HEAD-BLOG-V3480d2415e8aee658.jpg
บทสรุปการเดินทางครึ่งชีวิต ณ โบโรบูดูร์แห่งวัดป่ากุง (จ.ร้อยเอ็ด)






ห่างไปทางตะวันตกเฉียงเหนือจากเมืองยอกยากาตา บนเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย ประมาณ 40 กิโลเมตร

มีโบราณสถานขนาดมหึมารูปทรงพีระมิดแบบขั้นบันไดที่สร้างจากหินภูเขาไฟกว่า 2 ล้านตารางฟุต

เป็นศิลปะอินเดียผสมผสานกับศิลปะชวา ที่นี่คือ “โบโรบูดูร์” หรือที่คนไทยเรียกว่า “บุโรพุทโธ” หรือ “บรมพุทโธ”

พุทธสถานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก! หากไม่นับรวมนครวัดนครธม

ที่แรกเริ่มสร้างขึ้นเพื่อเป็นเทวาลัยในศาสนาฮินดู ก่อนเปลี่ยนมาเป็นพุทธสถานในภายหลัง

บุโรพุทโธมีอายุมาเกือบ 2,000 ปี องค์การยูเนสโก้ประกาศให้เป็นมรกดโลกมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1991


ขอบคุณภาพจาก google.com

ขอบคุณภาพจาก google.com


ความยิ่งใหญ่แห่งบุโรพุทโธสะกดให้ผมหยุดยืนตรงบริเวณประตูรั้วทางเข้าด้านหน้าอยู่นาน

เพราะอยากละเมียดละไมในการชื่นชมตั้งแต่ภาพมุมกว้าง ก่อนจะค่อยๆ เจาะลึกเข้าไปถึงรายละเอียดภายใน

“นี่ขนาดจำลองมายังสวยงามแปลกตาขนาดนี้ แล้วของจริงจะอลังการขนาดไหน”

ผมแอบเปรยกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะมีใครมาสะกิดถามว่าจำลองอะไร?

เอ่อ! คือผมไม่ได้อยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย แต่กำลังอยู่ห่างจากตัวเมืองร้อยเอ็ดมาทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร

ในเขตอำเภอศรีสมเด็จ อยู่ที่ “วัดป่ากุง” หรือมีชื่อเรียกเป็นทางการว่า “วัดประชาคมวนาราม”





เบื้องหน้าของผมคือสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามของเจดีย์หินทรายขนาดใหญ่ที่จำลองแบบมาจากบุโรพุทโธ

ซึ่งก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ครบรอบ 90 ปี พรรษาที่ 60 ของหลวงปู่ศรี มหาวีโร

พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งแดนอีสาน ลูกศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต





หลวงปู่ศรีเคยไปจำพรรษาที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปี พ.ศ.2531 และได้มีโอกาสไปนมัสการเจดีย์บุโรพุทโธแล้วเกิดความประทับใจ

จึงปรารภขึ้นมาว่า “ถ้ามีโอกาสจะสร้างพระเจดีย์ที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้บ้าง เพราะเป็นเครื่องหมายแสดงถึงความถาวรมั่นคงของพระพุทธศาสนา

ใครพังทำลายไม่ได้ง่ายๆ สร้างเล็กๆ น้อยๆ เดี๋ยวคนเขาก็ทำลายได้ง่ายๆ


ดูอย่างพระเจดีย์บุโรพุทโธยังคงงามสง่า ประกาศศักดาของความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวอินโดฯ เป็นประวัติศาสตร์ของโลก”





และด้วยพลังแห่งศรัทธานี่แหละ ที่บรรดาศิษยานุศิษย์กับผู้คนที่เคารพเชิดชูในคุณงามความดีของหลวงปู่

ได้ร่วมแรงร่วมใจกันระดมทุนสร้างเจดีย์แห่งนี้ขึ้นจนแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2549 โดยใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปี





องค์เจดีย์ทำเป็นชั้นลดหลั่นกันภายนอกสามารถเดินขึ้นไปได้ 5 ชั้น

แต่ละชั้นมีภาพแกะสลักนูนต่ำบนผนังหินทรายสีเหลือง เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ











บนกำแพงระเบียงเจดีย์ยังมีพระพุทธรูปแกะสลักจากหินลาวา

ที่ชาวพุทธในประเทศอินโดนีเซียสร้างถวายให้มาประดิษฐานอยู่รอบเจดีย์จำนวน 136 องค์





ผมเดินชมวนจนถึงชั้นบนสุด ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของเจดีย์องค์ประธาน ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

