Group Blog
 
<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
23 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 

จากสิงคโปร์ถึงสิงคโปร์ - เมืองท่ามะละกา


กลับมาแล้วค่ะ
แพ็คกระเป๋าพร้อมกันหรือยังคะ วันนี้เราจะจากสิงคโปร์กันไปแล้วนะ
2 คืนต่อจากนี้ เราจะไปซุกหัวนอนที่มะละกากันจ๊ะ  (มีทั้งคะ / ค่ะ / จ๊ะ ปนๆ กันไปเนอะ) Smiley

ปัญหาเดียวที่เรามีในการพักห้องรวมคือ การเก็บของค่ะ
ยิ่งต้องออกตอนเช้าด้วย เสียงถุงก็อบแก็บ เสียงรูดซิบ และเสียงต่างๆ นานา ตอนเก็บของนี่รบกวนชาวบ้านเค้าจริง (นางสาวจิตหลอนเป็นพวกขี้เกรงใจแหละ)
ตอนแรก เรานึกว่านอนห้องรวมจะเสียงดัง
แต่ผิดคาดมาก เงียบและสงบมาก ในห้องนอนทุกคนจะเคารพกันมาก ไม่พูดกัน หรือพูดน้อย
แต่จะไปคุยกันจริงจังที่ห้องนั่งเล่นแทนค่ะ
คนพัก dorm เค้ามีมารยาทกันนะ เป็นอย่างนี้ทุกที่เลย 

9 มีนาคม 2555

ปล.รูปเยอะ เรื่องยาว โหลดโหดเหมือนเดิมนะจ๊ะ
การเดินทางไปมะละกา เราได้ข้อมูลว่า สามารถขึ้นได้ที่ Goldren Mile Complex ได้เลยค่ะ
แต่เอาเข้าจริง ฉันหลงทางงงงงงงง
เดินงง หลงอยู่นานมาก
เลยไปถามทางอยู่ 3 ครั้ง และทุกครั้งทุกคนบอกว่า 
ถ้ายูจะไปมะละกานะ ยูต้องไปลงสถานีบูกิส แล้วขึ้นรถไปยะโฮว์ แล้วต่อรถจากยะโฮว์ไปมะละกาอีกที
อ้าว....เวร..ไ้อ้เราก็เถียงในใจว่ามันต้องมีสิ ฉันหาข้อมูลมา
แต่ด้วยประเด็นที่ว่าหลงทางไป Goldren Mile Complex เลยต้องเปลี่ยนแผนไปยะโฮว์แล้วต่อรถไปมะละกา (คิดในแง่ดีว่าราคาถูกกว่าเยอะเลย)

ทีนี้พอไปถึงสถานีบูกิส ถามทางอาตี๋หนุมแต่ พลาดค่ะ 
เพราะน.ส.จิตหลอนคนงาม ดันไปถามนักท่องเที่ยงเหมือนกัน
fail ใหญ่หลวงมาก เลยมองหาเหยื่อคนใหม่ ขณะมองซ้ายมองขวานั่นเอง (ดันลืมมองด้านหน้า) เพราะสถานีรถ Queen Street มันอยู่ตรงหน้าเรานี่เอง โอ๊ย..ชีวิต!!!

รถกำลังออกพอดี ค่าตั๋วไปยะโฮว์ราคา 2.4 S$ วิ่งขึ้นรถอย่างด่วน
คนเต็มรถเลย รถจะพาเราไปยังด่านขาออกที่ woodlands แล้วนั่งรถคันเดิมไปขาเข้าของมาเลได้เลย
แล้วอิรถคันเดิมเนี่ย (ลืมบอกไปเรานั่งของ Singapore-Jahor Express ค่ะ) มันไปถึงสถานี Larkin ได้เลยค่ะ (Larkin เหมือนขนส่งหมอชิตบ้านเรา)

