Kross (เครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง~
Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
12 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
Fate of Astray - Chapter 1.4 วันแรกของสงคราม

ณ ดาดฟ้าของโรงแรม


ยามดึก…บนดาดฟ้าของโรงแรมสูงแห่งนี้ปราศจากผู้คนโดยสิ้นเชิงเหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้เป็นสถานที่ตัดสินฝีมือ... ร่างสูงในชุดสีแดงของอาเชอร์นั้นยืนเด่นเป็นสง่ารอการมาของคู่ต่อสู้

เขาคือ 'อาเชอร์-มือธนู' ดังนั้นศัตรูหลักคือ 1 ใน 6 คลาสที่เหลือ
เซเบอร์ – จอมดาบผู้องอาจ
แลนเซอร์ – นักรบแห่งทวนผู้ว่องไว
ไรเดอร์ – จ้าวแห่งพาหนะอันทรงพลัง
เบอร์เซอร์เกอร์ – จอมอาละวาดผู้บ้าคลั่ง
คาสเตอร์ - ผู้ขมังเวทย์มนต์
หรือ... แอสแซสซินผู้ลึกลับ

โดยคุณลักษณะของนักรบเหล่านี้ หากเผชิญหน้ากับอาเชอร์เช่นเขา พวกที่มักได้เปรียบคือคลาสที่ทรงพลังอย่างเบอร์เซอร์เกอร์ หรือยอดความเร็วอย่างแลนเซอร์ ขณะที่กลุ่มที่เหลือนั่นสำหรับคงไม่เกินกำลังเขาที่จะรับมือนัก...วีรชนมือธนูครุ่นคิด ถ้าพวกมันไม่ได้เล่นโกงอะไรนะ


“คมดาบแห่งอิโรฮะเอย...จงเป็นศรแสงให้ข้าทำลายศัตรู…” เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งกล่าวอาคมจากตำแหน่งที่ไม่ไกลจากวีรชนชุดแดง

“วี๊ดดดดดด........” เสียงแหวกอากาศแผดเสียงชัดเจนพุ่งเข้าใส่อาเชอร์
ลูกศรที่มีประกายแสงสว่างจ้าพุ่งเข้าใส่พื้นที่อาเชอร์ยืนอยู่อย่างรวดเร็ว แล้วระเบิดพื้นคอนกรีตเป็นหลุมขนาดใหญ่ แต่ก็หาได้ระคายผิวของวีรชนสีแดงแต่อย่างใด บัดนี้เขากระโดดไปยืนบนรั้วด้านข้างพ้นจากรัศมีการทำลาย

“เฮ้ๆ มาถึงก็ใส่กันเลยเรอะ ไม่ทักทายอะไรกันหน่อยรึไง!” อาเชอร์ร้องทักไปยังหญิงสาวที่บัดนี้ยืนเด่นเป็นสง่าบนยอดตึกอีกแห่งหนึ่ง

ปราศจากคำตอบรับ...แต่การโจมตีกลับไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น
“กลบท 13…พยุหะศรสงบ...” เสียงของสตรีคนเดิมกล่าวซ้ำพร้อมง้างคันธนูในมือจนสุดแขน ที่กำลังเล็งไปยังเป้าหมายเซอร์แวนท์หนุ่มที่กำลังทำตาโตเมื่อเห็นอาวุธที่เธอใช้


โดยปราศจากลูกธนู เธอปล่อยสายพาดธนูให้ดีดไปกับความว่างเปล่า... ถ้าเซอร์แวนท์ตนใดประมาท มันผู้นั้นจะถึงคราวฆาตในพริบตาทีเดียว เซเบอร์คิดในใจ


ไม่มีเสียงใดๆทั้งสิ้น...เงียบสนิท สำหรับคนทั่วไปคงไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย แต่สำหรับวีรชนเช่นอาเชอร์ย่อมไม่ใช่ สัมผัสที่ 6 อันเฉียบคมของนักรบร้องเตือนถึงภัยอันตราย


อาเชอร์ยกมือขวาขึ้นฟ้าพร้อมแค่นเสียงคำราม...
จงมา...วงแหวนทั้ง 7 ชั้นที่เป็นโล่ห์พิทักษ์สรวงสวรรค์…
“Rho Aias!”

