พฤษภาคม 2555

 
 
5
6
8
12
18
22
23
25
26
28
29
30
31
 
 
All Blog
เปิดกล่องดวงใจ "ทัตสึโอะ ชิโออิ" เจ้าพ่อธุรกิจเบนโตะญี่ปุ่น
Pic_261744

 

สูตรลับเสิร์ฟร้อน...อร่อยเร็ว...ใส่ใจข้าวทุกเม็ด

ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบแข่งกับเวลาของคนญี่ปุ่น ทำให้ธุรกิจอาหารกล่องเติบโตขึ้นรวดเร็วราวกับติดจรวด โดยมี Hotto Motto ในเครือบริษัท เพลนัส จำกัด (มหาชน) เป็นเจ้าธุรกิจอาหารกล่องเบนโตะรายใหญ่ที่สุดของแดนอาทิตย์อุทัย มีสาขาอยู่ทั่วประเทศกว่า 2,400 สาขา สร้างยอดขายปีละนับแสนล้านเยน และครองใจคนญี่ปุ่นมายาวนานหลายทศวรรษ เพราะยึดถือปรัชญาลูกค้าต้องมาก่อนเสมอ!!

นอกจากจะเป็นสุดยอดในเรื่องอุตสาห-กรรมอาหารกล่องแล้ว เมื่อ 23 ปีก่อน ค่ายเพล-นัสยังบุกเบิกธุรกิจร้านอาหารพร้อมเสิร์ฟในรูปแบบอาหารชุดสไตล์เสิร์ฟร้อน อร่อยเร็ว และราคาประหยัด ภายใต้ชื่อ ยาโยอิ  เคน โดยประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ขยายสาขาไปทั่วประเทศแล้ว 190 สาขา ก็ด้วยฝีไม้ลายมือของประธาน บริหารบริษัท เพลนัส จำกัด (มหาชน) “มร.ทัตสึโอะ ชิโออิ” ทายาทรุ่นที่สี่ วัย 46 ปี ของตระกูล มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งภูมิภาคคิวชู เกาะใหญ่สุดอันดับสาม
ของประเทศญี่ปุ่น

นับเป็นโอกาสดีอย่างยิ่งที่ทีมข่าวสตรีไทยรัฐได้รับเชิญจากค่ายเอ็มเค อินเตอร์ฟู้ด จำกัด ผู้นำเข้าแฟรนไชส์ร้านอาหารชุดตำรับญี่ปุ่นราคาสบายกระเป๋า “ยาโยอิ ประเทศไทย” ภายใต้การนำของ “คุณยุพิน ธีระโกเมน” บุกตะลุยไปเยือนบ้านเกิดของ“ยาโยอิ เคน” ถึงถิ่นกำเนิดจังหวัดฟูกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่นเมื่อกลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อฉลองความสำเร็จครบรอบปีที่ 6 ของยาโยอิ ในเมืองไทย พร้อมมุ่งสู่หลักไมล์เปิดร้านครบ 100 สาขา ภายในปีหน้า งานนี้ นอกจาก “เพลนัส” จะเปิดโรงงานและสำนักงานใหญ่ ในจังหวัดฟูกุโอกะ ให้เข้าชมทุกขั้นตอนการผลิตแล้ว “ท่านประธานทัตสึโอะ” ยังใจดีเปิดใจให้สัมภาษณ์แบบเจาะลึกเป็นครั้งแรก พร้อมเผยถึงความฝันในอนาคตที่จะนำธุรกิจอาหารญี่ปุ่นสยายปีกบุกเบิกตลาดไปทั่วทุกมุมโลก
ค่ายธุรกิจอาหารยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นจับมือกับ “เอ็มเค” ได้อย่างไร

 

มร.ทัตสึโอะ ชิโออิ

มร.ทัตสึโอะ ชิโออิ

ทัตสึโอะ : เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ผมเดินทางมาทำธุรกิจที่เมืองไทย และได้ทานสุกี้ของเอ็มเค ซึ่งอร่อยมาก จึงคิดอยากนำแบรนด์เอ็มเคมาเปิดสาขาในญี่ปุ่นบ้าง ตอนนั้นผมเพิ่งเริ่มทำงานที่บริษัทเพลนัส เป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ

 

คุณยุพิน : เราทั้งสองเริ่มต้นความสัมพันธ์จากการทำธุรกิจ บริษัทเพลนัสซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหารเอ็มเคนำมาปรับปรุงใหม่เป็นสไตล์ชาบู-ชาบู พร้อมเสิร์ฟร่วมกับติ่มซำในราคาประหยัด โดย “คุณทัตสึโอะ” รั้งตำแหน่งประธานบริหารบริษัทเพลนัส เอ็มเค ญี่ปุ่น ซึ่งก็ประสบความสำเร็จน่าพอใจ ปัจจุบันมี 29 สาขาทั่วญี่ปุ่น และตั้งเป้าว่าอีก 2 ปีข้างหน้า จะขยายให้ครบ 50 สาขา เราคบกันมานานจนกลายเป็นพี่น้องกันไปเลย ปรึกษากันได้ทุกเรื่อง

 

คุณฤทธิ์กับคุณยุพิน ธีระโกเมน ปลื้มสุดขีดที่ได้พบอดีตประธานบริหารใหญ่ของเพลนัส

คุณฤทธิ์กับคุณยุพิน ธีระโกเมน ปลื้มสุดขีดที่ได้พบอดีตประธานบริหารใหญ่ของเพลนัส "มร.สุเอยูกิ ชิโออิ" ซึ่งวางมือให้ลูกชาย "มร.ทัตสึโอะ ชิโออิ" รับช่วงดูแลกิจการ.

ทำไมเลือกเมืองไทยเป็นตลาดแรกในการขยายธุรกิจออกนอกประเทศ

 

ทัตสึโอะ : เริ่มจากความไว้เนื้อเชื่อใจในเอ็มเค เรารู้จักกันมานาน และผมคิดเสมอว่า ถ้าบริษัทเพลนัสจะขยายธุรกิจออกนอกประเทศ “เอ็มเค” ก็คือคนแรกที่เราเลือกเป็นพันธมิตร ซึ่งเราเองก็มองไม่ผิดเลย เพราะ “ยาโยอิ ประเทศไทย” สามารถขยายสาขารวดเร็วมาก ภายในเวลาแค่ 6 ปี ก็เปิดร้านได้ถึง 75 สาขาแล้ว และจะเปิดครบ 100 สาขาในปีหน้าค่ายเพลนัสยังจะสยายปีกบุกเบิกตลาดประเทศไหนอีก

 

ทัตสึโอะ : ผมคิดว่า ยาโยอิ เคน และ Hotto Motto มีศักยภาพสูงที่จะขยายสาขาไปเปิดตามประเทศต่างๆทั่วโลก เรากับเอ็มเคพร้อมที่จะร่วมมือกันเพื่อบุกเบิกตลาดอินเตอร์เนชั่นแนล โดยเริ่มจากตลาดในเอเชียก่อน เดือนหน้าเราจะเปิดร้านยาโยอิ เคน ที่สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ส่วนที่ประเทศจีน ได้นำ Hotto Motto เข้าไปเปิดแล้วที่ปักกิ่ง เมื่อแข็งแรงยิ่งขึ้นก็จะบุกเบิกไปยังตลาดยุโรป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงจะประสบความสำเร็จไม่ได้ ถ้าพี่กับน้องไม่ช่วยกันได้ยินมาว่า ตำนานของร้านยาโยอิ เคน ไม่ธรรมดาเลย

 

 

ทัตสึโอะ : ร้านยาโยอิ เคน เริ่มขึ้นเมื่อ 125 ปีก่อน ปู่ทวดของผมคือ “ทามิจิโร ชิโออิ” ซึ่งเป็นต้นตระกูลซา-มูไร ได้ส่งลูกชายไปเรียนทำอาหารที่ฝรั่งเศส เมื่อเดินทางกลับมาญี่ปุ่น จึงเปิดร้านอาหารเล็กๆสไตล์ตะวันตก ที่ย่านคายาบาโจ ในกรุงโตเกียว เป็นร้านอาหารแห่งแรกที่เสิร์ฟเมนูตะวันตก ด้วยราคาเพียงเซตละ 1 เยน สมัยนั้นเป็นยุคเมจิ ซึ่งชาวตะวันตกเริ่มเข้ามาแผ่อิทธิพลในญี่ปุ่น ทำให้ร้านอาหารของเราได้รับความนิยมมากจากชาวโตเกียว โดยมีลูกค้าประจำเป็นนายกรัฐมนตรี, นักการเมือง และนักคิดนักเขียนชื่อดัง ต่อมาหลานชายของคุณปู่ทวดคือ “สุเอยูกิ ชิโออิ” ได้เข้ามารับช่วงสืบทอดกิจการธุรกิจอาหาร โดยเน้นบุกเบิกตลาดเครือข่ายร้านอาหารข้าวกล่อง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ “Hotto Motto” ในปัจจุบัน ปรากฏว่าประสบความสำเร็จมาก และมีการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของญี่ปุ่น เมื่อปี 2002 โดยมีทุนจดทะเบียน 3,461 ล้านเยน และมีพนักงานกว่า 7,500 คน
ทุกวันนี้ “เพลนัส” ยังบริหารธุรกิจในรูปแบบครอบครัวอยู่ไหม

 

 

ทัตสึโอะ : บริษัทของเราบริหารงานแบบมืออาชีพ ส่วนเรื่องความรักในอาหารก็ต้องสืบทอดต่อไปภายในครอบครัว ผมคิดว่าการบริหารธุรกิจแบบครอบครัวมีข้อดี โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร ซึ่งละเอียดอ่อนมาก ถ้าสืบทอดกันในครอบครัวจะทำให้มีความต่อเนื่อง และดีเอ็นเอไม่หายไปไหน เวลารุ่นลูกรุ่นหลานเข้ามารับไม้ต่อจะรู้สึกผูกพันและรับผิดชอบไม่กล้าทำให้เสีย แต่สิ่งสำคัญคือ ทำยังไงจึงสามารถถ่ายทอดดีเอ็นเอให้รุ่นต่อไปอย่างไม่ตกหาย

