Kross (เครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง~
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
11 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
[Fanfic] Fate of Astray(1) ~ Abstract Ideal

[Fanfic] Fate of Astray(1) ~ Abstract Ideal

ก็ยังไม่มี internet ใช้อยู่ดีชีวิตนี้เลยต้องฝากไว้กับการพิมพ์แล้วอัพโหลดแบบ Offline ช่างเป็นชีวิตที่น่าเศร้าใจอย่างยิ่งๆ

ตามหัวข้อเลยครับ Entry นี้เป็นหัวเรื่องเกี่ยวกับแฟนฟิคซึ่งมีรากฐานมาจาก Fate/Stay Night เกมและอนิเมยุ่นชื่อดังอันนึงจากงานต้นแบบของ อจ นัตซึ ของค่าย TypeMoon สำหรับผู้ที่ไม่รู้จักมาก่อน กล่าวโดยย่อนั่นคือเรื่องราวของเหล่าจอมเวทย์หลายคนที่เข้ามาพัวพันกับการต่อสู้เพื่อแย่งชิง "จอกศักดิ์สิทธิ์" ซึ่งเป็นวัตถุกึ่งนามธรรมอย่างหนึ่งซึ่งมีอำนาจปฎิหารย์ในการสร้างความปรารถนาให้เป็นจริง และการต่อสู้ที่ว่านั้นไม่ใช่การต่อสู้โดยมนุษย์หรือนักเวทย์ธรรมดา แต่เป็นการเผชิญหน้าด้วยตัวตนที่ยิ่งใหญ่นั่นคือ "วิญญาณวีรบุรุษ" (หรือวีรชน) ที่ถูกอัญเชิญมาโดยจอมเวทย์ ผู้เข้าร่วมต่อสู้ให้มาเป็นข้ารับใช้ (Servant/เซอร์แวนท์) ซึ่งจอมเวทย์ผู้อัญเชิญนั้นจะอยู่ในฐานะนาย (Master) ผู้ให้พลังเวทย์แก่วีรชนอัญเชิญ และต่อสู้เพื่อสังหารวีรชนคนอื่นๆจนเหลือเป็นคนสุดท้ายเพื่อครอบครองจอกฯ ในที่สุด


แน่นอนวีรชนทั้งหลายมีทั้ง ตำนาน ประวัติศาสตร์ ราชา นักรบ ผู้กล้ามากมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจอกศักดิ์สิทธิ์ได้คัดสรรแบ่งออกมาทั้งสิ้นเป็น 7 กลุ่ม (Class) อันได้แก่

1. Sabre (อัศวินดาบ)
2. Archer (มือธนู)
3. Lancer (พลทวน)
4. Raider (นักรบอาชา)
5. Caster (จอมคาถา)
6. Berserker (อสูรสงคราม)
7. Assassin (มือสังหาร)



แฟนฟิคเรื่องนี้เริ่มต้นยังไง?
หลังจากสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 5 ซึ่งถูกขนานนามว่า Haven's Feel (สัมผัสสวรรค์) ที่ถูกสร้างขึ้นในเมืองฟูยูกิ ประเทศญี่ปุ่นได้จบลง ทั้งโบสถ์ สมาคมเวทย์(นำโดย Clock Tower) และ ตะกูลไอเซนเบิร์ก ได้ตัดสินใจยุติศึกที่ยาวนานกว่า 200 ปีนี้ลง พร้อมถอดชิ้นส่วนวงจรเวทย์มนต์ของจอกออกหมดสิ้น และศึกสัมผัสสวรรค์ก็สิ้นสุดลงโดยไม่มีใครได้ครอบครองจอกโดยสมบูรณ์อย่างแท้จริง

แต่ทว่า องค์กรเวทย์มนต์ไม่ได้มีแต่ที่กล่าวมาข้างต้น สมาคมเวทย์อิสระหลายแห่งที่ไม่ขึ้นตรงกับหอนาฬิกา ยังมีความสนใจในอำนาจแห่งปฎิหารย์ของจอก ที่หลายคนขนานนามมันว่า True Magic ลำดับที่ 3 และเย้ายวนต่อพลังอันยิ่งใหญ่มากมาย องค์กรหลายแห่งเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมทั้งจากโลกเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ด้วยความที่สงครามจอกฯ ครั้งที่ 4-5 ในเมืองฟูยูกินั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก และเกือบจะเข้าใกล้จอกศักดิ์สิทธิ์ที่สมบูรณ์อยู่แล้ว แต่ถูกขัดขวางไปก่อนจะสัมฤทธิ์ผล


ด้วยความพยายามอย่างลับๆ องค์กรและสมาคมผู้เป็นอิสระจากโบสถ์และหอนาฬิกา เริ่มพิธีกรรมอันยิ่งใหญ่ขึ้นมาใหม่ 200 ปีก่อน ตะกูลไอเซนเบิร์กเดินทางไกลสุดขอบโลกเพื่อหาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถหลบหูตาของจอมเวทย์ส่วนมากแห่งทวีปยุโรป จนไปได้สถานที่ในเมืองฟูยูกิ ประเทศญี่ปุ่น แต่คราวนี้เหล่าสมาคมลับต้องไปให้ไกลกว่านั้น... ไกลเกินกว่าอำนาจต่างๆจากองค์กรภายนอกจะไปสอดมือได้ง่ายๆ

