Life 2
ราว 1 สัปดาห์ก่อนหน้างานแข่งขันเรทเกมจะเริ่มต้น อิตเซย์กับคิบะฝึกฝนกันอยู่ที่ชั้นใต้ดินของปราสาทเกลมอรี่ซึ่งเป็น 1 ในกิจวัตรที่ทำกันเกือบทุกวัน โดยมีเรเวลเป็นผู้ชมอยู่ห่างๆ อิตเซย์พยายามหาวิธีและเทคนิคในการใช้โหมด 3 ประสานไทรอาน่าอยู่หลายรอบ แต่ก็ยังคงติดปัญหาเดิมอยู่ตรงที่แม้จะได้ความเร็ว พลัง เกราะ หรืออำนาจการยิงที่สูงส่ง แต่อัตราการใช้พลังปีศาจของเขาก็สูงขึ้นมากทีเดียว หากสู้เต็มกำลังอิตเซย์จะหมดพลังเวทเร็วกว่าใช้เกราะบาลานซ์เบรคเกอร์แบบปกติเยอะมาก
...นั่นหมายถึงการที่จะใช้แต่ละโหมดนั้นต้องคุ้มค่าจริงๆ
...จะใช้โซนิคไนท์เข้าประชิดไปได้ก็จริง แต่พลังทำลายก็มีน้อยแถมป้องกันก็ไม่ได้
...จะใช้ดรากอนิครุคป้องกันตัวไปก็ไม่น่าจะไล่ติดตามฝ่ายตรงข้ามทัน เหมือนเป็นเป้านิ่ง
...ใช้บลาสเตอร์บิชอพ ยิงก็เสียเวลาชาร์จ และพลังทำลายรุนแรงเกินกว่าจะยิงช่วยเพื่อนร่วมทีม
อิตเซย์เองก็คิดไม่ตกว่าจะหาวิธียังไงใช้ดี
"ท่านอิตเซย์คะ....ถ้าการรบแบบแนวหน้ามันสิ้นเปลืองพลังในการสลับโหมดไปมาแบบนั้นทำไมไม่ลองเกราะไทรอาน่าในบทบาททีมสนับสนุนแทนละค่ะ" อยู่ๆเรเวลก็เสนอความคิดขึ้น
"หา!?"
"หมายความว่าไงรึครับ?"
ทั้งคิบะ และอิตเซย์ร้องพร้อมกันด้วยความงงๆ เพราะไม่ว่าจะเป็น เกราะ ความเร็ว หรืออำนาจการยิงมันไม่น่าจะเป็นจุดสนับสนุนเท่าไหร่นักในสายตาของพวกเขาสองคน
"ก็แทนที่จะยิงลำแสงทำลาย คุณอิตเซย์ไม่ลองยิงพลังพวก 'Boost' 'Gift' หรือ '' Transfer" แทนสิค่ะ"
.
.
.
.
[อ๋อ....]
