ช่วงเทศกาลกินเจแบบนี้ หลายๆ คนกำลังมองหาร้านอาหารเจอร่อยๆวันนี้ ไทยรัฐออนไลน์ จึงขอพาคุณไปชิมเมนูเพื่อสุขภาพสไตล์อิตาเลียนเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกกับผู้รับประทานอาหารเจ ที่ห้องอาหาร ลูเช่ โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ... อาหารจากห้องอาหาร ลูเช่ ทำจากวัตุดิบที่ได้มาจากพืชผักและถั่วล้วนๆโดยใช้เทคนิค Raw Food Cuisine ในการปรุงแต่งเพื่อยังคงเก็บสารอาหารและเอนไซม์ต่างๆ ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ปราศจากวัตถุดิบที่มาจากสัตว์อย่าง ไข่ นม ชีส ซึ่งทุกเมนูถูกสร้างสรรค์โดยเชฟใหญ่แห่งลูเช่ เชฟเอโดอาร์โด้ โบนาวอส์ต้า บอกเลยว่าทุกเมนูครีเอต แปลกแนว รสชาติอร่อยไม่ซ้ำแบบใคร ตอบโจทย์ความต้องการของผู้รักสุขภาพ พร้อมแล้วไปชิมกันได้เลยกับ 5 เมนูเด็ด!
เมนูแรก : บรูสเกต้า (Bruschetta)
เมนูนี้เป็นสไตล์อิตาเลียนทั่วไปจะเป็นแผ่นขนมปังปิ้งแล้วโรยหน้าต่างๆ จานนี้จะเป็นแผ่นแครกเกอร์เมล็ดแฟลกซ์ซึ่งเอาไปอบในอุณหภูมิต่ำเพื่อเอาความชื้นออก ทำให้แผ่นแครกเกอร์กรอบ ทานกับชีสสเปรด ที่ทำมาจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์ผสมกับถั่วพิสตาชิโอ ปรุงรสด้วยผิวมะนาวให้รสชาติเข้มข้นนวลละมุนละไม ทานคู่กับมะเขือเทศราชินีที่อบเกือบแห้ง เพิ่มความหวานและเก็บความฉ่ำได้อย่างลงตัว
เมนูที่ 2 : สลัด
เมนูนี้เป็นสลัดแบบเบาๆ สดชื่นด้วยการรวมตัวของวัตถุดิบ เช่น ส้ม อโวคาโด และเฟนเนลหรือยี่หร่าฝรั่ง ที่ให้รสชาติครบลงตัวผสมผสานเข้ากันอย่างดี โดยคุณจะได้สัมผัสความหวานจากส้ม ความมันจากอโวคาโด และความกรอบ หอม จากเฟนเนล เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดใสและครีมบีทรูทสีชมพู ที่ทั้งอร่อยและเพิ่มสีสันให้กับจานสลัดอีกด้วย
เมนูที่ 3 : มิเนสโตรนเน่
ซุปผักสไตล์อิตาเลียน โดยนำแครอต ขึ้นฉ่าย หัวหอม บรอกโคลี ดอกกะหล่ำมาหั่นเป็นลูกเต๋าชิ้นเล็กๆ หมักด้วยเครื่องเทศเสิร์ฟในน้ำซุปอุ่นๆ ซุปถ้วยนี้ให้ความรู้สึกถึงการกินผักที่อุดมไปด้วยคุณค่าเป็นอย่างดีจากความกรอบของผัก บวกกับความย่อยง่ายเหมาะสำหรับมื้อเบาๆ
เมนูที่ 4 : พาสต้าฟักทอง (Pumpkin Tagliolini)
สาวๆ อย่าเพิ่งตกใจเมื่อได้ยิน พาสต้า ที่คุณอาจจะคิดว่าทำมาจากแป้ง taglionili (ทายิโอลินี่) จานนี้ทำมาจากฟักทองญี่ปุ่นล้วนๆ โดยนำเส้นฟักทองมาหั่นสไลด์บางๆ ให้รูปทรงเหมือนเส้นก๋วยเตี๋ยว ก่อนนำไปอบแห้งแล้วคลุกเคล้ากับน้ำอุ่นให้นิ่ม แล้วนำไปขลุกขลิกกับซอสเพสโต้เจที่มีส่วนผสมของเห็ดทรัฟเฟิลให้ความหอมแทนรสชาติชีสพาเมซาน
เมนูที่ 5 : ลาซานญ่า (Raw Lasagna)
จานนี้เข้มข้นมีรสหวานมันเป็นส่วนประกอบ โดยคุณไม่รู้เลยว่า โบลองเนส อันนี้จะปราศจากเนื้อสัตว์ เนื่องจากทำมาจากแครอต ซอสมะเขือเทศที่ให้สีเหมือนลาซานญ่าของแท้ทั่วๆ ไป แป้งที่ปกติจะวางเป็นชั้นๆ ก็ทำมาจากซูกินีอบแห้งหั่นบาง ไฮไลต์เด็ดของจานนี้คือซอส Bechame เจ ที่มีส่วนผสมของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ให้ความข้นไม่ต่างไปจากนม ครีมของแท้เลย ทำให้ลาซานญ่าจานนี้ไม่เหมือนเมนูผักเจทั่วไป
**ล้อมกรอบ **
พิสูจน์ความอร่อยกับเมนูรอว์คลีนฟู้ด ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2558 ทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น ที่ห้องอาหารอิตาเลียน ลูเช่ ชั้น 14 โรงแรมอีสตินแกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก //www.thairath.co.th/