ยุโรปนั้นเต็มไปด้วยนักเวทย์
อเมริกาเต็มไปด้วยสมาคมลับ
เอเชียกลางนั้นเต็มไปด้วยเหล่าอัลเคมิสต์
จีนมีรัฐบาลที่เข้มแข็งและนักเวทย์ในสังกัด
ญี่ปุ่นถูกเพ่งเล็งจากสงครามจอกฯ ครั้งก่อนๆมากเกินไป
.
.
แต่เหมือนมีประเทศหนึ่งๆ ในแถบเอเชียอาคเนย์ ที่เหมือนจะลงตัวกับเงื่อนไขเหล่านี้
- ประเทศที่มีความเจริญอยู่บ้าง
- สังคมและการเมืองแทรกแซงได้ไม่ยากเกินไป
- ไม่มีสถาบันและหลักสูตรของจอมเวทย์ตะวันตกอยู่เลย
- นอกเหนืออำนาจของโบสถ์และวาติกัน เพราะประเทศนี้ไม่ได้ถือคริสต์เป็นศาสนาหลัก
.
.
ประเทศไทย นั่นเอง


เหล่าสมาคมเวทย์มนต์ที่เป็นอิสระจากอิทธิพลของหอนาฬิกา อันได้แก่ ทะเลแห่งแอสเทรย์ - แอตลาส - พราฮา สมาชิกระดับผู้นำของกลุ่มหล่านี้ได้รวบรวมข้อมูลและเศษชิ้นส่วนของจอกฯ จากสงครามครั้งก่อนและสร้างอาคมชิ้นใหม่ขึ้นมาเพื่อรังสรรค์อำนาจวิเศษแห่งจอกฯขึ้นมาอีกครั้ง ที่ทิศเหนือของประเทศนี้ โดยใช้เวลานับปีในการเตรียมการ--สงครามของ7 วีรชน ของจอมเวทย์ทั้ง 7


ด้วยประสบการณ์จากสงครามครั้งก่อนๆ เกิดมีสถานการณ์ที่จอมเวทย์บางคนพยายามสร้างความได้เปรียบแก่ตนเอง โดยพาผู้ร่วมงานจำนวนมากเข้าสู่สงครามจอกฯ ทำให้สงครามเกิดความซับซ้อนขึ้นอย่างมาก ทั้ง 3 องค์กรผู้จัดตั้งสงครามจอกครั้งนี้ จึงตัดสินใจให้สัตยาบันแก่กันว่าจะจำกัดการช่วยเหลือต่างๆแก่จอมเวทย์ในสังกัด และบังคับให้การต่อสู้เป็นไปโดยอิสระปราศจากภัยคุกคามภายนอกเท่าที่เป็นไปได้ ศึกครั้งนี้ จอมเวทย์ผู้เป็นมาสเตอร์ต้องพึ่งศักยภาพของตนเองอย่างสูงสุดเท่านั้นโดยไร้ซึ่งบุคลากรเสริมอย่างเด็ดขาด


และอีกนัยหนึ่ง สงครามนี้ไม่ได้จำกัดแค่ 3 องค์กรแต่อย่างใด ผู้มีศักยภาพและระบบของจอกศักดิ์สิทธิ์อาจเลือกจอมเวทย์อื่นๆ ในพื้นที่มาเข้าร่วมก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ขอเพียงแต่จอมเวทย์ผู้นั้นสามารถอัญเชิญวีรชนออกมาได้จริงๆ ก็เป็นที่ยอมรับเพียงพอแล้ว และการต่อสู้ทั้งหมดจะถูกติดตามโดยกลุ่มจอมเวทย์และผู้มีพลังพิเศษที่เป็นกลาง ซึ่งถูกเรียกขานว่า Observer (ผู้สังเกตการณ์)


ผู้เข้าร่วมสงคราม (ปัจจุบัน)
Master:

Servant:

.
.
.

End~Fate of Astray: Abstract
ปล.
1. แฟนฟิคนี่เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเองเล่นๆ ระหว่างผมกับเพื่อน (Kross, ครอส, ฆรอส) ไม่กี่คนครับอย่าถือเป็นจริงเป็นจัง
2. แต่งไปก็ไกลเอาเรื่องแล้วแต่ไม่ค่อยกล้าเอามาลงเพราะฝีมือเขียนตัวเองก็ยอมรับว่าห่วยครับ + ตอนนี้ไม่มีinternet จะเช็คคำพูดถูกผิดหรือเนื้อหาก็ยากเอาเรื่อง

ปล. (ถึงคนอ่าน กับคนแต่งคนอื่น - ในพันทิบนี่แหละแต่พอดีเขาไม่มีอมยิ้ม)
"แกเอาจิงเรอะฟะ .....เอานาโนฮะยิงสตาไลท์เบรคเกอร์มาจากดอยสุเทพใส่ถนนคนเดินกลางเมืองเนี่ยนะ.... ไปต่อไม่เป็นเลยตู"


Create Date : 11 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2552 8:52:58 น. 1 comments
Counter : 1460 Pageviews.

 
ถ้าเชิญพระเจ้าตากสินมาได้ก็โกงไปจริงๆ


โดย: hahahaman IP: 110.164.156.109 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:51:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kross_ISC
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 79 คน [?]




Blog จับฉ่ายของ Kross ครับ เทคโนโลยี, การทหาร,Military Expert, การ์ตูน, Anime, Manga, Review, Preview, Game, Bishojo Game, Infinite Stratos (IS), Hidan no Aria, Light Novel (LN)

ติดตามเพิ่มเติมได้ทาง Twitter ที่ @PrameKross
New Comments
Friends' blogs
[Add Kross_ISC's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.