โบรกแนะเก็งกำไร 13 หุ้นแกร่ง ดัชนีแกว่งแคบ ขยับP/Eขึ้น 12 เท่า หากหนี้ยุโรปคุมได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.45 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 30.71 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับตัวอยู่ในแดนบวกและลบหลังการเจรจาหนี้กรีซยังคงยืดเยื้อต่อไป และวานนี้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นแรง นักวิเคราะห์คาดดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มพักตัวเพื่อรอความคืบหน้าของการเจรจาหนี้กรีซ เก็งกำไร 13 หุ้นแกร่ง ได้แก่ BWG, SCB, MINT, ADVANC, PTT, PTTEP, IVL, BANPU, STA, PS, LPN, STEC และ AMATA



บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้ : พักตัวระหว่างรอความคืบหน้าปัจจัย

คาดตลาดวันนี้จะมีพักตัวบ้างหลังการพุ่งแรงวานนี้ ขณะที่ปัจจัยเรื่องกรีซที่หลายฝ่ายจับตาและใช้เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ผลักดันการลงทุนมาตลอดช่วงที่ผ่านมายังไม่อาจได้ข้อสรุป ซึ่งความยืดเยื้ออาจนำไปสู่ทางตัน และการขายทำกำไรหลังข่าวออกได้มากขึ้น ส่วนปัจจัยเรื่องการชะลอกระบวนการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแบงก์เพิ่มเพื่อแก้หนี้ FIDF เพื่อรอการพิจารณาของศาล รธน. จะช่วยหนุน sentiment การลงทุนในระยะสั้น แม้ยังคงเป็น Overhang ของกลุ่มต่อไปก็ตาม อีกทั้ง Fund flow ต่างชาติที่เข้ามาในปริมาณมากจะช่วยประคองให้การอ่อนตัวแบบเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีแนวรับแถว 1107 จุด

กลยุทธ์การลงทุน : การเก็งกำไรระยะสั้น ยังเน้นแบบ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” ต่อไป แต่หากปัจจัยเปลี่ยนและดัชนีปิดหลุด 1100 จุด ลงมา ให้ถอยก่อน

แนวต้าน : 1122-1130 แนวรับ: 1107-1100

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50% : เงินสด 50%

ถือต่อในพอร์ต : BWG, SCB, MINT, ADVANC

หุ้นที่ปรับออก : PTTGC

บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ตลาดขยับขึ้นแรงยิ่งน่าขายทำกำไรก่อน เพื่อหาจังหวะรับใหม่เมื่อปรับลง!!

แนวโน้ม ตลาดหุ้นของหลายประเทศเริ่มแกว่งตัวผันผวนและมีจังหวะแกว่งลบให้เห็นอีกครั้ง หลังผลการหารือเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือกรีซรอบสองยังยืดเยื้อ เนื่องจากกรีซยังคงไม่ตัดสินใจที่จะยอมรับการปฎิรูปที่เข้มงวดเพื่อแลกกับการช่วยเหลือ ขณะที่มีข่าวว่า ECB ก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการเข้าร่วมในการปรับโครงสร้างหนี้กรีซ ส่งผลให้โอกาสในการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซในเดือน มี.ค. กลับมากดดันความมั่นใจของนักลงทุนอีกครั้ง ดังนั้นแม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะยังมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ แต่การขยับขึ้นมาค่อนข้างมากแล้วของหุ้นหลายตัว ทำให้ SET ไม่ได้อยู่ในระดับถูกจนน่าจูงใจมากนัก ดังนั้น FSS คาดว่า SET จะยังมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนเป็นระยะๆ อยู่ โดยดัชนียังมีโอกาสที่จะปรับพักตัวย้อนลงไปแถว 1100 จุดหรือหลุดต่ำกว่าได้

