HEAD-BLOG-V3480d2415e8aee658.jpg

หนังใหญ่วัดขนอนกับชีพจรอันแผ่วเบา (จ.ราชบุรี)






“หนังใหญ่”

ถือเป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย กล่าวกันว่ามีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย

แต่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดเอาในสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ใช้หนังใหญ่เป็นมหรสพภายในพระราชสำนัก

ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ได้แพร่หลายมาสู่ประชาชนทั่วไป และเป็นมหรสพที่ได้รับความนิยมสูงสุดในสมัยนั้น

จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 6 การแสดงโขนเข้ามามีบทบาททำให้หนังใหญ่ลดความนิยมลงไป

ยิ่งพอบ้านเมืองเข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวหนังใหญ่ก็ถูกทิ้งขว้าง และค่อยๆ เลือนหายไปจากสังคมไทย




ทุกวันนี้คนรุ่นใหม่น้อยคนนักที่จะรู้จักหนังใหญ่ อย่างที่ทำงานของผมจัดทริปไปเที่ยวจังหวัดราชบุรีกัน

ผมจึงเสนอว่าจะพาไปชมการแสดงหนังใหญ่ที่วัดขนอน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี

ซึ่งเหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทยที่ยังคงอนุรักษ์หนังใหญ่เอาไว้

และการไปชมครั้งนี้มันก็ไม่ได้เป็นแค่การเดินชมตัวหนังที่จัดแสดงอยู่ตามพิพิธภัณฑ์ หากแต่หนังใหญ่ของที่นี่ยังมีชีวิต

ยังมีการแสดงจริงๆ อยู่ทุกๆ สัปดาห์ แต่ไม่น่าเชื่อว่าทุกคนกลับถามเป็นเสียงเดียวกัน

หนังใหญ่คืออะไร!?






‘หนังใหญ่’ คือการเล่นหุ่นละครเงาที่มีลักษณะคล้ายกับหนังตะลุงแต่ตัวหนังมีขนาดใหญ่กว่า

โดยใช้หนังวัวมาฉลุสลักลวดลายเป็นตัวละครในเนื้อเรื่อง ส่วนใหญ่นิยมเล่นเรื่องรามเกียรติ์

ในการแสดงจะใช้คนเชิดอยู่หน้าฉากทำให้สามารถมองเห็นท่วงท่าของผู้เชิดร่วมกับตัวหนัง

ต่างจากหนังตะลุงที่จะเห็นแค่เงาของหุ่นเชิดอยู่หลังฉาก

ใช้คนพากย์และการเจรจาเป็นการดำเนินเรื่อง

มีวงปี่พาทย์คอยบรรเลงเพลงให้จังหวะถ่ายทอดอารมณ์ไปสู่ผู้ชม ถือเป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย

ที่ผสมผสานทั้งนาฏศิลป์ วาทศิลป์ คีตศิลป์ วรรณศิลป์ และหัตถศิลป์ ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว




จากสมาชิกเกือบ 20 คน กลับมีคนร่วมไปดูหนังใหญ่กับผมแค่ 4 คน รวมตัวผมเองด้วย

ซึ่งเพื่อน 3 คนที่มาก็ไม่รู้ว่าอยากจะไปแค่ไหน หรือจำใจเพราะต้องติดรถผมไป!

หากมองกันผิวเผินความบันเทิงในยุคโบราณไฉนเลยจะสู้สิ่งบันเทิงเร้าใจในปัจจุบันได้

มันอาจจะดูน่าเบื่อในสายตาของคนสมัยนี้ แต่หากลองมาทำความรู้จัก ลองได้เข้าไปสัมผัส

เราจะมองเห็นศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติที่ควรค่าแก่การสืบทอดรักษา






พวกเรามาถึงวัดขนอนก่อนเวลาแสดงประมาณ 15 นาที บรรยากาศดูเงียบเหงามีรถจอดอยู่แค่คันสองคัน