สิ้งคำประกาศของนักรบชุดแดง อากาศเบื้องหน้าก็บิดเบี้ยวราวกับบางอย่างกำลังพยายามแทรกขึ้นมาสู่ระนาบแห่งความเป็นจริง… วงแหวนทรงกลมโปร่งแสงก็สำแดงตนขึ้นล้อมรอบตัวอาเชอร์

ในขณะที่โล่ห์โปร่งใสสีแดงอ่อนนั่นก่อตัวนั่นเอง...โดยยังไม่ทันคงรูปร่างของมันโดยสมบูรณ์ด้วยซ้ำ...ลูกศรเวทย์มนต์ที่มองไม่เห็นก็เข้าถึงตัวโล่ห์วิเศษ

“บรึ้มมมมมมม บ..บรึ้มมมม บรึ้มมมมม...”
เกิดเสียงปะทะและแรงระเบิดดังสนั่นของวัตถุนับร้อยขึ้นรอบทิศทาง จากอำนาจของธนูเวทย์มนต์ที่สายตามนุษย์ไม่อาจมองเห็นนั้น และมาพร้อมกับอำนาจทำลายอันน่ากลัวที่สามารถบดขยี้ร่างของวีรชนระดับทั่วๆไปได้ไม่ยากทีเดียว



แต่นั้นไม่ใช่กับ Rho Aias… โล่ห์วิเศษ 7 ชั้นที่ครั้งหนึ่งมันเคยหยุดยั้งหอกไร้ผู้ต้านของเจ้าชายเฮคเตอร์แห่งกรุงทรอยฯ มาแล้วในอดีตกาล... โล่ห์กระจกโปร่งใสตั้งตระหง่านอย่างมั่นคงปกป้องผู้ใช้มันอย่างซื่อสัตย์ ขณะที่ธนูเวทย์มนต์นั้นต่างแหลกสลายกลายเป็นเศษธุลีแสงอยู่เบื้องหน้าของนักรบทั้งคู่

มันคืออาวุธแห่งกฎ...โล่ห์ที่ไม่มีอาวุธซัดใดๆจะข้ามผ่านไปได้

ยังไม่ทันที่การโจมตีจะผ่านพ้นไปหมด ริมฝีปากของอาเชอร์ก็ขยับเล็กน้อย...
ข้าขอรังสรรค์อาวุธวิเศษแห่งจินตนาการ
Trace...On...


สิ้นคำพูดที่ไม่มีใครอื่นได้ยิน...มือทั้งสองข้างของอาเชอร์ปรากฎลวดลายแสงสีส้มขึ้น... พวกมันค่อยๆก่อตัวขึ้นเป็นแสงนับสิบๆเส้นทักทอราวกับกำลังขึ้นโครงร่างของวัตถุ ดาบฝาแฝดแห่งผู้อุทิศตน...

“อย่ามัวแต่คิดว่าจะเอาแต่ยิงได้ฝ่ายเดียวเซ่ ยัยหนู!”
อาเชอร์ตะโกน ขณะที่กระโดดสูงลิบขึ้นฟ้า ก่อนจะพุ่งดิ่งพร้อมดาบสีขาวและดำในมือทั้งสองข้างเข้าใส่หญิงสาวบนยอดตึกข้างๆ ที่กำลังตกใจเพราะธนูวิเศษของเธอไม่อาจระคายผิวของอาเชอร์แม้แต่น้อย

วีรชนที่มีโล่ห์กับดาบวิเศษเป็นอาวุธ... เป็นเซอร์แวนท์หาได้ยากยิ่งนัก...เซเบอร์คิดในใจ

แต่ก์ไม่ได้ตกตะลึงอะไรมากเกินไป... สองมือของสาวน้อยน้าวสายธนูใหม่อีกครั้งอย่างว่องไว...ดอกที่1-2-3-5-10-20...เธอรัวศรที่อัดแน่นด้วยเวทย์มนต์เข้าใส่อาเชอร์ราวกับพายุโหมกระหน่ำ

ทว่าธนูราวนั้นไม่อาจแตะต้องตัววีรชนชุดแดงได้แม้แต่น้อย ดาบคู่สีขาวดำในมือทั้งสองถูกใช้ปัดป้องอย่างว่องไว พร้อมๆกับการพุ่งเข้าสู่ระยะประชิดอย่างรวดเร็ว พร้อมกับที่อาเชอร์นั้นเอ่ยถ้อยคำสั้นๆกับตัวเอง

