หลังจากหยิบกระเป๋าลงจากเครื่องออกมา ก็เดินตามผู้โดยสารส่วนมากกันไป 

ยังไงทุกคนก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือต้องมาผ่าน ตม.ก่อนอยู่ดี

แต่...สภาวะที่นั่งรอเครื่องและนั่งบนเครื่องนาน (ความจริงก็แวปเดียวเองนะ) ไปหน่อย 

ญ.เกร๋ ย่อมปวดเบาเล็กน้อยเป็นธรรมดา 

ก่อนจะผ่าน ตม. ก็เลยพุ่งเข้าห้องน้ำที่เห็นเป็นอันดับแรกก่อน

และ..ภาพห้องน้ำในสนามบินที่เห็นคือ 

โอ้ว.. ที่รองเท้าใหญ่จัง

ความจริงในห้องน้ำมีหลายแบบนะคะ แบบชักโครก ปกติก็มี

แต่ไอ้ห้องที่มันอยู่ก่อนตรวจคนเข้าเมืองมันเป็นแบบเมียนมาร์สไตล์เลยอ่ะ

แต่เห็นแบบนี้ำเป็นแบบเซ็นเซอร์นะจ๊ะ ก็หลงหาที่กดน้ำอยู่พักใหญ่

ระหว่างกำลังก้มๆ เงยๆ หา น้ำก็ไหลซู่... 

อา..เมียนมาร์สไตล์ ยุคใหม่

ออกจากห้องน้ำมาต่อแถวผ่านตม. มีเยอะเชียวค่ะ ร่วม 10 เคาเตอร์ได้

รอไม่นานก็ถึงคิว จนท.ตม.ไม่ถง-ไม่ถาม ไม่มองหน้า ก้มๆ เงยๆ ทำอะไรไม่รู้

แ้ล้วก็...... ปึก! 

เข้าประเทศได้แล้ว ระยะเวลาก็ 28 วันดังที่ได้กล่าวมาแล้วในบล็อกก่อน 

ต่อจากนี้ก็คือ ไปหยิบกระเป๋าบนสายพาน ตรงส่วนนี้จะมีธนาคารอีก 1 แห่งค่ะ

แต่ด้านนอกมีธนาคารอีก 2 แห่ง เราเลือกจะแลกจากด้านในตรงสายพานกระเป๋าค่ะ

ไม่ใช่อะไร คือขี้เกียจ 

เรทวันนี้คือ 1 $ = 862 Kyat

เราแลกไว้ 500 $ สำหรับ 3 คน

ไม่ได้นับว่าได้เงินเท่าไหร่ เพราะมันเยอะมากกกกก

อาศัยว่าเชื่อใจธนาคาร (คือนิสัยอย่างนี้ไม่ดีนะคะ ถ้ามีเวลาก็เช็คหน่อยก็ดี) 

แต่เราเห็นแล้วว่าเครื่องนับแบงค์นับครบก็เลยหยิบตังค์ใส่กระเป๋าแล้วออกมาเลย

และที่น่าดีใจก็คือ

เราได้แบงค์ใหม่จ้าาาาาาา ใหม่กริ๊บๆ เลยนา 

แลกกับธนาคารก็ดีอย่างนี้นี่เอง เหมือนเขาจะไม่สนใจด้วย แบงค์ยับๆ พับๆ เขาก็รับนะ

จากนั้นก็ได้เวลาออกจากสนามบินเสียที

และเป็นที่น่าดีใจว่า เราได้จองที่พัก mother land inn 2 ไว้ซึ่งเขาจะมีคนมารับที่สนามบินด้วย..ด้วย..ด้วย เริศ

ออกจากประตูมาปุ๊ปก็เจอกับ หนุ่มน้อยใส่เชิ๊ตขาว นุ่งโลงจี สีแดงสุดฮิต

ถือป้ายรอรับเราอยู่แล้วจ้า

ราคาที่พักไม่แพง และมีรถมารับที่สนามบิน มันเริศมากเจ้าคร๊า

เพราะสนามบินอยู่ไกลจากตัวเมืองมาก..เสียค่าแท็กซี่หลายบาทนะเออ

แต่ก็นะ... เกสเฮ้าต์ mother land inn 2 นี่ก็ไกลออกมาหน่อยเหมือนกัน

ที่เดินเล่นก็ไม่ค่อยมี ของกินก็ไม่ค่อยมี ก็ลองเลือกดูเอาละกัน ว่าแบบไหนจะคุ้มกว่ากันนะจ๊ะ

