Bloggang.com : มะลิไทยแลนด์ : เที่ยวโตเกียว Nikko ภูเขาไฟฟูจิ ตอน ๒ ภูเขาไฟฟูจิ

เที่ยวโตเกียว Nikko ภูเขาไฟฟูจิ ตอน ๒ ภูเขาไฟฟูจิ

ภูเขาไฟฟูจิ และใบไม้เปลี่ยนสี

12 พย
วันนี้สบายๆ ตื่นมาอาบน้ำกินข้าว แล้วเดินไปขึ้นรถกลับโตเกียวที่ท่ารถ nikko รถออกเกือบ 10 โมงเลยไม่ต้องรีบร้อนอะไร วันนี้รถออกตรงเวลาถึงปลายทางก็ตรงเวลา เราเอาของไปเก็บที่ รร แล้วออกมาหาข้าวกิน ลงจากนั้นนั่งรถไฟใต้ดินไปชินจูกุเพื่อจองตั๋วไป ฮาโกเนะ พรุ่งนี้ ชินจูกุนี่วุ่นวายมาก สถานีก็ใหญ่ คนเดินกันยั้วเยี้ย

หอคอยโตเกียว skytree และ ตึกอุนจิ (เรียกเองเพราะดูคล้ายอุนจิ หรือก้อนเมฆก็ไม่ทราบ)

ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ sumida

ขนาดมีคัมภีร์บอกทางไปเคาน์เตอร์จองตั๋วแล้วยังไปไม่ถูกเลย สุดท้ายใช้วิธีถามเค้าไปเรื่อยๆ รู้สึกว่า work สุดแล้ว ไม่นานก็เจอ ซื้อ fuji hakone pass ราคา 7200 /คน ใช้ได้ 3 วัน แล้วเปลี่ยนรถนั่งเป็น romance car เพิ่มอีกคละ 870 เยน เพื่อจะได้นั่งสบายขึ้นและถึง ฮาโกเนะเร็วขึ้น เพราะหลังจากเที่ยวตาม route ที่ hakone เสร็จ ต้องต่อรถไป kawaguchiko เลยอยากมีเวลาที่ฮาโกเนะมากหน่อย จะได้เที่ยวแบบไม่เร่งรีบเกินไป ซื้อตั๋วเสร็จก็ลองเดินเล่น ที่ชินจูกุ แต่รู้สึกไม่สนุก อาจเป็นเพราะเราไม่ชอบช้อปปิ้งด้วย แล้วของก็ราคาแพงกว่าบ้านเราด้วย เราเปลี่ยนใจกลับไปเดินเล่นแถวแม่น้ำ sumida ดีกว่า

ที่สะพานข้ามแม่น้ำ sumida ยามเย็น

ข้ามสะพานก็เป็นแหล่งช็อปปิ้ง

มาถึงตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน แดดสะท้อนก้อนอุนจิ เป็นสีทองสวยงามมาก เดินดูวิว ถ่ายรูปแถวแม่น้ำ จนเกือบ 5 โมง แต่มืดเหมือน 2 ทุ่ม เราเลยไปหาข้าวเย็นกิน ก็ร้านหยอดเหรียญ ร้านเดิมแหละ กินเสร็จก็เข้าที่พัก พักผ่อน

หอคอยโตเกียว skytree เปิดแสงไฟในยามค่ำเคืน

สรุปค่าใช้จ่าย

อาหารกลางวัน 760 เยน
ค่ารถไปชินจูกุ. 260x4=1040 เยน
ค่า pass 7200x2+870x2=16140 เยน
ค่าอาหารเย็น 430x2=860 เยน
ค่า รร 7480 เยน
รวม 26280 เยน