วานนี้ Fund Flow ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่มากขึ้นต่อเนื่อง โดยยังเข้าซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย เกาหลีใต้และไต้หวันต่อเนื่อง แต่ขายสุทธิตลาดหุ้นอินโดนีเชียและฟิลิปปินส์ รูปแบบเดียวกันกับช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เหตุผลหลักที่ Fund Flow ไหลเข้าเฉพาะ 3 ตลาดดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง น่าจะเป็นเพราะทั้ง 3 ตลาดปรับตัวขึ้นไม่มากเทียบกับอินโดนีเชียและฟิลิปปินส์ หรือยังมี PE ที่ต่ำกว่า ดังนั้นจึงทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้ามาสู่ตลาดดังกล่าวมากขึ้นเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับตลาดไม่มีปัจจัยลบใหม่มากระทบ ค่าเงินภูมิภาคก็แข็งค่าต่อเนื่อง แนวโน้ม Fund Flow น่าจะยังคงไหลเข้าต่อเนื่อง แต่ปริมาณอาจจะเท่าเดิมหรือลดลง

กลยุทธ์: ดังนั้นเราจึงยังแนะนำเพียงเทรดดิ้งสั้นๆ ตามรอบเช่นเดิม โดยเน้นขายทำกำไรเมื่อตลาดบวก และรอหาจังหวะซื้อเฉพาะช่วงตลาดลบจะปลอดภัยกว่า โดยหุ้นที่น่าสนใจยังเน้นกลุ่ม Domestic Play เป็นหลัก

KGI ประเมินหุ้นไทยวันพฤหัสฯ ยังแกว่งขึ้น เปิดมาจะย่อบ้างหลังเมื่อวานวิ่งแรงแต่เชื่อว่าต่างชาติยังซื้อหนุน สำหรับประเด็นของกรีซนั้น จนแล้วจนรอดก็ยังมีการเลื่อนออกไปอีก โดยผู้นำพรรคการเมืองของกรีซกล่าวเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ว่าสามารถตกลงเงื่อนไขหลักๆ กับเจ้าหนี้ 3 ฝ่ายแล้ว เช่นการลดค่าจ้างแรงงาน 22% และการขึ้นภาษี แต่ยังเหลืออีกเรื่องคือระบบการจ่ายเงินบำนาญซึ่งถือว่าสำคัญเช่นกัน ทั้งนี้ในเย็นวันนี้ รมว.คลังกลุ่มยุโรปจะมีประชุมนัดพิเศษกับ IMF ซึ่งคาดว่าจะสรุปเงินช่วยเหลือ 1.3 แสนล้านยูโรให้เสร็จ ก่อนที่จะไปสรุปเรื่องของการลดหนี้ แลกเปลี่ยนพันธบัตร และมาตรการเพิ่มทุนธนาคารในช่วงต้นสัปดาห์หน้า สำหรับฝั่งสหรัฐฯ ไม่มีข้อมูลเศรษฐกิจใดๆ รายงาน แต่มีตัวเลขสำรองน้ำมันรายสัปดาห์ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด และเมื่อผนวกกับอากาศหนาวในยุโรป ก็ยังหนุนให้ตลาดน้ำมันตึงตัวต่อไปและส่งผลดีต่อจิตวิทยาหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์โดยรวม

สำหรับเป้าหมายดัชนีฯ นั้น ตลาดหุ้นขึ้นมาเร็วกว่าที่เราคาดมาก และเข้าใกล้เป้าหมายปี 2555 ที่ 1,146 จุด (ค่า PE ปี 2555 ที่ 11 เท่า) แล้ว เราคิดว่าตลาดหุ้นจะชะลอลงในสัปดาห์หน้าหลังจากกรีซประกาศข่าวออกมาหมดแล้ว ส่วนความเป็นไปได้ในการปรับประมาณการเป้าหมายดัชนีฯ นั้น หากสถานการณ์ในกรีซและยุโรปอยู่ในการควบคุมและแนวโน้มจะดีขึ้นในครึ่งปีหลัง ตลาดหุ้นสามารถขึ้นไปซื้อขายที่ PE 12 เท่า (จากเดิมที่มองที่ 11 เท่า) ซึ่งในกรณีดังกล่าวเป้าหมายจะอยู่ที่ 1,250 จุด ซึ่งขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าจะเป็นกรณีไหน เราจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง

กลยุทธ์: แนะถือพอร์ตหลัก (PTT, PTTEP, IVL) ที่เหลืออยู่ 50% ต่อไปเพื่อรอจังหวะขาย ส่วนการซื้อเพิ่มแนะนำหุ้น 6 ตัวเดิมได้แก่ BANPU*, STA*, PS*, LPN, STEC และ AMATA

Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2555		0 comments
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2555 12:05:40 น.
Counter : 628 Pageviews.
Share Tweet