เที่ยวญี่ปุ่นตอนใต้ ตอน ๒ นางาซากิ ยูฟุอิน
รูปปั้น joy of life ในสวนสันติภาพ
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2557 วันนี้เปิดใช้ north Kyushu pass วันแรก ขึ้นขบวน sonic รอบ 9.55 น ไปนางาซากิ ไม่ได้จองที่นั่งไป สามารถหาที่นั่งได้ที่ตู้ 4-6 ซึ่ึ่งว่างมากๆ
เลือกที่นั่งได้ตามสบาย ใช้เวลา 2 ชม. ก็ถึงที่หมาย รถไฟตรงเวลามาก ๆ ออกจากสถานีไปก็ขึ้นสะพานลอยคล้ายๆแถวอนุสาวรีย์ชัย ที่ กทม
เลือกเอาว่าจะลงด้านไหน เรามองจากบนสะพานลอยเห็นป้ายโรงแรม ก็เดินไปตามป้าย ไม่ถึง 10 นาทีก็ถึง เอากระเป๋าไปฝากแล้วเดินกลับ
สวนสันติภาพ เพื่อระลึกถึงความสูญเสียจากสงครามระเบิดนิวเคลียร์
น้ำพุแห่งสันติภาพ
รูปปั้นแห่งสันติภาพ
ไปที่สถานี เพื่อซื้อตั๋วนั่ง tramway แบบเหมาทั้งวันคนละ 500 เยน ดูจากแผนที่แล้วก็ยังงงเลยลองขึ้นดู สาย 1 พอนั่งไปก็รู้ว่าขึ้นผิดด้าน แต่
ไม่เป็นไร เพราะเรามีบัตรผ่านตลอดแล้วจะนั่งกี่เที่ยวก็ได้ภายใน 1 วัน ที่จริงถ้าเรารู้จุดหมายแน่นอนแล้วก็นั่งด้านถูก ถ้าคำนวนว่าไปแค่ที่
เดียวแล้วเดินเที่ยวเก็บในแถบนั้นหมด เราว่าไปจ่ายเป็นเที่ยวก็อาจจะถูกว่าอย่างเราวันนี้จริงๆไปลงท่าป้าย19 แล้วเดินเที่ยวย่านนั้น ไปกลับ
รูปปั้นแสดงถึงความสูญเสียจากระเบิดนิวเคลียร์ แสดงปี เดือน วัน และเวลาที่เกิดระเบิด
จุดศูนย์กลางของระเบิดนิวเคลียร์ที่ถล่มนางาซากิ
เสีย 240 เยนต่อคน หรือถ้าไปอีกที่ก็เพิ่มอีก 240 เยน รวมแล้วไม่ถึง500 เยนเลย พรุ่งนี้ค่อยวางแผนใหม่ วันนี้ลงที่สวนสันติภาพ แล้วเดิน
เที่ยวสวน รูปปั้นเพื่อสันติภาพ แล้วก็ไปที่พิพิธภัณฑ์ระเบิดนิวเคลียร์ ประทับใจกับสถานที่แล้วก็การจัดการของเค้ามากมันทำให้สถานที่ดู
ลงตัว ได้บรรยากาศ น่าเดินเที่ยว แล้วก็รู้สึกได้ถึงความเศร้า สูญเสีย ในช่วงเวลานั้น ค่าเข้าก็แค่ 200 เยน เดินดูจนเมื่อยเลยอ่ะ เราใช้เวลากัน
ภาพแสดงสภาพปรักหักพัง หลังระเบิดนิวเคลียร์ถล่มที่ฮิโรชิมา
ระเบิดนิวเคลียร์จำลองที่ถล่มนางาซากิ แบบ fatman
นาฬิกาบอกเวลาที่ระเบิดนิวเคลียร์ ๑๑.๐๒ น.