ผมนำเพื่อนเดินตรงไปยังอาคารโรงมหรสพก่อนผลักประตูเข้าไป เห็นที่นั่งเรียงรายมากมายตั้งแต่หน้าประตูไปจนสุดเวที

แต่มันเป็นที่นั่งว่างเปล่าไร้วี่แววผู้คน




บนเวทีขึงฉากสีขาวขอบแดงเหมือนจอหนัง มีตัวหนังใหญ่ตั้งโชว์อยู่ 1 ตัว

ทางด้านซ้ายมือข้างเวทีเป็นมุมของวงดนตรีไทย มีเด็กๆ ใส่ชุดอยู่บ้านนั่งหยอกล้อกันอยู่ตามประสา

ผมชักไม่แน่ใจจึงเดินเข้าไปถามว่าวันนี้มีการแสดงหรือเปล่า?

เด็กน้อยตอบว่า “มี” แต่นี่ใกล้เวลาแล้วยังไม่เห็นมีใครนอกจากพวกเราสี่คน!




สิบโมงนักดนตรีเข้านั่งประจำที่ ซึ่งก็คือเด็กๆ กลุ่มนี้นี่แหละ โดยมีคุณตาคนหนึ่งเป็นผู้คุมวง

ทราบภายหลังว่าท่านคือครูสุเทพ นิ่มอนงค์ เป็นครูผู้ฝึกสอนวงปี่พาทย์ของวัดขนอน




เสียงดนตรีไทยจากเด็กๆ เริ่มประโคมโหมโรงให้ผู้ชม VIP แถวหน้าสุดทั้งสี่คนฟัง

มันเศร้าจับใจยังไงบอกไม่ถูก มันไม่ใช่เพราะท่วงทำนองเพลง หากแต่มองให้ลึกลงไปเมื่อเยาวชนเหล่านี้เติบโตขึ้น

ไปเจอผู้คนเจอสังคมใหม่ๆ พวกเขาจะยังเล่นดนตรีไทยแบบนี้อยู่อีกหรือเปล่า

จะยังคงอนุรักษ์การแสดงของชาติอย่างนี้อยู่อีกหรือไม่ ในเมื่อสังคมรวมถึงพ่อแม่ของพวกเขาคงต้องมองว่า

สิ่งเหล่านี้มันอาจไม่ใช่อาชีพที่ยั่งยืนมั่นคง และยิ่งหากไม่มีผู้ชมการแสดงก็คงไร้ความหมาย

และน่าเสียดายที่มรดกตกทอดจากบรรพบุรุษที่มีมายาวนานนับร้อยๆ ปี จะต้องมาสิ้นสุดเอาในยุคสมัยของเรา


ยังดีที่ขณะดนตรีบรรเลงเริ่มมีคนทยอยเข้ามานั่งรอชมการแสดงเรื่อยๆ

เสียงคำไหว้ครูเป็นภาษาบาลีของกลุ่มนักแสดงดังก้องออกมาจากทางด้านหลังเวที

ทำเอาทั้งโรงมหรสพเงียบสงบราวต้องมนตร์สะกด จากนั้นพิธีกรหนุ่มในชุดโจงกระเบนสีแดงก็เผยโฉมออกมาด้วยหน้าตาที่ขัดๆ

ก็พี่แกเล่นไว้หนวด ไถผมเป๋เปิดข้างทรงวัยรุ่น ห้อยตุ้มหู ดูยังไงก็เด็กแว๊นชัดๆ!