ใบไม้เปลี่ยนสี ถ่ายแบบใกล้ๆ จากบนรถไฟที่ Hakone

วันที่ 13

วันนี้ตื่น 6 โมงเช้า ลงไปกินข้าวของโรงแรม 7 โมง แล้วรีบไปขึ้นรถไฟไปชินจูกุ ไปถึงสถานี odakyu ยังไม่ 8.30 ดี รอเวลารถไฟออก ไป hakone ตอนเช้าๆอย่างนี้ชินจูกุคนเยอะมาก แต่พวกเค้าก็เดินกันเป็นระเบียบดี ต้องยอมรับเลย เค้าสอนกันมาดีจริงๆ รถไฟออกตรงเวลา และถึงปลายทางตรงเวลาดี 10.30 น เราก็เที่ยวตาม route เริ่มจากนั่งรถไฟไต่เขาไปสถานี gora เราลงก่อน 1 สถานี

open air museum บรรยากาศดี และน่าเที่ยวน่าชมมาก

เพื่อเที่ยว open air museum เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยมาก เหมาะกับคนชอบถ่ายรูป ราคาปกติ 1600 เยนเราสามารถเอา pass ยื่นจะได้ลด 200 เยน ใช้เวลาในนี้ ชม กว่าๆ แล้วไปขึ้นรถไฟต่อไปสถานี gora ถึง gora เราต้องเปลี่ยนเป็นนั่ง cable car ขึ้นเขาไปอีก แล้วไปเปลี่ยนเป็น rope way เพื่อต่อไปเหมืองกำมะถัน

ปฎิมากรรมต่างๆ ใน museum

wood net เอาท่อนไม้ขนาดใหญ่มาวางเรียงสลับกัน ข้างในเป็นตาข่ายให้เด็กๆ เข้าไปเล่น

ภายใน wood net

รูปปั้น สวยๆ ดูแล้วหวนคิดถึงความสนุกแบบวัยเด็ก

เดินเที่ยวชมภายใน กว้างขวางทีเดียว

ปฎิมากรรมแปลกๆ กับใบไม้เปลี่ยนสี

ผลไม้สีส้มเต็มต้น คิดว่าน่าจะเป็นลูกพลับ เห็นปลูกกันทั่วไป หลายบ้าน

วิวเขาสวยมากมาย เพราะใบไม้กำลังเปลี่ยนสี ทำให้ภูเขาทั้งลูกมีสีสัน แถมมีวิวทะเลสาบด้วย ยิ่งสวยใหญ่ ข้างบนหนาวมาก ๆ ถ่ายรูปเสร็จก็ นั่ง rope way ไปลง togendia เพื่อนั่งเรือโจรสลัดชมวิว วิวสวยงามมากมายเพราะป่าเปลี่ยนสีนี่แหละ เรานั่งไปแล้วนั่งกลับเลย เพื่อจะได้มาขึ้นรถไป gotemba ที่ท่ารถ togendai สะดวกดีไม่ต้องย้อนไปมา

นั่งกระเช้า rope way ชมใบไม้เปลี่ยนสี

วิวเมือง Hakone จากบน rope way

เขาใบไม้เปลี่ยนสี

ใครที่จะทำแบบเราต้องเตรียมกระเป๋ามาค้างคืนไม่ใหญ่มาก คือสามารถถือไปทุกที่ได้เลย เรานั่งรถประมาณ 30 นาที ถึง gotemba แล้วไปต่อรถ เพื่อไป kawaguchiko อีกที คราวนี้นั่งนานประมาณ 1.30 ชม ถ้ามี fuji hakone pass นี่เป็นบัตรผ่านตลอด ไม่ต้องเสียเงินเลย พอถึงสถานี kawaguchiko เราก็เดินตามถนนไปจนถึง รร ประมาณ 10 นาทีได้ เข้าห้องพัก ซึ่งเป็นแบบปูฟูกนอน ห้องน้ำรวม แล้วเดินไป supermarket ใกล้ รร ซึ่งอาหารญี่ปุ่นลด 30% เป็นอาหารเย็นกลับมากินในห้องนอน อุ่นสบาย ที่นี่มี wifi สัญญาณไม่ค่อยแรงในห้องชั้น 3 แต่ก็พอเล่นได้ แต่ส่งไลน์ไม่ได้ เลยต้องมาส่งที่ชั้นล่าง เสร็จแล้วเข้าห้องพักผ่อน

เหมืองกำมะถันบนยอดเขา

ทะเลสาบที่ Hakone

สรุปค่าใช้จ่าย
ค่ารถไปชินจูกุ 260x2 = 520 เยน
ค่าตั๋วเข้า open air museum 1400x2 =2800 เยน
ค่าอาหารเย็น 550 เยน
ค่าที่พัก 13320
รวม 17190 เยน

