Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
14 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
โบรกแนะเก็งกำไร 12 บจ.พื้นฐานแกร่ง ดัชนีหุ้นไทยผันผวน ปัจจัยภายใน-นอกปท.รุมเร้า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 9.48 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 30.86 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ด้านตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนลบ หลัง S&P ได้ปรับลดความน่าเชื่อถือของสเปนลงอีก 1 ขั้น สู่ AA- และธ.กลางยุโรป เตือนว่าแผนการที่จะให้ภาคเอกชนช่วยแบกรับภาระความเสียหายจากการถือพันธบัตรรัฐบาลของประเทศที่มีปัญหานั้นอาจนำไปสู่วิกฤตความน่าเชื่อถือของยูโร ขณะที่ตัวเลขการค้าของจีนค่อนข้างอ่อนแอ โบรกเกอร์คาดดัชนีหุ้นไทยวันนี้ยังคงผันผวนทางลง ปัญหาทั้งในและนอกประเทศกดดัน แต่นักลงทุนต่างชาติยังคงทยอยเก็บหุ้นต่อเนื่อง เก็งกำไร 12 หุ้นพื้นฐานแกร่ง ได้แก่ BGH, CPF,BIGC, CPALL, MAKRO, HMPRO, KH, KBS, KSL, PTT, BANPU และ TOP



บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ กลยุทธ์การลงทุน: เน้นข้างทยอยขายช่วงดีดตัว แนวโน้มตลาดวันนี้: ผันผวนท่ามกลางความเสี่ยงทางลง มอง SETI วันนี้จะมีความผันผวนท่ามกลางความเสี่ยงทางลงต่อไป โดยนักลงทุนยังจับตาสถานการณ์น้ำท่วมต่อไปอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์ที่คาดจะเคลื่อนตัวเข้ามายังกรุงเทพฯ ขณะที่ปัจจัยภายนอกยังอิงทางลงจากความกังวลในภาพใหญ่ต่อการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของโลก ล่าสุดข้อมูลการค้าที่อ่อนแอของจีนได้สร้างความวิตกเพิ่มเติมให้นักลงทุนจากปัญหาหนี้ของยุโรปและเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีอยู่เดิม ทั้งนี้ปัจจัยบวกเดียวที่จะช่วยประคองตลาดอาจเป็นแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่กลับเข้ามาวานนี้กว่า 3 พันล้านบาท น่าจะสร้างความผันผวนของดัชนีในระหว่างทางได้

กลยุทธ์การลงทุน: ระยะสั้นควรถือเงินสดให้มาก โดยจำกัดพอร์ตการเก็งกำไรระยะสั้นไม่เกิน 25% และเน้นการทยอยขายในช่วงดีดตัว แนวต้าน: 950-960 แนวรับ: 925-900

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 25% : เงินสด 75%

ถือต่อในพอร์ต : BGH

หุ้นที่ปรับออก : IVL, BIGC, DCC

หุ้นที่ปรับเข้า :1. CPF เก็งกำไร FV ปี 55 = 34.25 บาท กลุ่มอาหารรับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อยกว่ากลุ่มอื่น+งบฯ 3Q ดีต่อเนื่อง

KGI ประเมินหุ้นไทยวันศุกร์แกว่งผันผวน ทั้งบวก/ลบ ความกังวลต่อหนี้สินยุโรปกลับมาเพิ่มขึ้นหลังจาก ธ.กลางยุโรป (ECB) เตือนว่าแผนการที่จะให้ภาคเอกชนช่วยแบกรับภาระความเสียหายจากการถือพันธบัตรรัฐบาลของประเทศที่มีปัญหา (Private Sector Involvement: PSI) นั้นอาจนำไปสู่วิกฤตความน่าเชื่อถือของยูโร นอกจากนี้เมื่อเช้ามืด S&P ได้ปรับลดความน่าเชื่อถือของสเปนลงอีก 1 ขั้น สู่ AA-ซึ่งน่าจะเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ สำหรับปัจจัยฝั่งสหรัฐฯ ค่อนข้างมีเสถียรภาพ โดยยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์อยู่ที่ 4.01 แสนตำแหน่ง ซึ่งถือว่าปานกลางและจะไม่มีนัยสำคัญต่อการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ในวันนี้ นักลงทุนควรติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ย. ของจีน ซึ่งตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 6.1% เทียบกับ 6.2% ในเดือน ส.ค. ทั้งนี้หากตัวเลขเงินเฟ้อชะลอ อาจส่งผลให้จีนคุมเข้มการเงินน้อยลง หลังจากเริ่มมีสัญญาณชะลอของเศรษฐกิจ เมื่อวานนี้ยอดส่งออกของจีนเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 17.1% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 20.1% พอสมควร ส่วนในสัปดาห์หน้า ประเด็นในประเทศที่สำคัญได้แก่สถานการณ์น้ำท่วม และผลกระทบต่อการตัดสินใจนโยบายการเงิน ธปท. ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 19 ต.ค. โดยนักเศรษฐศาสตร์ของ KGI มองว่า ธปท. จะลดดอกเบี้ยเพื่อพยุงเศรษฐกิจจากปัญหาน้ำท่วม

