Sinister: เห็นแล้วต้องตาย
สวัสดีค่ะ ช่วงนี้งานเริ่มงอก ๆ ยังไงก็ไม่รู้ (เหมือนถั่วงอกเลย งอก ๆ ด้วย 555) เลยทำให้ห่างหายไปหน่อยนะคะ (- -")
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อนชวนไปดูหนังค่ะ เพราะไปแลกแต้มได้บัตรดูหนังมาก็เลยชักชวนกันไป (ขอบคุณฮับ ^^) เพื่อนคนหนึ่งเสนอเรื่องนี้ขึ้นมาค่ะ แล้วไม่มีเรื่องอื่นน่าสนใจก็เลยยอมดูเรื่องนี้ ... Sinister ชื่อภาษาไทยเค้าให้ว่า "เห็นแล้วต้องตาย"
ตามชื่อเรื่องภาษาไทยเลยแหละค่ะ เป็นหนังแนวสยองขวัญ ติดเรทไว้ที่ 18+ นะคะ เพราะมีฉากรุนแรงหลายฉากเลยทีเดียว โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นแนว Terror ล่ะค่ะ ... อันเป็นแนวที่ไม่ชอบดูที่สุด - -" (แล้วไปดูทำไมยะหล่อน -"-)
เนื้อเรื่องโดยย่อ สปอยล์เล็ก ๆ ค่ะ ...
พระเอก (ยกให้เป็นพระเอกแล้วกัน) เป็นนักเขียนหนังสือที่เคยได้รับความนิยมอันดับหนึ่ง แต่อยู่ในช่วงตกอับ หนังสือเล่มหลัง ๆ ที่เขียนก็ไม่ได้รับความนิยมนัก เลยตัดสินใจย้ายบ้านมาที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุฆาตกรรมยกครอบครัว เพื่อมาเขียนเปิดโปงคดีที่เกิดขึ้นที่นี่ หวังจะให้หนังสือเล่มใหม่นี้เป็น Best seller อีกครั้ง
ในห้องใต้หลังคาบ้านหลังใหม่นั้น เขาก็ได้พบกับกล่องฟิล์มวิดีโอรุ่นเก่ากล่องหนึ่ง ซึ่งหลังจากที่เขาเอามาเปิดดู ก็พบว่าเป็นเหตุการณ์ของคดีฆาตกรรมยกครอบครัว บวกกับลูกคนเล็กของแต่ละครอบครัวหายตัวไปอย่างลึกลับ นั่นเป็นที่มาทำให้เขาสนใจสืบค้นหาความจริงว่าทำไมลูกคนเล็กของแต่ละบ้านถึงหายตัวไป ใครเป็นคนฆ่า และใครเป็นคนถ่ายวิดีโอเหล่านั้นไว้ ซึ่งเขาเชื่อว่าคดีทั้งหมดนั้น เป็นคดีฆาตกรรมลูกโซ่
พอเนื้อเรื่องดำเนินไปได้สักหน่อย ก็มีศาสตรจารย์สติเฟื่อง (หรือเปล่า) มาอธิบายว่า สัญลักษณ์ที่ฆาตกรทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุนั้นพัวพันถึงลัทธิบูชาซาตานลัทธิหนึ่ง ซึ่งมีความเชื่อกันว่าต้องเอาเด็ก ๆ ไปบูชา (ประมาณนี้ล่ะค่ะ - -")
ประกอบกับทุกกลางดึก พระเอกจะรู้สึกว่ามี "ใครบางคน" หรือ "ใครหลายคน" เข้ามาเดินเล่นในบ้านของเขา วิดีโอที่เขาปิดก่อนเข้านอนก็ถูกเปิดขึ้นอย่างพิศวงทุกครั้ง และห้องทำงานของเขาก็ถูกล็อคไว้ จวบจนเขาได้ไปเผชิญหน้ากับ "ใครหลายคน" ที่ว่า จนรู้สึกว่าทนกับสภาพนี้ไม่ได้อีกแล้ว จึงได้ย้ายกลับไปอยู่บ้านหลังเดิม โดยไม่ลืมที่จะโยนกล่องฟิล์มทั้งหมดเข้ากองไฟไปซะด้วย
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เหตุการณ์สงบลง เพราะเขาก็เจอกล่องวิดีโอฟิล์มกล่องเดิมนั่นแหละกลับมาอยู่ในห้องใต้หลังคาบ้านของเขาในสภาพปกติ ไม่มีร่องรอยการถูกเผาเลยแม้แต่น้อย พร้อมทั้งมีฟิล์มเพิ่มด้วย โดยระบุว่า "เป็นตอนจบของแต่ละเรื่อง"
ด้วยความสงสัย (อีกแล้ว - -") เขาก็เลยนำฟิล์มตอนจบนั้นมาเปิดดู แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ... ทั้งในวิดีโอและชีวิตจริง
ทิ้งท้ายไว้ตรงนี้เนอะ เดี๋ยวจะกลายเป็นสปอยล์แบบไม่กั๊กกันล่ะ ^^"
ความรู้สึกส่วนตัวหลังจากชมภาพยนตร์เรื่องนี้จบ ...