พลังของเราจักแบ่งแยกภูผา
ดาบของข้าจักแบ่งแยกห้วงนที


พูดจบ... ดาบสั้นทั้งสองกลับกลายสภาพของตัวเอง...ดาบทั้งคู่ยืดยาวขึ้นทั้งตัวคมของมันยังเปลี่ยนไปเป็นปีกนกสีขาวและดำ... จากสายตาของผู้อื่น บัดนี้...ไม่แปลกใจที่จะมองเห็นอาเชอร์ผู้นี้มีปีกคู่ก็มิปาน

อาเชอร์ตะโกน “จงฟาดฟัน... Kanshou! Bakuya!”
สิ้นคำประกาศ...อาเชอร์เบรคตัวเองกระทันหันไม่ไกลจากคู่ต่อสู้พร้อมฟาดดาบทั้งคู่สุดแรงไขว้กันเป็นกากบาท ปลดปล่อยคลื่นพลังสีขาวดำพุ่งเข้าถาโถมใส่หญิงสาวเบื้องหน้า

ครืนนนนนนนนนนนนนน....
ลำแสงเวทย์มนต์จากดาบพุ่งแหวกอากาศส่งผลให้พื้นคอนกรีตบนดาดฟ้าตึกแตกละเอียดเป็นแนวยาวตลอดเส้นทางที่มันพาดผ่าน หมายบดขยี้คู่ต่อสู้ให้พินาศในเสี้ยวพริบตา

ทว่าสตรีเบื้องหน้าก็ยังคงเยือกเย็น แม้ในขณะที่เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นพร้อมกับเปลวไฟลุกโหมกระหน่ำ

-----------------------------------
-----------------------------------

บนยอดอาคารอีกแห่งหนึ่ง
ในสถานที่ซึ่งไม่ห่างไกลจากอาคารสูงที่เซอร์แวนท์ทั้งสองเข้าปะทะกันนัก มีสายตาอีกสองคู่กำลังจับตามองการปะทะของวีรชนอยู่อย่างใกล้ชิดเช่นกัน


พวกเธอคือ Observer...
ในฐานะผู้สังเกตการณ์ที่ได้รับมอบหมายจาก ‘ทะเลแห่งแอสเตรย์’ นั้นการเฝ้าดูเช่นนี้ ไม่ใช่เพื่อเตรียมต่อสู้หรือลอบโจมตี...แต่เพื่อให้สงครามครั้งนี้ดำเนินไปอย่างที่มันครรลองอย่างที่ควรจะเป็น ด้วยหน้าที่แล้วพวกเธอคือผู้ที่คอยปกปิดการมีตัวตนของจอมเวทย์ในสงครามครั้งนี้


“มันจะเอิกเกริกเกินไปไหมเนี่ย? นี่มันสู้กันกลางเมืองเลยนะ?”
เด็กสาวคนหนึ่งถามทั้งๆที่กำลังลอยอยู่กลางฟ้า...ปีกสีขาวที่เปล่งประกายราวกับสร้างมาจากแสงสว่างนั้นโดดเด่นสะดุดตาไม่น้อยทีเดียวไม่แปลกใจที่จะถูกขนานนามจากองค์กรของตัวเองว่า “ปีกแห่งแสง”


ในความรู้สึกของเธอนั้นรู้สึกเป็นห่วงเอามากทีเดียว...เพราะเธอรู้ดีว่าไม่ว่าจะเกิดเหตการณ์เช่นไร...ผู้บริสุทธิ์หรือผู้เกี่ยวข้องมาพบเจอแค่ไหน... ตัวตนของเวทย์มนต์นั้นถือเป็นสิ่งลับที่สุด


หากมีเหตใดที่ต้องสงสัยว่าจะทำให้ความลับนี้ถูกเปิดเผย... ผู้สังเกตการณ์อาจจะเลือกวิธีใดๆก็ได้ที่จะปิดบังเหตการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะสะกดจิต ลบความทรงจำ หรือแม้แต่สังหารหากจำเป็น และปกปิดซ่อนพรางพื้นที่เกิดเหตุด้วยทรัพยากรทั้งหมดที่มี

ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากให้คนทั่วไปเดือดร้อนนักหรอก... เธอคิดในใจ

“ไม่ต้องห่วงไปหรอกน่า เทียบกันตอนที่วงเวียนใหญ่แล้ว เรื่องแค่นี้จิ๊บจ๊อยมาก” เสียงของหญิงสาวอีกคนขานตอบสิ่งที่เธอคิด