สภาพรถเหมือนรถรับส่งนักเรียนที่เราเคยเห็นในหนังเลยอ่ะ

แต่สภาพก็น่าจะมากกว่า 20 ปีได้ละนะ 

มีคนขึ้นเต็มรถเลย..ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งค่ะ 

น้องๆ ในที่พักบอกว่า ก็พอมีคนไทยมาพักบ้าง

เราก็เคยเห็นคนรีวิวที่นี่เยอะอยู่เหมือนกันนะ 

ที่สำคัญ...รถคันนี้พวงมาลัยซ้ายจ้า 

ส่วนใหญ่รถที่นี่พวงมาลัยขวา และดันขับเลนขวาอีกแหน่ะ  แล้วมันจะเห็นเลนสวนมาได้ยังไง

ยังงี้้ต้องมาลองกันนะ

ประสบการณ์การนั่งรถที่นี่ รถบีบแตรทุกคัน ดังแปร๋น ดังแปร๋นตลอด

อืม....สุดยอด ยอม..

นั่งรถนานมากกกกก............

เครื่องลงตอน 5.05 pm. รอผ่านตม. รอกระเป๋า แลกเงิน น่าจะเสร็จตอน 5.30 pm

นั่งรถไปเกือบๆ 30 นาที ก็ถึงที่พัก นั่งชมวิว 2 ข้างทางด้วยความเพลิดเพลิน

พร้อมลมโกรกหน้าเป็นระยะๆ (ไม่ต้องหวังพึ่งแอร์จ้า รถที่นี่ใหม่-เก่า เปิดกระจกกันหมด)

และแล้วก็มาถึงที่พัก

ลืมถ่ายหน้าที่พักมา 

แต่มีภาพห้องพักมาให้ดู ห้องพักดีกว่าที่คิดไว้นา...

ราคา 37$ ต่อคือ เป็นห้องแบบ 3 คน 

ได้ห้องหมายเลข 12 ชั้นที่ 2 มา

อันนี้เราเลือก ห้องแอร์แบบ 3 คน มีห้องน้ำในตัว ราคาคืนละ 37$

มีแอร์เย้น..เย็น 

ชักโครก

น้ำเย็นและอุ่น

ตอนกลางคืนแอบมีไฟดับ 2 ครั้ง แต่แค่สั้นๆ ประมาณ 5 นาที

ตอนนี้มืดพอดี แต่เราจะมานั่งๆ นอนๆ อยู่ที่ห้องได้อย่างไร

มาถึงพม่าทั้งที่ ตอนนี้ที่ที่เราจะมุ่งไปก่อนก็คือ

มหาเจดีย์ชเวดากอง 1 ใน 5 มหาสถานบูชาของพม่า...

วิธีการก็คือ เรียกแท็กซี่ไปค่ะ

วิธีการก็คือ อยู่ริมถนน มองหาไฟบนรถ แล้วก็โบกๆ

เนื่องจากรถแท็กซี่พม่า ไม่มีมิเตอร์ ดังนั้นก็ถึงเวลา ต่อราคากันโลด

ปกติเราก็ไม่ได้ต่อราคาโหดขนาดนี้หรอกนะ 

ราคาต่อรอบใกล้ๆ ก็อยู่ระหว่าง 1,500-3,000 จั๊ต

ส่วนใหญ่แท็กซี่ก็เรียกมาเท่าไหร่เราก็ต่อสัก 500 จั๊ต นิดๆ หน่อยๆ

คือเราตั้งมาตรฐานไว้ที่ 2,000 จั๊ต บวก-ลบได้นิดหน่อย

จาก mother land inn 2 ไปชเวดากอง เราได้ที่ราคา 2,000 จั๊ตในขาไป

ส่วนขากลับสงสัยว่าดึกแล้ว เลยได้ที่ราคา 3,000 จั๊ตแหละ

นั่นๆ ถึงแล้ว เจดีย์ชเวดากอง...

