Kross (เครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง~
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
13 ตุลาคม 2556
 
All Blogs
 
[AAA] Arpeggio of Blue Steel ลองเจาะลึกเรือรบแต่ละประเภทในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ดู

  อันนี้เป็น Section พิเศษครับ  ถือเป็นข้อมูลประกอบสำหรับผู้สนใจเรื่องเรือรบละกัน Smiley


ประเภทของเรือรบ

Fleet ww2

เรือรบมีประเภทจำนวนมากครับ และมีการแบ่งชั้น (Class) ที่หลากหลายไปเลยทั้งแบ่งตามขนาด, ภารกิจ หรือประเภทของอาวุธประจำหลัก ซึ่งจะทำให้การจำแนกประเภทสามารถเหลื่อมล้ำกันได้บ่อยๆ  ตัวอย่างง่ายๆนึกถึงอุปกรณ์ด้าน IT ก็ได้ครับ  มันอาจจะแบ่งได้ทั้งผู้ผลิต ชิปสัญญาณ หรือแม้แต่แบรนด์ที่ติดตั้งมัน ซึ่งอุปกรณ์ทางทหารก็เหมือนกันครับว่ามีความซับซ้อนในแบบของมันเอง  แต่สำหรับเคสอนิเมเรื่อง Aoki-Hagane~Ars nova นี่ผมขอยกตัวอย่างโดยแบ่งตามแบบสากลที่ได้รับความนิยมกันมากที่สุดละกัน (เอาสะดวกผม) โดยจะแบ่งตาม "ระวางขับน้ำ" (Displacement) ละกัน


Note:
ระวางขับน้ำ (Displcement) หมายถึง  น้ำหนักของน้ำที่ถูกเรือเข้าแทนที่  อย่างเช่น เรือหลวงจักรีนฤเบศร มีระวางขับน้ำสูงสุด 11,544 ตัน ก็หมายความว่าเรือลำนี้เมื่ออยู่ในน้ำพร้อมระวางบรรทุกสูงสุดแล้ว จะเท่ากับปริมาณน้ำจำนวนดังกล่าวหายไป(ไหลไปที่อื่น)  ซึ่งการใช้มาตรวัดแบบนี้เป็นที่นิยมสูงสุดเพราะเป็นค่ารวมปริมาตรทั้งหมด และดีกว่าการวัดขนาดเรือแค่กว้าง-ยาว  อย่างทางทหารสมัยสงครามโลก เวลาตรวจสอบว่าใครแพ้ชนะมากกกว่ากันทางทะเลมักจะวัดจากจำนวนระวางขับน้ำของกองทัพฝ่ายตรงข้ามที่สูญเสียไปครับ  เพราะจมเรือพิฆาตลำเล็กๆ 8-9 ลำ ยังไม่เท่ากับกับเรือประจัญบานลำเดียวเลย  


หากใครสนใจเรื่องวิธีการคำนวนระวางขับน้ำ สามารถติดตามต่อได้ที่เว็บ
(เครดิตคุณ ประสาท วงษ์ทองคำ กลุ่มงานพัฒนาเรือประมง สถาบันวิจัยแลพัฒนาเทคโนโลยีประมงทะเล)

-----------------------------


ทีนี้เรือรบมีกี่ประเภทกันหละ?

ในอนิเม Arpeggio of Blue Steel - Ars Nova เราจะเห็นเรือรบจำนวนมากพาเหรดกันออกมาระดมยิงกันซึ่งมีทั้งเรือใหญ่เล็ก โดยทั้งกองเรือแห่งหมอก (Fog' Fleet) กับกองเรือสหประชาชาติ (UN' Fleet) ต่อสู้กันแต่ในฐานะที่เขียนบทความ ผมก็ต้องระวังในการจำแนกเรือรบของแต่ละฝ่ายเหมือนกันครับ เพราะแม้จะแบ่งประเภทเรือตามระวางขับน้ำมาตรฐาน แต่กองเรือแห่งหมอกใช้มาตรฐานสมัยสงครามโลก  ส่วน UN ดันใช้มาตรฐาน NATO ในปัจจุบัน ซึ่งจะเหลื่อมล้ำกันพอสมควร


ลองสังเกตทีละนิดผมจะค่อยๆอธิบายโดยไล่จากเรือที่มีขนาด (ระวางขับน้ำ) ใหญ่สุดลงไปหาเรือขนาดเล็ก ซึ่งผมจะอธิบายไม่ครบทุกแบบและใช้แค่ตัวเลขระวางแบบสังเขปพอให้เป็นไอเดีย แต่จะเน้นแบบที่ปรากฎในอนิเมครับ