[อืมมมมม......อ้อออออ]
คิบะเข้าใจในทันที ขณะที่อิตเซย์นิ่งไปพักนึงเหมือนกับกำลังประมวลผลในหัวก่อนหลอดไฟในหัวจะสว่างวาปเหมือนกับมีคนจุดเทียนให้สติปัญญาในแบบที่เขาคิดมาก่อน
"จริงด้วย! เรเวล เธอนี่อัจฉริยะเห็นๆเลย!!" อิตเซย์ร้อง
"จริงครับ ด้วยระยะยิงที่ไกลของเวลบิชอพ นั่นหมายความว่าอิตเซย์คุงจะยิงสนับสนุนทีมแนวหน้าคนอื่นจากตรงไหนก็ได้" คิบะพูด "แถมยังใช้หลอกล่อฝ่ายตรงข้ามได้อีก ว่าบางทีอาจยิงพลังทำลาย บางครั้งอาจยิงบูสไปเสริมพลังให้ฝ่ายเดียวกันได้...ต่อให้พวกที่มีความสามารถด้านป้องกันก็คงต้องคิดหนักเลยว่าอิตเซย์จะยิงของจริงหรือของเล่น~"
อิตเซย์พูดอย่างดีใจ
"โฮ้สส!! เยส!! เจ๋งเป้งจริงๆด้วย แบบนี้ฉันก็เล่นเป็นทีมแบบคนอื่นได้จริงๆสักที! วิธีแบบนี้ถ้าใช้คล่องเมื่อไหร่นี่อย่าว่าแต่เรทเกมเลย ต่อให้เป็นศึกรบรากันจริงๆก็ใช้ได้"
เขาอดคิดไม่ได้ว่าเรเวลก็มีเซนส์ด้านการต่อสู้ไม่น้อย และไอเดียน่าสนใจแบบนี้ บางทีต่อให้ไม่ได้เป็นตัวหมาก เธอก็อาจรับหน้าที่เป็น 'เสนาธิการ' หรือกุนซือประจำทีมของพวกเขาได้ไม่เลวเลยเหมือนกัน แต่ยังไม่ทันจะได้เสนอไอเดียนั้นออกไป ท่านประธานชมรมหัวแดงก็เดินมาก่อน
"มีข่าวใหม่เข้ามานะ ฉันพึ่งคุยกับพวกผู้ใหญ่มา....ดูเหมือนเขาจะอนุญาติให้เราใช้พลังและความสามารถทุกอย่างที่มีได้เต็มที่ก็จริงไม่ต้องยั้งมือแบบตอนสู้กับซิทรี แต่ดูเหมือนจะมีกฎเกณฑ์พิเศษเพิ่มเติมขึ้นมาคราวนี้" รีอาสพูด
"กฎพิเศษ....?"
รีอาสพยักหน้าให้กับคำถามของอิตเซย์ ก่อนจะเสริมคำอธิบายว่า สนามแข่งคราวนี้จะจัดบนเมืองลอยฟ้าที่มณฑลนึงของตระกูลอากาเรส ซึ่งเป็นสังเวียนใหญ่กลางฟ้า ถ่ายทอดสดและจะมีผู้ชมจำนวนมหาศาล ซึ่งเกมการต่อสู้นี้จะถูกบังคับให้ไม่ยืดเยื้อด้วยเพราะเป็นลักษณะกึ่งการประลองแบบทีมเหมือนกับเรทเกมระดับโปรฯเลยทีเดียว
"โห นี่ถ้าจะงานใหญ่นะเนี่ย.."
อิตเซย์พูดพร้อมกับตั้งใจว่าต้องกลับไปฝึกให้มากขึ้นอีก และคงต้องลองรูปแบบใหม่ๆที่เรเวลแนะนำมาด้วยเพื่อจะได้เอาไปใช้จริงได้ "ขอบคุณนะเรเวล ไอเดียเรื่องบลาสเตอร์บิชอพนั่นเจ๋งมาก ฉันจะรีบเอาไปลองเลยหละ~"
.
.
[ปุ๊ง!]
เหมือนเห็นควันลอยออกมานิดหน่อย แต่ใบหน้าของเรเวลเกิดแดงขึ้นกระทันหันราวกับเปิดสวิตซ์
"ร...ร...เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นแหละค่ะ!"