หนักแล้ววัฒนธรรมไทย! ผมคิดในใจ




แต่พอได้ฟังพี่เค้าเล่าเรื่องราวความเป็นมาของหนังใหญ่ตั้งแต่การทำตัวหนัง บทพากย์บทละคร ดนตรีที่ใช้

ตลอดจนให้น้องนักแสดงสองคนออกมาสาธิตท่าทางการเชิดปูความรู้ให้ผู้ชมก่อนเริ่มการแสดง

ผมก็ต้องขออภัยที่สบประมาทในหน้าตา เพราะสิ่งที่พี่เค้าถ่ายทอดมาทำให้ผมรู้ซึ้งถึงคุณค่า

ว่าก่อนจะมาเป็นหนังใหญ่ได้มันยากลำบากขนาดไหน




ยิ่งพอเริ่มการแสดงจากที่ขออภัยกลับแทบต้องกราบขอขมา ด้วยน้ำเสียงการพากย์การเจรจาที่ทรงพลังเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์

สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครออกมาได้อย่างลึกซึ้งถึงบทบาท แล้วบทยาวขนาดนี้จำได้อย่างไร!?

ไม่แพ้น้องๆ นักแสดงที่มีลีลาเชิดหุ่นอันเฉิดฉายจังหวะย่าง จังหวะก้าว กระทืบพื้นตึงตังฟังดนตรีประกอบ

จนผมเพลินและสนุกไปกับเรื่องราวตลอด 1 ชั่วโมงเต็ม










น้ำตาผมคลอหลังจบการแสดง เมื่อหันไปดูทั้งโรงมหรสพไม่ได้มีแค่ผู้ชมเพียง 4 คน

แต่กลับมีราวๆ 30 คน รวมถึงชาวต่างชาติอีกกลุ่มหนึ่ง แม้จะไม่ใช่จำนวนมากมายอะไร

แต่แค่นี้ก็ทำเอาผมตื้นตันใจที่ศิลปวัฒนธรรมไทยซึ่งกำลังจะเลือนหายไปยังไม่ถูกลืม

ยังคงมีคนเห็นคุณค่า ยังคงมีคนมาสานต่อลมหายใจ

ชีพจรของหนังใหญ่จะยังคงเต้นต่อไป ตราบที่คนไทยยังช่วยกันอนุรักษ์รักษา






เส้นทางของไอฟายน้อยสู่วัดขนอน

จากกรุงเทพฯใช้ถนนบรมราชชนนี (ทางหลวงหมายเลข 338) ตรงไปทางอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ประมาณ 30 กิโลเมตร

เจอสะพานให้ตรงขึ้นไปวนขวาเข้าถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าสู่ตัวเมืองนครปฐม ตรงไปประมาณ 18 กิโลเมตร จะผ่านทางเข้าตัวเมืองนครปฐม

ให้ตรงต่อไปอีกประมาณ 20 กิโลเมตรจะเจอสี่แยกทางเข้าอำเภอบางแพ-โพธาราม

ให้ใช้ถนนเลียบทางยกระดับแล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3080 ตามป้ายอำเภอโพธาราม




ตรงไปประมาณ 5 กิโลเมตร ลงสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลองมาจะเจอสามแยกให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 4005

ตรงไปอีกประมาณ 2.5 กิโลเมตร จะเห็นวัดขนอนตั้งอยู่ทางขวามือรวมระยะทางจากกรุงเทพฯประมาณ 84 กิโลเมตร




หนังใหญ่วัดขนอนจะมีการแสดงทุกๆ วันเสาร์เวลา 10.00 – 11.00 น. วันอาทิตย์ 11.00 - 12.00 น. (เข้าชมฟรี)

ส่วนพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.30 น.







 

Create Date : 28 มกราคม 2560
15 comments
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2560 8:35:19 น.
Counter : 4261 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณชีริว, คุณสองแผ่นดิน, คุณRinsa Yoyolive

 

รูปสวยครับ 👍👍👍

 

โดย: Ktt IP: 27.55.172.44 28 มกราคม 2560 12:19:14 น.  

 

เสีนดายติดลูก ไม่งั้นสมาชิกVIP แถวหน้าจะเพิ่มเป็นห้าคนครับ ...ชอบครับ

 

โดย: Lert BT IP: 1.46.38.144 28 มกราคม 2560 12:58:23 น.  