ตลอดบ่ายเดินเที่ยวในบริเวณนี้ ขึ้น tram ตอน 5 โมงเย็น ว่าจะไปเดินเที่ยวแถวท่าเรือ ซึ่งเลยจากสถานีรถไฟไปนิดเดียว บรรยากาศดีมาก ๆ
เค้าทำสวนสาธารณะไว้ติดทะเล เป็นลานกว้างๆ สะอาด น่านั่งปิคนิคมากเลย เดินเล่นรอบๆ พักใหญ่ พอเริ่มมืดก็เลยกลับ ไปหาข้าวเย็นกิน
นกพับกระดาษ สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ
ถนนต้นไม้เปลี่ยนสีที่บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์ระเบิดนิวเคลียร์
แถวสถานี พอดีเข้าไปในห้างเห็นซุปเปอร์มาเก็ตก็ต้องเลยเข้าไปดูมีข้าวกล่องน่ากินหลายอย่าง ราคาไม่แพงเลย ขนาดยังไม่ได้ลด เราเลย
ซื้อมาคนละกล่อง แล้วก็แอปเปิ้ลอีกถุง ราคาถูกกว่าที่ฟุกุโอกะอีก ลองซื้อมันฝรั่งคาลบี้มากินอร่อยดี พรุ่งนี้ยังเที่ยวต่อที่นางาซากิอีกถึง
บ่ายๆค่อยกลับฟุกุโอกะ
บรรยากาศพระอาทิตย์ตกที่ท่าเรือที่นางาซากิ
สะพานในอ่าวที่นางาซากิ
ค่าใช้จ่าย ค่าโรงแรม 9,200เยน ค่า tramway 1000 เยน ค่าอาหารกลางวัน 800 เยน ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ 400 เยน ค่าอาหารเย็น 1000 เยน รวม 12400 เยน
อ่าวนางาซากิ
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2557 วันนี้เตรียมลุยนางาซากิอีกวัน บ่ายแก่ๆ ค่อยกลับฟุกุโอกะ ออกมานอกโรงแรมเห็นมีร่องรอยฝนตก ไม่รู้เมื่อเช้าหรือเมื่อคืน ฟ้าก็ดูมัวๆชอบ
กล หวังว่าคงจะไม่เจอฝนนะวันนี้ วันนี้ซื้อตั๋ว tramway อีกวัน สถานที่แรกที่เราจะไปคือ glover garden คราวนี้ต้องเปลี่ยนจากสาย 1 ไป สาย
5 ที่สถานี 31 แล้วนั่งไปสุดสายตาสถานี 51 แค่ทางเข้าก็ไฮโซแล้ว มีลิฟท์ขึ้นเขาไปแบบ slope ตามแนวเขา สูงประมาณ 5 ชั้น ลงไปก็แวะ
รถ TRAM ที่วิ่งในนางาซากิ
สภาพบ้านเรือนในนางาซากิ ล้อมรอบด้วยภูเขาและทะเล
เที่ยวบ้านพักของชาวต่างชาติหลังแรก ไม่ต้องเสียเงิน แล้วเดินต่อไปอีกนิดก็ขึ้นลิฟท์อีก 3 ชั้น ถึงทางเข้า ราคาตั๋ว 610 เยนต่อคน มีแผนที่
ใดห้องสถานที่เดินชมมีหลายแหล่งส่วนใหญ่เป็นบ้านพักชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในญี่ปุ่นเพื่อทำการค้า อยู่กับมิสเตอร์ glover ที่มีภรรยาเป็น
ชาวญี่ปุ่น แต่ละหลังสวยๆน่าอยู่เหมือนในหนังเลยบางหลังก็ใหญ่มาก เราเดินกันจนถึง 13.30 น ก็ออก ขึ้นรถไปที่วัดจีนแห่งแรกในญี่ปุ่น
บ้านชาวต่างชาติ ใน Glover garden
มองไปนอกหน้าต่างเห็นทะเลสีฟ้า
แปลงดอกไม้หน้าบ้าน Glover
สระเลี้ยงปลาหน้าบ้านใน Glover garden
ไม่ค่อยมีคนมาเที่ยวเท่าไหร่ ค่าเข้า 300 เยน หลังจากนั้นเดินเล่นแถวๆวัดต่อจน 15 น นั่งรถกลับไปเอาของ ที่โรงแรม ไปรอขึ้นรถไฟ แต่แวะซื้อมันฝรั่งคาลบี้ก่อนเข้าไปรอรถไฟ เพราะเมื่อคืนซื้อกินแล้วอร่อยดี เลยว่าจะซื้อไปเป็นของฝากด้วย
รถไฟออกตรงเวลามาก ขากลับนี่ข้างในดูไฮโซกว่าขามาอีก
สะพาน spectacle หรือ สะพานแว่นตา
วัดที่เก่าแก่ที่สุดในนางาซากิ
ต้นไซแคดอายุกว่าสามร้อยปี