เธอตอบแบบไม่หันมามองหน้าอิตเซย์
[อ้าว? นี่เธอไม่ดีใจหรอกรึ]
เขาลองคิดย้อนกลับไปดู เรเวลมาอยู่กับบ้านของอิตเซย์ได้ก็พักนึงแล้ว แต่เรื่องวุ่นวายปนน่ารักกับรุ่นน้องคนเล็กนี่ก็ยังมีอยู่เสมอๆ เพราะว่าแม้ว่ารีอาสจะเป็นปีศาจยศสูง แต่ก็มักทำอะไรอิสระอยู่เสมอและทำตัวค่อนข้างธรรมดาสามัญ ชนิดเรียกว่าติดดินแบบผิดวิสัยลูกคุณหนู ส่วนคนอื่นๆนั้นก็เป็นปีศาจระดับใกล้เคียงกันและใช้ชีวิตอยู่กันคล้ายมนุษย์ทั่วไปได้ แม้แต่เซโนเวียและอิริน่าเองทั้งคู่ต่างก็เป็นคนเรียบง่ายเหมือนกับสมัยที่เป็นเอ็กโซซิสต์ของโบสถ์...รอสไวส์เองก็ใช้ชีวิตแบบประหยัดเหลือเชื่อ ทุกคนจึงสามัคคีช่วยกันจัดการดูแลบ้านเฮียวโดได้เป็นอย่างดี
.
.
.
แต่สำหรับเรเวลนั้นออกจะไม่ใช่เท่าไหร่...เพราะคุณหนูแห่งบ้านฟีนิกซ์นั้นเรียกว่าเป็นเจ้าหญิงของจริง ที่ใช้ชีวิตแบบเจ้าหญิงจริงๆมาตลอด กิจกรรมพวกการทำความสะอาด หรือดูแลข้าวของเครื่องเรือนนั้นมักจะมีข้ารับใช้คอยปรณนิบัติพัดวีให้ไม่ได้ขาด...แต่ที่บ้านเฮียวโดไม่มีพวกนั้น, เรเวลก็คงลำบากพอสมควรในการปรับตัวให้เข้ากับสไตล์ชีวิตของมนุษย์โลก ที่มีหรือไม่มีหลายๆอย่างต่างจากโลกปีศาจ อย่างเช่น เครื่องซักผ้า รีดผ้า เครื่องเรือน ที่อิตเซย์ต้องเป็นคนสอนวิธีใช้ เพราะหลายอย่างไม่อาจใช้เวทมนต์จัดการได้หมด
โชคดีอีกเรื่องตรงโคเนโกะ, เพราะแม้ว่ารุ่นน้องหูแมวของเขาจะคอยจิกกัดเรเวลไม่เว้นวัน แต่เอาเข้าจริงๆแล้วก็ไม่ได้เกลียดกันเท่าไหร่ แถมเป็นคนช่วยสอนวิธีใช้ชีวิตแบบมนุษย์ให้เรเวลด้วย....ในสายตาของอิตเซย์นั้นกว่าจะเข้ารูปเข้ารอยคงอีกสักพักใหญ่ แต่อย่างน้อยก็ไม่น่าจะเกินกำลังความตั้งใจของเรเวลและทุกคนที่นี้แหละ....เขาคิดแบบนั้นพลางเตรียมตัวเดินกลับเข้าไปในห้องฝึกซ้อม
"เดี๋ยวอิตเซย์ วันนี้พอก่อนเถอะ" รีอาสหยุดเขาไว้
"เอ๋? ทำไมรึครับ"
"เรามีงานสัมมนาย่อย และเตรียมสัมภาษณ์สื่อมวลชนพรุ่งนี้ ขืนฝึกดึกดื่นเดี๋ยวสภาพพรุ่งนี้จะดูไม่จืดเอานะ"
.
.
[ฮะ?]
[อะไรนะ? นักข่าว?]
.
.
อิตเซย์ทำหน้าเหรอหรา เพราะเรื่องนี้เขาไม่รู้มาก่อนเลย
"อ๋า? นี่ฉันยังไม่ได้บอกเธออีกรึ วันพรุ่งนี้ทั้งกลุ่มเราและทีมไซร็อจจะมีงานสัมภาษณ์สื่อมวลชนในฐานะ คู่ชิงชนะเลิศวันเวลาเดียวกัน แถมเป็นถ่ายทอดสดด้วย" รีอาสพูด...พลางทำท่าประหลาดใจตัวเองว่าลืมบอกเรื่องสำคัญแบบนี้ไปได้ยังไงกัน "ดังนั้น อย่าไปทำหน้าทำตาประหลาดๆเข้าระหว่างงานเชียว โอเค!!!?"