ฝ่ายกองเรือ UN (มาตรฐาน NATO'Class)
1.เรือประจัญบาน (BB: Battleship) ขนาดประมาณ  30,000 ตัน+
2. เรือลาดตระเวณขีปนาวุธ (CG: Cruiser Guide Missile) ขนาดประมาณ 10,000 ตัน+
3. เรือพิฆาตขีปนาวุธ (DDG: Destroyer Guide Missile) ขนาดประมาณ 7,000 ตัน+
4. เรือฟรีเกตขีปนาวุธ (FFG: Frigate Guide Missile) ขนาดประมาณ 3,000 ตัน+
5. เรือลาดตะเวณไกลฝั่ง (OPV:Off-Shore Patrol Vessel) ขนาดประมาณ  2,000 ตัน+
6. เรือคอร์แวตต์ (Corvette) ขนาดประมาณ 1,000 ตัน+

ปล.โดยค่าเฉลี่ยระวางขับน้ำของแต่ละคลาสอาจ +/- ได้ถึง 50% ทีเดียวครับเพราะแต่ละประเทศที่ผลิตก็มีสเกลของตัวเองเหมือนกัน


ฝ่ายกองเรือแห่งหมอก (มาตรฐานสมัย WW2-Class)
1. เรือประจัญบาน (BB: Battleship) ขนาดประมาณ 40,000 ตัน+
2. เรือลาดตระเวณประจัญบาน (BC: Battle Cruiser) ขนาดประมาณ 30,000 ตัน+
3. เรือลาดตระเวณหนัก (Heavy Cruiser) ขนาดประมาณ 15,000 ตัน+
4. เรือลาดตระเวณเบา (Light Cruiser) ขนาดประมาณ 10,000  ตัน+
5. เรือพิฆาต (Destroyer) ขนาดประมาณ 3,000 ตัน+ 
6. เรือฟรีเกต (Frigate) ขนาดประมาณ 2,000 ตัน+


ถ้าลองดูจะเห็นครับว่า "หลักนิยมทางทะเล" ในการแบ่งประเภทของเรือในกองทัพของทั้งสองฝ่ายก็ไม่เหมือนกันสักทีเดียวแล้วครับ  ฝั่ง UN จะแบ่งตามขนาด(ระวางฯ) +ประเภทภารกิจ   ส่วนฝั่งหมอกจะแบ่งตามระวางฯอย่างเดียว แต่ซอยละเอียดกว่า ซึ่งเดี๋ยวผมจะอธิบายต่อแบบภาพรวมโดยเน้นแค่ฝั่งกองเรือแห่งหมอกอย่างเดียวก่อน (เพราะเรือหลักๆในอนิเมเน้นแค่พวกนี้)   ส่วนถ้าใครอยากดูรายละเอียดตามแบบมาตรฐาน NATO เชิญที่ blog คุณ skyman ได้เลยครับ



1.เรือประจัญบาน (BB: Battleship)
มันก็คือรถถังคันอภิมหามหึมาบนท้องทะเลนี่เองครับ  หากไม่นับเรือตระกูลเรือบรรทุกเครื่องบินยักษ์แล้ว เรือประจัญบานจัดเป็นเรือรบที่ใหญ่ที่สุด เกราะหนาที่สุด อำนาจการยิงสูงสุด (และแพงที่สุด)ด้วยตัวของมันเอง  เรือรบพวกนี้เป็นพระเอกในกองเรือสมัยที่ใช้การระดมยิงแลกกันอย่างไม่ต้องสงสัย   พวกมันติดปืนใหญ่หลักกระบอกโตตั้งแต่ 12-16 นิ้ว (ปากลำกล้อง) เป็นอาวุธมาตรฐาน (บางลำที่ใหญ่มากอย่าง ยามาโต้ ติดถึง18 นิ้ว) ซึ่งช่วยให้สามารถบรรจุดินขับส่งกระสุนและหัวรบขนาดใหญ่โตสุดๆได้  อย่างกระสุนปืนของเรือประจัญบานมิสซูรี่ (ในภาพยนต์เรื่อง Battleship) ถ้ารวมชิ้นส่วนกระสุนและดินขับทั้งหมด 1 นัดจะมีน้ำหนักพอๆกับรถโฟลคเต่า 1 คันและรัศมีการยิงที่ไกลลิบชนิดยิงพ้นขอบฟ้าได้สบายๆเลยทีเดียว