 

ท่านประธานโตมาแบบไหน ถูกวางตัวเป็นทายาทตั้งแต่เด็กหรือเปล่า

ทัตสึโอะ : (พยักหน้า) คุณพ่อของผมค่อนข้างเข้มงวด ผมเข้ามาทำงานที่เพลนัสก็ต้องเริ่มต้นเรียนรู้จากระดับล่าง ทำมาแล้วทุกตำแหน่ง ส่วนเรื่องไอเดียแปลกใหม่ทางธุรกิจได้เรียนรู้มากมายจากทางเอ็มเคลูกสาวจะเข้ามารับช่วงสืบทอดกิจการไหมคะ

ทัตสึโอะ : วัฒนธรรมญี่ปุ่นยังไม่เปิดกว้างสำหรับผู้หญิง ในบริษัทเพลนัสมีผู้หญิงทำงานแค่ 10% ยังเป็นเรื่องอีกไกลความสุขจากการทำธุรกิจอาหารอยู่ตรงไหน

ทัตสึโอะ : (ยิ้มกว้าง) ผมคิดว่า คงเป็นตอนที่ได้เห็นรอยยิ้มของลูกค้า ที่มีความสุขจากการได้ทานอาหารดีๆและอร่อย โดยคอนเซปต์ที่เราเน้นมากคือ คุณภาพของวัตถุดิบต้องมาที่หนึ่ง นอกเหนือจากรสชาติดี หน้าตาน่ารับประทาน และความรวดเร็วในการให้บริการ ที่สำคัญคือ ไม่ว่าจะกลับมาทานอีกกี่ครั้ง และทานที่ไหนในโลก มาตรฐานก็คงเดิม

 

อะไรคือหัวใจของความสำเร็จในการทำธุรกิจอาหาร

 

ทัตสึโอะ : เราให้ความสำคัญกับเรื่องข้าวมาก เพราะถือเป็นหัวใจของอาหาร “เพลนัส” มีทุ่งนาเป็นของตัวเอง อยู่ในแถบโทโฮกุ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น สามารถเก็บเกี่ยวได้ปีละครั้งเดียว โดยเราส่งเสริมชาวนาให้ปลูกข้าวที่มีคุณภาพ ปีหนึ่งเก็บเกี่ยวข้าวได้ 40,000 ตัน หลังเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว จะนำข้าวทั้งหมดมาสีที่โรงงาน โดยข้าวทุกเม็ดต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียด รวมถึงตรวจปริมาณกัมมันตภาพรังสี ก่อนส่งออกไปขายตามร้านสาขาต่างๆทั่วประเทศ ข้าวของเราสามารถหุงได้เลย ไม่ต้องซาวน้ำ มีจุดเด่นที่ความนุ่มอร่อย และคุณภาพของข้าวที่เม็ดสวยอวบอิ่มไม่มีแตกหัก

 

เมนูไหนเป็นเมนูยอดฮิตประจำร้านยาโยอิ เคน

 

ทัตสึโอะ : เรามีเมนูหลัก 40 เมนู และจะเพิ่มเมนูใหม่ทุก 2 เดือน เปลี่ยนตามฤดูกาล จานขายดีที่สุดคือ หมูผัดขิง ส่วนเมนูล่าสุดของร้านที่อยากให้ชิมได้แก่ ปลาชิมาฮอกเกะย่างเกลือ ก็จะนำมาขายในเมืองไทยด้วย เป็นปลาที่ขึ้นชื่อของแถบฮอกไกโด รสชาติออกมันๆ เนื้อนุ่มและแน่น อร่อยมาก

บทเรียนล้ำค่าที่ “เอ็มเค” ได้เรียนรู้จากพันธมิตรญี่ปุ่นคืออะไร

คุณยุพิน : สิ่งที่เราได้จาก “เพลนัส” คือ เรื่องการทำงานเป็นระบบ นวัตกรรมเทคโนโลยี ทางญี่ปุ่นยังเก่งในเรื่องอาหารมาก โดยเฉพาะเรื่องการรักษาคุณค่าอาหารไม่ให้สูญไป เขาเน้นเหลือเกินว่า ทำยังไงให้อาหารเสิร์ฟร้อน อร่อยเร็ว ในราคาที่ทุกคนจ่ายไหว ซึ่งถือเป็นคอนเซปต์หลักของยาโยอิ.

ทีมข่าวหน้าสตรี


ที่มา ไทยรัฐ




Create Date : 20 พฤษภาคม 2555
Last Update : 20 พฤษภาคม 2555 10:20:49 น.
Counter : 1037 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

replay
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





free website hit counter
New Comments
  •  Bloggang.com