.
.
"จริงงงงงงงงงเด้!!!"
อิตเซย์ร้อง
**********************************************************
วันถัดมาตอนกลางคืน ก๊วนอิตเซย์ก็ไปร่วมงานสัมภาษณ์สื่อมวลชนที่คราวนี้จัดขึ้นที่โรงแรมแห่งนึงในเขตแดนของตระกูลเกลมอรี่ โดยหัวหน้าทีม/คิง ของทั้งสองฝ่ายจะเป็นประธานในงานคราวนี้ และถูกซักไซร้อย่างหนักจากเหล่าสื่อฯผู้สอดรู้สอดเห็น (มันเหมือนกันทุกที่เลยวุ้ย! /kross)
โดยทุกคนนั่งรออย่างสงบในห้องรับรอง ซึ่งแม้ว่าอิตเซย์จะไม่ใช่เป้าหลักอันดับหนึ่งของงาน แต่เขาก็อดกังวลจนปากสั่นกึกๆไม่ได้ เพราะเริ่มกลัวขึ้นเรื่อยๆว่าจะตอบอะไรดีถ้าถูกถาม แล้วตอบแบบไหนถึงจะไม่ทำให้รีอาสเสียหน้า [จะพูดอะไรดี จะตอบยังไงดีเนี่ย! ฉันไม่ใช่นักการเมืองนะ!]
อิตเซย์เริ่มแอบมองซ้ายขวา สำรวจพฤติกรรมของเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆบ้างว่ามีสั่น มีกลัว มีตื่นเวที กันบ้างรึเปล่า?
"ฮึ๊บ!"
[ตุ๊บ!/ อุ๊ก!]
ยังไม่ทันจะได้มองอะไร โคเนโกะก็กระโดดดึ๋งขึ้นมานั่งบนตักอิตเซย์โดยไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับถือเค้กชิ้นนึงบนมือแบบสบายอารมณ์....[ทำไมวันนี้เธอดูสบายใจจังแฮะ] เขาคิดในใจพร้อมกับลองดูคนอื่นว่าทำอะไรกันอยู่
"หืมม..?"
รอสไวสต์กำลังบรรจงแต่งหน้าอยู่ด้วยเซ็ตเครื่องสำอางชุดเล็กบนมือ ถึงจะเป็นของจากร้านร้อยเยนก็เถอะ แต่ดูวาคิลี่สาวใช้มันได้แบบชำนาญและยอดเยี่ยมราวกับของแบรด์เนมระดับโลกเลย อาเชียและเซโนเวียนั้นแต่งหน้าบางพร้อมกับรองพื้นนิดหน่อยเสร็จนานแล้วแล้วนั่นรออยู่เฉยๆในล็อบบี้ รีอาสกับอาเคโนะนั้นแต่งหน้าเต็มยศเช่นกัน โดยทุกคนอยู่ในชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนคูโอว์ซึ่งตอนนี้เหมือนกับเครื่องหมายการค้าของทีมเกลมอรี่ไปแล้ว โดยจะมีก็แกสเปอร์นี่แหละที่ยังคงแต่งชุดนักเรียนหญิงเหมือนเดิม
[ทุกคนแต่งหล่อแต่งสวยกันหมดเลยแฮะ..สงสัยต้องไปส่องกระจกมั่งแล้วสิตรู]
อิตเซย์ลุกขึ้น
.
.
เขาตั้งใจจะลุกจริงๆ แต่ขาเจ้ากรรมดันไม่ยอมขยับเพราะโคเนโกะยังนั่งทับนิ่งเฉย
.
.
"เออ..โคเนโกะจัง.."