(เรือไอโอว่า)

จุดเด่นอีกด้านคือการป้องกันตนเอง, เรือเหล่านี้เป็นกองหน้าของทัพเรือบ่อยๆในการเข้าปะทะกับคู่ต่อสู้  ดังนั้นพวกเธอจะถูกระดมยิงด้วยปืนสารพัดชนิดทำให้เรือประเภทนี้หุ้มเกาะหนามากทั้งส่วนบนและกราบเรือ เพื่อให้เอาตัวรอดจากภัยคุกคามทั้งบนน้ำและใต้น้ำ พร้อมกับอาศัยขนาดตัวเรือที่ใหญ่มากในการซอยย่อยห้องในตัวเรือเป็นบล็อคๆ เพื่อเป็นจุดผนึกน้ำกรณีถูกโจมตีและหลีกเลี่ยงการ "ถูกจม" ได้เป็นอย่างดี  นอกจากนี้การที่พื้นที่เรือเยอะทำให้มันสามารถติดอาวุธเสริมจำนวนมาก เช่นปืนใหญ่รองขนาด 5- 8 นิ้ว (ซึ่งแค่นี้ก็ทัดเทียมกับปืนหลักของเรือลาดตระเวณ/เรือพิฆาตได้แล้ว) หลายแท่นเพื่อช่วยยิงเสริม  รวมถึงจุดติดตั้งปืนต่อต้านอากาศยาน (ปตอ.) รอบตัว และเรือพวกนี้ยังสามารถบรรทุกเครื่องบินประจำเรือ (เครื่องบินทะเล) เพื่อช่วยในการตรวจการชี้เป้าระยะพ้นขอบฟ้าได้อีกด้วย

เพียงแต่ว่าจุดอ่อนหลักที่เรือประเภทนี้แพ้ทางบ่อยๆคือ การโจมตีของเรือดำน้ำและฝูงบินโจมตีเพราะด้วยน้ำหนักและความใหญ่โตของมันทำให้ความคล่องตัวลดลงมาก  (ความเร็วปกติจะประมาณ 20-25 น็อต)เมื่อเทียบกับเรือชั้นอื่นจึงยากจะหลบหลีก (ถึงมีระบบป้องกันตัวที่ดี แต่โดนซ้ำแล้วซ้ำอีก และวิ่งไปไล่ยิงฝูงบิน+ค้นหาเรือดำน้ำก็ตามไม่ทัน) ซึ่งกำเนิดของเรือบรรทุกเครื่องบินในสงครามโลกครั้งที่สองทำให้เรือประจันบานต้องลดบทบาทลงไปมาก เพราะฝูงบินรบบนเรือบรรทุกเครื่องบินมีพิสัยการโจมตีที่ไกล ทำภารกิจได้หลากหลาย และมีค่าใช้จ่ายในการปฎิบัติการสร้างต่ำ  ช่วงท้ายของสงครามโลกจึงเป็นการยิงสนับสนุนหรือการระดมยิงฝั่ง (เพราะค่ากระสุนถูกกว่าค่าเครื่องบิน) แต่สุดท้ายก็ปลดประจำการไปในที่สุดในปัจจุบันไม่มีเรือประเทศนี้เข้าประจำการแล้ว  โดยเรือที่ปรากฎในคลาสนี้บนอนิเมเช่น เรือประจัญบานยามาโตะ, คองโก เป็นต้น



2. เรือลาดตระเวณประจัญบาน (BC: Battle Cruiser) 

(เรือ HMS Hood)

เป็นเรือที่เกิดขึ้นมาอุดช่องโหว่ของเรือประจัญบาน โดยจุดเด่นหลักคือมีปืนใหญ่ที่รุนแรงทัดเทียมกับ BB  (12-16 นิ้ว)แต่ว่าหุ้มเกราะน้อยกว่า (หุ้มเกราะหนามากที่จุดสำคัญ ส่วนที่เหลือจะเป็นเกราะปานกลาง) ค่าใช้จ่ายในการสร้างลำเรือถูกกว่าและต่อได้เร็วขึ้นเนื่องจากโครงสร้างที่เล็กลง (แต่ยังใหญ่เว่อร์เมื่อเทียบกับเรือปัจจุบัน)  ผลพลอยได้ของมันก็คือความเร็วที่สูงขึ้นเยอะ ทำให้สามารถปรับกลยุทธ์ได้รวดเร็ว (หลายลำสามารถทำความเร็วได้ถึง 27 น็อต+)  นอกจากนี้จุดสำคัญของ BC อย่างนึงคือ "อัตราเร่ง" สูงกว่ากลุ่มเรือ Battleship พอสมควรครับ (ยกเว้นบางลำไว้)แถมยังมีเกราะที่แกร่งพอจะรับมือกับเรือรบศัตรูได้ทุกประเภท แลกหมัดกับเรือประจัญบานก็ได้ ออกปฎิบัติการเป็นระยะทางไกลๆได้โดยไม่ต้องสายส่งกำลังบำรุงมากนัก (มีเสบียงเยอะพอ)  ส่วนในอนิเมเรือที่ปรากฎในชั้นนี้เช่น เรือลาดตระเวณประจัญบานฮู้ดของอังกฤษ และคองโกของญี่ปุ่น  (ทำไมคองโกจัดอยู่ในคลาสนี้เดี๋ยวค่อยอธิบายวันหลังครับ)


3. เรือลาดตระเวณหนัก (HC:Heavy Cruiser) 


เรือที่ลดสเกลลงมาอีก 1 ขั้น  มีความเร็วที่สูงขึ้นกว่าเรือประจัญบาน (30 น็อต) ความคล่องตัวสูงขึ้นอีกระดับนึง การหักเลี้ยวและเล็งเป้าสามารถทำได้ดีมากขึ้นมีขนาดที่ใหญ่พอประมาณที่สามารถบรรทุกเสบียงและเชื้อเพลิงในการปฎิบัติการระยะไกลมากได้ โดยจัดเป็นเรือชั้นเล็กที่สุดที่จะสามารถนำระบบอากาศยานติดไปกับเรือได้    และยังมีการติดอาวุธที่หลากหลายขึ้นอีกเช่น ปืนใหญ่ขนาด 8 นิ้ว (จมเรือพิฆาตได้ในนัดเดียว) หลายป้อมที่มีอัตราการยิงสูงกว่าปืนใหญ่เรือประจัญบาน พร้อมทั้งหลายลำยังติดตอร์ปิโดเพื่อต่อต้านเรือรบศัตรูอีกด้วย (เรือBB, BC ติดตอร์ปิโดไม่ค่อยได้เพราะความคล่องตัวในการหันเลี้ยวเพื่อปรับตำแหน่งยิงไม่มากพอ)   ในอนิเมเรือที่ปรากฎในชั้นนี้เช่น เรือลาดตระเวณหนักทาคาโอะ


4. เรือลาดตระเวณเบา (LC:Light Cruiser)
(เรือเบลฟาส)

ลดสเกลลงอีกขั้นนึง เรือลาดตระเวณเบาจัดเป็นหัวหน้าม้าของกองทัพเรือแทบทุกประเภทในสมัยนั้น เพราะค่าใช้จ่ายในการปฎิบัติการหลักค่อนข้างถูก (เชื้อเพลิง/ลูกเรือ)  ซึ่งเมื่อเทียบกับเรือขนาดใหญ่ที่ใช้ลูกเรือถึง 1-2 พันคนแล้ว LC ใช้เพียงไม่กี่ร้อยคนทำให้มันสามารถออกฝึกฝน ลาดตระเวณในพื้นที่เสี่ยงภัยเป็นเวลานานๆได้ดี   หากเปรียบเทียบเรือขนาดใหญ่ยักษ์ทั้ง 3 คลาส BB,BC,HC  แล้วจะเน้นปฎิบัติการประเภท "โจมตี"  แต่ LC จะเน้นการลาดตระเวณป้องกัน + คุมเชิงมากกว่า และด้วยขนาดปานกลางแต่มีอาวุธหนักอย่างปืนใหญ่ 6นิ้ว + ตอร์ปิโด สมควรจึงเป็นเรือพี่เลี้ยงให้กับกองเรือขนาดย่อมๆ หรือคอยช่วยเรือเรืออื่นในสนามรบบ่อยๆ  ตัวอย่างในอนิเมเช่นเรือนาการะ ใน ep1 นี่แหละครับ

5. เรือพิฆาต (Destroyer) ขนาดประมาณ 

(เรือชิมะคาเสะ)