กลยุทธ์: พอร์ตเทรดดิ้ง จากเมื่อวานที่แนะนำขายไปส่วนหนึ่ง ในวันนี้ให้ถือพอร์ตที่เหลือ หรือใช้วิธีลงซื้อ-ขึ้นขาย ส่วนพอร์ตลงทุนแนะให้รอดูข่าวสารยุโรปต่อในสัปดาห์หน้า ได้แก่พัฒนาการของแผนเพิ่มทุนแบงก์ยุโรป และการลดหนี้หรือให้ภาคเอกชนเข้าร่วมรับภาระ ซึ่งจะเป็นประเด็นสำคัญในระยะถัดไป

บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แม้สโลวาเกียจะอนุมัติขยายกองทุน EFSF แล้ว แต่การปรับลดเครดิตสเปนและธนาคารในยุโรปและอาจลามไปถึงธนาคารในสหรัฐที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน อาจส่งผลกดดันตลาดในระยะสั้น โดยเราคาดว่าความเสี่ยงจากฝั่งยุโรปที่เพิ่มขึ้น รวมถึงภัยน้ำท่วมในประเทศที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น อาจทำให้นักลงทุนมีเทขายทำกำไรออกมาในระยะสั้นเพื่อรอดูสถานการณ์อย่างไรก็ตามเรายังเชื่อว่าระยะต่อไปตลาดจะมีการเก็งกำไรเรื่องผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทยไตรมาส 3 ที่คาดว่าจะออกมาดี การชะลอตัวลงของเงินเฟ้อจีน (เดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 6.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงจากเพิ่มขึ้น 6.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน) และแนวทางการจัดการหนี้ยุโรปที่มีพัฒนาการขึ้น แต่เรายังมีความกังวลว่าหลังยุโรปประกาศแผนแก้หนี้

ยุโรปในช่วงปลายเดือนนี้แล้ว อาจมีการขายทำกำไรเมื่อข่าวดีออกมา อย่างไรก็ตามความเสี่ยงต่อคำแนะนำของเราคือภายในกลางเดือนหน้ายุโรปไม่มีแผนจัดการวิกฤติอย่างเด็ดขาด downside risk มีโอกาสที่จะปรับลดลงได้ถึง 730 จุด

กลยุทธ์การลงทุน: สำหรับนักลงทุนที่สะสมหุ้นตามคำแนะนำก่อนหน้านี้ หากเริ่มมีกำไรแนะนำให้ทยอยลดพอร์ต (เมื่อ SET หลุด 932) ออกไปก่อน เนื่องจากความเสี่ยงจากยุโรปที่ยังคงมีอยู่และยากแก่การคาดการณ์ แม้เรายังเชื่อว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นเดือนนี้ก็ตาม แต่สำหรับท่านที่มีต้นทุนสูงและยังไม่ได้กำไร แนะนำให้ถือต่อไปโดยอาจทำ Hedging ด้วยการเปิด Short Futures ประกอบด้วย ส่วนการเก็งกำไรช่วงนี้จากตลาดที่ดูดีขึ้นให้เน้นไปที่กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับลดลงมามากเช่น BANPU PTT STA TOP KSL เป็นต้น เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่าลง ประกอบกับไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ขณะที่การเก็งกำไรประเด็นน้ำท่วม เราแนะนำให้ลงทุนในกลุ่มที่ได้ประโยชน์หรือได้รับผลกระทบน้อย เช่น BIGC CPALL MAKRO HMPRO KH KBS KSL PTT BANPU TOP SAT

ที่มา //www.kaohoon.com


Create Date : 14 ตุลาคม 2554
Last Update : 14 ตุลาคม 2554 12:11:57 น. 0 comments
Counter : 510 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

NEWSU_CHADA
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add NEWSU_CHADA's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.