อิตเซย์จะเอ่ยปากขอทางหน่อย แต่ยังไม่ทันพูดจบประโยค โคเนโกะก็เอนหลังมาทับเขาหนักขึ้นไปอีกก่อนจะหันหน้าแดงๆกลับมาพูดเบาๆ
"วันนี้ ยัยไก่ย่างไม่ได้มาด้วย ดังนั้นหนูจองตักรุ่นพี่ไว้ก่อนแล้วนะ...." เธอทำเสียงอ้อน
อาเคโนะซึ่งฟังอยู่ห่างๆก็หัวเราะ
"อาร๊า อาร๊า~~ สงสัยว่าโคเนโกะจังจะกลัวเรเวลจังเค้าแย่งอิตเซย์คุงไปจากเธอสินะเนี่ย~"
"จริงรึ โคเนโกะ?"
อิตเซย์ถาม
ทางโคเนโกะยิ่งหน้าแดงขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินรุ่นพี่ทั้งคู่พูดแบบนั้น เธอหลบหน้าก่อนจะพูดเสียงอ่อย
"...รุ่นพี่นี่แหละใจดีเกินไป..... ทำเอาหนูต้องมานั่งกลุ้มใจกันตลอดเลย.."
[สงสัยคงเป็นเพราะช่วงนี้ต้องไปดูแลบ่อยๆสินะ /อิตเซย์]
"ใช่จริงๆนั่นแหละ อิตเซย์ชอบใจดีกับคนอื่นไปทั่ว....ฉันเองก็.....ไม่สิ! ช่างมันเถอะ"
รีอาสบ่นตามด้วย เหมือนกันหลังจากได้ยินโคเนโกะพูด
[ทำไมสายตาท่านประธานถึงดูเศร้าๆจังแฮะ]
.
.
.
ประตูเปิดออก สตาฟคนนึงเดินเข้ามา
"ทุกคนครับ ได้เวลาแล้ว..."
ระหว่างทางเดินไปห้องประชุมนั่นเอง
"อ้าา สวัสดีครับ รุ่นพี่รีอาส เฮียวโด และทุกคนด้วยครับ"
"อ้าว! นายมาทำอะไรที่นี่เนี่ย ซาจิ!?"
อิตเซย์เจอเข้ากับซาจิโดยไม่ได้คาดคิดมาก่อน แต่พอทักไปแบบนั้นแล้วดูเหมือนซาจิจะเสียใจอยู่ไม่น้อย
"อ่อ ก็พูดยากอยู่.....แต่ก็คงต้องทำใจอย่างเดียวสินะ แมตช์ของพวกฉันมันไม่ค่อยจะมีคนสนใจดูอยู่แล้วนี่ อิตเซย์, พวกฉันเองก็ยังมีอีกแมตช์นึงที่ต้องแข่งกับทีมอากาเรสนะ แล้วเราเองก็มีงานสัมภาษณ์วันนี้เหมือนกัน" ซาจิกัดฟันพูด
อิตเซย์ถึงกับสะดุ้ง..ก่อนที่รีอาสจะพูดต่อ
"ฉันบอกเธอแล้วไม่ใช่รึ? โซน่าเองก็มีแมตช์สุดท้ายเหมือนกับพวกเรานั่นแหละ วันเวลาเดียวกันด้วยกับทีมของ ซีคไวร่า อากาเรส"
[บอกผมรึ!?]
