|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]
|
สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ blog ของ keigo นะคะ ^^
blog นี้เป็น blog เก่าค่ะ ได้ย้ายบ้านไป thisiskeigo.wordpress.com แล้ว ไปติดตามกันได้ที่นั่นค่ะ ^^ หรือติดตามเพจกันได้ที่ http://www.facebook.com/thisiskeigo ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ ^^
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Memoirs of Geisha
ทั้ง ๆ ที่ตกงานอยู่แท้ ๆ แต่ด้วยความที่ชอบอะไรที่เป็นญี่ปุ่น ๆ ง่ะ ก็เลยยอมควักตังค์ 100 บาทถ้วนไปนั่งดูภาพยนตร์เรื่องนี้ (งงเหมือนกันว่าทำไมแต่ละโรงภาพยนตร์ ราคาไม่เท่ากันเลย ถ้าไปดูที่โรงประจำที่เราดูบ่อย ๆ อะ จะแพงกว่านี้อีก 20 - 40 บาทแน่ะ)
ตอนแรกที่ได้ยินว่ามีการถ่ายทำเรื่องนี้และพร้อมเข้าโรงฉาย ก็ตื่นเต้นมาก ๆ เพราะอยากดูมากมาย นึกเอะใจหน่อย ๆ ว่าทำไมดารานำถึงไม่ใช่คนญี่ปุ่นแท้ ๆ มาแสดงนำ แต่แล้วก็รู้ต่อมาว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ ฝรั่ง (เรียกงี้ละกันนะ อิอิ ง่ายดีอ่ะ) เป็นคนสร้าง
แล้วก็มาก่งก๊งอีกรอบใหญ่ก็อีตรงที่คำแปลภาษาไทยนี่แหละ
"นางโลมโลกจารึก"
งงเป็นไก่ตาแตกเลย เราเองก็พอรู้อยู่ว่าเกอิชาน่ะไม่ใช่นางโลม (นางโลม = โสเภณี <-- เว้ากันซื่อ ๆ งี้ล่ะเน้อ) แต่ไหงคนแปลมาแปลว่าเยี่ยงนี้หว่า ... แต่ก็อ่ะนะ เราเองก็ไม่ใช่คนญี่ปุ่นอ่า เลยไม่ค่อยคิดไรมาก แล้วก็ไม่ชัวร์กับความเข้าใจของเราด้วยแหละ
แล้วเราก็เอาไปเปรย ๆ กับพี่ชายคนโตที่เค้าไปอยู่ญี่ปุ่นมานานมั่ก ๆ
"เกอิชานี่คืออะไรอ่ะ ไมแปลเป็นนางโลมวะ ?" เราตั้งคำถามลอย ๆ ใกล้ ๆ พี่ชายเรา "เกอิชาไม่ใช่โสเภณีซะหน่อย" เสียงพี่ชายตอบลอยมาแค่นั้น ไม่มีคำอธิบายต่อ เราเลยคิดในใจว่า "เออ เดี๋ยวกรูไปดูเองก็ได้ฟะ - -"
แล้วก็ตีตั๋ว 100 บาท (ขอแอบย้ำหน่อย เพราะถูกดี อิอิ) เข้าไปนั่งดูพร้อมกับแอบนั่งกินขาไก่ที่ซื้อจากบางลำภูมาด้วยไปพลาง ๆ เพลิน ๆ ดี หุหุ ^^"
ยอมรับเลยว่าภาพและมุมกล้องสวยงามมากจริง ๆ การแสดงของนักแสดง (มีชื่ออยู่แล้วอ่ะนะ) ก็เยี่ยมยอดสุด ๆ ... ประทับใจมากค่า...
ประทับใจทั้ง ๆ ที่รู้สึกขัดแย้งนิดหน่อย ตรงที่ เรื่องราวเป็นเรื่องที่เกิดในประเทศญี่ปุ่นทั้งเรื่อง แต่ไหงพูดอังกฤษกันไฟแล่บเลยฟะ
นั่นไม่เท่าไหร่ เพราะถ้าพูดอังกฤษทั้งเรื่องมันก็จะเนียนอยู่หรอก แต่มันดันมีคำประมาณว่า "คมบังวะ" หรือ "อาริงาโตะโกไซมัตชิตะ" โผล่ออกมาด้วยนี่สิ ขัดแย้งพิก๊ลลล...