กลุ่มนี้เป็นเรือที่ได้รับความนิยมสูงสุดเลยครับ  เป็นม้างานของกองทัพเรือทุกประเภท ใช้งานมันสารพัดสารเพ เพราะค่าใช้จ่ายถูก ปฎิบัติงานได้หลากหลาย  โดยเรือพิฆาตเบื้องต้นถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นเรือเล็กคอยคุ้มกันกลุ่ม Battleship หรืออาศัยความเร็วที่สูงมากๆ (30-35 น็อต) ในการเข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบหยั่งเชิงศัตรูและการตีฉาบฉวย (Hit-Run)  แถมยังสามารถรบได้ทั้ง 3 มิติ เช่นต่อต้านเรือรบด้วยตอร์ปิโด(ที่รุนแรงมากๆ) มีปืนใหญ่ 5 นิ้วในการระดมยิงฝั่งหรือโจมตีเรือรบ  ติดโซนาร์เพื่อตรวจเฝ้าระวังเรือดำน้ำ  ติดเรดาห์เพื่อเป็นยามเฝ้าระวังการโจมตีทางอากาศ  ปืนใหญ่กระสุนแตกอากาศต่อต้านฝูงบิน  มีพิสัยเดินทางได้ไกลพอจะปฎิบัติการต่อเนื่องได้ระดับเกิน 1 เดือนขึ้นไป ใช้เชื้อเพลิงประหยัดมาก เอาเป็นว่ามันทำได้ทุกอย่างเท่าที่เหล่าเสนาธิการจะอยากให้มันทำนี่แหละครับ  จัดเป็นเรือที่รบได้ทั้งกลุ่มทะเลเปิดและทะเลชายฝั่งทีเดียว ตัวอย่างเรือพวกนี้เช่น ชิมาคาเสะจากเกม Kantai Collection ละกันครับ (นึกในอนิเมไม่ออก (ฮา))


6. เรือฟรีเกต (Frigate) ขนาดประมาณ

(เรือ USS Gallop)

เรือนี้จัดเป็นเรือขนาดเล็กลงหน่อย จะติดอาวุธได้ไม่ค่อยหลากหลาย รบได้ไม่ค่อยครบทุกมิติ แต่สามารถเน้นหนักภารกิจแบบใดแบบนึงได้ ชิดติดโซนาร์+ระเบิดน้ำลึกเพื่อต่อต้านเรือดำน้ำเป็นหลัก   ติดเรดาห์และปืนต่อต้านอากาศยานเพิ่ม  ซึ่งเอาเข้าจริงๆก็แทบจะทำได้เหมือนเรือพิฆาตเลยเพียงแต่ทำได้ทีละอย่าง ข้อเสียหลักๆคือเรือขนาดเล็กมีความทนทะเลไม่มาก (สู้สภาพอากาศได้ไม่ดี) และปฎิบัติการได้ไม่ต่อเนื่องยกเว้นมีพี่เลี้ยง แต่แม่ทัพบางคนก้ใช้วิธีการจัดหมู่เรือฟรีเกตเพื่อทำภารกิจร่วมกันได้มีประสิทธิภาพเช่นกัน  ซึ่งเรือฟรีเกตหลายลำถูกดัดแปลงมาจากเรือสินค้าด้วยซ้ำเพียงแค่ติดอาวุธเสริมเข้าไปหลายๆอย่างเอง  ตัวอย่างเรือในอนิเมตอนนี้ยังไม่เห็นครับ




ปล. อนึ่งในการ์ตูนเรื่อง Aoki-Hagane-Blue steel ~Ars Nova นี่เหล่าเรือรบทั้งหลายค่อนข้างโอเวอร์สเปคมากครับ  ความเร็วสูงจัด เกราะพลังงานป้องกันตัวเองและติดอาวุธประเภทมิตไซล์จำนวนมากทำให้เราดูว่าเรือประจัญบานรบเหล่านี้ยังมีประสิทธิภาพสูงเกินความเป็นจริง(ในยุคสมัย)ไปเยอะเหมือนกันSmiley




Create Date : 13 ตุลาคม 2556
Last Update : 13 ตุลาคม 2556 21:55:34 น. 1 comments
Counter : 7281 Pageviews.

 
เรือลาดตระเวนหนักรหัสคือ CA
เรือลาดตระเวนเบารหัสคือ CL


โดย: ... IP: 171.7.202.166 วันที่: 19 เมษายน 2558 เวลา:23:47:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kross_ISC
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 79 คน [?]




Blog จับฉ่ายของ Kross ครับ เทคโนโลยี, การทหาร,Military Expert, การ์ตูน, Anime, Manga, Review, Preview, Game, Bishojo Game, Infinite Stratos (IS), Hidan no Aria, Light Novel (LN)

ติดตามเพิ่มเติมได้ทาง Twitter ที่ @PrameKross
New Comments
Friends' blogs
[Add Kross_ISC's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.