มีส่วนยอดสุดหุ้มด้วยทองคำหนักถึง 101 บาท ตามชื่อของจังหวัด

มีเจดีย์รายทรงระฆังคว่ำฉลุเป็นช่องสี่เหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ของบุโรพุทโธล้อมรอบเจดีย์ประธานอยู่ทั้ง 8 ทิศ

และด้านบนนี้ยังสามารถชื่นชมทัศนียภาพอันร่มรื่นของวัดป่ากุงที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ได้โดยรอบ











ผมเดินย้อนกลับลงมาบริเวณชั้น 2 ซึ่งมีทางเข้าไปภายในองค์เจดีย์ เหนือซุ้มประตูทางเข้าประดิษฐานรูปปั้นหลวงปู่ศรี





ภายในมี 2 ชั้นที่เปิดให้เข้าชม ชั้นแรกเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติหลวงปู่ศรี มหาวีโร ส่วนชั้นที่สองเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ





มีภาพถ่ายภาพใหญ่ของหลวงปู่ศรีติดไว้บนฝาผนัง ทำให้ระลึกนึกถึงคำสอนของท่าน

ที่ผมได้อ่านมาจากบันทึกประวัติหลวงปู่ศรีที่กล่าวไว้ว่า

“การที่คนเราจะมีบุญวาสนาได้นั้น ต้องเป็นผู้ลงมือทำดีเอง การที่เราจะหมดบุญวาสนานั้น เพราะลงมือทำชั่วเอง

ความมีบุญวาสนาหรือความไม่มีบุญวาสนาใครทำให้ใครไม่ได้ เหมือนดอกและผลของต้นไม้ย่อมเจริญเพราะอาศัยดินดี

บุญกุศลคุณงามความดีย่อมเจริญงอกงามได้ก็เพราะคบหาคนดีและสร้างความดี

ฉะนั้น ป่าเปลี่ยวเป็นที่ไปของฝูงเนื้อ กลางหาวเป็นที่ไปของฝูงนก

การสิ้นความกำหนัดเป็นเป้าหมายของธรรมะ พระนิพพานเป็นที่ไปของพระอรหันต์”






แล้วชีวิตผมจะไปทางไหน?

ในวันวัยที่ย่างเข้าสู่วัยกลางคนจู่ๆ ความฝันความทะยานอยากต่างๆ ที่เคยพลุ่งพล่านอยู่ในกายกลับค่อยๆ จางหายไปจนใจหาย

แรกเริ่มมันรู้สึกเคว้งคว้างไร้จุดหมายเหมือนกำลังวิ่งอยู่บนเส้นทางที่ไร้เส้นชัย

พอมองย้อนกลับไปในชีวิตที่ผ่านมาเห็นแต่ภาพตัวเองดิ้นรนกระเสือกกระสนไขว่คว้าหาแต่ความสุข

สุขที่พอได้มาแล้วอยู่กับเราแค่แป๊บเดียว เดี๋ยวก็จางไป เดี๋ยวก็อยากได้สุขอย่างอื่นอีก ไม่รู้จักอิ่ม ไม่รู้จักจบจักสิ้น

เหมือนโลกมันหลอกให้เราวิ่งไล่ตามจับอากาศอยู่อย่างนั้น

แต่มันคือความจริงของชีวิต ที่ผมใช้เวลาครึ่งชีวิตถึงได้มองเห็นและเข้าใจ





ชีวิตที่เหลืออยู่ต่อจากนี้ ผมรู้แล้วล่ะว่าจะไปทางไหน

นับเป็นบุญวาสนาที่เกิดมาทันได้ฟังคำสอนของครูบาอาจารย์

ที่คอยชี้ทางให้เดินไปตามรอยเท้าของพระพุทธองค์ ซึ่งนับวันก็ยิ่งเลือนรางจางหาย

การเดินทางสายนี้ไม่ได้ไปไหนไกลแค่เรียนรู้อยู่ในใจของเราเท่านั้นเอง








Create Date : 28 กรกฎาคม 2562
Last Update : 28 กรกฎาคม 2562 9:14:08 น. 9 comments
Counter : 2632 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtuk-tuk@korat, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณKavanich96, คุณTui Laksi, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณJinnyTent


 
ยังไม่เคยไปเลยค่ะ
ขอบคุณที่นำมาฝากค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 28 กรกฎาคม 2562 เวลา:15:45:28 น.  

 
ไม่เคยไปจังหวัดร้อยเอ็ดเลยค่ะ

บุโรพุทโธ ที่อินโดยังไม่เคยไปค่ะ... แต่รู้ว่าที่นี่จำลองมา เคยเห็นภาพจากเน็ต เพราะปรารภหลวงปู่ศรี เรา ๆ เลยได้มีโอกาสเห็นเจดีย์ที่สวยงามแบบนี้นะคะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 28 กรกฎาคม 2562 เวลา:19:51:25 น.  

 
ภาพแกะสลักบนผนังหินทรายนี่
ฝีมืช่างชาวอินโดนับว่าชำนาญมากจริงๆ
มองไปมองมาหลายวัดในเมืองไทยของเรา
ก็ไปจ้างช่างอินโดเหมือนกันนะครับ


โดย: พายุสุริยะ วันที่: 28 กรกฎาคม 2562 เวลา:20:48:35 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 29 กรกฎาคม 2562 เวลา:10:06:08 น.  

 
อนุโมทนา สาธุค่ะ

ภาพเจดีย์หินทรายที่วัดป่ากุง งดงามน่าทึ่งมากมาย
จำลองเพื่อสืบทอดพระศาสนาในไทย น่าปลื้มกับคนชาวร้อยเอ็ดด้วยค่ะ
ยังไม่เคยมีโอกาสได้ไปชมกับตา แต่มีบุญได้ชมผ่านเลนส์
จาก จขบ.นี้ ขอบคุณมากค่ะและยินดีที่ได้รู้จักนะคะ


โดย: Tui Laksi วันที่: 30 กรกฎาคม 2562 เวลา:18:44:24 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ ฟ้าสวยมาก ๆ ^^


โดย: a whispering star วันที่: 1 สิงหาคม 2562 เวลา:17:14:26 น.  

 
ที่ร้านแป้นเกล็ดคอฟฟี่
บางทีก็มีรถวิ่งเข้ามา แล้วเด็ก ๆ ก็วิ่งลงรถไปดูแกะ ดูไก่ค่ะ
แล้วก็ขึ้นรถกลับ
เหมือนว่าแวะทักทายกัน

วันนั้นอาจารย์ก็บอกหลานตัวน้อยว่า
ถ้าจับไก่ได้ให้เอาไปเลี้ยงเลยด้วยค่ะ

คิดถึงแล้วมีความสุขอ่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 14 สิงหาคม 2562 เวลา:8:02:37 น.  

 
ได้เห็นรูปที่แกะสลักจากหินลาวาภูเขาไฟแล้ว รู้สึกคลับคล้ายคลับคลากับรูปที่อยู่บนพระบรมธาตุเจดีย์บนดอยอินทนนท์ของเราด้วยนะครับ ช่างอินโดนิรเซียเขาชำนาญมากจริงๆ อ่อนช้อยสวยงามมาก
“วัดป่ากุง” หรือวัดประชาคมวนาราม นี้คิดว่าสักวันคงได้ไปแน่ครับ


โดย: พายุสุริยะ วันที่: 15 สิงหาคม 2562 เวลา:21:32:52 น.  

 
สวัสดีค่า ขอโทษที่แวะมาทักทายช้าไป
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมเยียนและ
เที่ยวโครงการหลวงแปกแซม อ.เวียงแหง ด้วยกัน

บุโรพุทโธ เป็นอีกสถานที่ ๆ หนึ่งที่อยากจะไปมากค่ะ
แต่ยังไม่เคยไป ได้ไปแต่พระธาตุอินทร์แขวนที่พม่าแทน
ใจก็อยากจะไปเห็นสักครั้ง รอโอกาสอยู่ แหะ
ไม่รู้ว่าที่ จ.ร้อยเอ็ด มีการจำลองบุโรพุทโธด้วย
น่าตามรอยไปเที่ยวด้วยมาก ๆ ค่ะ

อนุโมทนาบุญในสิ่งที่คิดที่ทำในทางกุศลจิตด้วยนะคะ
จากบทความสุดท้ายของบล็อก
นึกถึงคำพูดของหลวงพ่อปราโมทย์แห่งวัดสวนสันติธรรม
ที่ว่า "จิตตื่นแล้ว" อนุโมทนาด้วยอีกครั้งค่ะ




โดย: JinnyTent วันที่: 16 สิงหาคม 2562 เวลา:20:17:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Ces
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




เปิดตัว Group Blog ใหม่ IFIND CHANNEL

เป็นรูปแบบการนำเสนอรายการท่องเที่ยวแบบวีดีโอผ่านทาง Youtube มือใหม่หัดทำก็สนุกไปอีกแบบครับ

ส่วนงานเขียนคอลัมภ์ใน Blog ก็ยังมีอยู่เหมือนเดิมรอติดตามชมติดตามอ่านกันได้ครับ
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2562
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
28 กรกฏาคม 2562
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Ces's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.