เนื่องจากค่อนข้างเกร็งไว้เยอะว่าหนังผีเรื่องนี้คงน่ากลัว แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรนัก มีให้สะดุ้งเล่น ๆ พอเป็นพิธี
การดำเนินเรื่องก็ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น เต็มไปด้วยเงื่อนงำที่ชวนให้คิดว่า ใครคือฆาตกรกันแน่ หากแต่ในช่วงกลางเรื่อง อย่างที่เล่าไปในตอนแรกแล้วว่ามีศาสตราจารย์คนหนึ่งออกมาอธิบายว่าเป็นลัทธินึง ก็เลยทำให้คิดว่าตอนจบก็คงเป็นแบบนี้แหละมั้ง (ก็ไอ้แบบที่จบนี่แหละค่ะ - -") แล้วสุดท้ายก็เป็นไปอย่างที่คาดคิดไว้จริง ๆ เลยทำให้รู้สึกผิดหวังหน่อย ๆ
ที่ไม่ค่อยเก็ทคือ ทำไมต้องเป็นลูกคนเล็กของแต่ละครอบครัว ? หรือว่ามีอธิบายไว้แล้วในเรื่อง แต่ดูไม่ทันก็ไม่รู้นะคะ (ฮาาา) แล้วทำไมต้องฆ่าทั้งครอบครัว
เรื่องนี้จบอย่างชนิดที่เรียกว่าปลายเปิด คือ ดูเหมือนเรื่องมันยังไม่จบ แต่ก็จบไปแล้วจริง ๆ อ่ะ ปล่อยให้คนดูคิดและจินตนาการต่อไปเอง สำหรับเรื่องนี้ ... แน่นอนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไปก็น่าจะเป็นลักษณะวนลูปอ่ะค่ะ (คือหมายถึงว่า ถ้ามีเหตุการณ์ต่อจากในหนัง มันก็มาอีหรอบนี้แหละ - -")
สุดท้ายแล้วถ้าถามว่าเรื่องนี้ recommend ไหม ก็คงไม่ถึงขั้นอยากแนะนำหรือบอกต่อหรอกค่ะ ดูขำ ๆ ก็พอไหว แต่ถ้าดูจริงจังแบบเป็นคนที่ชอบหนังสยองขวัญและสืบสวนนั้นก็คงไม่แนะนำ ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่ว่ามา
ติดตามกันต่อในบล็อกหน้ากันนะคะ อาจจะมารายงานความเสียหายจากสัปดาห์หนังสือหน่อยดีกว่า (มั้ย ?) งวดนี้เสียหายน้อยมากกกกกกกกกกค่ะ 555
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามและแวะเยี่ยมชมนะคะ ^^
Create Date : 25 ตุลาคม 2555 |
Last Update : 16 มิถุนายน 2558 23:03:18 น. |
|
3 comments
|
Counter : 4886 Pageviews. |
|
|