โบรกแนะเก็งกำไร 12 หุ้นอนาคตรุ่งดัชนีมีแนวโน้มไปต่อ เน้นกลุ่มถ่านหิน สินค้าเกษตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเช้านี้ ณ เวลา 9.46 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 30.89 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนบวกตามตลาดต่างประเทศ นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น แต่เน้นเก็งกำไรแบบ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” เก็งกำไร 12 หุ้นเด่น ได้แก่ BWG, SCB, PTTGC, MINT, BANPU, STA, KSL, AMATA, STEC, LPN, PS และ SAT

กลยุทธ์การลงทุน : เน้นเก็งกำไรแบบ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” แนวต้าน : 1102-1110 แนวรับ : 1094-1087

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50% : เงินสด 50%

ถือต่อในพอร์ต : BWG, SCB, PTTGC

หุ้นที่ปรับออก : AIT, SCCC

หุ้นที่ปรับเข้า : MINT คาดผลประกอบการ 4Q54 ดีกว่าที่เคยคาด ราคาพื้นฐาน16.10 บาท กรอบเทรดระยะสั้น มองต้าน 12.80-13.00 รับ11.70-11.50 Cut loss 11.20 บาท

KGI คาดว่าตลาดหุ้นไทยวันจันทร์จะเปิดบวกไม่เกิน 1% ตามความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอีกหลังจากตัวเลขภาคแรงงานและภาคบริการเดือน ม.ค. ดีกว่าที่ตลาดคาดค่อนข้างมาก โดยนายจ้างเพิ่มการจ้างงานนอกภาคการเกษตรถึง 2.43 แสนคน (ตลาดคาด 1.55 แสน) และนายจ้างเอกชนเพิ่มการจ้างถึง 2.57 แสนคน (ตลาดคาด 1.68 แสนคน) ซึ่งมีส่วนช่วยให้อัตราว่างงานลดลงสู่ 8.3% ด้านดัชนี ISM ภาคบริการพุ่งไปที่ 56.8 เทียบกับที่ตลาดคาดไว้ที่ 53.1 จุด อย่างไรก็ดีคาดว่าตลาดหุ้นโลกจะผันผวนมากขึ้นในช่วงบ่าย เนื่องจากคาดการณ์ทิศทางของหุ้นยุโรปได้ลำบาก ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายังไม่มีข้อสรุปของแผนลดหนี้ของกรีซ รวมทั้งการเจรจากับเจ้าหนี้ 3 ฝ่าย (Troika) ยังหาข้อสรุปไม่ได้

โดยในส่วนของการเจรจากับ Troika นั้นจะมีเส้นตายในเวลา 17.00 น. วันนี้ตามเวลาในประเทศไทยเราคาดว่าหุ้นกลุ่มโภคภัณฑ์จะนำตลาด เนื่องจากจิตวิทยาที่ดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมทั้งข่าวน้ำท่วมในควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย ที่น่าจะกดดันอุปทานของสินค้าหลายชนิด โดยหุ้นกลุ่มถ่านหินและกลุ่มสินค้าเกษตรเช่นน้ำตาลรวมทั้งยางพารา น่าจะได้รับความสนใจจากตลาด ทั้งนี้ นอกจากประเด็นน้ำท่วมออสเตรเลียแล้ว การคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ว่าจีนจะลดสัดส่วนกันสำรองธนาคารพาณิชย์ 0.5%ภายในเดือน ก.พ. น่าจะหนุนราคาหุ้นโภคภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับจีนเช่นกัน

กลยุทธ์: เราคาดว่าจะมีแรงขายหุ้นโลกรับข่าวดี หลังกรีซสรุปดีลปรับหนี้ได้ จึงแนะนำให้หาจังหวะหุ้นขึ้นในวันนี้ ขาย 50% ในพอร์ตหุ้นหลักๆ เช่นกลุ่มน้ำมันและกลุ่มธนาคาร แต่ให้ถือหุ้นต่อหรือเปลี่ยนไปซื้อ (Switching) เข้าตัว BANPU, STA, KSL จากประเด็นบวกข้างต้น และเข้าซื้อ AMATA, STEC จากการคาดว่ากำไรไตรมาส 4 จะออกมาแข็งแกร่ง ส่วนหุ้นเล็กที่ให้ถือต่อไว้ก่อน คือ LPN, PS และ SAT

บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ยังเน้นแค่เทรดดิ้งสั้นๆ ในลักษณะขึ้นขาย..ลงซื้อ อยู่ก่อน!!

แนวโน้ม จากบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นฝั่งสหรัฐและยุโรปที่สดใสมาก เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือน ม.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี ช่วยเพิ่มความหวังต่อโอกาสการฟื้นตัวของเศรษฐโลก อย่างไรก็ตามคาดว่าตลาดหุ้นประเทศต่างๆ ยังมีสิทธิแกว่งผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังรอดูผลการเจรจาหนี้ของกรีซ รวมถึงการพิจารณาเงินช่วยเหลือรอบใหม่ที่จะทำให้กรีซไม่ต้องผิดนัดชำระหนี้ในเดือน มี.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าอาจจะมีข้อสรุปได้ในวันนี้(6 ก.พ.) ซึ่ง SET ก็ขยับขึ้นมาร้อนแรงตอบรับแนวโน้มข่าวบวกจากกรีซไปพอควรแล้ว ดังนั้นแม้ว่าผลอาจจะออกมาดีตามคาด แต่ก็ต้องระวังแรงขายทำกำไรในลักษณะ sell on fact ที่อาจเกิดขึ้นได้ ทำให้ FSS ยังแนะนำให้เน้นเป็นเทรดดิ้งสั้นๆ ตามรอบไว้ก่อนจะปลอดภัยกว่า เพราะคาดว่า SET มีโอกาสที่จะจบรอบรีบาวด์ในเร็วๆ นี้และเริ่มกลับไปแกว่งพักตัวอีกครั้งได้

กลยุทธ์: จึงยังเน้นมองหาจังหวะขายทำกำไรบ้างเมื่อตลาดบวก ส่วนจังหวะซื้อยังแนะนำให้รอช่วงดัชนีปรับพักตัวลงจะปลอดภัยกว่า

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2555		0 comments
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2555 10:15:00 น.
Counter : 613 Pageviews.
Share Tweet