แต่....อิชั้นดันหลง หาทางไปรถไม่เจอ เลยต้องนั่งรถเมล์มาเล (คนขับซิ่งเหมือนรถเมล์ร้อนบ้านเรามาก) ราคา 1.7 RM ให้ไป 2 RM คนขับไม่ทอนนะคะ (ถ้าจะนั่งรถมาเลเตรียมเงินให้พอดีด้วย)
เพื่อไปสถานี Larkin 

พอลงรถมาจะมีคนมารุมๆ เลยค่ะ ว่าจะไปไหน อารมณ์เรานั่งรถจากตจว.มาหมอชิต ลงรถปุ๊ปมีคนขับแท็กซี่มารุมอย่างนั้นเลย

เราบอกคนนึงว่าจะไปมะละกา แกทำหน้างงๆ แล้วพาเราไปขึ้นรถเจ้านี้ค่ะ (ขออภัยที่ก่อนหน้านี้ไม่มีรูป คนกำลังหลงทาง ไม่มีอารมณ์มาถ่าย ) และเหมือนเดิมค่าใช้จ่ายจะสรุปด้านล่างนะคะ
หาง่ายๆ อยู่ติดกับแม็คเลย



ก่อนรถจะออกตอน 11 โมงเราไปเข้าห้องน้ำแล้วถึงกับอึ้ง Smiley
ใครจะเข้าห้องน้ำที่นี่ ทำใจก่อนก็ดี ถ้าไม่ปวดมากก็ไม่ต้องก็ได้ค่ะ
แต่ว่าเราจะใช้เวลาเิดินทางประมาณ 2-3 ชม. รถไม่แวะรายทางและไม่มีห้องน้ำ
เข้าไปก็ดีค่ะ เวลาเข้าห้องน้ำ อย่าก้มลงมองโถส้วมเป็นพอค่ะSmiley เราเตือนคุณแล้วนะ 
และนี่คือสถานี Larkin



เมื่อรถมาถึง นางสาวจิตหลอนถึงกับผงะ ทำไมโทรมอย่างนี้ มันช่างต่างกับรูปตรงเค้าเตอร์เสียหรือเกิน หรือเราจะโดนคนมาเลต้มเสียแล้ว Smiley



แต่ภายในนั้น ที่นั่งกว้างขวา แถวนึงมี 3 เบาะ นั่งสบายกว่าแอร์เอเชียอีก ฮ่าๆ



ลืมบอกไปว่าคนมาเลสูบบุหรี่เยอะมาก ไปทุกที่ทุกหนทุกแห่งมีแต่บุหรี่ค่ะ เหมือนบุหรี่เป็นปัจจัยที่ 6 ของชีวิตไปแล้ว เหม็นมาก ปอดพังหมดตอนอยู่ที่มาเล Smiley

หลับๆ ตื่นๆ จนมาถึง Melaka Sentral จนได้
ลงรถมาหิววววว 
ที่นี่มีร้านข้าวมันไก่ rice ball ด้วย แต่ไม่อยากกิน
เลยสั่ง Mee Hum Soup หรือ ก๋วยเตี๋ยวไก่นี่เอง เอง เอง



นั่งรถสาย 17 จาก Melaka Sentral มายังตัวเมือง
ถ้าออกมาแล้วไม่เห็นให้นั่งรถอยู่ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวก็มา
ตอนเราไปถึงนั่งรอประมาณ ครึ่งชม. จนนึกว่านั่งรอผิดที่เสียแล้ว
สาย 17 มีทั้งรถร้อนและรถแอร์เย็นๆ ราคา 1 RM เท่ากัน มองป้ายด้านหน้าพอ ถ้าเขียนว่า 17 ก็ขึ้นเลย
ที่ถ่ายมานี่เป็นรถแอร์เย็นฉ่ำ แต่คันที่เรานั่งมาเป็นรถร้อน -  ร้อนมากกกSmiley



