|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]
|
สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ blog ของ keigo นะคะ ^^
blog นี้เป็น blog เก่าค่ะ ได้ย้ายบ้านไป thisiskeigo.wordpress.com แล้ว ไปติดตามกันได้ที่นั่นค่ะ ^^ หรือติดตามเพจกันได้ที่ http://www.facebook.com/thisiskeigo ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ ^^
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Say You Love Me : รักซ้อนซ่อนเล่ห์
ละครเกาหลีเรื่องนี้แรกทีเดียวตั้งใจว่าจะไม่ดู เนื่องจากเป็นละครซีรีย์สแนวดราม่าแบบรุนแรง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมไอทีวีชอบเอาละครดราม่ารุนแรง ๆ อย่างนี้มาฉายให้ดู ไล่มาตั้งแต่ยุคแรก ๆ ที่มีเรื่อง Miss Mermaid แล้วอ่ะ แต่เรื่อง Miss Mermaid นี่ดูนะ ชอบนางเอกอ่ะ อิอิ
แต่ด้วยความที่เป็นละครเกาหลี (โดยส่วนตัวชอบละครเอเซียอยู่แล้วอ่ะนะ) ก็เลยดู ๆ ซะหน่อย แต่ด้วยความที่เวลาที่ฉายอ่ะ ไม่ค่อยลงตัวกับเวลาว่างเราเท่าไหร่ ก็เลยได้ดูบ้างไม่ได้ดูบ้าง แต่ก็ด้วยความโชคดี (มั้ง) ที่เรื่องนี้ฉายแค่วันละครึ่งชั่วโมง เลยทำให้ปะติดปะต่อได้บ้าง
ละครเรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักของคนหนุ่มสาว 4 คน นางเอก (ยอง เจ) กับพระเอก (เบียง ซู) โตกันมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ๆ และก็แน่นอนว่าความผูกพันอันนั้นก็ได้เปลี่ยนมาเป็นความรักอย่างแน่นแฟ้น
เรื่องราวความรักของคนทั้งคู่ก็ดูเหมือนจะไปได้ด้วยดี ถ้าไม่มาเจอกับนางร้าย (อี นา) ซะก่อน ซึ่งอีนานั้นแรกพบกับเบียงซูเธอรู้สึกอิจฉาความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ถึงแม้ว่าเธอจะมีฮีซูอยู่แล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังไม่สนใจ ทั้งยังวางแผนทุกอย่างเพื่อให้ได้เบียงซูมาครอบครอง โดยไม่นำพากับความรู้สึกของใคร ๆ ทั้งสิ้น
และแล้วอีนาก็ได้เบียงซูมาครอบครอบสมใจ ในขณะที่ยองเจเองก็ได้ฮ๊ซูรักษาแผลใจ ทำให้คนสองคู่ (ที่สลับกันนี้) ตกลงแต่งงานกันจนได้
แต่เรื่องก็พลิกผันอีกครั้งเมื่อยองเจรู้ความจริงหมดทุกอย่าง เธอพยายามทำให้เบียงซูรู้ตัว แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล แต่ในที่สุดเบียงซูก็รู้เรื่องทั้งหมดจนได้ แต่เขาก็ยังอยู่กับอีนาต่อไป ด้วยความรู้สึกสงสารหากเขาทิ้งเธอไปคบกับยองเจเหมือนเดิม
ยองเจเองก็ตระหนักในเวลาต่อมาว่า ไม่ได้มีแต่เธอเท่านั้นที่รักเบียงซูได้หมดใจ รักได้มากมายขนาดนั้น หากแต่ยังมีผู้หญิงที่ชื่อ อีนา อีกคนหนึ่งซึ่งก็รักเบียงซูได้ไม่แพ้เธอเลย (จากตอนที่เบียงซูไม่สบายและยองเจไม่สามารถเข้าถึงตัวเบียงซูเพื่อดูแลได้เลย เพราะมีอีนาอยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลา)
นั่นเป็นสาเหตุทำให้เธอคิดจะตัดใจจากเบียงซู หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ เธอยอมแพ้ในความรักมากมายของอีนา !!!