 

บรรยายความรู้สึกลึกซึ้งกินใจมากค่ะ เสียดายมากที่ไม่ได้ดู

 

โดย: Giftza_Giftze IP: 125.25.140.16 28 มกราคม 2560 21:40:13 น.  

 

ขอบคุณที่แบ่งปัน

 

โดย: Kavanich96 29 มกราคม 2560 1:47:53 น.  

 

ขอกรี๊ดดัง ๆ ค่ะ ภาพสวยมาก ๆ ๆ ๆ ๆ
ขนาดว่าถ่าย indoor แสงน้อย ภาพยังชัดแจ๋วขนาดนี้เลย
สวยค่ะ

 

โดย: Close To Heaven 29 มกราคม 2560 23:56:33 น.  

 

ไปที่นี่สองรอบแล้ว ไม่ตรงวัน ตรงรอบที่เค้าแสดง (วันเสาร์) เลยไม่เคยได้ดูการแสดงซักทีค่ะ

คนชมน้อย...แต่เก็บภาพ เก็บเรื่องมาเล่าต่อ บอกต่อ ...

ภาวนาขอให้เด็ก ๆ ที่เล่นดนตรี ที่เชิดหนังใหญ่ ช่วยกันอนุรักษ์ต่อไปเถิดค่ะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 30 มกราคม 2560 15:40:59 น.  

 

เป็นอีกวัดที่เล็งไว้นานแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปซะทีครับ ราชบุรีอยู่แค่นี้เอง พอไปทีไรก็โดนที่อื่นดึงดูดความสนใจไปซะเรื่อย
หนังตะลุงยังคงแสดงอยู่ในหลายๆที่ของภาคใต้ แต่หนังใหญ่แทบจะหายสาบสูญไปเลยนะครับ ซึ่งก็ไม่แปลกหรอก มาเป็นแผ่นเลื่อนไปเลื่อนมามันไม่ชวนให้ดูเท่าไหร่
ไหนๆก็แกะหนังซะงามขนาดนี้ แปะข้างฝาโชว์น่าจะมีคนดูเยอะกว่าครับ
ทีแรกคิดว่าทีมคุณ Ces เป็น exclusive เลยนะเนี่ย ไม่มีคนดูอื่นๆ ไปๆมาๆโผล่มา 30 คน แต่พอการแสดงจบแล้วคนดูเหล่านั้นก็หายไป!! ...เดี๋ยวสิ... เขาไม่ได้เล่าแบบนี้...
ถ้าสิ้นคุณลุงสุเทพไปแล้วหนังใหญ่ก็คงอยู่แค่ในพิพิธภัณฑ์ตลอดไปแล้วครับ

 

โดย: ชีริว 1 กุมภาพันธ์ 2560 20:36:56 น.  

 

วันนั้นพักที่คลองวาฬ แล้วจะไปเที่ยวที่หาดทรายรี ชุมพรค่ะ ที่บ้านขับผ่าน เห็นป้ายเยอะ เลยลองแวะดูซะหน่อย น่าสนใจดีค่ะ โบสถ์ไม้ตาลทั้งหลัง

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 2 กุมภาพันธ์ 2560 19:37:36 น.  

 

นั่งดูหนังใหญ่จนจบการแสดง เป็นเวลาประมาณ 1 ขั่วโมง
นี่ก็นับว่าเป็นคนให้คุณค่ากับการแสดงที่หลายคนลืมไปแล้ว

การที่คนเชิดแต่งกายตามสมัยนั้น อาจเป็นแค่จุดเล็กๆ ที่ดูเหมือนไม่สำคัญ แต่...เป็นสิ่งที่ผู้ควบคุมวง ซึ่งอาจจะไม่ใช่แค่
ครูสุเทพ นิ่มอนงค์ คนเดียว คงจะต้องหาทางแก้ไขต่อไป....

