Pain (1) : How it all started
สวัสดีค่ะ บล็อคนี้ขอเล่าประสบการณ์ปวดหลังในรอบ2 ปีที่ผ่านมา ที่ถึงขั้นต้องผ่าตัดกันถึง2 ครั้ง พร้อมพบแพทย์นับเป็นสิบคน หลายแผน หลายตำรับ จากประสบการณ์ในห้องฉุกเฉิน ไปจนถึงการผ่าตัดฉุกเฉินและความเครียดและโรคซึมเศร้าที่นำไปสู่การต้องเข้าพบจิตแพทย์ ไปติดตามกันได้เลยค่ะั ช่วงต้นปี2010 เราปวดหลังมาก และเบื่อกับการที่หมอประจำตัวบอกว่า เรากล้ามเนื้ออักเสบ เพราะรู้สึกว่า มันอักเสบมาชาติหนึ่งแล้ว ยังไม่หายซะที เลยตัดสินใจนัดผู้เชี่ยวชาญทางด้านกระดูก คือ ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง หมอกระดูกน่าจะเป็นอะไรที่โอเคที่สุด แต่ความจริงแ้ล้วคิดผิดค่ะ ซึ่งจะเล่าให้ฟังภายหลัง ขอท้าวความนิดค่ะ คือ เราเป็นคนที่ปวดหลังมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมเลย เนื่องจากเป็นโรคกรรมพันธุ์เกี่ยวกับกระดูกสันหลัง คุณพ่อเราผ่าตัดหลังมา 3 ครั้งแล้ว และพี่น้องเกือบทุกคน เป็นโรคปวดหลังหมด ถึงวันนัด...คุณหมอเป็นคนอินเดีย ที่คิดว่าน่าจะอยู่อเมริกามานานแล้ว แต่ยังติดนิสัยผู้ชายอินเดียอยู่ คือ ไม่ยอมให้ผู้หญิงมีปากมีเสียง เนื่องจากเราถามอะไร เธอไม่ตอบ เธอหันไปพูดกับนายจอมยุ่งแทน ทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่ได้มีปัญหาทางด้านภาษาซักหน่อย สรุป...เธอบอกว่า ขาเรายาวไม่เท่ากัน ทำให้กระดูกเชิงกรานมันเบี้ยว เลยให้แผ่นใส่ในรองเท้ามา แต่เราไม่ปลื้มเท่าไร เพราะดูมันไม่เป็นงานเป็นการเลย ที่รู้เพราะนายจอมยุ่ง ก็ใส่แผ่นรองเหมือนกัน แต่คุณหมอของเฮีย เธอวัดระดับความหนาของแผ่น ถึงขั้นมิลลิเมตร ไม่ใช่โยนของอะไรก็ไม่รู้ แบบตาหมออินเดียเนี่ย เราก็ใส่อีแผ่นบ้าเนี่ยไปหลายเดือนอยู่ หลังก็ไม่เห็นหายปวด แถมมันปวดขึ้นเรื่อย ๆ ไปถึงขาอีกต่างหาก คราวนี้เราเลยตัดสินใจ ไปหาหมอจัดกระดูก(Chiropractor) หมอจัดกระดูกที่อเมริกานี่ ส่วนมากเปิดคลีนิคเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง มีคุณหมอคนเดียว แล้วอาจจะมีพยาบาลหรือผู้ช่วย1-2 คน แต่อุปกรณ์เค้าก็ครบครัน ไม่แพ้ตามโรงพยาบาล หรือคลีนิคใหญ่ ๆ นะคะ คุณหมอเจสัน เป็นหนุ่มอเมริกันร่างใหญ่ นัดแรก เธอก็สอบอาการ เราก็บอกว่าเราหาหมอกระดูกมา เค้าว่าเราขายาวไม่เท่ากัน และเค้าให้ใส่แผ่นรองในรองเท้า สอบประวัติเรียบร้อย คุณหมอเจสันก็เรียกขึ้นเตียง(ว๊ายยย..ติดเรท อิอิ) ว่าแล้วเธอก็ตรวจดูขาสองข้าง ว่ามันยาวไม่เท่ากันจริงหรือเปล่า พลิกไปพลิกมานิดหน่อย เธอก็บอกว่า ปัญหาไม่ใช่เพราะขายาวไม่เท่ากัน แต่เป็นเพราะกระดูกเชิงกราน มันทรุดเข้าไปอยู่ในเบ้าต่างหาก(ตอนนั้นเรานึก ๆ ไปกันใหญ่แล้วเว้ย) ว่าแล้วเธอก็บอกว่า เธอซ่อมได้ แต่อาจจะใช้เวลา และให้เราเลิกใส่แผ่นรองซะ ก่อนอื่นขอพูดถึงระบบประกันสุขภาพของอเมริกาก่อน เวลาไปหาหมอที่นี่ ใช่ว่าอยู่ดี ๆ จะเดินไปหาตรงไหนก็ได้ โดยเฉพาะเวลาต้องพบผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง จะต้องตรวจดูก่อนว่า ทางประกันจะจ่ายมั้ย ? หรือจะต้องให้แพทย์ส่วนตัวrefer ไปหรือเปล่า? เราจัดการเช็คกับประกันเรียบร้อย สรุปว่า เราสามารถหา Chiropractor ได้ปีละ 20 ครั้ง คุณหมอเจสัน ตั้งเป้าว่า น่าจะรักษาอาการเราได้ ภายใน 3 เดือน โดยเราต้องมาจัดกระดูก สัปดาห์ละ 3 ครั้ง แต่ละครั้งใชเวลาไม่นานมากค่ะ บอกตรง ๆ ว่า ครั้งแรกกลัว เพราะเคยได้ยินมาว่า เวลาจัดกระดูกจะเจ็บ บวกกับนายจอมยุ่งมาไซโคว่า เกิดจัดไปแล้วพลาด แล้วพิการขึ้นมาจะทำยังไง ? เอ่อ...มึงให้กำลังใจดีจริงเลยเนอะ อ่ะค่ะ...ครั้งแรกก็เกร็งน่าดู โดยเฉพาะเวลาที่คุณหมอเจสัน โถมตัวอย่างเบ้งของเธอ มาทับสะโพก วินาทีถัดมา ได้เสียงดัง "กร๊อบบ" จากนั้นรู้สึกโล่งตัวมากเลย จากนั้นคุณหมอถามว่า ปวดคอมั้ย เราก็บอกปวด เธอเลยบอก งั้นนอนลง เดี๋ยวจะหักคอให้ 555 ว่าแล้วเธอก็หักซ้าย หักขวาทันที มันดังกรุ๊ปกร๊อป แบบเสียวพิการมากเลย อิอิ วันนั้นเดินออกจากคลีนิค รู้สึกโล่งตัวมากเลยค่ะ เรากลับไปตามนัดวันเว้นวันตามกำหนด ช่วงแรก ๆ รู้สึกดีมาก ความปวดเหมือนจะทุเลาลง แต่พอเ้ข้าสัปดาห์ที่ 4 ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปค่ะ
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ตอนหน้าจะไปหาแพทย์แผนไหน ติดตามต่อบล็อคหน้าค่ะ จ บ ต อ น
Create Date : 10 กรกฎาคม 2556 |
Last Update : 12 กรกฎาคม 2556 22:33:45 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1662 Pageviews. |
|
|