สตรีอีกคนหนึ่งในชุดขาวบริสุทธิ์ทั้งตัว เดินเข้ามาใกล้เธอเพื่อรับชมการต่อสู้ระหว่างสองวีรชนให้ใกล้ชิดขึ้น... แม่มดสีขาวแห่ง ‘Wizdom’ หนึ่งในสมาคมเวทย์มนต์อิสระที่อยู่ใต้สังกัดทะเลแห่งแอสเตรย์ ผู้เป็นเอกแห่งศาสตร์เวทย์ต้องห้ามทั้งปวง

“อยากสู้อะไรก็สู้ไป สู้ที่ไหนก็สู้ไป ฆ่าใครก็ฆ่าไป อยากพังตึกไหนก็พังไป ฉันขออย่างเดียวอย่าเล็งปืนมาทางฉันแบบตอนวงเวียนใหญ่ก็พอ...” แม่มดสีขาวบ่นพึมพำพลางจ้องมองการต่อสู้แบบไม่กระพริบตา

“วงเวียนใหญ่” สถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร พื้นที่เขตธนบุรี นั่นดูเหมือนจะเป็นประสบการณ์ที่แม่มดสีขาวไร้พ่ายผู้นี้ออกจะเจ็บแค้นเอาเรื่อง กับการต่อสู้ที่คาดไม่ถึงกับวีรชนผู้บ้าคลั่งของประเทศนี้ จนแม้แต่ชื่อสถานที่เล็กๆน้อยๆยังถูกประทับแน่นในความทรงจำทีเดียว... แต่ก็นะ...มีไม่มากนักหรอกที่ผู้สังเกตการณ์ถึง 4 คนจะปรากฎตัวพร้อมกันเพื่อช่วยกันระงับเหตการณ์เดียว


ตอนนั้นมันวินาศสันตะโรจริงๆ... ขอให้เมืองนี้ปลอดภัยไปจนตลอดรอดฝั่งด้วยเถอะ สตรีผู้มีปีกแห่งแสงคิดในใจ

---------------------------------------
---------------------------------------



อาเชอร์จับจ้องมองไปยังกลุ่มควันที่จากการระเบิดที่ยังคงคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ

ในมือของเขายังคงกำอาวุธมั่นโดยไม่ประมาท...ดาบคู่รูปทรงคล้ายปีกนกนั้น บัดนี้คืนสภาพกลับเป็นดาบสั้นสีขาวดำเหมือนเดิมแล้วหลังจากปลดปล่อยพลังเวทย์ไป...มันคือหนึ่งในอาวุธที่อาเชอร์เชื่อใจมากที่สุดชิ้นหนึ่งในบรรดาอาวุธทั้งหลายที่เขาเคยใช้ แต่ว่า...

ยัยนั่นไม่เป็นไรเลยจริงๆด้วยแฮะ...

บนพื้นคอนกรีตนั้นปรากฎร่องรอยอันยับเยินอย่างชัดเจนตลอดเส้นทางที่ลำแสงทะลวงผ่านไป แต่ทว่าพลังนั้นกลับไปหยุดอยู่ตรงเบื้องหน้าของหญิงสาวพอดีราวกับปะทะเข้ากับกำแพงสุดแข็งแกร่งที่มองไม่เห็นเข้าก่อนถึงเป้าหมาย


อันที่จริงอาเชอร์นั้นรู้ผลลัพธ์ตัวก่อนที่กลุ่มควันจะจางหายไปด้วยซ้ำ เขาสังเกตเห็นเงาประหลาดบางอย่างปรากฎขึ้นก่อนที่ลำแสงมรณะจะถึงตัว แต่เมื่อได้เห็นประจักษ์ชัดกับตาว่าสาวน้อยตรงหน้านั่นยังคงยืนถือธนูหน้าตาเฉย ไม่ปรากฎแม้แต่รอยเปื้อนบนเสื้อผ้าอาภรณ์ อาเชอร์เองก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมในพลังป้องกันของศัตรูผู้นี้นิดๆในใจ


“น่าประทับใจจริงๆ...” หญิงสาวตรงหน้าเขาเอ่ยปากขึ้นก่อน

อาเชอร์พึ่งมีโอกาสได้พิจรณารูปลักษณ์คู่ต่อสู้ของตนแบบจะๆ ซึ่งก็สร้างความแปลกใจไม่ได้ เพราะทั้งการเป็นสตรีเพศ เครื่องแต่งกายในชุดฮากามะ รวมทั้งชุดคนทรงสีขาวฟ้าที่โดดเด่น อาวุธนู ศาสตร์เวทย์องเมียวแห่งทิศตะวันออก

