– ผักบุ้ง 2 กิโลกรัม

– หยวกกล้วยอ่อน 3 กิโลกรัม

– กากน้ำตาล 2 กิโลกรัม

– นำมาหมักรวมกันประมาณ 1 เดือนก่อนนำไปใช้ โดยการกำหนดใช้ให้เอาน้ำหมักประมาณ 3 ช้อนแกงผสมกับน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นทางใบ เพื่อเป็นการช่วยสร้างแพลนตอนในน้ำและมาทำให้น้ำเน่าเสีย

– โอ่ง ไม่จำกัดขนาดและไม่ต้องเจาะก้นโอ่ง

– ตะกร้า ไว้สำหรับทำแปลงปลูก ให้เล็กกว่าก้นโอ่งเล็กน้อย

– ดิน ใช้ดินทั่วไปหรือดินที่ผสมปุ๋ยแล้ว

– กระสอบเก่า กระดาน หรือตาข่ายเก่า ไว้สำหรับคลุมปากโอ่ง

– เริ่มจากนำดินที่เตรียมไว้ใส่ในลงในก้นโอ่ง ให้มีความสูงประมาณ 3-5นิ้ว เนื่องจากในระยะต่อไปจำเป็นต้องรดน้ำ และเราไม่ได้เจาะก้นโอ่งเพื่อระบายน้ำออก ทำให้อาจมีการขังภายในก้นโอ่ง จึงจำเป็นต้องใช้ระดับดินสูงเล็กน้อยเพื่อป้องกันดินกับน้ำผสมกันจนต้นผักบุ้งล้ม

– นำตะกร้าใส่ลงไปแล้วใส่ดินทับไปอีกประมาณ 2 นิ้ว (ตะกร้าจะช่วยให้ผักบุ้งยืนต้นได้กรณีน้ำในโอ่งมากเกินไป)

– หยอดเมล็ดผักบุ้งลงไปได้เลย แต่ไม่ควรให้แน่นเกินไป ส่วนใหญ่จะใช้เมล็ดผักบุ้งแก้ว เนื่องจากโตเร็ว ต้นสวย และตลาดมีความนิยม

– รดน้ำให้ดินชุ่มแต่ไม่ต้องแฉะ รอจนกว่าผักบุ้งแทงยอดอ่อน

– ใช้กระสอบเก่า ปิดบังแสงไว้ แต่ต้องให้มีอากาศเข้าได้ ทิ้งไว้อีกระยะจนยอดสูงเกือบถึงปากโอ่ง สามารถตัดยอดไปรับประทานได้เลย หรือจะนำกิ่งไปปักชำต่อก็ได้

///

ขอบคุณข้อมูลจาก

เพจคำคม ธรรมะ

ภาพจาก //www.google.co.th

– ใช้กระสอบเก่า ปิดบังแสงไว้ แต่ต้องให้มีอากาศเข้าได้ ทิ้งไว้อีกระยะจนยอดสูงเกือบถึงปากโอ่ง

///