เจดีย์ชเวดากองเป็นเจดีย์ประจำปีเกิดของปีมะเมียจ้า

เหล่าปีมะเมีย ถ้ามีโอกาสอย่าลืมมาสักการะกันนะพวกเธอ

ถอดรองเท้ากันตั้งแต่ก่อนขึ้นบันไดเลยทีเดียว

ตีนเปลือยขึ้นลิฟต์กันเลย

ก็ขึ้นกันไปก่อน ยังไม่มีเจ้าหน้าที่เก็บตังค์ตรงทางเข้า

เดี๋ยวเราวนๆ อยู่ด้านในก็จะมี จนท.พุ่งเข้ามาให้เราจ่ายเงินเองจ้า

คนละ ... เท่าไหร่หว่า? ไว้เดี๋ยวค่อยสรุป

คือที่นี่ใหญ่มาก คือมีไกด์บุ๊คก็เดินไม่ถูก เพราะมีแต่ภาษาพม่า

อ่านไม่ออกเจ้าค่ะ  ก็คลำๆ งงๆ กันไป

ไหว้พระธาตุ สรงน้ำประจำวันเกิด

วิธีการก็คือ

1.) รดน้ำเท่าอายุ+1

2.)แล้วก็หาร 4 เพื่อรดน้ำตามลำดับดังนี้

เริ่มจาก พระ-เทวดา-เสา-สัตว์

เช่น อายุ (28+1)/4 = 7 เศษ 1 

ก็รดน้ำที่พระ 8 ขัน ที่เหลืออีกอย่างละ 7 ขัน เป็นต้น

แต่...เราทำมั่วกันหมดเลย ลืม...รดตามลำดับ

ซึ่งคนเกิดวันจันทร์เช่นเราจะอยู่ตรงทิศตะวันออก

หาง่ายๆ คืออยู่ตรงข้ามกับประตูฝั่งตะวันออกพอดี

เกิดปีเสือ..สัตว์ประจำวันเกิดก็เสือ

ไม่ดุให้มันรู้ไปสิ 

เราเดินวนสักพัก ก็มีชาวพม่าคนนึงเดินมาชี้ชวนให้เราดูเพชรที่ยอดเจดีย์

(ก็มาแนวๆ ไกด์นั่นแหละ เราก็ตามๆ เขาไปและให้ทิปไปเล็กน้อย และถ้าจะน้อยจริงๆ เพราะพี่แกทำสีหน้าแบบ.... )

เราได้ดูเพชรเปลี่ยนสีไปตามตำแหน่งที่ยืนด้วยละ

แ่ต่บอกไม่ได้จริงๆ ว่าต้องไปยืนตรงไหน เพราะชเวดากองนั้นกว้างมาก....

คงต้องอาศัยคนพื้นที่จริงๆ นั่นแหละถึงจะบอกได้

จนสักประมาณ 3 ทุ่มก็กลับที่พัก

ก็กินอาหารที่เกสเฮ้าต์นั่นแหละ.... คือรสชาติแบบ..

เอาวะ..กินกันตาย 

คืนนี้นอนเกือบไม่หลับ เพราะฤิทธิ์โค้กก่อนนอนที่ห้องอาหาร

ระหว่างหลับๆ ตื่นๆ อยู่นั้นก็พบว่า

ห้องพักไฟดับตั้ง 2 ครั้งแหน่ะ แต่เป็นระยะเวลาสั้นๆ ไ่่่ม่ถึง 5 นาที

ใครจะพักที่นี่ บางทีก็เผื่อใจไว้ก่อนก็ดีนะ 

พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปพระธาตุอินทร์แขวนจ้า

ดังนั้นรีบๆ เข้านอนแต่หัวค่ำนะพวกเธอ 

เดี๋ยวตื่นเช้าไม่ทันรถอดไปพระธาตุอินทร์แขวนด้วยกันไม่รู้ด้วยเน้อ