|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ชิมไป.เพ้อเจ้อไป
"มีไส้เป็ดอยู่ร้านนึง อร่อยมาก เดี๋ยวจะพาไปกิน" ...ปิ๋มจำได้ว่ากระพริบตาปริบๆ อิมเมจินถึงไส้หมูพะโล้ขนาดย่อส่วน..เหลือเล็กๆ แต่เอ มันจะมาเป็นท่อนๆหรือเป็นพวงๆล่ะ จะมีกลิ่นพะโล้หรือกลิ่นเป็นแรงกว่า เดาว่าสีหน้าคงแสดงอะไรออกไปบ้าง เลยโดนยิงคำถามต่อ
"กินเป็นไหม"
..ปิ๋มนึกถึงไส้หมูพะโล้(อีกนั่นแหละ ก็มันไม่รู้จักอย่างอื่นนิ) นึกถึงเจ้าที่ทำเป็นพะโล้(แบบไม่เข้มข้นมาก)แล้วเอามาทอดกินกะซีอิ๊วหวาน(น้ำลายหกว่ะ) พลางพยักหน้าหงึกหงัก น่าจะใกล้เคียงน่ะ.. "อยู่คลองตันนี่เอง เดี๋ยวพาไป.. เคยมากินกะคนเก่า" ...ปิ๋มพยักหน้าหงึกหงัก (ทำเป็นอย่างเดียวเรอะ)..ไอ้อารมณ์ระลึกถึงอดีตแล้วเล่าสู่กันฟัง เป็นเรื่องธรรมดา(เพราะอิฉันก็เป็น) เลยไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าเมนูที่นำเสนอ "อร่อยจริงๆ.. อยากให้ลอง"
"ไม่รู้นะ อร่อยของเราอาจไม่เหมือนกัน"... ปิ๋มจำได้ว่าแบ่งรับแบ่งสู้ไปแค่นั้น
ก็เกิดเราบอกว่าไม่อร่อย..คนพาไปจะเสียเซ้วเอา..สงสารน่ะ
หลายวันต่อมา ขณะที่มื้อก่อนหน้าไม่ค่อยย่อย แต่โอกาสมาถึง เมนูใหม่จึงถุกนำเสนอ
พ่อค้าถามขนาดที่ต้องการโดยแยกเป็นราคา..(ซึ่งปิ๋มว่าราคาพอสมควรทีเดียว) ไม่นาน ไส้เป็ดตามที่โฆษณาก็ถูกนำมาเสิร์ฟบนจานแบนๆ..เล็กๆ..(ป๊าด..นึกราคาตะกี๊..แพงใช้ได้เลยนะนั่น)
...ความรู้สึกแรก คือ..เออ..หน้าตาไม่เหมือนที่คิด เหมือนสาหร่ายใสๆ..บุกเส้น หรือเส้นใหญ่ใสๆมากกว่า.. แทบไม่มีอะไรที่ทำให้ปิ๋มเดาได้เลย ถ้าไม่รู้มาก่อนว่านั่นทำมาจากอะไร รสชาดก็ต่างจากที่คิดจากสิ้นเชิง..ถ้าไม่มีน้ำพะโล้เค็มๆราดมาพอขลุกขลิก(คนอ่านน้ำลายไหลยัง..แต่คนเขียนอ้ะ ไหลแล้ว) พอให้ได้ชื่อว่าเป็นพะโล้.. สรุปว่าเป็นของกินเล่นที่น่าประหลาดใจ และรสดีทีเดียว(ประทับใจน้ำจิ้มว่ะ) .. เงยหน้ามา ไกด์พากินออกแนวลุ้น..ว่าจะอร่อยเหมือนกันไหม.. ..ปิ๋มได้แต่ยิ้ม อยากจะแกล้งเบ้ปากทำท่าเต็มกลืนไปเหมือนกัน.. แต่แกล้งไม่ลง