มิโกะงั้นรึ? เขาคิดในใจ
“ขอบใจที่ชมเชย...ว่าแต่เจ้านะคงเป็นเซอร์แวนท์เหมือนกันสินะ แล้วอยู่คลาสอะไรกันแน่หละ?” อาเชอร์ถามอย่างติดใจสงสัย

หญิงสาวตรงหน้าเงียบเฉยทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนยิ้มละไม
“อืม... อะไรดีหละ แต่เจ้าก็เห็นข้าใช้ธนูอยู่จะๆ ข้าก็ต้องเป็นคลาสอาเชอร์นะสิ?” เธอยิ้มพลางตอบเสียงดังฟังชัด


ยัยนี้ตอแหลชัดๆ ข้านี่แหละอาเชอร์!!
วีรชนคิดในใจขณะที่เส้นประสาทตรงขมับเริ่มเดือดด้วยอารมณ์หงุดหงิด เมื่อเห็นศัตรูตรงหน้าเริ่มเล่นสงครามประสาท

สงครามจอกศักดิ์สิทธิ์นั้นประกอบด้วย 7 คลาส/ประเภทของวีรชนที่จะถูกจำแนกตามวีรกรรมและคุณสมบัติที่ตัวเองเคยมีในครั้งที่มีชีวิตอยู่ แน่นอนว่านักรบบางคนอาจมีความเชี่ยวชาญในอาวุธหลายประเภท ซึ่งหากวีรชนประเภทนี้ถูกอัญเชิญมาร่วมสงคราม ก็เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะครอบครองอาวุธมากกว่า 1 แบบ ซึ่งอาเชอร์นั้นก็จัดว่าเป็นตัวอย่างหนึ่งของนักรบประเภทนี้เช่นกัน


“แล้วเจ้าหละ...ถามข้าแล้วจะไม่ประกาศคลาสของตัวเองมั่งรึไง ฮึ...วีรชนผู้ใช้ดาบกับโล่ห์วิเศษ” หญิงสาวตรงหน้าถามกลับไปที่อาเชอร์มั่ง

แน่นอน...หญิงสาวคนนี้คือ “เซเบอร์” ผู้ชาญดาบและกระบี่, แต่ทว่าในยามที่เธอมีชีวิตอยู่เธอนั้นได้รับการเคี่ยวกรำฝึกฝนในศาสตร์นานับประการ ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์เวทย์องเมียวอันโด่งดังของญี่ปุ่น วิชายุทธเกี่ยวกับ ดาบ ทวน และ ธนู จนเป็นเลิศในทุกสายชนิดที่ไม่แปลกใจที่เธอได้รับการคัดเลือกให้เป็นมิโกะระดับสูงสุด— สตรีพรหมจรรย์ผู้เป็นร่างประทับทรงแห่งทวยเทพพ



สำหรับเธอ...การที่เธอใช้อาวุธเช่นธนูในการโจมตีวีรชนหนุ่มชุดแดงนั้น หาใช่เป็นการออมมือแต่อย่างใด แต่ในเมื่อสงครามจอกฯพึ่งเริ่มต้นขึ้น แม้จะล้มเซอร์แวนท์ตรงหน้าได้ก็ยังมีวีรชนตนอื่นๆอีกถึง 5 คนรอต่อสู้อยู่...เธอและมาสเตอร์จึงมีความเห็นตรงกันที่จะเก็บงำอาวุธวิเศษของตนไว้ก่อนเป็นไพ่ตายยามจำเป็นจริงๆเท่านั้น และการที่เธอสามารถใช้ศาสตร์เวทย์และอาวุธมนต์ที่หลายหลายนั้นก็ย่อมเป็นข้อดีในการดำเนินกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์อีกด้วย



ทว่า...วีรชนหนุ่มตรงหน้ากลับให้ความรู้สึกแปลกๆต่อเธอ... ไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญและสามารถตอบสนองต่อการลอบโจมตีระยะไกลได้อย่างรวดเร็ว แต่เขายังแสดงอาวุธวิเศษของตนเองออกมาอย่างง่ายๆถึง 2 ชิ้น ราวกับว่านี่เป็นเพียงอาวุธขั้นพื้นฐานของเขา