"ไม่เป็นไรครับ ทั้งคนดูและสื่อมวลชนส่วนมากเองคงสนใจคุณรีอาส และมังกรหน่มน๊มผู้โด่งดังมากกว่า แถมทีมของคุณยังจะได้แข่งกับทีมของปีศาจสายเลือดแท้รุ่นใหม่ที่แกร่งที่สุดอย่าง 'บาร์ล' ด้วย" ซาจิพูดอย่างถ่อมตัว
[อาาา ขอโท้ดดดด]
อิตเซย์คิดในใจว่าตัวเองพลาดอีกแล้ว ดูเหมือนเขาไม่ระวังปากเกินไปหน่อยจนไปทับถมเพื่อนคนนี้โดยไม่ได้ตั้งใจสะแล้ว
"เฮ้ยยยยย!! ซาาาาาาจจจจจจิ ปายยยย ได้แล้วววววววว"
เสียงเรียกมาจากไกลๆ ถ้าอิตเซย์จำไม่ผิดคงเป็น 'ฮานาไก' บิชอพของทีมซิทรีกำลังตะโกนหาซาจิ ซึ่งเขาก็รีบกล่าวลาแล้วเดินตามไปทันที ส่วนพวกรีอาสก็รีบเดินกลับไปยังโถงห้องประชุมที่กำลังจะเริ่มงานแล้ว
....งานสัมภาษณ์เริ่มอย่างดุเดือดแบบที่อิตเซย์คาดไว้ไม่ผิดทีเดียว ยิ่งคู่ปรับทั้ง2 ทีมต่างนั่งกันอยู่คนละฝากของห้องประชุมแบบหันหน้าเผชิญเข้าหากันโดยมีเหล่าผู้สื่อข่าวอยู่ตรงกลาง ผลัดกันถามคำถามไปยังสมาชิกของทั้งสองทีม ซึ่งฝั่งเกลมอรี่ก็ยังผ่านไปได้ด้วยดีจนกระทั่งคราวของอิตเซย์ ที่นักข่าวคนนึงถามขึ้นมาโต้งๆ
"คุณอิตเซย์, จริงรึเปล่าครับที่ว่าคุณจะจิ้มหน้าอกของเจ้าหญิงรีอาส? แล้วถ้าทำ จะทำในสถานการณ์แบบไหน?"
ทั้งนักข่าวและสมาชิกเรทเกมทุกคนหันควับมาทางอิตเซย์พร้อมกัน ราวกับนัดกันไว้
[อุ๊ก!]
[ถามอะไรของนายเนี่ย!]
"อืมมมมม เอ่อออออ"
"มีคำถามเข้ามามากมายเลยครับ ว่ามันจะเหมือนอย่างที่ฉายในทีวีซีรีย์รึเปล่า พวกผมได้ยินกันว่าคุณอิตเซย์จะเพิ่มพลังตัวเองได้ผ่านหน้าอกของเจ้าหญิงรีอาส แถมมีข่าวลือเยอะทีเดียวว่าคุณเคยรอดชีวิตมาได้เพราะหน้าอกคู่นั้น..."
.
.
"เอ่อ เออ อย่างที่ว่า ท่านป...ป...ปา ไม่ใช่สิ.."
อิตเซย์รีบหยุดปากกระทันหัน เขาเกือบจะหลุดคำว่า 'ท่านประธาน' ออกมาด้วยความตื่นเวที แล้วก็..
"ฮ่ะ เมื่อกี้... นั่นคุณกำลังจะพูดว่า 'อ็อปปาย' รึเปล่าครับ! รึว่าจริงๆแล้วคุณบ๊วบจ๊วบหน้าอกคู่นั้นอย่างที่เขาล่ำลือกัน!"
แสงไฟแฟลชรัวยิบ ผู้สื่อข่าวรีบตีความคำพูดของอิตเซย์แบบผิดไปไกลหลายปีแสงทีเดียว
"อืมมม ..."
เขาจะปฎิเสธคำสันณิฐานของนักข่าวก็กระไรอยู่ เพราะเรื่องที่เคย.....กับรีอาสนั้นก็จริงสะด้วยสิ
"จริงรึเปล่าครับ ท่านหญิงรีอาส เรื่องที่อ็อปไปดราก้อนเคยอย่างที่ว่ากัน!"
นักข่าวหันกลับไปหารีอาส ในฐานะจำเลยลำดับที่สอง
"...ฉ...ฉันไม่รู้ด้วยหรอก!!"