ภายในวัดในนางาซากิ
ถนนใบไม้เปลี่ยนสีในนางาซากิ
ค่าใช้จ่าย ค่าเข้า glover garden 1220 เยน ค่า tramway 2000 เยน ค่าอาหารกลางวัน 600 เยน ค่าของฝาก 2000 เยน ค่าเข้าวัดจีน 600 เยน ค่าข้าวเย็น 600 เยน ค่าโรงแรม 7800 เยน รวม 14820 เยน
เมืองยูฟุอิน เมืองเล็กๆ คล้ายปายบ้านเรา
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 วันนี้ตื่นเช้ากว่าทุกวัน เพราะต้องไปรถไฟเที่ยวแรก 7.45 น เพื่อจะได้มีเวลาที่ yufuin หลังจากนั้นต้องต่อรถไฟไปที่ beppu จาก hakata ใช้
เวลา 2 ชม ก็ถึง yufuin ตอนเราไปคงฝนตกปรอย ๆ ดีที่พกร่มไปด้วย คนมาเที่ยวเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นทัวร์จีน เราเดินอยู่สักพักฝนก็หยุดไป
ท้องฟ้าสดใสอีกครั้ง เลยได้รูปสวยๆแถวทะเลสาบมา ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ หลายคนบอกว่าเหมือนปาย ก็อาจจะคล้ายๆ นะ คือเป็นลักษณะ
ของที่ระลึกที่ขายในยูฟุอิน
ยูฟุอินฟลอรอลวิลเลจ
หมู่บ้านเล็กๆ มีร้านขายของตลอดสองข้างทาง การจัดตกแต่งร้านเน้นแบบน่ารักๆ มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปไฮไลท์ของหมู่บ้านคงจะเป็น
ทะเลสาบน้ำอุ่น ที่ใครๆก็ต้องมาถ่ายรูปด้วย ไม่งั้นจะถูกหาว่ามาไม่ถึงที่นี่ได้ สำหรับเราก็ธรรมดากับที่นี่นะ เดินแป๊บเดียวก็ทั่วแล้วเอาแบบ
เดินไปถ่ายรูปไปด้วย สัก 2 ชั่วโมงนี่ก็น่าจะพอนะ แต่เพราะช่วงแรกฝนตกเลยต้องแวะเข้าร้านบ่อยหน่อยเพื่อหลบฝากแล้วก็หลบหนาวด้วย
ใบไม้เปลี่ยนสีที่ยูฟุอิน
หนาวจากมีลมอ่ะ ประมาณเที่ยงครึ่งก็เบื่อแล้วเลยหาร้านกินข้าว ไปเจอร้านเล็กๆ เล็กจริงๆนะ ขายอุด้ง ติดราคาไว้ไม่แพง มีรูปให้ชี้ด้วย เลย
เข้าไปกิน เรียกว่า 2 คนนี่เกือบแน่นร้านแล้ว เผอิญไม่มีลูกค้าคนอื่นนอกจากเรา 2 คน ไม่งั้นคงจะอึดอัดน่าดู กินเสร็จออกมาฝนเริ่มตกหนัก
ขึ้น เลยเข้าไปรอในห้องรับรองของสถานรถไฟ อุ่นดี ต้องรอรถเที่ยว 14.44 น อีก ชั่วโมงกว่าๆ พอถึงเวลาก็ออกมาขึ้นรถไฟ นั่งไปอีก
ทะเลสาบในยูฟุอิน
ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึง beppu ที่นี่ฝนก็ตกเหมือนกัน แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว เดินไปโรงแรม ไม่ไกลจากสถานี ห้องก็คล้าย toyoko ราคาเท่ากัน
แต่ไม่มีข้าวเช้านะ เราเอาของไปเก็บแล้วเดินสำรวจเมือง ไกลเหมือนกัน เดินผิดทิศอีก เพิ่ง 5 โมง แต่มืดเร็วมาก หนาวด้วย เลยตัดสินใจ
กลับไปที่สถานีรถไฟ หาข้าวเย็นกิน ไปเจอร้านอุด้งในห้าง ราคาไม่แพง อร่อยด้วย กินข้าวเสร็จก็เข้าโรงแรมพักผ่อน ค่าใช้จ่าย ค่าฝากกระเป๋า 500 เยน ค่าอาหารกลางวัน 1160 เยน ค่าโรงแรม 7700 เยน ค่าอาหารเย็น 970 เยน รวม 10330 เยน
| Create Date : 31 ธันวาคม 2557 |
| Last Update : 3 มกราคม 2558 19:00:55 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 740 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [
