มีนาคม 2551

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
คนกวาดใบไม้บนสันดอย
คนกวาดใบไม้บนสันดอย



การที่ต้องลำบากเดินลัดเลาะไปตามร่องเขา ไต่ขึ้นไปบนความสูงชัน นานหลายชั่วโมง เพียงเพื่อไปกวาดใบไม้บนสันดอยสูงนั้น หลายคนอาจมองเป็นเรื่องธรรมดาไม่สำคัญ แต่สำหรับผมกลับมองว่า นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่และไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

ที่นั่น, บนสันดอยสูง...พวกเขาช่วยกันกวาดใบไม้ ก่อนที่จะจุดไฟเผา ซึ่งไม่ได้ไปคนเดียว แต่ไปร่วมกันหมดทุกหลังคาบ้าน มีทั้งผู้เฒ่า เด็กเยาวชน ผู้ใหญ่ ผู้นำทางศาสนา ฯลฯ

“ตอนนี้ถ้าทางการเขาสั่งห้ามเผาป่า จะทำได้มั้ย?...” ผมลองแหย่ถามชาวบ้าน

“แล้วถ้าเขาสั่งห้ามกินข้าว เราจะทำได้มั้ย...ถ้าเชื่อ เราก็ไม่ได้กินข้าว ไม่ได้กินอะไรเลย...”

ชาวบ้านชนเผ่าลาหู่คนหนึ่งเอ่ยออกมา ในขณะที่กำลังช่วยกันกวาดใบไม้บนสันดอย ก่อนจุดไฟเผาเศษไม้ใบหญ้าเพื่อทำเป็นช่องว่าง ทำแนวกันไฟ

ใช่, การเผาป่า หลายคนบอกว่ามันผิด และอาจจะถูกจับกุมได้ เพราะมีมาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด แต่การเผาของชาวบ้านที่นี่ เขาเรียกกันว่า ‘การชิงเผา’ ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งในการจัดการไฟป่าด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่อยู่ในเขตป่าชุมชน ป่าที่ให้ชีวิตแก่พวกเขา มีตาน้ำที่ค่อยๆ หยาดหยด โดยผ่านขุนห้วยเคี้ยวคดรดรินไหลลงมาหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวบ้านแถบนี้ ดังนั้นเขาก็ต้องรักษาด้วยชีวิตไว้ด้วยเช่นเดียวกัน

ผู้นำชนเผ่าลาหู่เล่าให้ฟังว่า เรามีการพูดคุยกันทุกปี ทั้งเด็กเยาวชน ผู้ใหญ่ คนเฒ่าคนแก่ จะมีการช่วยกันสอดส่องดูแล และทุกปีจะมีการทบทวนกฎระเบียบที่ตั้งไว้ ทุกคนมีหน้าที่ มีสิทธิในการดูแลรักษาป่า ไม่ได้เป็นหน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง ถ้ามีเหตุการณ์อะไรให้แจ้งคณะกรรมการหมู่บ้าน เราทำกันเองไม่มีงบประมาณอะไร เราจะใช้วิธีชิงเผาก่อน

“ทำอย่างไรหรือ ชิงเผาก่อน...” ผมถาม

“ก็ช่วยกันกวาดใบไม้ที่หล่นลงมารวมกันตรงกลาง ก่อนที่จะจุดไฟเผา แต่ถ้าเรากองไว้ข้างๆ มันจะกองใหญ่ ถ้าไฟมา จะลุกไหม้และจะลามลุกข้ามไปได้ เราจึงใช้วิธีนี้มานานแล้ว”ผู้นำชนเผ่า บอกเล่าให้ฟัง




ทำให้ผมนึกไปถึงมติการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำวันที่ 8 มกราคม 2551 การเตรียมการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ปี 2551 (สมัยรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์) อีกครั้งหนึ่ง...

ในมติ ครม.ฉบับนั้น บอกว่า ในห้วงฤดูแล้ง (เดือนพฤศจิกายน 2550 ถึงเดือนพฤษภาคม 2551) ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะพัดปกคลุมพื้นที่ของประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ปริมาณฝนตกน้อย ทำให้สภาพอากาศโดยทั่วไปมีความแห้งแล้ง และมีลมกระโชกแรง มีโอกาสที่จะเกิดไฟป่าและหมอกควันไฟได้ง่าย โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าไม้และภูเขาสูงในภาคเหนือตอนบน

การดำเนินการของกระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้แจ้งให้จังหวัดภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด (เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่และน่าน) ดำเนินการตามนโยบายของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์) ในการเตรียมการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าปี 2551 โดยให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าระดับจังหวัดและระดับอำเภอ และบูรณาการการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการและมาตรการที่จังหวัดจัดทำไว้ในห้วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2550 - เมษายน 2551 เน้นการดำเนินการทั้งมาตรการด้านการควบคุม การป้องกันและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

ดังนั้น จึงขอความร่วมมือประชาชนในการงดเว้นการเผา โดยประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆอย่างจริงจังและต่อเนื่อง หากไม่เป็นผลให้ดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะการจับกุมผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง!

ในระหว่างที่ผมกลับมาเขียนงานชิ้นนี้ ผมนั่งมองผ่านหน้าต่างออกไป เห็นไฟป่าที่กำลังลุกลามเลียอยู่เหนือดอยผาแดงทางทิศตะวันออกของหมู่บ้าน เส้นทางเดินของไฟป่า ขีดเป็นแนวคดโค้งไปมา บางแห่งมอดดับเห็นแต่แสงรำไร บางแห่งลุกโชติช่วง สว่างไสว เหมือนไม่มีวันที่จะดับมอดลง ท่ามกลางพงไพร ที่ไร้แสงจันทร์นวล

พลางให้นึกถึงครูประถม ที่เคยบอกว่า การเสียดสีของต้นไม้ ทำให้เกิดไฟป่า ซึ่งผมเชื่อในตอนนั้น และตอนนี้รัฐบาลก็บอกผมอีกว่า ชาวบ้านเป็นต้นเหตุของการทำให้เกิดปัญหาหมอกควันและไฟป่าที่ผ่านมา โดยเฉพาะพี่น้องชนเผ่า ที่รัฐเรียกขานว่า ชาวเขา เป็นผู้ทำลายป่า เป็นตัวบ่อนทำลายชาติ เป็นพวกค้ายาเสพติด และเป็นต้นเหตุของสิ่งเลวร้ายทั้งปวง ล่าสุดก็ได้รับข้อกล่าวหานี้เพิ่มขึ้นอีกแล้ว

“จะห้ามเผาในไร่ของตัวเองเป็นไปไม่ได้ เราทำแบบนี้มานานแล้ว แต่เราก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง ถ้าจะดีต้องควบคุมไม่ให้ไหม้เข้าไปในป่า หรือการนำเศษวัชพืช มาทำปุ๋ยหมัก บางพื้นที่ชาวบ้านไม่ได้เผาเลย เพราะช่วงนี้ปลูกถั่วอยู่อยู่ในไร่ แต่ถ้าคนไหนปลูกข้าวโพดเพียงอย่างเดียว ไม่ปลูกถั่ว เขาก็จะเผา เพราะหญ้าจะแรง หญ้าจะงอกมาเร็ว เมื่อไม่ได้ปลูกถั่วเนื่องจากพื้นที่ได้ถูกปล่อยไว้ให้วัชพืชจะขึ้นมาก ถ้าไม่มีการดูแล ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่เท่านั้นที่มีการเผา”

“แล้วถ้าไม่ให้ชาวบ้านเผา จะทำอย่างไรกันดีล่ะ...”

“ถ้าจะแก้ไขปัญหาไม่ให้ชาวบ้านเผาป่าช่วงนี้ ก็น่าจะส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกถั่วต่างๆ หลังจากปลูกข้าวโพด และดูแลเรื่องราคาตลาดให้ด้วย อย่างนี้ชาวบ้านจะไม่ต้องเผาไร่ เพราะการย่อยสลายของถั่วย่อยได้เร็วกว่า เราก็ไม่ต้องเผา ปลูกข้าวไร่ต่อได้เลย”

นี่เป็นความคิดของชาวบ้านเผ่าลาหู่คนหนึ่ง ที่ได้แสดงความคิดเห็น และเสนอแนวทางการแก้ไข ทางออกของปัญหาในพื้นที่ของเขา

“รัฐบาลอยากให้มีส่วนร่วมทุกภาคส่วน” นี่คงเป็นเพียงคำพูดประโยคหนึ่งเท่านั้น ถามว่าที่ผ่านมา เคยรับฟังความคิดเห็นชาวบ้านบ้างไหม เคยมาเรียนรู้วิถีชีวิตพวกเขาบ้างไหม การใช้อำนาจเพียงอย่างเดียวในการแก้ไขปัญหา ไม่ประสบความสำเร็จแน่นอนถ้าปราศจากความร่วมมือของชาวบ้าน ผมเชื่ออย่างนั้น

การแก้ปัญหาของรัฐบาลชุดนี้(สมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช) ก็คงไม่แตกต่างกันกับชุดที่มาจากการรัฐประหาร แว่วข่าวมาว่า มีการสั่งการมายังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ออกข้อบัญญัติว่าด้วยการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า และให้บังคับใช้กับชาวบ้านในพื้นที่

ซึ่งจะเห็นได้ว่า รัฐใช้อำนาจการปกครองนั้นผ่านกระทรวงมหาดไทยมาโดยตลอด แม้ว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อกระจายอำนาจให้กับท้องถิ่น แต่ความสัมพันธ์ระหว่างกระทรวงมหาดไทยและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยังคงดำเนินมาในรูปแบบที่รัฐมีอำนาจในการควบคุมดูแลการพัฒนาการเมืองไทยในทิศทางที่เป็นประชาธิปไตย และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองเกิดขึ้นในระดับชาติ เท่านั้น แต่ในระดับท้องถิ่นแทบไม่มีการพัฒนาในทิศทางดังกล่าวเลย

ตอนนี้ผมไม่เชื่อทั้งครู และรัฐบาล ที่คอยพร่ำบอกไว้ อย่างนั้นอย่างนี้อีกแล้ว ตราบใดที่เราไม่ได้มาสัมผัสกับความเป็นจริง อยู่กับความเป็นไป และในสังคมที่ไร้ความชอบธรรมเยี่ยงนี้ ผมเลือกที่จะเชื่อตัวผมเองและผมเชื่อในความเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน หลังจากที่ได้มาสัมผัสกับพี่น้องชาวบ้าน

“เราเป็นคนดอย อยู่ในดอย หากินในดอย จะให้ไปอยู่ในเมือง เราก็อยู่ไม่ได้ คนในเมือง มาอยู่ในดอยก็อยู่ไม่ได้ เรามีวิถีที่แตกต่างกัน แต่ก็อยากให้ลงมาสัมผัสกับวิถีชีวิตของเรา ว่าเป็นอย่างไร…” ผู้นำชนเผ่าลาหู่ เอ่ยออกมาในวันนั้น ในวันที่พี่น้องชนเผ่าช่วยกันกวาดใบไม้บนสันดอย...

ผมยังนั่งนิ่งมองไฟป่า ริมหน้าต่างบ้านสวนบนเนินเขา แสงไฟเริ่มมอดดับลง เห็นเพียงแค่จุดเล็กๆของถ่านไฟที่ยังมีเชื้อไฟติดอยู่ พระจันทร์ครึ่งดวง เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้าเหนือดอยผาแดง แสงของพระจันทร์ยังเปล่งแสงได้ไม่เต็มที่ หากยังมองเห็นเมฆลอยคว้างอยู่บนฟ้า ทำนึกถึงภาพในอดีตอีกครั้ง…

...เมื่อก่อนก็มีไฟป่า ชาวบ้านก็เผาป่า เผามากกว่าเดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำ ไม่เห็นจะเดือนร้อนเหมือนกับตอนนี้เลย ไม่เคยมีปัญหาเรื่องหมอกควัน แล้วสาเหตุที่แท้จริงมันเกิดจากอะไรหนอ....???





Create Date : 20 มีนาคม 2551
Last Update : 25 มีนาคม 2551 9:53:42 น.
Counter : 1509 Pageviews.

21 comments
  
หวัดดีตอนสายๆเน้อ
โดย: *ลิงน้อย* IP: 124.157.165.207 วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:10:57:34 น.
  
โดย: *ลิงน้อย* IP: 124.157.165.207 วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:11:24:08 น.
  
อยากทำงานเหมือนคุณดอกเสี้ยวจัง
ชีวิตคงมีความสุขน่าดู
ธรรมชาติมักให้ความจริง
มนุษย์มักตรงข้าม
คิดถึงนะค่ะ
โดย: มุกสีทอง วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:12:28:13 น.
  
คุณมุกสีทอง ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหรืออย่างเดียวกัน ..
ทุกคนทำได้ เพียงมีใจมากพอ..
ทำได้อาจมากกว่าหรือเท่ากับที่คนคนนึงทำ...เริ่มจากสิ่งที่ใกล้ตัวสิคุณมุกสีทองเจ้าขา..

หวัดดีค่ะ คุณดอกเสี้ยวขาว คนดี (แต่ไม่ใช่ของฉัน ฮาๆๆๆ)
โมกเชื่อว่าคุณเป็นคนดี อาจไม่ใช่ของทุกคน แต่อย่างน้อยดีทุกครั้งที่สัมผัส
จากเรื่องราว และกิจกรรม สิ่งแวดล้อมของคุณ และทำให้ชื่นชม คนที่คิดดีมีเยอะ แต่กล้าลงมือทำมีกี่คนกัน
โมกเองก็คิดดี แต่บางทีขาดการปฏิบัติที่มุ่งมั่นเช่นคุณ ขาดความกล้าหาญ..
ซึ่งต้องฝึกกันนาน อาจตลอดลมหายใจของใครหลายคน...หรือของโมกเอง

ยังอยากพูดคำนี้เสมอ "ชื่นชมค่ะ"
ขอบคุณมิตรภาพค่ะ

โดย: โมกสีเงิน วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:14:36:32 น.
  
ชาวบ้านมีวิธีจัดการดูแลป่าของพวกเขาดีอยู่แล้ว

ข้าเจ้ามองว่าการเผาป่าของช้าวบ้านนั้นเป็นการกระทำที่ถูกต้อง
ฝุ่นควันในตัวเมืองเจียงใหม่มิใช่เกิดจากการเผาป่าอย่างที่ภาครัฐห้าม

แต่รัฐก็อย่างนี้ล่ะค่ะดอกเสี้ยวขาว รู้สึกว่าอะไรที่เป็นการกระทำของชาวเขา มักจะผิดไปหมดในสายตาของภาครัฐ

ลองให้ฝรั่งมาบอกว่าการเผาป่าถูกสิคะ ข้าเจ้าเชื่อเหลือเกินว่ารัฐก็จะมองว่ามันถูกตาม


อ่า...รู้สึกวันนี้ข้าเจ้าจะใส่อารมณ์มากไปหน่อย
เอิ๊กกกกกกกกกกกก


ด้วยมิตรภาพ
โดย: เพลงเอย IP: 125.26.106.76 วันที่: 26 มีนาคม 2551 เวลา:0:12:02 น.
  
... คิดถึงจัง...
ธรรมชาติสมดุล...บางครั้งอาจจะต้องให้สิ่งที่มีชีวิตบนโลกใบเล็กนี้ไปช่วยให้เกิดวัฏจักรมากขึ้น...
บางครั้งธรรมชาติเองที่จะต้องสูญเสียธรรมชาติโดยธรรมชาติ...
ด้วยมิตรภาพค่ะ
โดย: ใบเลี้ยงเดี่ยว วันที่: 27 มีนาคม 2551 เวลา:9:31:09 น.
  
โดย: *ลิงน้อย* IP: 124.157.157.234 วันที่: 27 มีนาคม 2551 เวลา:10:27:11 น.
  
สวัสดีตอนเย็นค่ะ

เป็นกำลังใจให้ในวิถีชีวิตของชาวบ้านค่า
โดย: เบญจวรรณ (lukkongpoka ) วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:18:56:21 น.
  
สาเหตุที่เเท้จริงมันก็เกิดจาก

มนุษย์
ที่มักง่าย ที่เห็นแก่ตัว ที่.....งัย

...........

รัฐฯแก้ปัญหาจราจร ในกรุงเทพยังไม่ได้เลย

เพราะอะไรรู้ป่ะ....

เค้าไม่เคยขับรถแล้วเจอรถติดเองจริงๆ...
ไม่ได้มาสัมผัสปัญหาจริงๆ
ที่สำคัญ มันไม่ได้ทำให้พวกเค้าเดือดร้อน...

..............

ตัวเราเองที่รู้ทุกอย่างดี เพราะมันคือเรื่องของเรา


เห็นด้วยกับคุณโมกนะ....
"จากเรื่องราว และกิจกรรม สิ่งแวดล้อมของคุณ และทำให้ชื่นชม คนที่คิดดีมีเยอะ แต่กล้าลงมือทำมีกี่คนกัน"

ขอบคุณที่รู้จักกัน
โดย: ช่อชบา IP: 58.9.98.81 วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:21:24:06 น.
  
"การแก้ปัญหาของรัฐบาลชุดนี้(สมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช) ก็คงไม่แตกต่างกันกับชุดที่มาจากการรัฐประหาร แว่วข่าวมาว่า มีการสั่งการมายังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ออกข้อบัญญัติว่าด้วยการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า และให้บังคับใช้กับชาวบ้านในพื้นที่ว่าห้ามเผาป่า"

(แบบนี้เค้าเรียกว่าการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุงัยไม่ใช้แก้ที่ต้นเหตุ)แล้วต้นเหตุมันอยู่ที่ตรงไหนมันเยอะมากจนไม่รู้เลยแล้วใครที่จะช่วยเราได้????ถ้ายังเป็นแบบนี้)
โดย: *ลิงน้อย* IP: 124.157.156.81 วันที่: 30 มีนาคม 2551 เวลา:14:49:24 น.
  
วันนี้ที่เชียงดาวฝนตก หวังว่าฝนที่ฉ่ำเย็นใจคงจะช่วยผ่อนเบาหมอกควันให้จางหายได้บางเน้อ.....เราจะได้มีอากาศที่สดชื่นกลับมาอีกครั้ง
โดย: *ลิงน้อย* IP: 124.157.156.81 วันที่: 30 มีนาคม 2551 เวลา:14:56:19 น.
  
ลิงน้อย

เมื่อคืนที่ทุ่งเสี้ยวก็โปรยปรอยลงมาเหมือนกัน แต่น้อยนิด ช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่ช่วยลดความร้อนได้บ้าง
โดย: แพรจารุ IP: 117.47.120.72 วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:7:52:57 น.
  
สวัสดดีครับทุกคน

ผมพื่งกลับมาจากโคราช
ท่ามกลางความร้อนแล้งแห่งแดนอิสาน
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยือนกันครับ
ที่มาพร้อมกับความห่วใยที่มีให้กัน
เป็นเหมือนดั่งน้ำที่ชะโลมจิตใจให้แก่กัน

ด้วยมิตภาพครับ
โดย: ดอกเสี้ยวขาว วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:13:12:28 น.
  
มาอ่านเจ้า...บ่ฮู้ว่าจะจัดก๋ารอย่างใดตี้จะหื้อก๋ารอนุรักษ์ธรรมชาติเป็นไปอย่างสอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบเก่า ๆ ที่เปิ้นทำต๋าม ๆ กั๋นมาเจ้นปู่ย่าต๋ายายเนาะ...

บ่าต้องว่าชนเผ่าเจ้า...ชนพื้นบ้านบนพื้นราบนี้ก็ยังมีอีกนักตี้จะต้องปรับตั๋วปรับใจ๋...
โดย: แม่ไก่ วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:14:31:25 น.
  
เอาใจช่วย ปี้น้อง
พัฒนาเพื่อบ้านเมืองเฮา
โดย: kuakul วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:16:28:10 น.
  
มาเยี่ยมคุณดอกเสี้ยวสีขาวตามสัญญายังได้มาปะหน้าคุณแม่ไก่และคุณ KuaKul ด้วย สวัสดีครับ

นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีใครทำอาชีพที่มีประโยชน์และคุณค่ามากเช่นนี้ ชื่นชมมากและฝากไปชื่นชมและให้กำลังใจเพื่อนๆร่วมอุดมการณ์ด้วยครับ

แล้วจะมาคุยด้วยใหม่ครับ
โดย: หนูหล่อ IP: 124.120.224.164 วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:19:43:31 น.
  
มาช่วยดับไฟป่า ดับด้วยน้ำใจ
ให้ป่าต้นไม้ที่ฉันรักยังคงอยู่ อย่างถาวรค่ะ
ขอบคุณมิตรภาพค่ะ
โดย: โมกสีเงิน วันที่: 1 เมษายน 2551 เวลา:9:35:30 น.
  
ชิงเผาก่อน..ฮืมมภูมิปัญญาชาวบ้านนี่ชวนทึ่งนะคะ น่าอิจฉาคุณดอกเสี้ยวขาวจัง ได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองรัก..งานที่ได้สัมผัสกับจิตใจของมนุษย์ ผสานกับแก่นของ
ธรรมชาติ ไม่ต้องสวมหน้ากาก...ไม่ต้องแย่งกิน แย่งใช้ เหมือนคนเมืองกรุง..ยินดีที่ได้รู้จักคนรักษ์ป่าอีกคนค่ะ
โดย: กลีบดอกโมก วันที่: 1 เมษายน 2551 เวลา:18:37:26 น.
  
แวะมาเยี่ยมคนรัก และรักษ์ป่า

มาช่วยกวาดใบไม้บนสันดอย มาช่วยปกป้องป่าผืนนี้ ด้วยหัวใจเน้อ..
โดย: โมกสีเงิน วันที่: 3 เมษายน 2551 เวลา:10:23:39 น.
  
วันนี้ที่แสอดฝนตกหนักตากผ้าผ้าก็ไม่แห้งขับรถไปข้างนอกก็เปลือกเซง
โดย: คนแม่สอด IP: 118.172.211.170 วันที่: 2 มิถุนายน 2552 เวลา:18:58:59 น.
  
เด๋วนี้คนชอบตัดไม้ทำรายป้าสัตว์ไม่มีที่อยู่เเล้วนะรู้บ้างไหมจะตัดกันไปทำไมไม่รู้ว่าตัดไปไว้บนหลังคาบ้านไงครับ
ชอบตัดไม้กันจิงคนไทยนี้นิสัยไม่ดีเลย
วันก่อนก็เห็นมีคนตัดไปแล้วแล้วก็โทรไปที่ศูนย์ป้าไม้ก็ไม่มีใครรับเลยต้องโทรหาตำรวจถึงจะมาจับคนได้ตำรวจมาก
ควรดูแลป้าไม้ให้มากที่สุด
โดย: คนรักป้าไม้ IP: 118.172.211.170 วันที่: 2 มิถุนายน 2552 เวลา:19:04:44 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอกเสี้ยวขาว
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



.....ร้อยพันคำ แฝงฝัง.....

.....อยู่ในความเงียบ.....

.....บนหน้าผา ผาสูงชัน.....

.....ใต้แสงตะวัน.....

.....มีเงาตะวัน.....

.....ความฝันของเธอ ....

.....เหมือนใจของเธอ.....

.......................................................
เพลงดอกเสี้ยวบนไหล่ดอยหลวงเชียงดาว
โดย คุณสุวิชานนท์ รัตนภิมล
อัลบั้มเพลงรักเชียงดาว
โค๊ดเพลง โดย คุณแพรจารุ