ด้วยความที่เป็นละครที่มีความเข้มข้นในอารมณ์ค่อนข้างแรง เราจึงอดทึ่งในฝีมือการแสดงของคนทั้ง 4 ไม่ได้ ซีนอารมณ์รุนแรง แสดงได้ไม่มีที่ติ จริง ๆ นะ :D
เรารู้สึกประทับใจในละครเรื่องนี้อยู่ 2 จุด นอกเหนือไปจากฝีมือการแสดงของเหล่าดารา และพล็อตเรื่องแล้ว
จุดแรก เราเห็นพัฒนาการของตัวร้ายอย่าง โช อีนา ที่แรก ๆ นั้น เธอเพียงแค่อยากได้ เบียง ซู มาครอบครองด้วยความอิจฉาความรักของเขากับยอง เจ เท่านั้น เธอพร่ำวางแผนทุกอย่างอย่างใจเย็น และรอบคอบ จนกระทั่งความอยากได้ ความอิจฉานั้นกลายมาเป็นความรักที่ฝังใจเธอ
จุดที่สอง (เป็นความรู้สึกทางใจอ่ะนะ แหะ ๆ <-- รีบออกตัวไว้ก่อนอ่ะค่ะ) เพิ่งฉายเมื่อเสาร์ - อาทิตย์ที่ผ่านมานี้เอง เป็นตอนที่ยองเจเริ่มถอดใจกับความรักของเธอที่มีอีนาคอยขวางทางอยู่ตลอดเวลา และเธอได้ตระหนักว่าอีนานั้นรักเบียงซูมากเพียงใด เพราะเธอเชื่อมั่นมาตลอดว่าคนที่รักเบียงซูได้มากมายนั้นมีเพียงเธอเพียงคนเดียว และนี่เอง เป็นเหตุที่ทำให้เธอเริ่มรู้สึก "ยอมแพ้" กับอีนา
ตรงนี้เองที่ทำให้เรานึกถึงเรื่องนึงขึ้นมาได้ ...
เคยมีคนถามเราว่า "เหนื่อยมั้ย กับการรักใครคนนั้น แล้วเค้าไม่ได้มีตอบกลับมาเลยน่ะ ?"
ในกรณีของยองเจ เธอคงไม่เหนื่อยหรอกกับการรักเบียงซู แต่ที่เธอยอมหลีกทางให้อีนานั้น น่าจะเป็นเพราะเธอสามารถไว้วางใจได้แล้วว่ามีคนที่รักเขาและดูแลเขาได้ดีพอ ๆ กับเธอนั่นเอง
ละครเรื่องนี้เดินทางมาจนถึงตอนจบในวันเสาร์ที่จะถึงนี้แล้วล่ะ ... เราก็ได้แต่หวังว่าอีนาจะยอมรับความรู้สึกของฮีซูที่รักเธออย่างมากมายได้ซะทีนะ
สุดท้าย เรื่องนี้ก็บอกเราอีกนั่นแหละว่า "รักคนที่เขารักเราจะดีกว่า"
Create Date : 20 ธันวาคม 2548 |
Last Update : 16 มิถุนายน 2558 22:45:14 น. |
|
5 comments
|
Counter : 2108 Pageviews. |
|
|
|
โดย: :D keigo :D วันที่: 31 ธันวาคม 2548 เวลา:0:55:30 น. |
|
|
|
โดย: สุพจน์ IP: 58.9.4.17 วันที่: 22 มีนาคม 2550 เวลา:21:56:50 น. |
|
|
|
|
|
|
หนมชั้นว่า ไม่ว่าจะยังไง ถ้าเจอคนที่เค้ารักเราแล้วเราก็รักเขาแล้วเนี่ย พยายามเก็บรักษาความสัมพันธ์อันนั้นให้ดีที่สุดดีกว่า
โอย....พูดอะไรที่มันมีสาระเนี่ย มันเหนื่อยจัง
เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นคนไร้สาระได้ดีกว่าเยอะเลย