เธอระล่ำละลักพูด แบบลืมมาดของหัวหน้าทีมไปเกลี้ยง ใช้สองมือโบกไปมาพร้อมกับหน้าแดงก่ำด้วยความอาย ขณะที่อาเคโนะซึ่งนั่งอยู่ข้างๆก็กลั้นหัวเราะแทบแย่ แต่เมื่อไม่เห็นมีคนตอบชัดเจนนักข่าวเดนตายคนนั้นเลยหันไปทางฝ่ายตรงข้ามอย่างไซร็อจแทน
"แล้วท่านไซร็อจละครับ คิดว่ายังไงกับคู่ต่อสู้คราวนี้?"
ชายหนุ่มร่างยักษ์ลูบคางตัวเองไปมาแบบใช้ความคิดนิดนึงก่อนตอบแบบยิ้มๆ
"ฟังดูเข้าเค้า....ดูเหมือนว่าจักรพรรดิมังกรแดงตนนี้จะแกร่งสุดๆ ก็เฉพาะตอนที่ได้เขาได้ดูดหน้าอกของรีอาสนั่นแหละมั้ง..."
.
.
ทั้งห้องประชุมต่างก็ส่งเสียหัวเราะพร้อมกัน
โชคดี ตรงที่ดูเหมือนไซร็อจจะล้อเล่นเอากับเขาด้วยจนเหมือนกับเป็นเรื่องตลกโปกฮาธรรมดาไป
******
โซนรับรองด้านหลังของโถงประชุมห้องใหญ่, ทั้งกลุ่มเกลมอรี่ และทีมบารล์ต่างเดินออกมารวมกันตรงนี้ โดยมีไซร็อจที่ยังคงหัวเราะลั่นไม่หยุดเดินนำลิ่วมาเป็นหัวขบวน
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าๆ" เขายังไม่หยุดหัวเราะง่ายๆ "ขอโทษทีจริงๆ แต่ทุกครั้งที่ข้ามาอยู่กับพวกเจ้านี่มันช่างมีเรื่องสนุกๆให้เจอตลอดเลย....ไม่อยากคิดเลยนะเนี่ยว่าจวนเจียนจะประลองกันอยู่แล้วแท้ๆ" ไซร็อจพูด "ข้าเดินเข้าห้องประชุมนั่นแบบไฟต่อสู้ลุกโชติช่วงเต็มที่....แต่ไหงคุยไปคุยมากลายเป็นพวกเจ้าพาข้าเล่นตลกคาเฟ่สะได้"
.
.
.
"แต่ก็ต้องขอบคุณพวกเจ้านี่แหละนะ ข้าเลยหายเครียดไปอักโขเลย"
ไซร็อจสำทับอีก
"โธธธธธธธธธ่ นายนี่ก็เป็นสะงี้แหละ!!!" รีอาสโวยกลับ
"ไปตามน้ำสัมภาษณ์เรื่องบ้าๆแบบนั้นได้ไง แบบนี้ฉันเสียหายนะย่ะ!!"
หน้าตาแดงก่ำโดยที่ตัวเธอเองก็บอกไม่ถูกว่าเป็นความโกรธหรือความอายมากกว่ากัน เห็นได้ชัดว่ารีอาสหงุดหงิดอย่างแรง แต่ก็ไม่อยากยอมรับว่าเป็นเพราะการสัมภาษณ์ตรงนั้นมันจบลงคล้ายการล้อเล่นบลัฟกันมากกว่าทำให้เธอยังพอตีเนียนหาทางออกได้มั่ง ซึ่งไซร็อจก็ชมเชยว่าเป็นวันที่ดีทีเดียว
"ข้าหวังไว้เยอะทีเดียวนะ ว่าจะได้เจออะไรน่าสนใจแบบนี้อีกในการแข่งจริงนี่"
เขาพูดส่งท้ายก่อนลาจากไป