เราพักแถว Juker Street ค่ะ ดังนั้นเลยลงที่ Dutch Square
เป็นจุดที่คนลงเยอะมาก ไม่น่าหลง ให้สังเกตโบสถ์ดัชต์สีแดงเข้าไว้
ตรงต้นไม้ใหญ่ๆ นี่แหละค่ะ ป้ายรถเมล์



ระหว่างที่กำลังเดินหลงทางหาที่พักที่จองไว้
ก็เจอกับเจ้าหมา สงสัยเพิ่งโดนจับอาบน้ำมา เลยถูกตากแดดเลย
ที่มาเลนี่เห็น หมา-แมว  ได้ทั่วไปค่ะ
ต่างกับที่สิงคโปร์ที่ไม่เห็นเจ้าพวกนี้เลย 



ต่อจากนี้คือแนะนำที่พัก เราไปพักที่ Jalan - Jalan Guesthouse
ต้องขอสารภาพว่าที่จองที่นี่ไปเพราะความอยากลองและสงสัยแท้ๆ 
ว่าไ้อ้ที่พักแลดูเก่าๆ โทรมๆ นี่มันได้เรทติ้งที่สูงจาก hostelworld ได้ยังไง
แถมเป็นที่พักแนะนำใน lonely planet ด้วยนะ
มาถึงแล้วประตูสีฟ้า


ตรงนี้คือส่วนของห้องนอนรวม, มีห้องเดี่ยว 1-2 เตียงด้วยนะค่ะ แต่ไม่ได้่ถ่ายมา มีคนอยู่

เปิดโล่ง เลือกเตียงนอนได้ตามใจชอบ
ตอนกลางคืนมีบริการจุดยากันยุง หัวเหม็นไป 3 วันสามคืน



ผจก.ผู้ดูแลที่พักชื่อคุณ Alan แกนอนที่ห้องเดียวกับพวกเรานี่แหละ
ลุงแกใจดี เฟรนลี่ นิสัยดีมากกก
ไม่แปลกเลยที่ที่นี่จะได้รับคำชมจากคนที่มาพัก

ตรงนี้เป็นส่วนที่ชอบมาก ซักผ้าแล้วเอามาตาก ก็จะได้แดดหอมๆ
เลือกที่ตากตามสบาย ลุงอลันแกขอกั๊กที่ส่วนตัวแกไว้นิดหน่อย ไว้ตากผ้าปู ผ้าห่ม

คือที่นี่มันก็ดูโทรมๆ เก่าๆ แต่สะอาดนะ แล้วด้วยความเ่ก่าของมันนี่มันถึงเข้ากั๊น เข้ากันกับเมืองมะละกา
ถ้าใครอยากจะลองที่พักราคาถูกคืนละ 150 บาท ที่นี่แนะนำเลย
เรานอนหลับสบายตลอด 2 คืน (แต่นั่นแหละ ถ้าใครติดหรู ดูดีที่นี่ไม่เหมาะนะจ๊ะ)
แต่ถ้าอยากอินดี้ มาพักที่นี่ สบายกระเป๋า และปลอดภัย

วางกระเป๋าแล้วออกเดินเที่ยวกันเลย เนื่องจากวันนี้เป็นปลายสัปดาห์ มีถนนคนเดินที่ Jonker Street
ซึ่งก็อยู่ถัดจากถนนที่พักเรานั่นแหละ ใกล้ๆ เดินสะดวก

อารมณ์ถนนคนเดินบ้านเรา มีของกินเยอะมาก และมี angry birds เยอะมากเช่นเดียวกัน


ของที่ขายก็ดูธรรมดา แต่ที่แนะนำคือ ร้านขายของทอด
น้ำจิ้มเด็ดมาก กุนเชียงทอดธรรมดากลายเป็นอาหารเหลา ว่าแล้วอยากกลับไปกินอีก Smiley