ใช้ทั้งโล่ห์และดาบนี่มันคุณลักษณะของพวกนักรบกลุ่ม ‘เซเบอร์’ อย่างฉันชัดๆ

“ว่าไง... แค่เรื่องคลาสของตนเองยังไม่อยากตอบอีกรึ? อย่างน้อยข้าจะได้รู้สักหน่อยว่าข้าพิชิตศัตรูคนไหนไปมั่ง” หญิงสาวสำทับอีกรอบระหว่างรอคำตอบ

“ข้าเนี่ยแหละเซเบอร์” นักรบชุดแดงยิ้มตอบแบบเจ้าเล่ห์
“โกหก!” เธอตะโกนสวนทันที

แน่นอนว่าชายผู้นี้ไม่มีทางเป็นเซเบอร์ไปได้แน่นอน เพราะเซเบอร์คือเธอเองไปแล้ว แต่จะว่าเป็นกลุ่มพวกเบอร์เซอร์เกอร์เขาก็ไม่มีท่าทีคลุ้มคลั่ง หรือพวกเวทย์มนต์เสกอย่างคาสเตอร์เขาก็กลับดูเชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิดไม่น้อย


“ฮะ ฮะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” วีรชนหนุ่มหัวเราะกลับแบบไม่แยแส ก่อนพูดต่อ
“เจ้าก็เหมือนๆกันนั่นแหละ ไม่ต้องมาว่าข้าโกหกเลยคนสวย แล้วอย่ามาบังอาจบอกว่าตัวเองเป็นอาเชอร์ด้วย ในเมื่อท่านอาเชอร์ตัวจริงยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าแล้ว!!”

“คราวนี้ข้าขอถามเจ้าอีกสักรอบ...เจ้าเป็นคลาสอะไรกันแน่?” อาเชอร์ถามอีกครั้ง แต่คราวนี้น้ำเสียงของเขาเหี้ยมเกรียมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

หญิงสาวเพิกเฉยต่อเสียงขู่ แต่กับจ้องมองอาเชอร์เขม็งเหมือนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

วีรชนที่กำลังยืนจังก้าถือดาบคู่…แล้วยังประกาศตนคือ ‘อาเชอร์’ วีรชนมือขมังธนู...แต่จะว่าไป...เธอเองคือ ‘เซเบอร์’--จอมดาบ แล้วบัดนี้ง้างศรถือธนูเข้าต่อสู้มันก็ดูแปลกประหลาดไม่แพ้กัน


“มันช่างลักหลั่นย้อนแย้งดีแท้ ก็ได้... ข้าถูกอัญเชิญมาในฐานะเซเบอร์” เธอตอบ
“อืมข้าเห็นด้วย... หรือว่าพวกเราควรบอกมาสเตอร์ขอสลับคลาสกันดีนะ” อาเชอร์พยักหน้ารับ... และในสมองเขาก็คิดว่าสมเหตผลดี
“ไม่จำเป็นนักหรอก... เพราะว่าเจ้าอาจไม่ได้กลับไปหานายของเจ้าอีกก็เป็นได้” เซเบอร์สำทับพร้อมง้างคันธนูขึ้นอีกรอบ
“ไม่ต้องรีบร้อน... มิโกะน้อยเช่นเจ้า ข้าจะเอ็นดูให้เต็มที่เลย” อาเชอร์ตอบด้วยฝีปากไม่แพ้กัน


และแล้วสงครามระหว่างสองวีรชนผู้ผิดปกติ...มือธนูผู้ถือดาบ กับนักดาบที่ใช้ธนูก็เริ่มขึ้นอีกคำรบท่ามกลางสายตาของผู้สังเกตการณ์


Next Chapter
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=kross&month=12-01-2010&group=17&gblog=9





Create Date : 12 มกราคม 2553
Last Update : 12 มกราคม 2553 8:22:16 น. 0 comments
Counter : 2223 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kross_ISC
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 79 คน [?]




Blog จับฉ่ายของ Kross ครับ เทคโนโลยี, การทหาร,Military Expert, การ์ตูน, Anime, Manga, Review, Preview, Game, Bishojo Game, Infinite Stratos (IS), Hidan no Aria, Light Novel (LN)

ติดตามเพิ่มเติมได้ทาง Twitter ที่ @PrameKross
New Comments
Friends' blogs
[Add Kross_ISC's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.