(นึกออกมั้ยคะ ประมาณว่า ตัวละครในเรื่องเอ่ยคำทักทายอีกคนด้วยคำว่า "คมบังวะ" แล้วก็ต่อด้วยภาษาอังกฤษไฟแล่บอ่ะค่ะ)
นั่นเป็นจุดนึงที่เรารู้สึกขัดแย้ง ๆ อยู่ ...
ส่วนอีกจุดนึง ก็เป็นเรื่องความรู้สึกส่วนตัวอ่ะนะ ออกตัวไว้ก่อนเลยแล้วกัน แหะ ๆ - -"
ในเรื่องบอกเองว่าเกอิชาต้องไม่มีความรัก ... แต่ไหงตัวนางเอก (ซายูริ หรือ ชิโย) กลับมีความรักให้กับพระเอก (ที่เวลาในเรื่องผ่านไปเท่าไหร่ก็ยังเหมือนเดิมเสมอ - -") แถมหนำซ้ำ พระเอกยังมีความรักตอบให้อีก
แล้วทั้งคู่ก็สมหวัง ถึงแม้ว่าจะเฉพาะช่วงเวลาหนึ่งก็ตาม ... (เรียกว่าสปอยป่าวอ่า... แหะ ๆ)
เฮ้อ ... ไม่คิดว่าจะมาเจอเรื่องความรักที่สมหวังในเรื่องนี้เลยอ่า ... (แม้ว่าจะเป็นอย่างที่บอกไปเมื่อกี้นี้ว่า สมหวังเพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่งก็ตามอ่ะนะ)
แล้วก็มีอีกจุดหนึ่งที่สงสัยอยู่เหมือนกัน ...
ถ้าบอกว่าเกอิชาไม่ใช่โสเภณี หรือ นางโลมก็ตามเหอะ แล้วไหงมีการประมูล "พรหมจรรย์" ด้วยอ่า (ในเรื่องเรียกว่าไร ลืมไปแระ มิซัวเกะหรือเปล่า ไม่แน่ใจ) แล้วก็ยังบอกอีกว่า ถ้าเสียตัวไปแล้วก็จะเรียกว่าเป็นเกอิชาเต็มขั้นอย่างสมบูรณ์แบบ ... อ่าว สรุปว่าไงอ่ะ งงเลยเรา - -"
ดูเรื่องนี้ ตั้งความหวังไว้เงียบ ๆ ว่าจะได้คำตอบว่าเกอิชาคืออะไร และคิดไว้ว่าต้องไม่ใช่อย่างที่แปลออกมา (คือนางโลม) แน่ ๆ แรกทีเดียวก็เกือบได้คำตอบแล้วล่ะ แต่ดูไป ๆ มา ๆ อ่าว ... ตกลงว่าไงฟะ
ถึงจะงง ๆ ไม่ได้คำตอบ และรู้สึกสะดุดทางอารมณ์กับภาษานิดหน่อยอย่างที่เล่าไปข้างต้น อย่างไรก็ตาม ก็ยังรู้สึกดีกับภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ดีค่ะ
อ้อ .. นางเอกทั้งตอนเด็กและตอนโต (ใช่จาง ซื่อ อี้ หรือเปล่า ? ไม่สันทัดดาราเอเซียน่ะค่ะ) น่ารักมั่ก ๆ เลย ^^ ตาเธอสวยมาก ๆ เลยล่ะค่ะ ดูแล้วเคลิ้มมมมมเลยแหละ อ๊ากกก กรี๊ดดดดด น่ารักอะไรเช่นนี้
Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2549 |
|
4 comments |
Last Update : 16 มิถุนายน 2558 22:45:28 น. |
Counter : 1032 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: คีตภา 10 กุมภาพันธ์ 2549 6:56:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: คีตภา 10 กุมภาพันธ์ 2549 7:09:26 น. |
|
|
|
|
|
|
ไม่ค่อยได้ดูหนังเลยค่ะ ของญี่ปุ่นที่บริโภคมากที่สุดเห็นจะเป็นการ์ตูน เหอเหอ
ภาพตรงโพล์ไฟล์นั่นก็เป็นคาเร็ตเตอร์หนึ่งในการ์ตูนโปรดของเรานะ ฮิคารุไง ปิ๊งคนนี้แหละ อิอิ