มืดแล้วเดินมาดูโบสถ์ดัชท์เสียหน่อย
รถสามล้อมแข่งกันแต่งไฟ เจ๋งจริง

มีบริการล่องเรือตามคลองชมสองฝั่งเมืองด้วยนะ
ใครสนใจเชิญจัดลงในโปรแกรมเลยจ้า



เดินเล่นสักพักเดินกลับที่พักแล้ว เดินผ่านถนนคนเดินเหมือนเดิม
ตรงนี้คือหัวมุมถนนคนเดิน
ยังมีควันหลงตรุษจีนอยู่เลย


มีการแสดงด้วย เหล่าคุณลุง คุณป้า คุณตา คุณยาย เต็มเลย
ดูทุกคนสนุกสนานกันมาก



เช้าตรู่..ความจริงไม่ตรู่แล้ว 10 มีนาคม 2555

ออกมาหาอะไรกิน ข้างๆ เกสต์เฮ้าส์มีร้านติ่มซำร้านนึง



พอเข้าไปนั่งก็จะมีคนยกติ่มซำมาให้ เราก็จิ้มๆ เลือกอันที่จะกิน


ในร้าน



บ้านเมืองที่มะละกา




ร้านข้าวมันไก่ร้านนี้ คนต่อแถวเยอะมาก ท่าจะอร่อย ยาวมาถึงมุมถนนเลยทีเดียว


โบสถ์ดัชต์ กับ สามล้ออันโด่งดัง


เดินขึ้นเนินไปโบสถ์ St.Paul


วันนี้มีเด็กๆ หัวเขียวมาทัศนศึกษาด้วย



ด้านหน้าและด้านในโบสถ์


ด้านในโล่งๆ ไม่มีอะไรค่ะ นอกจากป้ายชื่อ 



เดินลงเนินมาไปเรื่่อยๆ ก็จะเจอกับเรือลำนี้
ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ค่ะ



ภายในจะมีหุ่นและรูปภาพ เล่าเรื่องราวของเมืองมะละกา



ด้านบนมีจำลองห้องกัปตันเรือ

เดินไปเรื่อยๆ เจอแหล่งสามล้ออีกแล้ว
สีสัดจัดจ้านจริงๆ 

แล้วก็เดินวนๆ อยู่ในมะละกานี่ล่ะค่ะ ฝนตกหนักด้วยเลยไม่ค่อยได้เดินไปไหน
ที่จริงมีหลายโซน แต่เราวนๆ อยู่แค่ไม่กี่ที่เอง
ย่านลิตเติ้ลอินเดียก็มีนะ แต่ไม่ได้ไป

กลับที่พัก กิจกรรมเดิม เิดินถนนคนเดิน ซื้อของฝาก นิดๆ หน่อยๆ 
กลับมาเตรียมแพ็คของ พรุ่งนี้จะไปกัวลาลัมเปอร์ค่ะ
ต้องไปขึ้นรถที่มะละกาเซ็นทรัล แน่นอนว่าหลง
เราหลงไปที่มะละกาเซ็นทรัลเหมือนกัน
แต่เป็นตลาด หน้าตาอย่างนี้


คือตลาดจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับขนส่ง ไอ้เราก็เห็นคนลงเยอะ นึกว่ามาขนส่งกันแน่
พอเดินเข้าไป ตอนแรกก็คิดว่า เออ..ที่นี่ดีเนอะ
แบบมีของขายด้วย มีตลาดสดกับขนส่งอยู่ที่เดียวกัน
ทำไปทำมาไม่ใช่ละ มันเริ่มมีหมู มีไก่ มีปลา 
นี่มันตลาดสดนี่หว่า เลยต้องเดินย้อนกลับมาทางเดิม
เฮ้อ...หลงทางตลอดเวลาจริงๆ เรา Smiley