 

โดย: พายุสุริยะ 5 กุมภาพันธ์ 2560 11:30:54 น.  

 

ขอบคุณมากๆนะคะ อ่านไปน้ำตาไหลไป
การแสดงมีทุกวันเสาร์เวลา๑๐.๐๐-๑๑.๐๐น และวันอาทิตย์๑๑.๐๐-๑๒.๐๐นะค่ะ วัดขนอนหนังใหญ่ยินดีต้อนรับค่ะ

 

โดย: กาญจนา ถาวรนุกูลพงศ์ ปุ๊กกี้ค่ะ IP: 27.55.144.76 9 กุมภาพันธ์ 2560 2:00:26 น.  

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลว่ามีการแสดงวันอาทิตย์ด้วยครับ ผมแก้ไขข้อมูลเพิ่มเติมไปในบล็อคเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ผู้สนใจได้มีโอกาสไปชมกัน

 

โดย: ไอฟายน้อย (Ces ) 11 กุมภาพันธ์ 2560 8:36:34 น.  

 

กำลังหาข้อมูลไปเที่ยวราชบุรี ราชบุรี ณ ขณะนี้ คนรู้จักแต่ สวนผึ้ง
ช่วยกันอนุรักษ์ความเป็นไทย สืบต่อไปครับ

 

โดย: สองแผ่นดิน 14 กุมภาพันธ์ 2560 23:23:55 น.  

 

แวะมาอีกที เหยย! ยังอยู่วัดขนอน!
แต่มีอัพเดทข้อมูลมีการแสดงวันอาทิตย์ อิอิ

 

โดย: ชีริว 18 กุมภาพันธ์ 2560 20:29:56 น.  

 

ตอนแรกรินก็งงว่า เอ๊ะวัดขนอมหรือป่าว นั่นมันไต้
พอบอกว่าราชบุรีนี่อ้อ ไม่ได้อยู่ใต้ เป็ยวัดขนอนอีกทีหนึ่งที่ตัวเองยังไม่เคยไปแต่ก็เห็นนะคะ
เห็นมีคนอัพเดทให้ดูด้วยในเฟส สวยงามน่ารักษาอย่างยิ่งค่า


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
บ้านต้นคูน Food Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Home & Garden Blog ดู Blog
phunsud Food Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog
Ces Travel Blog ดู Blog


 

โดย: Rinsa Yoyolive 24 กุมภาพันธ์ 2560 13:49:07 น.  

 

แม่บุญไปเที่ยว จ.นครศรีธรรมราชเมื่อสองปีที่แล้ว ได้ไปชมหนังใหญ่ของที่นั่นด้วย ท่านเป็นศิลปินพื้นบ้าน จัดแสดงภายในบ้านหลังเล็กๆ มีเพียงกลุ่มเราที่ไปดู แอบคิดเช่นกันค่ะว่า...สักวันหากคุณลุง..จำชื่อท่านไม่ได้ ท่านไม่อยู่แล้วจะมีใครสืบทอดอีกหรือเปล่าหนอ ?

กลับเมืองไทยคราวหน้าจะพามิเชลไปดูหนังใหญ่ที่ราชบุรีค่ะ

 

โดย: Maeboon 27 กุมภาพันธ์ 2560 2:05:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Ces
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




เปิดตัว Group Blog ใหม่ IFIND CHANNEL

เป็นรูปแบบการนำเสนอรายการท่องเที่ยวแบบวีดีโอผ่านทาง Youtube มือใหม่หัดทำก็สนุกไปอีกแบบครับ

ส่วนงานเขียนคอลัมภ์ใน Blog ก็ยังมีอยู่เหมือนเดิมรอติดตามชมติดตามอ่านกันได้ครับ
Group Blog
 
<<
มกราคม 2560
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
28 มกราคม 2560
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Ces's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.