ล่องเรือชมใบไม้เปลี่ยนสี

ใบไม้เปลี่ยนสีเกือบทั้งเขา

เรือที่นำนักท่องเที่ยวชมในทะเลสาบ

แสงอาทิตย์สุดท้ายก่อนลับเขา

วันที่่ 14 พย
วันนี้ตื่นสบาย ๆ ไม่รีบร้อน เพราะเรามีเวลา 1 วันเต็มๆ ที่นี่ 9 โมง ออกจาก รร ไปเที่ยว เดินจาก รร ไปประมาณ 50 เมตรก็เห็นฟูจิแล้ว วันนี้ฟ้าใสมาก ๆ เห็นฟูจิแบบเต็มตา เราเดินไปสถานี kawaguchiko เพื่อซื้ิอตั๋ว retro bus แต่เห็นป้ายบอกสามารถซื้อได้บนรถ ราคา 1000 เยน สามารถนั่งได้ทั้งวัน ไม่จำกัดเที่ยว เลยไปต่อแถวขึ้นรถเที่ยวรอบทะเลสาบ รถออกไปประมาณป้ายที่ 5 เริ่มเห็นวิวสวย ๆ ใบไม้เปลี่ยนสีทั้งเมือง

บ้านญี่ปุ่น ตกแต่งด้วยไม้ประดับดูเรียบง่ายแต่สวยงาม

ที่นี่ก็ใบไม้เปลี่ยนสีเกือบทั้งเมือง

สีสันสวยมากๆทุกที่เลย เรานั่งไปถึงป้ายสุดท้าย เห็นฟูจิแบบเต็ม ๆ อากาศหนาวมาก แต่วิวก็สวยมาก เลยต้องทน ที่เมืองนี้มีคนไทยมาเที่ยวเยอะมาก เรียกได้ว่าไปไหนได้ยินแต่เสียงภาษาไทย จนนึกว่าอยู่ในประเทศไทย.

ภูเขาไฟฟูจิ

เราเดินออกนอกเส้นทางรถบัสไปเที่ยวตามแผนที่ เป็นอุโมงใบไม้เปลี่ยนสี และที่สำคัญได้เห็นฟูจิท่ามกลางใบไม้สีแดงเหลืองสดๆเลย. สังเกตว่าจุดชมวิวตรงนี้จะไม่มีคนไทยมาเลย เพราะไม่ใช่เส้นทางผ่านของรถบัส ถ้าจะมาต้องเดินประมาณ 3 กม คนที่มาเที่ยวจุดนี้เป็นญี่ปุ่นที่ขับรถมาแล้วจอดชมวิวเท่านั้น

มุมสวยตรง Autumn leave tunnel

ทัวร์ไปไม่ถึง ต้องเดินไป

ภูเขาไฟฟูจิ มุมจาก autumn leave tunnel

เราใช้เวลาเดินเที่ยวรอบทะเลสาบตั้งแต่ 10 โมง ถึง 4 โมงเย็น เดินไปถ่ายรูปไป มองตรงไหนก็สวยไปหมด ช่วงนี้เค้ามีงานเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีด้วย มีขายของเหมือตลาดนัดบ้านเรา มีจุดชมใบไม้เปลียนสี คนญี่ปุ่นนิยมมาก มากันเยอะแยะเลย ตอนแรกเราก็อยากอยู่ดูตอนเปิดไฟกลางคืน แต่อากาศก็หนาวซะจนทนไม่ไหว อีกอย่าง รถบัสหมด 5 โมงเย็นด้วย ฟูจิก็หายเข้ากลีบเมฆไปตั้งแต่ 3 โมงเย็นแล้ว. เราเลยนั่งรถกลับที่พักโดยลงป้าย supermarket ซื้ออาหารเย็น แล้วเลยซื้อชอคโกแลต ที่ซื้อกินจาก nikko แล้วว่าอร่อยดี เป็นของฝาก ได้มา 15 ห่อ แล้วเดินกลับที่พัก