............................................................... ไข้หวัดหมูระบาดมาเคาะประตูบ้าน.. พ่อ(เทพนั่นแหละ เดี๋ยวนี้ที่นี่เค้าพาเรียกว่าพ่อ) ประกาศให้ใช้ UV ฆ่าเชื้อ ซึ่งมีใช้แค่แผนกปิ๋มที่อยู่.. ตอนนี้จำต้องเป็นอุปกรณ์สำส่อน..ร่อนไปทุกจุด .. อยู่เช้านี้ คุยซุปเปอร์ไวเซอร์..เจอคำถาม "เจมๆ ปกติไฟ UV นี่เค้าใช้กันกี่นาที" "สิบห้าอ่ะพี่..มากสุดไม่เกินสามสิบ" "เฮ้ย..จะพอเหรอ ..เห็นแม่บ้านเค้าบอกว่า24 ชั่วโมง" ...เอ่อ..นั่นแม่บ้านบอก....แต่ ที่กรูรู้นี่..ก็พี่หัวหน้าเก่ากะบริษัทบอก.. ไม่มีที่มาเหมือนกันเลยชักเคว้ง "ไม่แน่ใจอ่ะพี่ แต่ที่อบมาก็สิบห้ามาตลอดนะ จริงๆผลมันก้ไม่ได้อะไรมากไปกว่าเหมือนกับตากแดดจัดๆ" "พี่ว่าสี่ชั่วโมงดีไหม"..พี่ซุปส่งคำถาม.. ไม่รู้ว่าอยากได้คำตอบไหม "ทำไมล่ะพี่"..ปิ๋มอดสงสัยตรรกะของพี่แกไม่ได้น่ะ เลยถาม "เชื้อหวัดมันตายในสี่ชั่วโมงไง.." "เอ่อ..แล้วแต่พี่เหอะ แต่หนูขอหาข้อมูลชัวร์ก่อนถึงจะกล้าฟันธง" "แต่นั่นมันอุณหภูมิห้อง ..นี่เราควบคุมหลายๆปัจจัย หรือจะลดเหลือแค่ชั่วโมงเดียวพอ" พี่ซุปบรรเจิดต่อ "เอ่อ.."
..หลังจากนั้น เมื่ออาการจิตวิตกอยากรู้กำเริบ ปฏิบัติการล่าความจริงเรื่องไฟUVก็เริ่มขึ้น แล้วก็มีตัวเลขบ้าบออะไรโผล่เข้ามาในชีวิตยุบยั่บพร้อมกับสูตร... ...หลังจากรวบรวมกำลังกายและใจ ตั้งท่าจะเอาตัวเลขมาคำนวณ.. .. .. .. สูดลมหายใจเข้าอีกรอบ..แล้วก็.. .. .. "แก.. ช่วยพี่หน่อย"...(เห็นมะ ระบบเครือข่ายและอินเตอร์เนตมันดีงี้เอง) .. แล้วสามสิบนาทีต่อมา ไอ้ปิ๋มก็มีรีพอร์ทดูดี๊ ดูดี ที่มีเอนด์เครดิตเป็นตั้งวิศวกรหนุ่มไร้สาระไปวันๆ(บอกเพื่อ?) ไปเอาหน้ากะ ผอ. นี่ขนาดไม่ได้คำนวณเอง ปวดหัวตึ้บ..
Create Date : 18 มิถุนายน 2552 |
|
3 comments |
Last Update : 18 มิถุนายน 2552 15:48:34 น. |
Counter : 460 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: โยเกิตมะนาว วันที่: 18 มิถุนายน 2552 เวลา:17:29:43 น. |
|
โดย: endless man วันที่: 18 มิถุนายน 2552 เวลา:19:25:59 น. |
|
โดย: อินทวา วันที่: 19 มิถุนายน 2552 เวลา:13:20:30 น. |
|
| |
|
monsil |
|
|
|
|