Smiley Smiley Smiley Smiley

และเหมือนเดิม สรุปค่าใช้จ่ายประจำวัน

วันที่ 3

ได้ค่ามัดจำคือจาก hostel 30 S$
ซื้อนมกับน้ำ 3.6 S$
จ่ายเงินค่ารถจาก ตม.ยะโฮว์ ไป สถานี Larkin 2 RM
ค่ารถจาก JB ไป Melaka   25 RM
จ่ายเงินค่าเข้าห้องน้ำ 0.6 RM
ซื้อขนมตุนไว้ระหว่างทาง 5.5 RM
กินข้าวเที่ยงที่ขนส่งมะละกา 10 RM
นั่งรถสาย 17 เข้าเมือง 1 RM
ค่าห้องพัก 2 คืน 27 RM
ซื้อของที่ถนนคนเดิน 10 RM 
กินข้าวเย็น 4.5 RM
น้ำกับนม 3.6 RM
สรุป 3.6 S$ กับ 89.2 RM

วันที่ 4

ติ่มซำเป็นอาหารเที่ยง 13  RM
ภาพวาดจากศิลปินริมถนน 15  RM (ต่อมาจากราคา 20)
น้ำกับนม 8.5 RM
ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ 3 RM
ข้าวเย็น 4 RM
ของฝาก 20 RM
รวม  61.5 RM




 

Create Date : 23 มีนาคม 2555
3 comments
Last Update : 24 มีนาคม 2555 20:13:42 น.
Counter : 4817 Pageviews.

 

ว้าว..ตามมาเที่ยวด้วย

ร้านขายของทอดๆ....น่าสนใจจัง

 

โดย: Calla Lily 25 มีนาคม 2555 8:05:46 น.  

 

สวัสดีค่ะ บ้านเมืองเค้า ก้อดูน่าไปสัมผัสดีนะคะ
มิลชอบสถานที่แปลก ๆ แบบนี้ค่ะ
อยากไปทอดน่องเดินเล่น อยู่แบบแบคแพคจัง

 

โดย: มิลเม 26 มีนาคม 2555 13:35:09 น.  

 

อยากไปอยู่ห้องแบบที่เพื่อชาวแยคแพ็ค แต่ด้วยยังด้อยประสบการณ์การท่องเที่ยว เลยยังแอบหวั่นๆ ว่ามันจะเวิร์คไหมนะ คือกลัวของจะหายอย่างเดียวอะค่ะ

 

โดย: FreakGirL 26 มีนาคม 2555 22:33:36 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


จิตหลอน
Location :
น่าน Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




นามแฝงจิตหลอนมีที่มาจาก วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาหลายปี แต่ก็ยังเรียนไม่จบเสียที และมีแนวโน้มว่าจะไม่จบง่ายๆ ซ้ำมีแววว่าถ้าเรียนจบแล้วก็คงจะไม่ใช้มันให้เกิดประโยชน์เป็นแน่แท้ ...

แม้สาวจิตหลอนดูท่าจะหลอนสมชื่อ เพราะ 3 วันดี 4 วันร้าย นิสัยบ้าๆ บอๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ ปากร้าย ใจดี แต่งบางทีก็ไม่ชอบพูดกับใครเลย

ชอบศิลปะ รักวัฒนธรรม ดนตรี (ไม่ค่อยไหวเพราะหูเพี้ยน) ชอบดูหนัง อ่านหนังสือ และท่องเที่ยว

แม้จะไม่มีเงินเดือนและงานทำเป็นของตนเอง อาศัยเกาะพ่อกับแม่กินและแอบริดรอนบางส่วนหย่อนเงินใส่กระปุกไว้ ก็พยายามจะท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ

อาชีพที่ใฝ่ฝัน - เป็นนักท่องเที่ยว - แต่ว่า นักท่องเที่ยวนี่ถือเ็ป็นอาชีพมั๊ยนะ *0*

New Comments
Friends' blogs
[Add จิตหลอน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.